ผู้เขียน หัวข้อ: นมผึ้งรวมทั้งคุณค่าที่น่าสนใจแล้วก็จะต้องลองหามาทานซักครั้ง  (อ่าน 332 ครั้ง)

Saiswatka

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2238
    • ดูรายละเอียด
นมผึ้ง ได้ผลสำเร็จผลิตที่หลั่งออกมาจากต่อมไฮโปฟาริงจ์ (Hypopharyngeal Gland) ของผึ้งงาน นมผึ้งมีลักษณะเป็นของเหลวสีขาวคล้ายนม รสหวาน มีกลิ่นเปรี้ยวน้อย เป็นของกินหลักของผึ้งราชินีและตัวอ่อนผึ้งเพื่อช่วยกระตุ้นสำหรับในการเจริญวัย หลายประเทศใช้นมผึ้งในฐานะยารักษาโรค อาหารเสริม หรือแม้กระทั่งเป็นส่วนประกอบของครีมบำรุงแล้วก็เครื่องสำอาง
นมผึ้ง
นมผึ้งมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักราว 60-70% และก็อุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆเช่น โปรตีน น้ำตาล วิตามิน เกลือแร่ และกรดอะมิโน นอกจากนั้น ยังพบสารอื่นในนมผึ้ง อาทิเช่น กรดไขมันเอชดีเอ (10-Hydroxy-Trans-2-Decenoic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีหน้าที่สำหรับเพื่อการเจริญวัยของผึ้ง สารแอสิตำหนิลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจสึกแล้วก็กลไกการทำงานของร่างกาย รวมทั้งฮอร์โมนเพศ อาทิเช่น เทสโทสเตอโรน โปรเจสเตอโรน เป็นต้น ดังนี้สถานที่ ภูมิศาสตร์ และลักษณะอากาศเป็นตัวแปรที่ทำให้ส่วนประกอบของนมผึ้งไม่เหมือนกันออกไป ผู้คนจำนวนมากเชื่อว่าการรับประทานนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยทุเลาอาการวัยทอง กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย รักษาโรคเบาหวาน รวมทั้งแผลโรคเบาหวาน เป็นต้น ทั้งยังยังเชื่อกันอีกว่าแม้นำนมผึ้งทาที่หนังหัวบางทีอาจช่วยกระตุ้นการเจริญก้าวหน้าเติบของเส้นผมอีกด้วย ซึ่งคำกล่าวอ้างกลุ่มนี้จะเป็นจริงไหม แล้วก็มีหลักฐานทางการแพทย์มาดน้อยเพียงใดที่จะช่วยรับรองคุณประโยชน์ ประโยชน์ และความปลอดภัยของนมผึ้งที่มีหน้าที่หรือส่วนช่วยสำหรับในการรักษาโรคพวกนี้
คุณประโยชน์ของนมผึ้งที่อาจมีต่อร่างกาย
ทุเลาอาการวัยทอง อาการวัยทองเป็นปัญหาทางสุขภาพที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงกลางคน เป็นเหตุให้เกิดอาการหลายสิ่งหลายอย่าง เป็นต้นว่า ช่องคลอดแห้ง แสบร้อนหรือคันในช่องคลอด เจ็บขณะร่วมเพศ เป็นต้น อาการดังที่กล่าวถึงมาแล้วสามารถบรรเทาลงได้ด้วยการใช้สารหล่อลื่น แม้กระนั้นสารหล่อลื่นจำนวนมากจะออกฤทธิ์ได้เพียงแต่ชั่วครั้งคราว ซึ่งนมผึ้งมีคุณลักษณะต่อต้านจุลชีวัน (Antimicrobial Activity) รวมทั้งมีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน จากการเล่าเรียนโดยให้สตรีวัยทองที่แต่งงานแล้วอายุ 50-65 ปี จำนวน 90 คน กรุ๊ปหนึ่งใช้ครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้ง 15% กรุ๊ปหนึ่งใช้ฮอร์โมนตอบแทนเอสโตรเจนประเภทครีมแบรนด์หนึ่ง และอีกกลุ่มใช้สารหล่อลื่นทาบริเวณช่องคลอดตรงเวลา 3 เดือน พบว่าครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้งมีคุณภาพในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของหญิงวัยทองได้มากกว่าอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับฮอร์โมนตอบแทนเอสโตรเจนชนิดครีมรวมทั้งสารหล่อลื่น ซึ่งจากผลการทดสอบอาจพูดได้ว่าการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตรวมทั้งทุเลาอาการวัยทองที่เกี่ยวโยงกับช่องคลอดของผู้หญิงวัยทอง และก็ทางผู้ศึกษาวิจัยยังได้กำหนดอีกว่าถ้าหากเพิ่มความเข้มข้นของนมผึ้งก็บางครั้งอาจจะช่วยทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นให้มากขึ้นเรื่อยๆได้
ลดระดับไขมันในเลือด นมผึ้งมีส่วนประกอบของสารอาหารหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือกรดไขมันทางสายกลาง (Medium Chain Fatty Acid) รวมทั้งสารประกอบที่มีคุณสมบัติช่วยลดไขมันในเลือด ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาวิจัยที่ให้หญิงวัยทองสุขภาพแข็งแรงจำนวน 36 คนรับประทานนมผึ้งขนาด 150 มก. ตรงเวลา 3 เดือน โดยตรวจสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่อาจจะก่อให้กำเนิดโรคเส้นเลือดแล้วก็หัวใจ รวมถึงระดับไขมันในเลือดทั้งยังก่อนรวมทั้งข้างหลังการทดลอง พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงของระดับไขมันในเลือดอย่างมีนัยสำคัญ โดยที่ระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี (LDL) ต่ำลง 4.1% ระดับคอเลสเตอรอลรวม (TC) ลดลง 3.09% แล้วก็ระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ดี (HDL) เพิ่มขึ้น 7.7% จากผลของการทดลองอาจจะบอกได้ว่าการรับประทานนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยลดระดับไขมันในเลือดและอาจเป็นหนทางหนึ่งสำหรับในการควบคุมอาการวัยทองที่เกี่ยวโยงกับภาวการณ์ไขมันในเลือดสูง
นอกเหนือจากนั้น ยังมีอีกการเล่าเรียนหนึ่งที่ให้อาสาสมัครซึ่งมีสภาวะไขมันในเลือดสูงชนิดไม่ร้ายแรงจำนวน 40 คน รับประทานนมผึ้งขนาด 350 มก.วันละ 9 แคปซูล ตรงเวลา 3 เดือนก็บอกให้เห็นถึงระดับไขมันในเลือดที่น้อยลงเช่นกัน อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นฮอร์โมนเพศ (Dehydroepiandrosterone Sulphate: DHEA-S) และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดและก็หัวใจได้อีกด้วย
ทุเลาอาการก่อนมีรอบเดือน อาการก่อนมีรอบเดือนมักมีผลในทางลบกับสุขภาพของผู้หญิง ครั้งคราวการดูแลรักษาโดยไม่ใช้ยาก็บางทีอาจช่วยบรรเทาให้อาการต่างๆดีขึ้นได้ ซึ่งสอดคล้องกับการเรียนชิ้นหนึ่งที่ให้นิสิตแพทย์ปริมาณ 110 คน กินนมผึ้งขนาด 1,000 มก.วันละ 1 ครั้ง โดยเริ่มในวันแรกที่มีเมนส์ รวมทั้งรับประทานสม่ำเสมอจนกระทั่งหมดรอบเดือนในรอบถัดไป พบว่าอาการก่อนมีรอบเดือนลดลง จากผลการทดสอบอาจพูดได้ว่าการกินนมผึ้งติดต่อกันตรงเวลา 2 เดือน อาจช่วยบรรเทาอาการก่อนมีเมนส์ได้
รักษาแผลโรคเบาหวาน แผลเบาหวานเป็นภาวะแทรกซ้อนที่มักพบในคนเจ็บเบาหวานที่ควบคุมอาการได้ไม่ดี โดยมากจะพบแผลเบาหวานที่รอบๆเท้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิ้วโป้งเท้าและก็ปลายฝ่าเท้า ซึ่งนมผึ้งประกอบไปด้วยสารประกอบฟีนอลิคปฏิบัติหน้าที่ต้านทานอนุมูลอิสระ โปรตีนที่มีคุณลักษณะต้านเชื้อแบคทีเรีย และกรดไขมันเอชดีเอ ที่ช่วยต้านทานเชื้อจุลินทรีย์ จึงคาดว่าบางครั้งอาจจะช่วยรักษาแผลโรคเบาหวานได้ จากการศึกษาชิ้นหนึ่งให้ผู้เจ็บป่วยที่มีแผลเบาหวานที่ได้รับการดูแลรักษาหลักตามปกติ ทายาที่มีความเข้มข้นของนมผึ้ง 5% ในรอบๆที่เป็นแผลและปิดแผลด้วยแผ่นปิดแผลประเภทไม่มีเชื้อเป็นเวลา 3 เดือนหรือจนกว่าแผลจะหาย รวมทั้งมีการให้คะแนนอาทิตย์ละ 3 ครั้ง พบว่าใช้เวลาเฉลี่ย 424 ชั่วโมงก็เลยทำให้แผลหายดี และก็ค่าถัวเฉลี่ยของความยาว ความกว้าง แล้วก็ความลึกของแผลต่ำลงวันละ 0.35 มิลลิเมตร 0.28 มิลลิเมตร รวมทั้ง 0.11 มิลลิเมตรตามลำดับ จากผลการศึกษาเรียนรู้อาจจะบอกได้ว่านมผึ้งอาจมีสมรรถนะเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับเพื่อการรักษาแผลโรคเบาหวานควบคุ่ไปกับการดูแลรักษาหลัก อย่างไรก็แล้วแต่ผลการศึกษาเรียนรู้ข้างต้นมีผู้เข้าร่วมการทดสอบเพียง 8 คนซึ่งบางครั้งก็อาจจะเล็กเหลือเกินที่จะสรุปประสิทธิภาพของนมผึ้งสำหรับในการรักษาแผลโรคเบาหวาน
แต่ว่าการศึกษาชิ้นหนึ่งได้บอกให้เห็นผลลัพธ์ของนมผึ้งที่แตกต่างออกไป โดยให้ผู้ที่มีแผลเบาหวานป้ายยาซึ่งมีความเข้มข้นของนมผึ้ง 5% ในรอบๆที่เป็นแผลเป็นเวลา 3 เดือนหรือจะกว่าแผลจะหายด้วยเหมือนกัน แม้กระนั้นยังไม่สามารถที่จะสรุปได้ว่านมผึ้งมีคุณภาพสำหรับการรักษาแผลเบาหวานได้มากกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ใช้ยาหลอก
เนื่องด้วยการเรียนทั้ง 2 ชิ้นข้างต้นบอกให้เห็นผลของนมผึ้งที่ตรงข้ามกัน จึงบางทีอาจยังไม่สามารถที่จะสรุปประสิทธิภาพของนมผึ้งสำหรับเพื่อการรักษาแผลเบาหวานได้อย่างแจ่มแจ้ง จึงจำเป็นต้องศึกษาเล่าเรียนเพิ่มเติมอีก
ทุเลาอาการเหน็ดเหนื่อยจากโรคมะเร็ง
อาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรงที่เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากโรคมะเร็งเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการดูแลรักษาการฉายรังสีหรือกระบวนการทำเคมีบำบัดรักษา มักมีผลต่ออารมณ์ จิตใจ ร่างกาย รวมทั้งคุณภาพชีวิตของคนป่วย ซึ่งการรับประทานยา การบำบัด หรือการบริหารร่างกายอาจช่วยทุเลาอาการลงได้ รวมถึงการรับประทานอาหารเสริม อาทิเช่น นมผึ้งก็อาจมีส่วนช่วยทุเลาอาการเหมือนกัน จึงสอดคล้องกับการศึกษาเล่าเรียนหนึ่งที่ให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 52 คน พบว่ากรุ๊ปที่กินน้ำผึ้งดัดแปลงแล้วก็นมผึ้งขนาด 5 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ตรงเวลา 4 อาทิตย์ มีลักษณะอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรงจากโรคมะเร็งอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับอีกกรุ๊ปที่ัรับประทานน้ำผึ้งบริสุทธิ์ แม้กระนั้นยังจึงควรศึกษาเล่าเรียนเพิ่มเติมอีกถึงบทบาทที่จริงจริงของนมผึ้งสำหรับการบรรเทาอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรงจากโรคมะเร็ง
รักษาไข้ละอองฟาง
โรคภูมิแพ้ประเภทหนึ่งที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสนองตอบอย่างหนักกับละอองเกสรดอกไม้หรือสารอื่นๆทำให้คนเจ็บมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล คันตา หูอื้อ เป็นต้น ซึ่งจากการศึกษาทดสอบโดยให้เด็กอายุ 5-16 ปี ที่เป็นไข้ละอองฟาง จำนวน 80 คน กรุ๊ปหนึ่งรักษาด้วยการรับประทานผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของนมผึ้งและก็อีกกรุ๊ปรับประทานยาหลอกเป็นเวลา 3-6 เดือน และก็ตราบจนกระทั่งจะหมดฤดูของเกสรดอกไม้ พบว่าทั้งยัง 2 กลุ่มยังคงเจออาการของไข้ละอองฟาง รวมทั้งมีระดับความร้ายแรงของอาการที่ไม่มีความแตกต่างกันเท่าไรนัก จากผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยอาจพูดได้ว่านมผึ้งบางทีอาจไม่มีคุณภาพต่อการดูแลรักษาไข้ละอองฟางและไม่สามารถบรรเทาอาการต่างๆให้ดียิ่งขึ้นได้ ก็เลยยังจึงควรเรียนเพิ่มเกี่ยวกับสมรรถนะของนมผึ้งสำหรับในการรักษาไข้ละอองฟางที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
ความปลอดภัยสำหรับเพื่อการกินนมผึ้ง
การรับประทานนมผึ้งออกจะปลอดภัยถ้ารับประทานในปริมาณที่สมควร แต่ว่าก็ได้โอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงได้ ตัวอย่างเช่น เลือดออกในไส้ เจ็บท้อง หรือถ่ายเป็นเลือด เป็นต้น บางรายหากมีลักษณะแพ้อย่างหนักอาจทำให้มีอาการโรคหอบหืด คอบวม หรือถึงขั้นเสียชีวิต อีกทั้งการใช้นมผึ้งทาที่บริเวณผิวหนังออกจะไม่เป็นอันตราย แต่ไม่ควรทาบริเวณหนังศีรษะเนื่องจากอาจส่งผลให้เกิดอาการแพ้ ผื่นคัน หรือมีอาการอักเสบ

Tags : นมผึ้ง,royal jelly

 

Sitemap 1 2 3