ผู้เขียน หัวข้อ: วิตามินซี (Vitamin C) ประโยชน์และข้อควรรู้ต่างๆ | Healthtio.com  (อ่าน 272 ครั้ง)

xcepter2016

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2276
    • ดูรายละเอียด
วิตามินซี (Vitamin C) หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า “กรดแอสคอร์บิก (ascorbic acid)” เป็นวิตามินที่หลายๆ คน หรือ คนทุกเพศทุกวัยคงรู้จักกันดีมากกว่าวิตามินชนิดอื่นๆ เนื่องจาก “วิตามินซี” เป็นวิตามินที่มีการนำไปใช้กันอย่างแพร่หลาย ทั้งกับคนปกติ ผู้ป่วย เด็ก ผู้ใหญ่ คนชรา อีกทั้งยังเป็นวิตามินที่ค่อนข้างหาซื้อได้ง่าย และที่สำคัญวิตามินชนิดนี้ (วิตามินซี) เป็นวิตามินที่ค่อนข้างมีผลกระทบต่อร่างกาย ทั้งในด้านที่เป็นประโยชน์และโทษ หากได้รับ “มากหรือน้อยเกินไป”


“วิตามินซี” เป็นวิตามินที่มีความจำเป็นต่อร่างกายเป็นอย่างมาก การได้รับวิตามินชนิดนี้ (วิตามินซี) อย่างเพียงพอ จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่างต่อร่างกายเป็นอย่างดี ตรงกันข้าม หากได้รับไม่เพียงพอ ก็จะส่งผลที่ไม่ดีต่อร่างกายนั้นเอง ซึ่งวิตามินชนิดนี้ (วิตามินซี) มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไรบ้าง เรามาทำความรู้จักกับมัน (วิตามินซี) กันเลยดีกว่า

ประโยชน์ของวิตามินซี
  • วิตามินซี ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน (collagen) ให้กับร่างกาย ซึ่งคอลลาเจนนี้เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบหนึ่งของกล้ามเนื้อ หลอดเลือด กระดูกและกระดูกอ่อน
  • ช่วยทำให้ร่างกายเจริญเติบโตได้ดี ไม่หยุดชะงัก โดยเฉพาะกับเด็กและผู้ที่ยังอยู่ในวัยของการเจริญเติบโต
  • ช่วยในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายให้ดียิ่งขึ้น
  • ช่วยให้เลือดกำเดาไม่ไหลออกง่าย เพราะเส้นเลือดฝอยแข็งแรง
  • วิตามินซี ช่วยให้กระดูกและเล็บแข็งแรง
  • ช่วยให้ผิวไม่แห้งแตกและเป็นสะเก็ด
  • ช่วยให้แผลหายได้เร็วขึ้น
  • ช่วยให้ไม่ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ข้อเท้าและขาทั้งสองข้าง
  • ช่วยเสริมสร้างสารสำคัญบางตัวซึ่งมีผลต่อร่างกาย อาทิ อีพิเนฟริน (epinephrine) หรือ อะดรีนาลีน (adrenaline) และ คอร์ติโคสตีรอยด์ (corticosteroids) เป็นต้น
  • วิตามินซี ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ไม่อ่อนเพลีย และไม่เหนื่อยง่าย
  • ช่วยให้สดชื่น อารมณ์ดี ไม่ซึมเศร้า และไม่หงุดหงิดง่าย
  • ช่วยป้องกันโรคลักปิดลักเปิด หรือ โรคที่มีเลือดออกตามไรฟันนั้นเอง
  • ช่วยทำให้เหงือกและฟันแข็งแรง ซึ่งตรงกันข้าม หากขาด “วิตามินซี” ก็จะทำให้เหงือกไม่แข็งแรง อักเสบได้ง่ายซึ่งส่งผลกระทบให้ฟันไม่แข็งแรงไปด้วย
  • ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ที่เกิดขึ้นในร่างกาย
  • วิตามินซี ช่วยให้ผิวสวย ไม่ซีด ไม่แห้ง ไม่มีรอยจ้ำตามผิงหนัง
  • ป้องกันผิวหน้าไม่ให้เป็นผื่นแดง หรือ มีสิวที่เป็นสีแดง
  • ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคต่างๆ ให้ดีขึ้น
  • ช่วยลดโอกาสที่จะเป็นโรคมะเร็งต่างๆ
  • ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
  • วิตามินซี ช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กจากทางเดินอาหารได้ดียิ่งขึ้น
  • ช่วยรักษาและทำให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง
  • ช่วยลดอาการของไข้หวัดและทำให้หายจากการเป็นไข้หวัดได้เร็วยิ่งขึ้น

จากที่ได้กล่าวมาในข้างต้นเราก็จะเห็นได้ว่า “วิตามินซี” มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ดังนั้นหากร่างกายไม่ได้รับวิตามินชนิด (วิตามินซี) นี้อย่างเพียงพอ ย่อมจะส่งผลที่ตรงกันข้ามกับประโยชน์ที่ได้กล่าวมาในข้างต้นนั้นเอง

ข้อควรรู้ต่างๆ เกี่ยวกับวิตามินซี
  • วิตามินซี เป็นวิตามินที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นเองได้ ดังนั้นการที่ร่างกายจะได้รับวิตามินชนิดนี้จึงต้องรับประทานเข้าไปเท่านั้น
  • วิตามินซีที่ดี ควรเป็นวิตามินที่ได้รับจากธรรมชาติ ซึ่งมีอยู่มากในผักและผลไม้ต่างๆ อาทิ ฝรั่ง ส้ม สตรอเบอรี่ กีวี แคนตาลูป มะละกอ มะม่วง องุ่น มะเขือเทศ มันฝรั่ง บร็อคโคลี่ และผักใบเขียวต่างๆ เป็นต้น
  • ความต้องการวิตามินซีของแต่ละวัยนั้นมีความแตกต่างกัน แต่ก็สามารถระบุได้คร่าวๆ ดังนี้– เด็กควรได้รับในปริมาณ 30-50 มิลลิกรัมต่อวัน– ผุ้ใหญ่ควรได้รับในปริมาณ 60-90 มิลลิกรัมต่อวัน– หญิงตั้งครรภ์หรือหญิงที่อยู่ในระหว่างการให้นมบุตร ควรได้รับในปริมาณ 90-95 กรัมต่อวัน– ผู้ที่สูบบุหรี่ควรได้รับ 95-125 มิลลิกรัมต่อวัน เพราะการสูบบุหรี่จะไปลดปริมาณของวิตามินซี
  • การรับประทาน “วิตามินซีในรูปแบบอาหารเสริม” ควรอยู่ในการควบคุมของแพทย์ เพราะถือได้ว่า “วิตามินซีเป็นยาชนิดหนึ่ง” ซึ่งมีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นหรืออาจเกิดขึ้นได้ หากรับประทานมากเกินไป ดังนี้– คลื่นไส้อาเซียน เนื่องจากวิตามินซีไปสร้างความระคายเคืองให้กับกระเพาะอาหาร– ไตทำงานหนักขึ้น เพราะวิตามินซีเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ ไม่สามารถสะสมได้ในร่างกาย ดังนั้นเมื่อรับประทานมากเกินความต้องการของร่างกาย ก็จะถูกขับออกมาทางไต ซึ่งทำให้ไตต้องทำงานหนักเพื่อขับวิตามินซีส่วนเกินออกไปจากร่างกาย นอกจากนี้อาจก่อให้เกิดเป็นนิ่วที่ไตได้ด้วย– ส่งผลกระทบต่อเหงือกและฟัน โดยเฉพาะในเด็ก เพราะวิตามซีส่วนใหญ่จะมีรสเปรี้ยวจากการแต่งรส ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด ทำให้เกิดการกัดกร่อนทำลายเคลือบฝัน ซึ่งส่งผลเสียต่อเหงือกและฟันนั้นเอง

วิตามินซี (Vitamin C) เป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่สามารถสะสมเก็บไว้ในร่างกายได้ ดังนั้นการที่จะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์จาก “วิตามินซี” ทุกวัน เราจึงต้องรับประทาน (วิตามินซี) เข้าไปทุกวัน ซึ่งสำหรับคนไทยที่รับประทานผักและผลไม้เป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว มักจะไม่ค่อยมีปัญหาการขาด “วิตามินซี” ตรงกันข้าม คนที่ไม่รับประทานผักและผลไม้ ย่อมมีโอกาสสูงที่จะ “ขาดวิตามินซี” ค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้น คนที่ขาดวิตามินซี จึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อขอคำแนะนำและซื้อ “วิตามินซี” มารับประทาน เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดวิตามินซี

ที่มา : Healthtio.com, Thaihealth.or.th, Doctor.or.th

 

Sitemap 1 2 3