ผู้เขียน หัวข้อ: สารกรองน้ำ  (อ่าน 218 ครั้ง)

anonchobpost

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2204
    • ดูรายละเอียด
สารกรองน้ำ
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2018, 07:39:27 pm »
สารกรองน้ำ<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
สารกรองน้ำ<br />
<br />
 สารกรองน้ำ เป็นสาระสำคัญสำหรับในการกรองน้ำให้ได้คุณภาพ การเปลี่ยนสารกรองน้ำที่มีคุณภาพตามที่ได้กำหนดเวลา จึงเป็นเรื่องจำเป็น เครื่องกรองน้ำดีแต่ไม่ได้รับการรักษาให้อยู่ในสภาพที่ดี จะนำมาซึ่งการทำให้เครื่องกรองน้ำมีประสิทธิภาพในการกรองสิ่งสกปรกลดน้อยลง รวมถึงสิ่งสกปรกที่หมักหมมจะมีผลให้น้ำปนเปื้อนและไม่สะอาด เนื่องมาจากสารกรองน้ำมีอายุการใช้แรงงาน หลังจากที่ได้ใช้เครื่องกรองน้ำไปแล้ว สิ่งจำเป็นที่ลืมมิได้เด็ดขาดคือ เรื่องช่วงเวลาการล้างรวมทั้งปลี่ยนสารกรองน้ำรวมทั้งไส้กรองเพราะว่าสารกรองรวมทั้งไส้กรองน้ำก็มีอายุการใช้งาน แต่ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ขึ้นอยู่กับภาวะของน้ำที่ผ่านเครื่องกรองน้ำด้วย ทางที่ดีควรจะเปลี่ยนแปลงสารกรองน้ำรวมทั้งไส้กรองน้ำให้ตรงตามที่มีการกำหนดเวลา<br />
<br />
เดี๋ยวนี้สารกรองน้ำ มีนานาประการแบรนด์ ตามความเป้าหมายของการนำไปใช้, สภาพของน้ำดิบ, แล้วก็ประสิทธิภาพน้ำที่ต้องการ เพื่อประสิทธิภาพในการกรองสำหรับน้ำใช้ หรือ น้ำให้มีประสิทธิภาพ<br />
<br />
กรวด-ทราย คัดขนาด (Sand) เป็นกรวดและทรายที่ใช้สำหรับกรองน้ำ ประสิทธิภาพสูง คัดเลือกขนาดเป็นอย่างดี ไม่มีหินปูน (Limestone) มีเนื้ออ่อน และละลายน้ำก้าวหน้าปนเปอยู่ เนื่องจากเมื่อใช้งานกรองน้ำมีการล้าง และกวนมากมายจะก่อให้มีการสึกหรอเล็กลงได้วิธีทดสอบ ว่าในกรวดแล้วก็ทรายมีหินปูนอยู่มากมายน้อย แค่ไหนได้โดยแช่ในกรดเกลือเข้มข้นเป็นเวลา 1 วัน จะมีน้ำหนักหายไปไม่เกินจำนวนร้อยละ 5<br />
<br />
ก้อนกรวด-ทราย (คัดเลือกขนาด) ทุกขนาด สำหรับกรองน้ำ โดยแบ่งตามขนาดดังนี้<br />
ก้อนกรวด-ทราย (คัดขนาด) No.1 ขนาด 0.5 – 0.8 มิลลิเมตร<br />
ก้อนกรวด-ทราย (คัดเลือกขนาด) No.2 ขนาด 1 -2 มม.<br />
ก้อนกรวด-ทราย (คัดเลือกขนาด) No.3 ขนาด 2 – 5 มิลลิเมตร<br />
ก้อนกรวด-ทราย (คัดเลือกขนาด) No.4 ขนาด 5 – 10 มิลลิเมตร<br />
ก้อนกรวด-ทราย (คัดขนาด) No.5 ขนาด 10 – 15 มม.<br />
กรวด-ทราย (คัดเลือกขนาด) No.6 ขนาด 15 – 20 มิลลิเมตร<br />
กรวด-ทราย (คัดเลือกขนาด) No.7 ขนาด 20 – 30 มิลลิเมตร<br />
กรวด-ทราย (คัดขนาด) No.8 ขนาด 30 – 40 มิลลิเมตร<br />
<br />
 <br />
<br />
<br />
<br />
จำพวกต่างของสารกรองน้ำ <br />
<br />
<br />
<br />
สารกรองแอนทราไซต์ หรือ Anthracite บางท่านอาจเรียกว่า แอนทราไซต์ มีคุณสมบัติสามารถกำจัดตะกอน และโคลนตม เพื่อน้ำที่สะอาด ทางบริษัท ทีวอเตอร์เทคจำกัด ขายสารกรองแอนทราไซท์หลากหลายแบรนด์ประสิทธิภาพสูงในราคาพิเศษ พร้อมด้วยยังมีบริการแปลงสารกรองแอนทราไซท์<br />
<br />
สารกรองสนิมเหล็ก หรือ Manganese Sand บางคนบางทีอาจเรียกว่า แมงกานีส มีคุณสมบัติสามารถกำจัดกำจัดสารโลหะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารละลายเหล็กที่ปะปนมาพร้อมกับน้ำ แล้วก็ยังเพิ่มเติมออกสิเจนให้กับน้ำ ทางบริษัท หนวอเตอร์เทค จำหน่ายสารกรองสนิมเหล็กนานาประการยี่ห้อคุณภาพสูงในราคาพิเศษ แล้วก็ยังมีบริการแปลงสารกรอง สนิมเหล็ก<br />
<br />
สารกรองเรซิ่น หรือ Ion Exchange Resins บางคนอาจเรียกว่า เรซิ่น (Resin) ลักษณะเป็นเม็ดทรงกลมขนาดเล็กสีเหลือง สารกรองมีความชุ่มชื้น มีคุณสมบัติสามารถกำจัดความกระด้าง, หินปูน, แคลเซียม,แมกนีเซียม และซับสี เหมาะกับวิธีการทำน้ำอ่อน ทางบริษัท อควาเคมี ขายสารกรองเรซิ่นนานาประการยี่ห้อประสิทธิภาพสูงในราคาพิเศษ พร้อมทั้งบริการบริการเปลี่ยนแปลงสารกรองเรซิ่น<br />
<br />
สารกรองคาร์บอน หรือ Activated Carbon ลักษณะเป็นเม็ดขนาดเล็กสีดำ บางคนอาจเรียกว่า ผงถ่าน มีคุณสมบัติสามารถกำจัดความมัว, สารแขวนลอย, สารอินทรีย์, กลิ่น, คลอรีน และก็สีในน้ำ ที่เกิดขึ้นจากสารอินทรีย์ ทางบริษัท อควาเคมี สารกรองคาร์บอนหลากหลายยี่ห้อประสิทธิภาพสูงในราคาพิเศษ และบริการเปลี่ยนแปลงสารกรอง คาร์บอน<br />
<br />
คุณสมบัติของสารกรองน้ำ ANTHRACITE<br />
<br />
 “แอนทราไซท์” คือสารกรองน้ำเพื่อกำจัดตะกอนและโคลนตมเพื่อให้น้ำสะอาด โดยใช้สารแอนทราไซท์ เป็น วัตถุดิบและมีชื่อเรียกสั้นๆว่า “สารกรองน้ำแอนทราไซท์’ แอนทราไซท์ เป็นถ่านหินซึ่งมีธาตุคาร์บอนสูงมากที่สุด มีคาร์บอนสูงกว่าจำพวกอื่นๆทุกรูปแบบมีส่วนประกอบของคาร์บอนสูงสุดพร้อมทั้งมีวัตถุสารซึ่งละลายน้ำได้ต่ำที่สุด ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับถ่านหินแบบอื่นๆดังเช่น ถ่านหิน น้ำมัน ถ่านหินลิกไนท์ ถ่านหินที่ใช้สำหรับการหุงต้ม ฯลฯ<br />
<br />
แอนทราไซค์เป็นสารซึ่งมีธาตุคาร์บอนมาก (FIX CABON) แล้วก็มีเถ้าถ่านเป็นปริมาณน้อยจึงนับว่าเป็นสารที่มีคุณภาพดีเมื่อเปรียบเทียบกับวัตถุสารอื่นๆคาร์บอนจะไม่ละลายน้ำได้ง่าย แล้วก็ทนต่อวัตถุเคมีได้ดียิ่งไปกว่า ยิ่งไปกว่านี้ยังมีคุณสมบัติเป็นถ่านหินที่มีความบริสุทธิ์สูง มีภาวะการตกผลึกที่ดี และไม่เปราะแตกหักง่าย เป็นต้นว่า เพรช ซึ่งมีความแข็งแกร่งและแข็งแรงมาก ก็เป็นแบบอย่างหนึ่งของคาร์บอน เหตุเพราะมีความแข็งแรง ไม่เปราะแตกหักง่าย และไม่ละลายน้ำได้ง่ายแอนทราไซท์จึงได้รับการพัฒนาขึ้นมาเป็นสารกรองน้ำ<br />
<br />
คุณสมบัติของแอนทราไซท์ <br />
 1. เก็บขี้ตะกอนน้ำไว้ที่ผิวข้างนอกของสารวัตถุ<br />
 2. สามารถดักจับขี้ตะกอนไว้ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว <br />
 3. สามารถกรองน้ำได้จนกระทั่งขั้นที่อยู่ลึกลงไปด้านล่างๆด้วย<br />
 4. การชำระล้างน้ำทำความสะอาดทำเป็นอย่างสบาย<br />
 5. มีคุณลักษณะแข็งแรงต่อการกัดกร่อนของสารเคมีในอัตราสูง<br />
<br />
การกรอง (Filtration)<br />
 การกรองแบบติด ค้างในชั้นกรอง จะมี 3 ประเภทคือ<br />
 • Slow Sand Filter Flow Rate<br />
 • Rapid Sand Filter Flow Rate<br />
 • Multimedia Filter (Anthracite & Sand)<br />
 ในที่นี้จะกล่าวเฉพาะการกรองแบบค้างในชั้นกรอง<br />
<br />
Slow Sand Filter<br />
<br />
เป็นแบบที่อดออม ใช้กับน้ำที่มีความมัวต่ำ การกรองน้ำด้วยอัตราต่ำ เหมาะกับใช้ในต่างจังหวัดธรรมดา อัตรากา<br />
<br />
Rapid Sand Filter<br />
<br />
เครื่องกรองน้ำอย่างนี้ เป็นวัสดุอุปกรณ์มาตรฐานที่ใช้ในโรงกรองน้ำธรรมดา ซึ่งธรรมดาจะใช้ Media เป็นทรายกรอง สามารถกรองน้ำได้สูงยิ่งกว่าเครื่องกรองน้ำได้สูงสุดกว่าเครื่องกรองหลายสิบเท่า ปกติอัตราการไหลของน้ำ<br />
<br />
Multimedia Filter (แอนทราไซท์ & ทรายกรอง)<br />
<br />
เป็นการกรองที่ใช้กันธรรมดา ในถังกรองแบบใหม่ ใช้กับน้ำที่มีความมัวสูง โดยมีอัตราการกรองสูงขึ้นมากยิ่งกว่า แบบถังกรองทรายปกติ มีอัตราการไหลของน้ำ<br />
<br />
ประโยชน์ ของระบบการกรองน้ำที่ใช้แอนทราไซท์<br />
<br />
ปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนมาใช้แอนทราไซท์ แทนทรายกรองน้ำ ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีกว่า ดังต่อไปนี้<br />
 1. แอนทราไซท์ มีลักษณะเป็นคาร์บอนชนิดหนึ่ง มีพ้นผิวเป็นเหลี่ยมมุม สามารถกรองตะกอนแขวนลอยที่ปะปนมากับน้ำได้มากกว่าทรายซึ่งมีลักษณะเป็นทรงกลม (ขี้ตะกอนแขวนลอยจะมีมากในน้ำในใต้ดิน ดังเช่นว่า น้ำ บาดาล)<br />
 2. แอนทราไซท์ มีน้ำหนักน้อยกว่าทราย ก็เลยทำให้การล้างกลับ (Back Wash) ได้ง่ายดายเสียยิ่งกว่าทราย โดยเหตุนี้ จำนวนการใช้น้ำล้างกลับ และก็แรงดันของน้ำก็เลยน้อยกว่าทรายในขนาดเครื่อง กรองเท่ากัน ซึ่งจะส่งผลทำให้ อดออมค่ากระแสไฟ มากขึ้นด้วย<br />
 3. การใช้แอนทราไซท์กรองน้ำแทนทราย ทำให้อัตราการผลิตน้ำมากกว่าการใช้ทรายกรอง ในขณะ ขนาดที่กรองเท่ากัน เหตุเพราะแอนทราไซท์จะมีความพรุนระหว่างชั้นมากกว่าทราย ทำให้สามารถเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำได้มากขึ้น โดยไม่ต้องขยายบ่อกรองมีผลทำให้ปริมาณการสร้างมากขึ้นอีกเท่าตัว<br />
 4. ลักษณะของเม็ดแอนทราไซท์จะใหญ่กว่าทราย แต่มีน้ำหนักเบากว่า ฉะนั้น วันหลังการล้างกลับแอนทราไซท์จะอยู่เหนือทราย ลักษณะแบบนี้ จะทำให้ชั้นกรองปฏิบัติภารกิจดียิ่งขึ้น สามารถ กรองความขุ่นได้ในปริมาณมากกว่าที่กรองทรายทำให้ปริมาณน้ำใสมากกว่า นอกเหนือจากนั้น ยังสามารถรับน้ำดิบที่มีความขุ่นสูงกว่าเครื่องร่อนแบบทราย<br />
<br />
สารกรองน้ำ แอคติเวท คาร์บอน<br />
<br />
การเกาะ หรือ ดูดติดผิว (AD-SORPTION) เป็นความสามารถของสารบางจำพวกสำหรับในการดึงโมเลกุล หรือคอลลอยด์ซึ่งอยู่ในของเหลว หรือ ก๊าซให้มาเกาะจับและติดบนผิวของมัน ปรากฏการณ์แบบนี้จัดเป็นการเคลื่อนย้ายสาร (MASS TRANSFER) จากของเหลว หรือก๊าซมายังผิวของของเเข็ง โมเลกุล หรือ คอลลอยด์ เรียกว่า ADSORBATE ส่วนของเเข็งที่มีผิวเป็นที่เกาะ<br />
จับของ ADSORBATE เรียกว่า ADSORBENT ตัวอย่างของการดูดติดผิวของโมเลกุลสี บนถ่านเเอ็คติเว้ตเต้ดคาร์บอน (ACTIVATED CARBON)<br />
การยึดจับของโมเลกุลบนผิวของสารบางทีอาจเกิดขึ้นด้วยเเรงกายภาพ (เป็นต้นว่าVANDER WAAL FORCE) หรือด้วยแรงเคมี หรือทั้งคู่อย่างรวมกัน โดยปกติการยึดติดผิวในระบบน้ำประปามักนับว่าเป็นขั้นตอนทางด้านกายภาพ เพราะว่าโมเลกุลถูกดูดให้เกาะบนผิวของของเเข็งโดยเเรงกายภาพ แล้วก็มีปฏิกิริยาเคมีเกิดขึ้นน้อย<br />
<br />
การดูดติดผิวมีบทบาทไม่น้อยในระบบผลิตน้ำก๊อก เพราะว่าสามารถกำจัดสารความมัวหมองที่มีขนาดเล็ก จนถึงขั้นโมเลกุลซึ่งไม่อาจกำจัดได้ด้วยแนวทางตกตะกอน หรือการกรองแบบธรรมดา<br />
<br />
1.ชนิดของแอ็คติเตียนเว้ดเต็ดคาร์บอน<br />
สารที่มีอำนาจดูดโมเลกุลต่างๆมาติดผิวได้ (ADSORBENT)มีหลายอย่างซึ่งอาจเเบ่งได้เป็นสามชนิด ดังนี้<br />
<br />
1.ประเภท อนินทรีย์ ยกตัวอย่างเช่น ดินเหนียวจำพวกต่างๆแมกนีเซียมออกไซด์ ถ่านกระดูก แอคติเว้ดเต็ดซิลิก้า ฯลฯ สารธรรมชาติมักมีพื้นผิวเฉพาะเจาะจง ราวๆ 50-200 ม/กรัม อย่างไรก็แล้วแต่ มีข้อเสียเป็นจับเลกุลหรือคอลลอยด์ได้เพียงแต่ไม่กี่จำพวกทำให้การใช้ประโยชน์จากสารดูดติดผิวชนิดสารอนินทรีย์มีจำนวนจำกัดมาก<br />
2.แอ็คว่ากล่าวเว้ดเต็ดคาร์บอน ความจริงคาร์บอนจำพวกนี้บางทีอาจจัดเป็นสารอนินทรีย์สังเคราะห์ก็ได้ เเต่เป็น ADSORBENT ที่ดีกว่าสารอนินทรีย์ชนิดอื่นๆเพราะมีพื้นผิวเจาะจงประมาณ 200-1000 ม/กรัม<br />
3.ชนิดสารอินทรีย์สังเคราะห์ อย่างเช่น สารเรสิน-เเลกเปลี่ยนไอออน (ION EXCHANGE RESIN) ชนิดพิเศษที่สังเคราะห์ขึ้นมา เพื่อกำจัดสารอินทรีย์ต่างๆ(มักเป็นประเภทที่เรียกว่า MACROPOROUS RESIN) สารเรสินพวกนี้มีพื้นที่ผิวเฉพาะ ประมาณ 300-500 ม/กรัม (ซึ่งนับว่าตำเมื่อเปรียบเทียบกับของเเอ็คติเว้ตเต้ดคาร์บอนด์) เเต่แม้กระนั้นเรสินมีข้อได้เปรียบกว่า คือสามารถรีเจนเนอเรตได้ง่ายยิ่งกว่ามาก แล้วก็รีเจนเนอร์แรนด์มักเป็นสารราคาถูกเช่น เกลืแกง สำหรับในประเทศไทยความเหมาะสมสำหรับในการใช้เรซินดูดติดผิว อาจมีมากยิ่งกว่า แอ็คติเตียนเว็ตคาร์บอน เมื่อพิจารณาถึงข้อจำกัดในเรื่องของรีเจนเนอเรชัน (REGENERATION)<br />
<br />
แอ็คติเตียนเว็ตเต็ดคาร์บอน (ACTIVATED CARBON) เป็นถ่านที่สังเคราะห์ขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อมีพื้นที่ผิวมากที่สุด ซึ่งทำเป็นโดยทำให้มีรุพรุน หรือโพรงภายในเนื้อคาร์บอนมากมายเท่าที่จะทำได้ (ดูภาพที่ 1) รูพรุน หรือโพรงมีขนาด ตั้งเเต่ 20 ถึง 20,000 การสังเคราะห์คาร์บอนประเภทนี้ กระทำได้โดยไล่ความชุ่มชื้นออก จากวัตถุดิบ เสียก่อน แล้วก็เลยเผาวัตถุดิบที่แห้งให้เป็นถ่าน ที่อุณหภูมิราวๆ 400-600 ซ. คาร์บอนที่ได้ยังมีอำนาจดูดติดผิวต่ำ ด้วยเหตุว่าโพรงภายในคาร์บอน ยังมี TAR ตันอยู่ คาร์บอนนี้จึงจะต้องเผาต่อไปที่อุณหภูมิประมาณ 750-950 เซลเซียส ภายใต้ความชื้นที่สมควรเพื่อไล่ TAR ออกให้หมด (ขั้นตอนนี้เรียกว่า ACTIVATION) จึงจะได้แอ็คติเตียนเว็ตเต้ดคาร์บอน วัตถุดิบที่ใช้สังเคราะห์ แอ็คว่ากล่าวเว็ตเต็ดคาร์บอน มีหลากหลายประเภทเป็นต้นว่า กระดูกสัตว์, ถ่านหินบางขนิด, กะลา, มะพร้าว, เม็ดในของผลไม้บางจำพวก ฯลฯ เทคโนโลยี ปัจจุบัน สามารถทำให้แอ็คติเว็ตคาร์บอน หนัก 1 กรัม มีพื้นที่ผิว ราวๆ 600-1000 ตร.ม.<br />
<br />
การที่คาร์บอนจะต้องมีพิ้นที่ผิวสูงก็เพื่อสามารถดูดโมเลกุลหลายชิ้นๆมาติดตามที่ผิวได้ พื้นที่ผิวก็เลยเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับในการระบุความสามารถของคาร์บอน ด้วย เหตุนี้คาร์บอนที่มีพื้นที่ผิวจำเพาะ (ม/กรัม) สูงก็เลยมีอำนาจ หรือ สมรรถนะสำหรับการดูดติดผิวสูงตามไปด้วย การประมาณพื้นที่ผิวของคาร์บอนกระทำได้โดยการหาจำนวนไนโตรเจนที่ถูกคาร์บอนดูดเก็บไว้ วิธีวัดความสามารถของคาร์บอนอาจกระทำได้โดยการประมาณ IODINE NUMBER ซึ่งมีค่าใกล้เคียงกับพื้นที่ผิวของ คาร์บอน หรือ อาจวัด MOLASS NUMBER แทน IODINE NUMBER แสดงถึงความสามารถ ของคาร์บอนในการกำจัดสารที่มีโมเลกุลเล็ก ส่วน MOLASS NUMBER เเสดงถึงสมรรถนะ สำหรับในการกำจัดสารที่มีโมเลกุลใหญ่ ด้วยประการฉะนี้ กระบวนการดูดติดผิวที่ใช้ในระบบน้ำประปา จึงนิยมใช้ไอโอดีนนัมเบอร์มากยิ่งกว่า โมลาสนัมเบอร์ หรือ พารามิเตอร์ตัวอื่น ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะ น้ำดิบมักมีสารโมเลกุลเล็กมากกว่าสารโมเลกุลใหญ่ แอ็คตำหนิเว็ตคาร์บอนที่ใช้ในงานวิศวกรรมสิ่งเเวดล้อมมีสองประเภทเป็น แบบ ผง (POWDER ACTIVATED CARBON หรือ PAC)<br />
เเละ เเบบเกล็ด (GRANUL

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://teewatertechs.com/index.php?page=category&category=22

Tags : สารกรองเรซิน,สารกรองแมงกานิส

 

Sitemap 1 2 3