ผู้เขียน หัวข้อ: นมผึ้งรวมทั้งคุณค่าที่น่าสนใจและก็ต้องทดลองหามาทานซักครั้ง  (อ่าน 267 ครั้ง)

promiruntee

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2207
    • ดูรายละเอียด
นมผึ้ง ได้ผลสำเร็จผลิตที่หลั่งออกมาจากต่อมไฮโปฟาริงจ์ (Hypopharyngeal Gland) ของผึ้งงาน นมผึ้งมีลักษณะเป็นของเหลวสีขาวเหมือนน้ำนม รสหวาน มีกลิ่นเปรี้ยวน้อย เป็นของกินหลักของผึ้งราชินีรวมทั้งตัวอ่อนผึ้งเพื่อช่วยกระตุ้นสำหรับการเจริญวัย หลายประเทศใช้นมผึ้งในฐานะยารักษาโรค อาหารเสริม และก็ยังรวมทั้งเป็นส่วนผสมของครีมบำรุงแล้วก็เครื่องแต่งตัว
นมผึ้ง
นมผึ้งมีน้ำเป็นองค์ประกอบหลักราว 60-70% และก็อุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆดังเช่น โปรตีน น้ำตาล วิตามิน เกลือแร่ และก็กรดอะมิโน นอกเหนือจากนี้ ยังพบสารอื่นในนมผึ้ง อย่างเช่น กรดไขมันเอชดีเอ (10-Hydroxy-Trans-2-Decenoic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีหน้าที่ในการเจริญเติบโตของผึ้ง สารแอสิติลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับความรู้สึกแล้วก็กลไกการทำงานของร่างกาย รวมถึงฮอร์โมนเพศ เป็นต้นว่า เทสโทสเตอโรน โปรเจสเตอโรน ฯลฯ ดังนี้สถานที่ ภูมิศาสตร์ และก็ลักษณะอากาศเป็นตัวแปรที่ทำให้ส่วนประกอบของนมผึ้งแตกต่างกันออกไป ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยมั่นใจว่าการรับประทานนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยทุเลาอาการวัยทอง กระตุ้นระบบภูมิต้านทานร่างกาย รักษาเบาหวาน รวมทั้งแผลเบาหวาน เป็นต้น อีกทั้งยังเชื่อกันอีกว่าถ้าหากนำนมผึ้งทาที่หนังศีรษะบางทีอาจช่วยกระตุ้นการเจริญเติบของเส้นผมอีกด้วย ซึ่งคำกล่าวอ้างกลุ่มนี้จะเป็นจริงไหม แล้วก็มีหลักฐานทางด้านการแพทย์มาดน้อยแค่ไหนที่จะช่วยยืนยันคุณประโยชน์ ผลดี และก็ความปลอดภัยของนมผึ้งที่มีบทบาทหรือส่วนช่วยในการรักษาโรคเหล่านี้
ประโยชน์ของนมผึ้งที่อาจมีต่อร่างกาย
บรรเทาอาการวัยทอง อาการวัยทองคือปัญหาทางสุขภาพที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงวัยกลางคน ส่งผลให้เกิดอาการหลายสิ่งหลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น ช่องคลอดแห้ง แสบร้อนหรือคันในช่องคลอด เจ็บขณะร่วมเพศ ฯลฯ อาการดังที่ได้กล่าวมาแล้วสามารถบรรเทาลงได้ด้วยการใช้สารหล่อลื่น แต่ว่าสารหล่อลื่นส่วนมากจะออกฤทธิ์ได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราว ซึ่งนมผึ้งมีคุณลักษณะต้านจุลชีวิน (Antimicrobial Activity) และก็มีคุณสมบัติเหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน จากการเรียนรู้โดยให้ผู้หญิงวัยทองที่แต่งงานแล้วอายุ 50-65 ปี จำนวน 90 คน กรุ๊ปหนึ่งใช้ครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้ง 15% กรุ๊ปหนึ่งใช้ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนจำพวกครีมยี่ห้อหนึ่ง รวมทั้งอีกกลุ่มใช้สารหล่อลื่นทาบริเวณช่องคลอดตรงเวลา 3 เดือน พบว่าครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้งมีคุณภาพในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของหญิงวัยทองได้มากกว่าอย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อเทียบกับฮอร์โมนชดเชยเอสโตรเจนชนิดครีมและสารหล่อลื่น ซึ่งจากผลของการทดลองอาจจะบอกได้ว่าการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตรวมทั้งทุเลาอาการวัยทองที่เกี่ยวข้องกับช่องคลอดของเพศหญิงวัยทอง แล้วก็ทางผู้ทำการวิจัยยังได้เจาะจงอีกว่าหากเพิ่มความเข้มข้นของนมผึ้งก็บางทีก็อาจจะช่วยทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นให้มากเพิ่มขึ้นได้
ลดระดับไขมันในเลือด นมผึ้งมีส่วนประกอบของสารอาหารหลายประเภท หนึ่งในนั้นเป็นกรดไขมันสายกลาง (Medium Chain Fatty Acid) และก็สารประกอบที่มีคุณลักษณะช่วยลดไขมันในเลือด ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาที่ให้สตรีวัยทองสุขภาพแข็งแรงจำนวน 36 ผู้รับประทานนมผึ้งขนาด 150 มิลลิกรัม ตรงเวลา 3 เดือน โดยตรวจสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่อาจก่อให้กำเนิดโรคเส้นเลือดรวมทั้งหัวใจ รวมถึงระดับไขมันในเลือดอีกทั้งก่อนแล้วก็ข้างหลังการทดลอง พบว่ามีการเปลี่ยนของระดับไขมันในเลือดอย่างเป็นจริงเป็นจัง โดยที่ระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี (LDL) ลดน้อยลง 4.1% ระดับคอเลสเตอรอลรวม (TC) ลดน้อยลง 3.09% และระดับคอเลสเตอรอลประเภทที่ดี (HDL) เพิ่มขึ้น 7.7% จากผลของการทดลองอาจจะกล่าวว่าการรับประทานนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยลดระดับไขมันในเลือดและก็อาจเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับการควบคุมอาการวัยทองที่เกี่ยวเนื่องกับภาวะไขมันในเลือดสูง
นอกนั้น ยังมีอีกการศึกษาหนึ่งที่ให้อาสาสมัครซึ่งมีภาวการณ์ไขมันในเลือดสูงประเภทไม่ร้ายแรงจำนวน 40 คน รับประทานนมผึ้งขนาด 350 มิลลิกรัมวันละ 9 แคปซูล เป็นเวลา 3 เดือนก็แสดงให้เห็นถึงระดับไขมันในเลือดที่ลดน้อยลงด้วยเหมือนกัน อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นฮอร์โมนเพศ (Dehydroepiandrosterone Sulphate: DHEA-S) รวมทั้งลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเส้นโลหิตและหัวใจได้อีกด้วย
ทุเลาอาการก่อนมีรอบเดือน อาการก่อนมีเมนส์มักส่งผลในทางลบกับสุขภาพของหญิง บางครั้งการรักษาโดยไม่ใช้ยาก็บางทีอาจช่วยบรรเทาให้อาการต่างๆได้ ซึ่งสอดคล้องกับการเล่าเรียนชิ้นหนึ่งที่ให้นิสิตหมอปริมาณ 110 คน กินนมผึ้งขนาด 1,000 มิลลิกรัมวันละ 1 ครั้ง โดยเริ่มในวันแรกที่มีเมนส์ รวมทั้งรับประทานสม่ำเสมอจนถึงหมดระดูในรอบถัดไป พบว่าอาการก่อนมีประจำเดือนลดน้อยลง จากผลการทดสอบอาจจะกล่าวว่าการกินนมผึ้งต่อเนื่องกันเป็นเวลา 2 เดือน บางทีอาจช่วยบรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือนได้
รักษาแผลเบาหวาน แผลโรคเบาหวานเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้มากในคนป่วยเบาหวานที่ควบคุมอาการได้ไม่ดี ส่วนมากจะพบแผลเบาหวานที่บริเวณเท้า โดยยิ่งไปกว่านั้นนิ้วโป้งเท้าและปลายฝ่าตีน ซึ่งนมผึ้งประกอบไปด้วยสารประกอบฟีนอลิคปฏิบัติภารกิจต่อต้านอนุมูลอิสระ โปรตีนที่มีคุณลักษณะต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย และกรดไขมันเอชดีเอ ที่ช่วยต้านเชื้อจุลินทรีย์ ก็เลยคาดว่าบางทีอาจจะช่วยรักษาแผลโรคเบาหวานได้ จากการศึกษาชิ้นหนึ่งให้คนเจ็บที่มีแผลเบาหวานที่ได้รับการรักษาหลักตามธรรมดา ทายาที่มีความเข้มข้นของนมผึ้ง 5% ในบริเวณที่เป็นแผลแล้วก็ปิดแผลด้วยแผ่นปิดแผลจำพวกไม่มีเชื้อโรคตรงเวลา 3 เดือนหรือจวบจนกระทั่งแผลจะหาย แล้วก็มีการประมวลผลสัปดาห์ละ 3 ครั้ง พบว่าใช้เวลาเฉลี่ย 424 ชั่วโมงก็เลยทำให้แผลหายดี และก็ค่าเฉลี่ยของความยาว ความกว้าง รวมทั้งความลึกของแผลลดน้อยลงวันละ 0.35 มม. 0.28 มม. รวมทั้ง 0.11 มม.เป็นลำดับ จากผลวิจัยอาจจะกล่าวว่านมผึ้งอาจมีประสิทธิภาพเป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษาแผลเบาหวานควบคุ่ไปกับการดูแลรักษาหลัก อย่างไรก็ดีผลวิจัยข้างต้นมีผู้เข้าร่วมการทดลองเพียงแต่ 8 คนซึ่งบางครั้งอาจจะเล็กเหลือเกินที่จะสรุปความสามารถของนมผึ้งสำหรับการรักษาแผลโรคเบาหวาน
แต่การศึกษาชิ้นหนึ่งได้ชี้ให้เห็นผลลัพธ์ของนมผึ้งที่ไม่เหมือนกันออกไป โดยให้คนที่มีแผลเบาหวานทายาซึ่งมีความเข้มข้นของนมผึ้ง 5% ในบริเวณที่เป็นแผลเป็นเวลา 3 เดือนหรือจะกว่าแผลจะหายอย่างเดียวกัน แม้กระนั้นยังไม่สามารถที่จะสรุปได้ว่านมผึ้งมีคุณภาพสำหรับเพื่อการรักษาแผลเบาหวานได้มากกว่าเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่ใช้ยาหลอก
ด้วยเหตุว่าการเรียนรู้ 2 ชิ้นข้างต้นแสดงให้เห็นผลสรุปของนมผึ้งที่ตรงข้ามกัน ก็เลยบางทีอาจยังไม่สามารถที่จะสรุปประสิทธิภาพของนมผึ้งสำหรับการรักษาแผลโรคเบาหวานได้อย่างแจ่มแจ้ง ก็เลยต้องเรียนเพิ่มเติมอีก
บรรเทาอาการอ่อนกำลังจากโรคมะเร็ง
อาการอ่อนเพลียที่มีสาเหตุจากโรคมะเร็งเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการดูแลและรักษาการฉายรังสีหรือการทำเคมีบำบัดรักษา มักมีผลต่ออารมณ์ จิตใจ ร่างกาย แล้วก็คุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ซึ่งการรับประทานยา การบำบัด หรือการออกกำลังกายบางทีอาจช่วยทุเลาอาการลงได้ รวมทั้งการทานอาหารเสริม เป็นต้นว่า นมผึ้งก็อาจมีส่วนช่วยทุเลาอาการด้วยเหมือนกัน ก็เลยสอดคล้องกับการศึกษาเล่าเรียนหนึ่งที่ให้คนเจ็บโรคมะเร็งอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ปริมาณ 52 คน พบว่ากลุ่มที่กินน้ำผึ้งแปรรูปและก็นมผึ้งขนาด 5 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ตรงเวลา 4 อาทิตย์ มีอาการเมื่อยล้าจากโรคมะเร็งดียิ่งขึ้นอย่างเป็นจริงเป็นจังทางสถิติเมื่อเทียบกับอีกกรุ๊ปที่ัรับประทานน้ำผึ้งบริสุทธิ์ อย่างไรก็แล้วแต่ยังจำเป็นต้องเรียนเพิ่มถึงบทบาทที่แท้จริงของนมผึ้งในการทุเลาอาการอ่อนแรงจากโรคมะเร็ง
รักษาไข้ละอองฟาง
โรคภูมิแพ้ชนิดหนึ่งที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองอย่างหนักกับละอองเกสรดอกไม้หรือสารอื่นๆทำให้ผู้เจ็บป่วยมีลักษณะอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล คันตา หูอื้อ เป็นต้น ซึ่งจากการเรียนทดสอบโดยให้เด็กอายุ 5-16 ปี ที่เป็นไข้ละอองฟาง ปริมาณ 80 คน กลุ่มหนึ่งรักษาด้วยการใช้การรับประทานผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของนมผึ้งและก็อีกกลุ่มรับประทานยาหลอกเป็นเวลา 3-6 เดือน รวมทั้งตราบจนกระทั่งจะสิ้นสุดฤดูของเกสรดอกไม้ พบว่าอีกทั้ง 2 กรุ๊ปยังคงเจอลักษณะของไข้ละอองฟาง และก็มีระดับความร้ายแรงของอาการที่ไม่แตกต่างกันมากเท่าไรนัก จากผลการศึกษาวิจัยอาจจะกล่าวว่านมผึ้งบางทีอาจไม่มีสมรรถนะต่อการดูแลรักษาไข้ละอองฟางและไม่สามารถทุเลาอาการต่างๆให้ได้ ก็เลยยังจำต้องเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณภาพของนมผึ้งสำหรับเพื่อการรักษาไข้ละอองฟางที่แจ้งชัดเพิ่มขึ้น
ความปลอดภัยในการรับประทานนมผึ้ง
การกินนมผึ้งออกจะไม่มีอันตรายถ้าเกิดรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม แม้กระนั้นก็มีโอกาสที่จะเกิดผลใกล้กันได้ ได้แก่ เลือดออกในไส้ เจ็บท้อง หรือถ่ายเป็นเลือด เป็นต้น บางรายหากมีอาการแพ้อย่างหนักอาจจะเป็นผลให้มีลักษณะอาการโรคหอบหืด คอบวม หรือถึงขั้นเสียชีวิต ทั้งยังการใช้นมผึ้งทาที่บริเวณผิวหนังค่อนข้างจะไม่เป็นอันตราย แม้กระนั้นไม่สมควรทาบริเวณหนังศีรษะเนื่องจากอาจจะส่งผลให้เกิดอาการแพ้ ผื่นคัน หรือมีอาการอักเสบ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : นมผึ้งสรรพคุณ

Tags : นมผึ้งสรรพคุณ

 

Sitemap 1 2 3