กว่า 8/10 กว่า 80% ของคนสูงวัยมักจะเป็น โรค
ข้อเข่าเสื่อม แม้ว่าเป็นโรคซึ่งไม่รุนแรงมีพิษมีภัยถึงตายแต่กระนั้นก็อาจจะสร้างผลกระทบต่อชีวิตประจำวันอย่างมาก เพราะข้อเข่าเสื่อมคือโรคเรื้อรัง ไม่สามารถที่จะบำบัดรักษาให้หายขาดได้ ถึงแม้ว่าบรรเทาอาการได้ดีแล้วหรือเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าแล้ว ถึงกระนั้นถ้ายังคงความประพฤติเหมือนเดิม โอกาสที่ข้อเข่าจะเสื่อมกลับมาซ้ำอีกก็เป็นไปได้มาก
ทั้งนี้ภาวะกระดูกเสื่อมเป็นไปตามอายุกันทุกคน นั่นแหละ แตกต่างที่ว่าเร็วหรือช้าเท่านั้น ถ้าหากท่านผู้อ่านปฏิบัติกิริยาท่าทางที่ผิด กระดูกข้อต่อต่างๆ ก็จะเสื่อมได้เร็วไวขึ้น เพราะว่ากระดูกหรือข้อต่อไม่สามารถซ่อมแซมตัวเราเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้น ควรจะตั้งต้นสนใจเสียตั้งแต่อายุยังน้อยๆ ดูแลตนเอง ด้วยหลักการ 2 อย่าง ดังนี้ “หนึ่งชะลอ สองเสริม” การชะลอการเสื่อมสภาพของกระดูกไม่ให้เกิดเป็น โรคข้อเข่าเสื่อม ท่านอาจจะทำได้โดยการ
1.ฝึกหัดการวางท่าอย่างถูกต้อง
การวางท่าในชีวิตประจำวันของคนเรามีอยู่ด้วยกัน 4 ท่วงท่าคือ นั่ง นอน ยืน และเดิน คุณควรปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันต่างๆ เหล่านี้เพื่อไม่เป็นการทำร้ายเข่าจนกระทั่งเป็น โรคข้อเข่าเสื่อม ทำเช่นไร? สำหรับท่านั่งควรปรับเปลี่ยนการนั่งพื้นเป็นนั่งเก้าอี้ เพราะว่าท่านั่งพื้นแบบขัดสมาธิ นั่งยองๆ คุกเข่าทำงาน ล้วนทำลายข้อเข่าทั้งสิ้น การนอนหลับสมควรนอนบนเตียงนอนแทนที่เอนกายลงบนพื้น ยิ่งไปกว่านี้การเลือกเฟ้นที่นอนสุขภาพจะช่วยให้คุณเวลานอน จะไม่ดิ้นร่างกายหรืองอพับหัวเข่าโดยไม่จำเป็น
ในท่วงท่ายืนหรือก้าวเดินนั้นปัจจัยหลักเป็นขนาดน้ำหนักของเพื่อนๆ หลักการยืนที่ดีควรจะจัดวางแรงกดเท่าๆ กันทั้งทั้งสองฝั่ง กระดูกสันหลังตรง อย่ายืนเบี้ยวไปยังข้างใดข้างหนึ่ง ซึ่งจะเป็นเหตุให้หัวเข่าข้างที่เอียงนั้นรองรับน้ำหนักที่มากเกินไป การเดินขึ้นลงบันไดสมควรเกาะกุมประคองราว สาวเท้าด้วยความรอบคอบอย่าลงกระแทกน้ำหนักตัวลง ข้อสำคัญหากมีสภาวะบาดเจ็บเข่าจำต้องเลือกใช้ไม้เท้ารับน้ำหนักเป็นขาที่ 3 ของคนเรา ซึ่งสามารถที่จะปรับลดน้ำหนักกดได้ 25% ของน้ำหนักร่างกาย ยิ่งไปกว่านี้การยกสิ่งของที่มีน้้ำหนักมาๆ การสวมส้นสูง และเลือกเฟ้นรองเท้าซึ่งไม่เหมาะสมก็ส่งผลต่อหัวเข่าได้เช่นกัน
2.จัดการน้ำหนักร่างกาย
หากไม่ต้องการเป็น โรคข้อเข่าเสื่อม อย่าบริโภคมาก ทั้งนี้เนื่องจากการวิจัยค้นพบว่าอาการปวดหัวเข่านั้นจะเกี่ยวพันกับรูปร่างซึ่งลดลง เพราะว่าเข่าไม่ต้องแบกหามน้ำหนักตัวที่เกินเกณฑ์กำหนด ขณะที่ความอ้วน จะเพิ่มเติมการเสี่ยงข้อเข่าเสื่อม 2.65 เท่า ดังนั้นคุณควรจะคุมน้ำหนักตัวให้เหมาะสม ด้วยการคิดคำนวณหาค่า ดัชนีมวลกาย (BMI) โดยการเอาน้ำหนักหารด้วย ความสูงหน่วยเมตรยกกำลังสอง ขนาดน้ำหนักที่ดีค่า BMI ไม่ควรมากเกิน 25 กิโลกรัม แต่กระนั้นถ้าเกิน ดัชนีมวลกาย (BMI) 30 กิโลกรัม ถือว่าท่านเป็นคนอ้วนแล้ว ยิ่งไปกว่านี้เสริมด้วยการ ฟื้นฟูสภาวะข้อเข่าเสื่อมเชิงรุกคุณสามารถที่จะปฏิบัติได้โดย
1.บริหารร่างกาย
การออกกำลังซึ่งเหมาะสมช่วยให้ระบบกล้ามเนื้อบริเวณพื้นที่หัวเข่าแข็งแกร่ง ลดการแบกแรงกดของ กระดูกอ่อน การวิ่งนับว่าเป็นการออกกำลังอีกประเภทที่มีคุณประโยชน์แก่ข้อเข่าเสื่อมอย่างมาก แต่กระนั้นจะต้องวิ่งถูกวิธี และวิ่งให้ถูกเวลา ผู้เป็น โรคข้อเข่าเสื่อม ไม่ควรออกกำลังกายที่หนักหน่วงหรือแผลงมากเกินไป ด้านกำหนดเวลานั้นขึ้นกับอายุ แต่กระนั้นก็ไม่ควรโหมเกินเลย ความถี่ที่พอดีประมาณ 3 วันในหนึ่งอาทิตย์ ถึงกระนั้นถ้าหากเกิดอาการข้อเข่าบวมน้ำ จากการออกกำลังกายที่เกินควรและผิดวิธีจะต้องหยุดพักให้หายก่อน
การออกกำลังเพื่อต่อสู้กับ โรคข้อเข่าเสื่อม มีมากมายประเภท ตั้งแต่การบริหารยืนเส้น เพื่อยับยั้งป้องกันข้อติด และเพิ่มความแข็งแรงโดยการเลือกใช้ถุงทราย หรือออกกำลังกายประเภทแอโรบิค เดินตามสบาย การปั่นรถจักรยาน หรือการว่ายน้ำ เป็นต้น จดจำไว้ว่ารูปแบบควรจะเหมาะกับอายุ รวมทั้งสภาวะของร่างกาย ควรเน้นออกกำลังวัตถุประสงค์สำหรับเสริมสุขภาพอย่างเดียว ขณะเดียวกันควรงดการเล่นกีฬาซึ่งมีการกระทบกระทั่ง ใช้เข่าซึ่งผิดลักษณะมาก เช่น การหมุนตัว กีฬาที่มีการกระโดดเป็นประจำ
2.ทานอาหารส่งเสริมกระดูก
การพักผ่อนที่พอเพียงเพื่อซ่อมบำรุงกระดูกคือข้อสำคัญ ถึงกระนั้นอีกสิ่งซึ่งอันดับต้นๆไม่ด้วยไปกว่ากัน นั่นก็คือ material สำหรับซ่อมบำรุงร่างกาย หรือว่าการรับประทานสารอาหารต้าน โรค
ข้อเข่าเสื่อม นั่นเอง ควรเน้นเลือกทานอาหารการกินที่ให้แคลเซียม (Calcium) ป้องกันโรคกระดูกบาง ตระกูลปลาขนาดเล็ก ยอดผักแค น้ำเต้าหู้ ของกินต้านอนุมูลอิสระ (Oxidant) พวกซึ่งมีเบต้าแคโรทีน วิตามิน ซี อี สารอาหารเส้นใยมากๆ กรดไขมัน (Fatty acid)ต่ำ พร้อมทั้งดื่มน้ำเปล่าให้มากเข้าไว้ ทางด้านผู้สูงวัยควรเน้นอาหารของเหลว ไม่ติดคอ งดของหวานจัด เค็มจัด มุ่งเน้นอาหารการกินซึ่งมีรสชาติกลางๆ
ปัจจุบันนี้ทุกคนมัวแต่เลือกใช้งานกระดูก แต่ไม่พยายามเรียนรู้เทคนิคบำรุงดูแลกระดูกของตัวเองอย่างถูกวิธี สิ่งสำคัญคือ คุณควรสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่อง โรคข้อเข่าเสื่อม ให้มาก การบำรุงดูแล งดการวางท่าทางและนิสัยการกินที่เป็นต้นเหตุหรือว่าซ้ำเติมความเสื่อมของเข่าให้หนักหน่วงขึ้น เรื่องเหล่านี้ก็จะกลายเป็นต้นทุนเสริมให้แก่ท่านในตอนที่แก่ตัวได้ครับ
เครดิตบทความจาก :
https://www.youtube.com/watch?v=cWvs_ZgBLx8Tags : ข้อเข่าเสื่อม,ข้ออักเสบ,ปวดเข่า
