ผู้เขียน หัวข้อ: wartscaring แนะนำรักษาตุ่ม/หูด/หงอนไก่ วิธีป้องกันวิธีรักษา ยารักษาหายได้ ดูแลตน  (อ่าน 298 ครั้ง)

Narongrit999

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2167
    • ดูรายละเอียด
wartscaring เสนอแนะรักษาตุ่ม/หูด/หงอนไก่ วิธีป้องกันวิธีรักษา ยารักษาหายได้ เชื่อคำแนะนำแพทย์
ลดความเสี่ยงต่อการเกิดหูด โรคหูดหงอนไก่ ลดความเสี่ยง รักษาหายทันท่วงที, ยารักษาหูดหงอนไก่ โรคนี้ส่วนใหญ่มาจากเพศสัมพันธ์
หูดหงอนไก่แบ่งเป็นระยะ 4 ระยะดังนี้
1.ระยะฟักเชื้อ(HPV) ตอนนี้จะเป็นตอนที่ได้รับเชื้อมาใหม่ๆแม้กระนั้นยังไม่แสดงอาการเป็นติ่งให้เห็น จะไม่อาจจะทราบได้ว่าจะเป็นหูดหงอนไก่รึเปล่า หูดหงอนไก่สามารถฟักเชื้อได้นานถึง 6 เดือน จึงชี้แนะถ้าเกิดใครกันแน่สงสัยว่าอยู่ในสภาวะเสี่ยงควรไปตรวจที่ รพ.
2.ระยะเริ่มต้นเริ่ม จะเริ่มมีตุ่มเล็กๆผุดขึ้นมารอบๆอวัยวะสืบพันธุ์ โคน ปลาย รวมทั้งรอบรูทวาร เม็ดหูดช่วงแรกจะเล็กมากมายเหมือนผื่นแม้กระนั้นจะไม่มีหนอง หรือคัน หรือแสบใดๆ ช่วงสัปดาห์แรกถ้าคนใดกันแน่สังเกตุว่าเป็น จะสามารถรักษาด้วยการใช้ครีมกระตุ้นภูมิคุ้มกันต้านทานเชื้อชื่อ aldara cream (จะลงข้อมูลตัวยาด้านล่างขอรับ)
3.ระยะขยายตัว ระยะนี้จะอยู่ที่ 3 อาทิตย์ ขึ้นไปจนถึงขั้นเป็นมาแล้วหลายเดือน เม็ดหูดจะเริ่มขึ้นเป็นติ่งแจ้งชัดจนกระทั่งขนาดเท่าหรือใหญ่มากยิ่งกว่าหัวไม้ขีดไฟ หรือหัวเข็มหมุด การดูแลรักษาจำเป็นต้องใช้ยาที่มีฤทธิ์ผลัดผิวหูดให้ยุ่ยและค่อยๆหลุดออก แล้วก็เมื่อหูดเริ่มลอกก็ควรจะทายาทำลายเชื้อพร้อมกันไปด้วยเพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ บางครั้งก็อาจจะไม่ 100% แต่ว่าลดความเสี่ยงสำหรับเพื่อการกลับมาเป็นซ้ำได้มากนะครับ (ยารักษาก็จะเป็น wart control )
4.ระยะลุกลาม ช่วงนี้คือหูดจะขยายตัวสุดกำลังเนื่องจากว่าปล่อยไว้เป็นเวลายาวนานมากรวมทั้งปลายหูดจะแตกเป็นเสมือนดอกกระหล่ำ แลละกินรอบๆรอบทั้งอวัยวะเพศ ในเพศชายอาจจะมีความเสี่ยงสำหรับเพื่อการที่หูดไปขัดปลายท่อเยี่ยวนะครับ การรักษาจะเป็นการจี้ไฟฟ้า หรือผ่าตัดเล็กนั่นเองครับ
เบื่องต้นเลยหากคนใดอยากได้รักษาโดยการจี้ไฟฟ้า จี้ไนโตรเจนเหลว หรือการผ่าตัดในกรณีที่เป็นมากแล้วลุกลามไปทั่วแม้กระนั้นไม่ทราบเกี่ยวกับสถานที่การดูแลรักษา การเข้าไปติดต่อที่ รพ.ต่างๆรวมถึงการเบิกค่ารักษาพยาบาลจากสวัสดิการต่างๆที่ท่านมีอยู่ ทดลองโทรมาขอคำแนะนำผมได้ครับ ยินดีให้คำปรึกษา รพ.ใกล้บ้านท่านโดยยิ่งไปกว่านั้น กทม เพื่อการเข้ารับการรักษาที่สะดวกที่สุดครับผม
ถุงยางอนามัย ช่วยได้แน่ ถ้าเกิดใช้ถูกทาง
แม้กระนั้น ถุงยางยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ส่วนใหญ่ได้เป็นอย่างดี เพียงต้องใช้ให้ถูกแนวทาง
ควรที่จะเลือกขนาดของถุงยางให้เหมาะสมกับขนาดของอวัยวะสืบพันธุ์ของคุณผู้ชาย ถ้าเกิดยังไม่มั่นใจว่าจำเป็นต้องใช้แค่ไหน ให้ลองซื้อมาให้หลายๆขนาด แล้วพินิจความแน่นสำหรับในการใส่
ไม่ควรสวมถุงยางอนามัยเกิน 2 ชิ้นต่อการใช้ 1 ครั้ง เพราะเหตุว่าอาจจะก่อให้ถุงยางอนามัยเสียดสีกันจนกระทั่งขาดได้ง่าย
ควรจะใช้ถุงยาง 1 ครั้งต่อ 1 ชิ้น ให้เสร็จให้ทิ้งเลย ห้ามเก็บมาใช้ต่อ
สามารถใช้สารหล่อลื่นทาฉาบภายนอกถุงยางอนามัย เพื่อการใส่เป็นได้โดยง่ายเยอะขึ้น แม้กระนั้นควรจะเลือกใช้ชนิดเจล ไม่ควรเลือกใช้แบบเป็นน้ำมัน เนื่องจากว่าอาจททำให้ถุงยางอนามัยทรุดโทรม หรือฉีกขาดได้
ควรรูดอากาศออกมาจากกระเปาะของถุงยางอนามัยให้หมดก่อนสวม เพราะว่าอากาศภายในถุงยางอาจจะส่งผลให้ถุงยางแตก หรือขาดได้ง่ายเพิ่มขึ้น
ข้างหลังทำกิจกรรมเสร็จเรียบร้อย ฝ่ายชายควรจะถอนอวัยวะสืบพันธุ์ออกมาก่อนที่จะอวัยวะสืบพันธุ์จะอ่อนตัว คุ้มครองป้องกันถุงยางหลุดเข้าไปในช่องคลอดของข้างหญิง
กามโรค หรือโรคติดต่อทางเพศสัมประเภท ไม่ใช่เรื่องไกลตัว
อาการทางผิวหนังอะไรบ้างที่เข้าเกณฑ์ถูกสงสัย ว่าเกิดขึ้นจากโรคติดต่อทางเพศสัมประเภท หาคำตอบถึงที่กะไว้นี่ค่ะ
1.หูดหงอนไก่
ติ่งเนื้องอกของผิวหนัง ที่เกิดจาก Human PApilloma Virus ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมจำพวก
ไม่เพียงแต่กำเนิดถึงที่เหมาะของลับ ยังเกิดพอดีบริเวณลิ้น ในคอ
2. หนองใน
โรคหนองในมีเหตุที่เกิดจากการต่อว่าดเชื้อแบคทีเรีย โกโนเรีย
อาการในเพศชายคือมีหนองออกมาจากปลายของลับ
ส่วนในเพศหญิงจะมีตกขาวขุ่น ปากมดลูกอักเสบ
3. เริมที่ของลับ
อาการจะเป็นกรุ๊ปของตุ่มน้ำ แตกออกเป็นแผลแสบ
4. แผลที่อวัยวะเพศจาก โรคซิฟิลิส
แผลที่อวัยวะสืบพันธุ์จะเกิดขึ้นในสามอาทิตย์ข้างหลังติดเชื้อโรค
5. ผมหล่นจากซิฟิลิส
เป็นผลมาจากโรคซิฟิลิสระยะลำดับที่สองเป็นด้านในสองเดือนแรกหลังติดโรค
ลักษณะผมตกเป็นหย่อมเสมือนมอดแทะเล็ม
6. ผื่นที่มือจากซิฟิลิส
พบในโรคซิฟิลิส ระยะลำดับที่สองเช่นเดียวกัน
โดยจะเป็นผื่นสีทองแดงมีสะเก็ด ที่มือเท้า
7.หูดข้าวสวย
เป็นตุ่มขาวขุ่นมีรอยบุบกึ่งกลางคล้ายสะดือ
8.แผลริมอ่อน
หลังมีการเสี่ยง ไม่เกินสองสัปดาห์
จะกำเนิดตุ่ม แตกเป็นแผลตูดแผลเปรอะเปื้อน
9.โรคฝีมะม่วง
มีเหตุมาจากการต่อว่าดเชื้อแบคทีเรียที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์
เกิดเป็นฝีที่ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบ
10 หูดที่ลิ้น
โรคติดต่อทางเพศชมรมสามารถกำเนิดอาการที่โพรงปากได้ในกรณีติดต่อจากวิธีการทำ oral sex
โรคอะไรบ้างสามารถติดต่อได้ทางเพศ
-โรคภูมิคุมกันบกพร่อง ทำให้ภูมิต้านทานขาดตกบกพร่องติดเชื้อฉวยโอกาส
-โรคหนองใน ผลกระทบยกตัวอย่างเช่นติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน ต่อมลูกหมากอักเสบ ติดเชื้อกระจายทั่วร่างกายเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เยื่อห่อหุ้มหัวใจอักเสบได้
-โรคหนองในเทียม มีการติดเชื้อโรคที่อุ้งเชิงกราน ต่อมลูกหมากอักเสบ ตามมาได้
-โรคซิฟิลิส เกิดแผลที่อวัยวะเพศ แม้ไม่ได้รับการดูแลและรักษาระยะสุดท้ายนำไปสู่โรคที่ศีรษะใจ ระบบประสาทได้
-กามโรค เกิดเป็นแผล ก้อนหนอง แผลเป็น ท่อเยี่ยวตีบได้ เพื่อมองรูป
-ฝีมะม่วง กำเนิดเป็นแผลติดโรค แพร่กระจายมีหนองหนองอาจแตกออกเป็นท่อ ระบายหนองออกสู่ภายนอก
-เริม เป็นแผลที่อวัยวะเพศเป็นๆหายๆไม่มีการดูแลและรักษาที่หายขาด
-พยาธิช่องคลอด มีตกขาวไม่ปกติ ท่อฉี่อักเสบ ต่อมลูกหมากอักเสบ อุ้งเชิงกรานอักเสบ
-ติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด ตกขาวมีสีรวมทั้งกลิ่นแตกต่างจากปกติ
-โลน เป็นตุ่มคันจากตัวโลนบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์
-หูดหงอนไก่ เกิดเป็นก้อนหูดซึ่งหลังการดูแลและรักษายังสามารถกลับกลายได้บ่อยมาก เพิ่มจังหวะการเกิดมะเร็งทวารหนัก โรคมะเร็งปากมดลูก
-หูดข้าวสวย กำเนิดเม็ดก้อนหูดข้าวสวยรอบๆผิวหนังที่ติดโรค สามารถแพร่ขยายในตนเองได้โดยการเกา
 
 วิธีเบื้องต้น สำหรับการรักษาหูดด้วยตัวเอง สามารถทำได้เองที่บ้าน (เป็นวิธีการที่ยังไม่ได้รับการรับรอง)

  • การกระตุ้นแอนติบอดี ด้วยการใช้ก้อนน้ำแข็งเช็ดรอบๆที่เป็นหูดจนรู้สึกชา แล้วต่อจากนั้นให้ใช้เข็มทำลายเชื้อจิ้มลงไปในหูดลึกๆหลายๆครั้ง ซึ่งวิธีแบบนี้จะเป็นการนำเชื้อไวรัสเข้าสู่กระแสโลหิตเพื่อให้ร่างกายบากบั่นต่อสู้กับมัน ทำให้หูดหายไปได้ในที่สุด วิธีแบบนี้การนี้อาจได้ประสิทธิภาพที่ดีมากสำหรับบางบุคคล โดยเฉพาะผู้ที่มีหูดเป็นจำนวนมาก เพราะเหตุว่าการจิ้มหูดเพียงแค่ 1 ตุ่มบนร่างกายจะช่วยทำให้ร่างกายเจอหูดตุ่มอื่นๆแล้วก็ตรงเข้าไปทำลายได้ในทันที
  • ทาวิตามินซี ให้ใช้วิตามินซี 1 เม็ดเอามาบดแล้วหยดน้ำลงไปเพื่อได้เป็นยาป้ายข้นๆแล้วหลังจากนั้นให้ป้ายยาลงบนหูดแล้วปิดทับด้วยปลาสเตอร์ทิ้งเอาไว้ภายในกลางวัน รวมทั้งเมื่อถึงในช่วงเวลากลางคืนให้แกะออกเพื่อให้ผิวได้หายใจ
  • แอสไพริน ให้ใช้ยาแอสไพริน 2-3 เม็ดเอามาบดอย่างระมัดระวัง หยดน้ำลงไปบางส่วน แล้วนำยาที่ได้มาป้ายลงบนหูด แล้วหลังจากนั้นให้นำปลาสเตอร์ประเภทติดแน่นมาปิดทับทิ้งเอาไว้ 1 คืน (ในยาแอสไพรินจะมีกรดซาลิไซลิกที่ช่วยกัดหูดได้)
  • เบตาดีน ให้ทาเบตาดีนลงบนหูดแล้วปิดทับด้วยปลาสเตอร์ทิ้งเอาไว้เป็นเวลา 1-2 วัน จากนั้นแล้วก็ค่อยแปลงปลาสเตอร์ยา
  • ยาสีฟัน ให้ป้ายยาสีฟันลงบนหูดแล้วปิดทับด้วยปลาสเตอร์ยาชนิดติดแน่น ทิ้งไว้โดยประมาณ 1 คืน โดยให้ทำใหม่ไปเรื่อยจนถึงหูดหายไป
  • น้ำมันวิตามินอี ให้ฉีกแคปซูลวิตามินอีแล้วเช็ดน้ำมันลงบนหูดเพียงเล็กน้อย แล้วปิดทับด้วยปลาสเตอร์ในช่วงเวลาเช้า และก็แกะออกในตอนกลางคืนเพื่อผิวได้หายใจ
  • น้ำมันละหุ่ง ให้ทาน้ำมันละหุ่งลงบนหูดโดยใช้สำลีก้านวันละ 2 ครั้ง ซึ่งกรดในน้ำมันละหุ่งจะสามารถกัดเซาะหูดได้ รวมทั้งใช้ได้ผลในทางที่ดีกับหูดที่มีขนาดเล็กแบนบนบริเวณใบหน้าหรือหลังมือ
    คราวทรีออยล์ ให้ทาคราวทรีออยล์ลงบนหูดในปริมาณเล็กน้อย แล้วปิดทับด้วยปลาสเตอร์ โดยให้ทำขั้นต่ำเป็นเวลา 3 สัปดาห์
  • น้ำมะนาว ให้บีบน้ำมะนาวลงบนหูด แล้วนำหอมใหญ่สดสับมาวางทับไว้ ให้ทำแบบนี้ราว 30 นาที วันละ 1 ครั้ง ติดต่อกันตรงเวลา 2-3 สัปดาห์
  • เปลือกของพืชตระกูลส้ม ให้ปอกเปลือกมะนาวหรือเลมอนบางๆจนได้ขนาดใหญ่กว่าหูดนิดหน่อย แล้วปิดทับลงบนหูดโดยใช้ปลาสเตอร์ประเภทติดแน่นหรือเทปกาวแปะไว้อีกครั้ง แล้วให้แปลงเปลือกใหม่ทุกวี่วัน ต่อจากนั้นราวๆ 1 อาทิตย์ หูดก็จะหลุดออกมา
    สนใจคอยต ให้นำห่วงใยรอตมาหั่นเป็นชิ้นๆขูดสนใจรอตจนได้เนื้อละเอียด แล้วเติมน้ำมันมะกอกลงไปพอให้เป็นยาป้าย แล้วนำมาทาลงบนหูด 2 ครั้งต่อวัน ตรงเวลา 30 นาที โดยให้ทำเช่นนี้ต่อเนื่องกันตรงเวลา 2-3 อาทิตย์
  • มะเดื่อ ให้นำมะเดื่อมาบดแล้วป้ายลงบนหูดทิ้งเอาไว้ราว 30 นาที โดยให้ทำเช่นนี้ทุกวัน เป็นเวลา 2-3 สัปดาห์
  • ใบโหระพา ให้ใช้ใบโหระพาสดเอามาบดแล้วปิดทับลงบนหูด โดยใช้เทปปิดแผลจำพวกกันน้ำพันเอาไว้ ให้ทำเช่นนี้ทุกวี่วันตรงเวลา 1 อาทิตย์ แล้วสารทำลายเชื้อเชื้อไวรัสในใบโหระพาจะช่วยฆ่าหูดให้ท่านเอง
  • เปลือกกล้วย ให้ใช้ข้างในของเปลือกกล้วยเช็ดบริเวณที่เป็นหูดเป็นประจำ เพราะโพแทสเซียมในกล้วยบางทีอาจช่วยทำให้หูดหายได้เร็วเพิ่มขึ้น หรืออีกวิธีหนึ่งอาจนำเปลือกกล้วยมาตัดให้มีขนาดเล็กกว่าเทป เอาข้างในของเปลือกกล้วยปิดทับลงบนหูด และหลังจากนั้นก็ค่อยนำเทปผ้ามาปิด ปล่อยทิ้งเอาไว้ตรงเวลา 24 ชั่วโมง โดยให้ทำแบบนี้ทุกวี่วันตราบจนกระทั่งหูดจะหายไป
  • เบกกิ้งโซดา ให้ผสมผงฟูหรือเบกกิ้งโซดาแล้วก็น้ำมันละหุ่งเข้าด้วยกันจนถึงเป็นเนื้อครีม แล้วต่อจากนั้นให้เอามาทาลงบนหูดในช่วงกลางคืนโดยใช้ปลาสเตอร์ยาปิดเอาไว้ แล้วจึงแกะปลาสเตอร์ออกในตอนเช้าวันต่อไป แนวทางนี้สามารถทำอีกครั้งได้เรื่อยๆตามสมควร
  • แอปเปิ้ลไซเดอร์วีนีการ์ (Apple Cider Vinegar – ACV) ให้ใช้น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล แล้วนำสำลีก้อนขนาดพอให้ปิดหูดได้จุ่มน้ำส้มสายชู แล้วต่อจากนั้นให้ปิดด้วยปลาสเตอร์ยาทิ้งไว้ 1 คืน โปรดจำไว้ว่า วิธีแบบนี้อาจทำให้รู้สึกแสบได้ จะต้องแปลงสำลีทุกๆวัน และติดไว้ทุกคืน หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์เม็ดหูดจะเริ่มหลุดลอกออก
  • จุ่มหูดลงไปในน้ำสับปะรด เพราะในน้ำสับปะรดจะมีเอนไซม์ที่ช่วยละลายหูดได้
  • น้ำเลี้ยงจากต้นแดนดิไลออน (Dandelion) ให้เลือกต้นแดนดิไลออนใหม่ๆมาหนึ่งต้น หักก้านออกเป็น 2 ท่อนแล้วใช้น้ำหล่อเลี้ยงสีขาวขุ่นที่ไหลซึมออกมาจากก้านทาลงบนหูด โดยให้ทำแบบนี้วันละ 3-4 ครั้ง แล้วต่อจากนั้นให้ใช้หินภูเขาไฟมาขูดเพื่อเอาชั้นผิวที่ตายแล้วออก โดยให้ทำอย่างสม่ำเสมอจนกระทั่งหูดหายไป
  • น้ำร้อน เป็นวิธีฐานรากโดยการจุ่มรอบๆที่เป็นหูดลงในน้ำที่ร้อนมากๆซึ่งความร้อนจะทำให้หูดนุ่มขึ้นและอาจช่วยฆ่าเชื้อไวรัสได้ แต่ว่าพึงระวังอย่าให้น้ำร้อนเกินจนลวกเท้า (แนะนำว่าอุณหภูมิของน้ำควรจะน้อยกว่า 60 องศาเซลเซียส)
  • น้ำร้อนแล้วก็หินภูเขาไฟ ให้แช่หูดลงในน้ำร้อนจนถึงหูดเริ่มนิ่ม แล้วใช้หินภูเขาไฟหยาบคายสำหรับผลัดเซลล์ผิวขัดบริเวณหูดจนกว่าเจอชั้นผิวจริง จุ่มสำลีก้านลงในน้ำยาฟอกขาวแล้วนำมาสัมผัสบนหัวหูดราวๆ 15 นาที (บางทีอาจแสบบ้างนิดหน่อย) เสร็จแล้วให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
  • น้ำร้อนและก็เกลือทะเล ให้แช่บริเวณที่เป็นหูดลงในน้ำเกลืออุ่นๆเป็นเวลา 10-15 นาที เพื่อหูดนุ่มขึ้น หลังจากนั้นให้ขูดเอาชั้นผิวที่ตายแล้วบนหูดออกไปโดยใช้ตะไบเล็บหรือหินภูเขาไฟ ก็เลยนำเกลือทะเลเม็ดใหญ่มาเช็ด แปะปลาสเตอร์ยาหรือเทปทับลงไปเพื่อเม็ดเกลือยังอยู่กับที่ แล้วก็คอยเปลี่ยนปลาสเตอร์ยาใหม่ภายหลังจากอาบน้ำ เสร็จแล้วให้ล้างมือให้สะอาดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อหูด
  • ทานอาหารที่ช่วยสร้างเสริมภูมิต้านทาน ดังเช่น กระเทียม มันเทศ เม็ดทานตะวัน ขนมปังโฮลเกรน ข้าว ฯลฯ
  • กินกระเทียมประเภทแคปซูล โดยให้กินวันละ 2 ครั้ง ติดต่อกันยาวนานหลายสัปดาห์ แล้วหูดจะเริ่มหลุดออกในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก แต่ให้ทานต่อไปโดยตลอดตราบจนกระทั่งหูดจะหายหมด และก็ให้นำน้ำมันกระเทียมมาทาทับรอบๆที่เป็นหูดราว 1-2 ครั้งต่อวัน ตรงเวลา 1 เดือน


 
ส่วนผู้ที่ต้องการจะสั่งยาไปใช้เบื้องต้นผมจะเสนอแนะและอธิบายรายละเอียดตัวยาที่เหมาะสมครับผม ด้วยเหตุว่าลักษณะของหูดแต่ละคนเป็นต่างกัน บางคนเป็นแบบแบนราบ แบบเส้นแหลมๆยื่นออกมา รวมทั้งเป็นแบบติ่งเนื้อแจ่มชัด แล้วก็ยังมีกรณีเพศหญิง ผู้ชาย ข้างนอกและก็ด้านใน ที่ตรงนี้เองที่เป็นต้นเหตุต่างๆที่จำต้องเลือกใช้ยาให้ถูกต้องแหละเหมาะสมเพื่อการดูแลและรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแล้วก็ได้ผลครับ มาเริ่มกันทีละตัวนะครับ
1. ยา aldara ยาชนิดนี้เป็นยาที่ออกฤทธิ์กระตุ้นให้ผิวหนังรอบๆที่ซึมซับยาสร้างภูมิคุ้มกันต้านเชื้อหูดเหมาะสมกับคนที่เป็นระยะแรกๆแล้วก็สังเกตุมองเห็นไว หูดยังเป็นเพียงเม็ดคล้ายๆผื่นระยะเวลาราวๆ 1-2 อาทิตย์ สามารถใช้ยา aldara เพียงแค่ตัวเดียวแต้มวันเว้นวันได้เลยครับผม ยังเพียงพอทำให้หูดแห้งลงได้เนื่องจากว่ามีขนาดเล็ก โดยธรรมดาจะใช้ราวๆ3-4 ซองนะครับ ทาสม่ำเสมอวันเว้นวัน
 (ยาตัวนี้หาคนไหนกันแน่เป็นอยู่ระยะนี้และหาซื้อไม่ได้สามารถติดต่อสั่งมาได้ครับผม ยินดีจัดส่งให้โดยไม่คิดค่าจัดส่งครับผม คิดเฉพาะค่ายา ซองละ 220 บาทแค่นั้นนะครับ )
2 ยา Podo ยาตัวนี้เป็นยามาตรฐานที่ใช้รักษาหูดหงอนไก่กันแพร่หลาย อีกทั้งคลีนิค รวมทั้ง โรงพยาบาลต่างๆเหมาะกับหูดที่เริ่มจะขยายตัวเป็นติ่งแจ่มชัด ระยะมากกว่า 1 เดือนขึ้นไป ควรที่จะใช้ podo แต้มเพื่อหูดเปื่อยยุ่ยรวมทั้งหลุดออกโดยด่วน และทันทีทันควันก่อนที่จะลุกลามเพิ่มเกินกว่าจะรักษาโดยใช้ยาแต้มหูได้ โดยมากจะยุ่ยและก็หลุดข้างใน 3 ครั้งแล้วก็เมื่อหลุดหมดก็จะสามารถทา aldara ต่อได้เพื่อกันไม่ให้กลับมากำเนิดซ้ำ แม้กระนั้นถ้าระยะนี้จะใช้ aldara รักษาบางบุคคลจำต้องใช้กันเป็นกล่อง มากยิ่งกว่า 10 ซองกว่าหูดจะเริ่มเปื่อย แล้วก็ยา aldara ไม่สมควรใช้สม่ำเสมอนานกว่า 16 อาทิตย์อ้างอิงตามการใช้ เพราะเหตุว่ามีสารดูดซึมควรจะใช้แต่ว่าพอประมาณตามสมควร
 (ปกติผมจะคนที่เป็นระยะนี้จะมีมากไม่น้อยเลยทีเดียวผมจะชี้แนะให้ใช้อย่างละ 1 ตัว คู่กัน โดยใช้ podo 1 ขวด รวมทั้ง aldara เพียงแต่ 1 ซองเท่านั้น ต้องการจะให้สั่งไปเท่าที่จำเป็นจริงๆถ้ายาหมดค่อยติดต่อสั่งมาเพิ่มเป็นครั้งๆไปครับ เพราะว่าผมไม่มีคุณค่าจัดส่งก็เลยไม่จำเป็นต้องสั่งไปตุนไว้ครับผม)

3. Wart no more ปัจจุบันเป็น wart control ยาจำพวกนี้้ถือว่าเป็นยารักษาหูดหงอนไก่ที่ยอดเยี่ยมในขณะนี้ นะครับ
ยาตัวนี้เป็นยารักษาหูดที่สำเร็จแล้วก็ควบคุมผู้กระทำระจายเชื้อได้ดิบได้ดีมากมายเนื่องด้วยเป็นยาศูนย์รวมข้อดีของทั้งยัง 2 ตัวแรกไว้ด้วยกัน แล้วก็เป็นยาตัวเดียวที่มีตัวยาควบคุมเชื้อไวรัส HPV ได้ทำให้ช่องทางกลับมาเป็นซ้ำเกือบเป็บศูนย์นอกจะเมื่อหายแล้วไปติดโรคมาโดยตรงจากคนที่มีเชื้อครับผมเป็นยาที่ได้รับการยอมรับรวมทั้งแพร่หลายในอเมริกา แล้วก็เริ่มจะมีแพร่หลายใน รพ.เอกชน แต่โดยรวมทุกจังหวัดยังนับว่าน้อยเนื่องจากตัวยาที่มีราคาสูง ไม่สามารถที่จะเข้าถึงผู้ที่มีงบประมาณจำกัด ( ยาผมจะสั่งไว้จำนวนนึงสำหรับเพียงพอที่จะจัดส่งได้ในแต่ละเดือนขอรับ ยาขวดละ 1600.- ถ้าหากผู้ใดกันพอใจสั่งก็ลองสอบถามผมก่อนครับด้วยเหตุว่าผมนำเข้ามาทีละไม่มากมายช่วงสิ้นเดือนบางครั้งก็อาจจะไม่มีของโดยปกติผมจะจัดส่งหมดตั้งแต่ช่วงเวลากลางเดือนแรกขอรับ แต่ถ้าหากคนไหนกันแน่มีบัตรเครดิต สามารถสั่งซื้อได้จาก amazon จะมีปลีกเป็นขวดๆครับผม ผมจะแนบลิงค์ตัวอย่างไว้ให้นะครับ
 
ผลข้างเคียงของโรคหูดหงอนไก่

  • เว้นเสียแต่รูปแบบของรอยโรคที่ไม่น่ามองแล้ว สำหรับการติดเชื้อเชื้อไวรัสสายพันธุ์ร้ายแรง เช่น สายพันธุ์ 16, 18 ยังอาจจะส่งผลให้กำเนิดโรคมะเร็งในระบบสืบพันธุ์แล้วก็มะเร็งทวารหนักได้ด้วย ส่วนผลกระทบอื่นๆก็ขึ้นกับตำแหน่งของรอยโรค ตัวอย่างเช่น อาจมีเลือดออกข้างหลังร่วมเพศ ซึ่งเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการมีหูดด้านในปากมดลูก
  • ในหญิงตั้งท้อง หูดหงอนไก่อาจโตขึ้นจนถึงขัดขวางคลอดจนทำให้เด็กคลอดออกมาตรากตรำ หรือเชื้ออาจเข้าไปในปากหรือคอของเด็กในขณะคลอด นำไปสู่หูดในกล่องเสียงซึ่งมีลักษณะนานับประการ ตั้งแต่เสียงแหบไปจนกระทั่งมีการอุดกั้นของกล่องเสียง ทำให้เด็กออกเสียงหรือหายใจมิได้
  • ในกรุ๊ปชายรักชายจะเจอหูดหงอนไก่รอบทวารหนักหรือในทวารหนักได้มากกว่าคนทั่วๆไป ซึ่งการดูแลและรักษาในตำแหน่งดังที่กล่าวมาแล้วจะทำได้ยากมากมาย ด้วยเหตุว่าไม่ว่าจะใช้ยาหรือใช้กรรมวิธีการผ่าตัด หูดหงอนไก่ก็ชอบเกิดซ้ำได้บ่อยมาก การได้รับการรักษาหลายหนจึงอาจจะก่อให้กำเนิดทวารหนักตีบรวมทั้งมีปัญหาสำหรับในการขับถ่ายตามมาได้ ส่วนก้อนที่อยู่ลึกเข้าไปในทวารหนักอาจโตมากจนทำให้คนเจ็บมีลักษณะอาการท้องผูก ในบางครั้งอาจมีเลือดออกหรือบิดขั้วจนกระทั่งจำเป็นต้องผ่าตัดรีบด่วนหรือจำต้องดมยาสลบ นอกเหนือจากนี้ยังพบมากการติดเชื้อเอชพีวีสายพันธุ์ 16 ร่วมด้วยอยู่เสมอๆซึ่งจะชมรมกับการเกิดโรคมะเร็งทวารหนักได้
  • กำเนิดหูดหงอนไก่พื้นที่เดินหายใจ (Recurrent Respiratory Papillomatosis – RRP)หมายถึงตั้งแต่โพรงจมูกลงไปจนถึงถุงลมในปอด พบบ่อยได้มากที่สุดที่กล่องเสียง ทำให้คนป่วยมีลักษณะเสียงแหบหรือมีการอุดกันฟุตบาทหายใจกระทั่งเสียชีวิตได้ ในเด็กมักมีต้นเหตุมาจากการติดเชื้อจากแม่ในระหว่างการคลอดจากที่กล่าวมา ส่วนในคนแก่พบได้บ่อยว่าเกิดจากการมีเซ็กส์ทางช่องปาก แม้ภาวะนี้จะเป็นภาวะที่เจอได้นานๆครั้ง (เจอได้ราวๆ 1-4 ต่อสามัญชน 100,000 คน) แต่ว่าแม้เกิดแล้วจะสร้างความเจ็บปวดรวดร้าวต่อคนเจ็บมากมายก่ายกอง
  • ทั้งยังหัวข้อการรักษาที่เรื้อรังรวมทั้งค่าครองชีพที่เกิดขึ้นอย่างมหาศาล เนื่องจากว่าในคนแก่ชอบลงเอยด้วยการผ่าตัดเพื่อลดขนาดของก้อนหูดเพื่อช่วยเรื่องทางเท้าหายใจ ซึ่งการผ่าตัดแบบงี้จะทำเป็นยากมากมายตั้งแต่ขั้นตอนการสูดดมยาสลบ ที่ผู้ป่วยอาจขาดอากาศหายใจได้เป็นบางช่วง ยิ่งไปกว่านี้ตามธรรมชาติแล้วรอยโรคก็ชอบกระจายไปทั่ว ก็เลยทำให้ไม่สามารถที่จะกำจัดออกหมดได้ภายในครั้งเดียว รวมทั้งบางทีอาจจะต้องได้รับการผ่าตัดมากกว่า 5 ครั้งในชีวิต ส่วนในเด็กมักจะต้องได้รับการผ่าตัดโดยเฉลี่ย 4.4 ครั้งต่อปี รวมแล้วโดยประมาณ 19.7 ครั้งในช่วงชีวิต ก็เลยนำมาซึ่งผลข้างเคียงตามมาคือแผลเป็น ได้ผลสำเร็จทำให้หลอดลมตีบและหายใจได้ตรากตรำในระยะยาว
ต้องการสั่งซื้อยา ปรึกษาแนะนำบอกต่อ เบอร์ 092-9899456 คุณนิธิพล
#หูดหงอนไก่ #ขายยารักษาหูด #แพทย์ชี้แนะ #แพทย์ช่วยได้ #ส่วนตัว

Tags : ยารักษาโรคหูดหงอนไก่

Luckyz0nl3

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2590
    • ดูรายละเอียด

 

Sitemap 1 2 3