ผู้เขียน หัวข้อ: อุบลฯทุ่มงบฯ7พันล.ชูกีฬาสร้างเมือง ผงาดผู้นำอีสานตอนล่าง2 ว่าที่เจ้าภาพซีเกมส์ปี  (อ่าน 275 ครั้ง)

Chaiworn998

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2200
    • ดูรายละเอียด
นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตอนนี้จังหวัดอุบลราชธานีมีแผนพัฒนาเมืองอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเตรียมความพร้อมเสนอตัวเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ปี 2568 โดยใช้หัวใจหลักคือ 1.สร้างบิ๊กดาต้าให้กับพื้นที่ 2.ทำสปอร์ตซิตี้ ใช้การท่องเที่ยวเป็นโครงสร้างพื้นฐานเพื่อจัดทำกิจกรรมทางด้านกีฬา 3.ดำเนินการเรื่องอาหารปลอดภัย ซึ่งอุบลราชธานี คือเมืองแห่งโอกาส มีนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่สามารถพัฒนาการลงทุนได้รอบด้าน และสร้างจังหวัดให้กลายเป็นสมาร์ทซิตี้ได้
สำหรับโครงการที่จะเห็นเด่นชัดในปี 2561 คือ การปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร และขยายพื้นที่สนามบินเบื้องต้นด้วยงบประมาณกว่า 170 ล้านบาท ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วส่วนหนึ่ง เพราะประชาชนหันมาใช้บริการมากขึ้น ส่วนโครงการปรับปรุงถนนสายหลักมีการขยายเส้นทางไปยังเมืองสำคัญ พร้อมแผนทำอุโมงค์ที่สามารถแก้ปัญหาการจราจรหนาแน่นได้ โดยใช้งบประมาณในปี 2562 นอกจากนี้ยังมีการผลักดันโครงการสร้างสะพานจากอำเภอนาตาลไปยังแขวงสาละวันประเทศลาว คาดว่าจะสามารถออกแบบได้ภายในปลายปี 2562 และโครงการรถไฟทางคู่ของกระทรวงคมนาคมที่จะมาช่วยในเรื่องการขนส่งและกระจายสินค้า จากศรีสะเกษ ทะลุถึงชายแดน เรียกว่าเส้นทาง เดชอุดม นาเยีย ช่องเม็ก ทำให้จังหวัดอุบลราชธานีมีความสะดวกสบายในเรื่องการคมนาคมมากขึ้น
ทั้งนี้ จังหวัดอุบลราชธานีได้เตรียมพร้อมทุกด้านเพื่อยื่นเสนอขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 33 ที่จะมีขึ้นในปี 2568 ล่าสุดมีแผนขอใช้พื้นที่ทางทหารประมาณ 2 พันกว่าไร่ ในเขตอำเภอวารินชำราบที่อยู่ใกล้กับตัวเมือง เพื่อสร้างโดม สนามพร้อมอัฒจันทร์ ซึ่งอยู่ในระยะการร่างแบบ คาดว่าจะแล้วเสร็จทันในปี 2568 โดยจัดการของบประมาณออกเป็นเฟส รวมโครงสร้างพื้นฐานและองค์ประกอบทั้งหมดที่ได้มาตรฐาน ทั้งกีฬาซีเกมส์และพาราซีเกมส์สำหรับผู้พิการ น่าจะใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 7 พันล้านบาทดันกีฬาเชื่อมท่องเที่ยว
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีกล่าวว่า สิ่งสำคัญในการเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์เราต้องมีสปอร์ตแอ็กทิวิตี้ หรือกิจกรรมทางด้านกีฬาตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอล วอลเลย์บอล กีฬาเดี่ยว และกีฬาประเภททีม การแข่งขันจักรยานทางไกลที่สามารถใช้พื้นที่ในการท่องเที่ยวได้ แต่หากภายในจังหวัดไม่มีพื้นที่ในการแข่งขันต้องขอความร่วมมือจากสมาชิกกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 ที่เป็นเจ้าภาพร่วมกัน หรือที่เรียกว่า “ราชธานีเจริญศรีโสธร”
ได้แก่ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร ซึ่งสนามกีฬาในพื้นที่กลุ่มจังหวัดหลายแห่งมีมาตรฐาน ทั้งมีศักยภาพทั้งด้านธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรมที่สามารถเชื่อมโยงไปยังการท่องเที่ยวได้
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดอุบลราชธานีจะอยู่ในโซนทิศตะวันออก ไม่ว่าจะเป็นโขงเจียม สิรินธร ศรีเมืองใหม่ แหล่งท่องเที่ยวเชิงโบราณ อย่างเขมราฐ รวมถึงการเที่ยวเชิงวิถีธรรมะสำหรับคนสายบุญ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติริมแม่น้ำโขงที่โดดเด่น มีอิทธิพลสูงในการสร้างการรับรู้ ให้ประชาชนสามารถเข้ามาทำกิจกรรมได้ปี”61 เศรษฐกิจโต 4%
นายสฤษดิ์กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องของเศรษฐกิจ ปัจจุบันจังหวัดอุบลราชธานีมีรายได้ต่อหัวค่อนข้างสูง เพราะมีการกระจายตัวของประชากรภายในจังหวัดประมาณ 1.8 ล้านคน และมีประชากรรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ไม่ถึง 3 พันครัวเรือน ฉะนั้นภาคการเกษตรเมืองอุบลฯจึงเติบโตกว่าปีที่แล้วประมาณ 3% ภาคอุตสาหกรรมมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 5% รายได้คาดว่าน่าจะถึง 1.2 แสนล้านบาท จากภาพรวมเศรษฐกิจเติบโตขึ้นอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 4% โดยพืชเศรษฐกิจหลักยังคงเป็นข้าว มันสำปะหลัง และไม้ผล เน้นการแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม ส่วนภาคบริการขยายตัวสูงใกล้เคียงกับตัวเลขของรัฐบาล
ด้านนายสมชาติ พงคพนาไกร ประธานหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ปัจจุบันหอการค้าเป็นหน่วยงานในภาคเอกชนที่ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในหลายมิติ ทั้งภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม ภาคการค้า ซึ่งราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี และจะส่งผลชัดเจนต่อภาพรวมของเศรษฐกิจในปี 2561 ส่วนการคมนาคมและการส่งเสริมพลเมืองให้มีความสนใจทางด้านกีฬา ด้วยการดึงศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยวที่หลากหลายมาใช้ เป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัด ที่สามารถเชื่อมโยงการท่องเที่ยวไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้
“เราปฏิเสธไม่ได้ว่า ณ วันนี้ บางคนมาเที่ยวจังหวัดอุบลราชธานีก็อยากไปเที่ยวที่ สปป.ลาว หรือที่กัมพูชาด้วย เราจึงใช้อุบลราชธานีเป็นศูนย์กลางหรือเป็นฮับของการบิน ที่มีไฟลท์บินถึง 19 เที่ยวบิน สามารถบินตรงมาจากอู่ตะเภาหรือมาจากเชียงใหม่ได้ด้วยค่าเดินทางที่มีราคาถูก ซึ่งหากดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ก็จะเกิดการท่องเที่ยวพิ่มมากขึ้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ชุมชนมีรายได้”
อย่างไรก็ตาม การกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะเห็นได้ชัดในปีนี้คือ การท่องเที่ยว และกีฬา การค้าที่จะเพิ่มขึ้นไปตามกลไกการพัฒนา และกิจการร้านโชห่วยที่ถูกกระตุ้นขึ้นมาด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสำหรับผู้มีรายได้น้อย หรือกิจกรรมธงฟ้าประชารัฐ ที่คาดว่าจะทำให้รายได้ประชากรเพิ่มขึ้น

 

Sitemap 1 2 3