ผู้เขียน หัวข้อ: นมผึ้งรวมทั้งคุณค่าที่น่าสนใจรวมทั้งจำต้องลองหามาทานซักครั้ง  (อ่าน 235 ครั้ง)

kkthai20009

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2548
    • ดูรายละเอียด
นมผึ้ง ได้ผลสำเร็จผลิตที่หลั่งออกมาจากต่อมไฮโปฟาริงจ์ (Hypopharyngeal Gland) ของผึ้งงาน นมผึ้งมีลักษณะเป็นของเหลวสีขาวเหมือนน้ำนม รสหวาน มีกลิ่นเปรี้ยวบางส่วน เป็นของกินหลักของผึ้งราชินีและก็ตัวอ่อนผึ้งเพื่อช่วยกระตุ้นสำหรับเพื่อการเติบโต หลายประเทศใช้นมผึ้งในฐานะยารักษาโรค อาหารเสริม และยังรวมไปถึงเป็นส่วนผสมของครีมบำรุงรวมทั้งเครื่องแต่งหน้า
นมผึ้ง
นมผึ้งมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักราว 60-70% รวมทั้งอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆเป็นต้นว่า โปรตีน น้ำตาล วิตามิน เกลือแร่ และก็กรดอะมิโน ยิ่งไปกว่านี้ ยังเจอสารอื่นในนมผึ้ง ยกตัวอย่างเช่น กรดไขมันเอชดีเอ (10-Hydroxy-Trans-2-Decenoic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีบทบาทสำหรับเพื่อการเติบโตของผึ้ง สารแอซิตำหนิลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ปฏิบัติภารกิจเกี่ยวกับความรู้สึกและก็กลไกหลักการทำงานของร่างกาย รวมถึงฮอร์โมนเพศ เช่น เทสโทสเตอโรน โปรเจสเตอโรน เป็นต้น ดังนี้สถานที่ ภูมิศาสตร์ รวมทั้งลักษณะอากาศเป็นตัวแปรที่ทำให้องค์ประกอบของนมผึ้งต่างกันออกไป คนไม่ใช่น้อยมั่นใจว่าการกินนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยทุเลาอาการวัยทอง กระตุ้นระบบภูมิต้านทานร่างกาย รักษาโรคเบาหวาน รวมถึงแผลเบาหวาน เป็นต้น ทั้งยังยังเชื่อกันอีกว่าถ้านำนมผึ้งทาที่หนังศีรษะอาจช่วยกระตุ้นการเจริญก้าวหน้าเติบของเส้นผมอีกด้วย ซึ่งคำกล่าวอ้างเหล่านี้จะเป็นจริงไหม แล้วก็มีหลักฐานทางการแพทย์มาดน้อยแค่ไหนที่จะช่วยรับรองสรรพคุณ คุณประโยชน์ รวมทั้งความปลอดภัยของนมผึ้งที่มีหน้าที่หรือส่วนช่วยสำหรับเพื่อการรักษาโรคพวกนี้
ประโยช์จากนมผึ้งที่อาจมีต่อร่างกาย
ทุเลาอาการวัยทอง อาการวัยทองคือปัญหาทางสุขภาพที่เกิดสังกัดเพศหญิงกลางคน ก่อให้เกิดอาการหลายชนิด ได้แก่ ช่องคลอดแห้ง แสบร้อนหรือคันในช่องคลอด เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ ฯลฯ อาการดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นสามารถบรรเทาลงได้ด้วยการใช้สารหล่อลื่น แต่สารหล่อลื่นส่วนมากจะออกฤทธิ์ได้เพียงชั่วคราว ซึ่งนมผึ้งมีคุณสมบัติต่อต้านจุลชีพ (Antimicrobial Activity) และมีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน จากการเรียนโดยให้ผู้หญิงวัยทองที่สมรสแล้วอายุ 50-65 ปี จำนวน 90 คน กลุ่มหนึ่งใช้ครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้ง 15% กรุ๊ปหนึ่งใช้ฮอร์โมนตอบแทนเอสโตรเจนจำพวกครีมยี่ห้อหนึ่ง และอีกกรุ๊ปใช้สารหล่อลื่นทาบริเวณช่องคลอดตรงเวลา 3 เดือน พบว่าครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้งมีประสิทธิภาพในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของสตรีวัยทองได้มากกว่าอย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อเทียบกับฮอร์โมนชดเชยเอสโตรเจนจำพวกครีมและก็สารหล่อลื่น ซึ่งจากผลของการทดลองอาจจะกล่าวว่าการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตและก็บรรเทาอาการวัยทองที่เกี่ยวโยงกับช่องคลอดของเพศหญิงวัยทอง และทางผู้ศึกษาวิจัยยังได้เจาะจงอีกว่าถ้าเพิ่มความเข้มข้นของนมผึ้งก็บางครั้งอาจจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้มากยิ่งขึ้นได้
ลดระดับไขมันในเลือด นมผึ้งมีส่วนประกอบของสารอาหารหลายประเภท หนึ่งในนั้นเป็นกรดไขมันทางสายกลาง (Medium Chain Fatty Acid) รวมทั้งสารประกอบที่มีคุณสมบัติช่วยลดไขมันในเลือด ซึ่งสอดคล้องกับการค้นคว้าที่ให้ผู้หญิงวัยทองร่างกายแข็งแรงจำนวน 36 ผู้รับประทานนมผึ้งขนาด 150 มก. ตรงเวลา 3 เดือน โดยตรวจปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะก่อให้เกิดโรคเส้นเลือดและก็หัวใจ รวมถึงระดับไขมันในเลือดอีกทั้งก่อนและหลังการทดสอบ พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงของระดับไขมันในเลือดอย่างเป็นจริงเป็นจัง โดยที่ระดับคอเลสเตอรอลจำพวกที่ไม่ดี (LDL) ลดลง 4.1% ระดับคอเลสเตอรอลรวม (TC) ลดน้อยลง 3.09% รวมทั้งระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ดี (HDL) มากขึ้น 7.7% จากผลของการทดสอบอาจจะบอกได้ว่าการรับประทานนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยลดระดับไขมันในเลือดและก็อาจเป็นหนทางหนึ่งสำหรับในการควบคุมอาการวัยทองที่เกี่ยวโยงกับสภาวะไขมันในเลือดสูง
นอกจากนั้น ยังมีอีกการเรียนรู้หนึ่งที่ให้อาสาสมัครซึ่งมีภาวะไขมันในเลือดสูงประเภทไม่ร้ายแรงจำนวน 40 คน รับประทานนมผึ้งขนาด 350 มิลลิกรัมวันละ 9 แคปซูล ตรงเวลา 3 เดือนก็ชี้ให้เห็นถึงระดับไขมันในเลือดที่น้อยลงเช่นเดียวกัน ทั้งยังช่วยกระตุ้นฮอร์โมนเพศ (Dehydroepiandrosterone Sulphate: DHEA-S) และลดการเสี่ยงของการเกิดโรคเส้นเลือดและก็หัวใจได้อีกด้วย
ทุเลาอาการก่อนมีเมนส์ อาการก่อนมีเมนส์มักมีผลในทางลบกับสุขภาพของเพศหญิง บางโอกาสการดูแลและรักษาโดยไม่ใช้ยาก็อาจช่วยทุเลาให้อาการต่างๆได้ ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาเล่าเรียนชิ้นหนึ่งที่ให้นิสิตหมอจำนวน 110 คน รับประทานนมผึ้งขนาด 1,000 มก.วันละ 1 ครั้ง โดยเริ่มในวันแรกที่มีเมนส์ และรับประทานตลอดจนหมดระดูในรอบถัดไป พบว่าอาการก่อนมีประจำเดือนลดน้อยลง จากผลการทดสอบอาจจะบอกได้ว่าการกินนมผึ้งติดต่อกันเป็นเวลา 2 เดือน บางทีอาจช่วยทุเลาอาการก่อนมีเมนส์ได้
รักษาแผลโรคเบาหวาน แผลโรคเบาหวานเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยในคนไข้โรคเบาหวานที่ควบคุมอาการได้ไม่ดี ส่วนใหญ่จะพบแผลเบาหวานที่บริเวณเท้า โดยยิ่งไปกว่านั้นนิ้วโป้งเท้าและปลายฝ่าตีน ซึ่งนมผึ้งประกอบไปด้วยสารประกอบฟีนอลิคทำหน้าที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ โปรตีนที่มีคุณลักษณะต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย รวมทั้งกรดไขมันเอชดีเอ ที่ช่วยต้านเชื้อจุลินทรีย์ จึงคาดว่าบางทีก็อาจจะช่วยรักษาแผลโรคเบาหวานได้ จากการศึกษาเล่าเรียนชิ้นหนึ่งให้คนป่วยที่มีแผลโรคเบาหวานที่ได้รับการดูแลและรักษาหลักตามธรรมดา ทายาที่มีความเข้มข้นของนมผึ้ง 5% ในรอบๆที่เป็นแผลและก็ปิดแผลด้วยแผ่นปิดแผลชนิดไม่มีเชื้อเป็นเวลา 3 เดือนหรือจนกระทั่งแผลจะหาย และก็มีการให้คะแนนอาทิตย์ละ 3 ครั้ง พบว่าใช้เวลาเฉลี่ย 424 ชั่วโมงจึงทำให้แผลหายดี รวมทั้งค่าถัวเฉลี่ยของความยาว ความกว้าง รวมทั้งความลึกของแผลลดลงวันละ 0.35 มม. 0.28 มม. รวมทั้ง 0.11 มม.เป็นลำดับ จากผลการค้นคว้าอาจจะกล่าวว่านมผึ้งอาจมีความสามารถเป็นโอกาสหนึ่งสำหรับการรักษาแผลเบาหวานควบคุ่ไปกับการรักษาหลัก แต่ผลการศึกษาวิจัยข้างต้นมีผู้เข้าร่วมการทดสอบเพียงแต่ 8 คนซึ่งบางทีก็อาจจะเล็กเหลือเกินที่จะสรุปความสามารถของนมผึ้งในการรักษาแผลเบาหวาน
แต่การศึกษาชิ้นหนึ่งได้ชี้ให้เห็นผลของนมผึ้งที่ไม่เหมือนกันออกไป โดยให้คนที่มีแผลเบาหวานทายาซึ่งมีความเข้มข้นของนมผึ้ง 5% ในรอบๆที่เป็นแผลเป็นเวลา 3 เดือนหรือจะกว่าแผลจะหายอย่างเดียวกัน แต่ยังไม่สามารถที่จะสรุปได้ว่านมผึ้งมีคุณภาพสำหรับในการรักษาแผลเบาหวานได้มากกว่าเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่ใช้ยาหลอก
ด้วยเหตุว่าการศึกษา 2 ชิ้นข้างต้นแสดงให้เห็นผลสรุปของนมผึ้งที่ตรงข้ามกัน ก็เลยอาจยังไม่อาจจะสรุปประสิทธิภาพของนมผึ้งในการรักษาแผลเบาหวานได้อย่างแจ่มแจ้ง ก็เลยจำเป็นที่จะต้องศึกษาเพิ่มเติม
บรรเทาอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรงจากโรคมะเร็ง
อาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรงที่เกิดขึ้นจากโรคมะเร็งเกิดขึ้นจากการรักษาการฉายรังสีหรือการทำเคมีบรรเทา มักมีผลต่ออารมณ์ จิตใจ ร่างกาย รวมทั้งคุณภาพชีวิตของคนเจ็บ ซึ่งการกินยา การบำบัด หรือการบริหารร่างกายอาจช่วยบรรเทาอาการลงได้ รวมถึงการรับประทานอาหารเสริม ยกตัวอย่างเช่น นมผึ้งก็อาจมีส่วนช่วยทุเลาอาการด้วยเหมือนกัน จึงสอดคล้องกับการศึกษาเล่าเรียนหนึ่งที่ให้คนป่วยโรคมะเร็งอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 52 คน พบว่ากรุ๊ปที่รับประทานน้ำผึ้งแปรรูปแล้วก็นมผึ้งขนาด 5 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ตรงเวลา 4 อาทิตย์ มีอาการอ่อนล้าจากโรคมะเร็งอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับอีกกลุ่มที่ัรับประทานน้ำผึ้งบริสุทธิ์ แต่ยังจำเป็นที่จะต้องเรียนเพิ่มถึงบทบาทที่แท้จริงของนมผึ้งสำหรับการบรรเทาอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรงจากโรคมะเร็ง
รักษาไข้ละอองฟาง
โรคภูมิแพ้ที่ระบบภูมิต้านทานของร่างกายสนองตอบอย่างรุนแรงกับละอองเกสรดอกไม้หรือสารอื่นๆทำให้ผู้ป่วยมีลักษณะอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล คันตา หูอื้อ ฯลฯ ซึ่งจากการเล่าเรียนทดลองโดยให้เด็กอายุ 5-16 ปี ที่ป่วยละอองฟาง จำนวน 80 คน กรุ๊ปหนึ่งรักษาด้วยการใช้การรับประทานผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของนมผึ้งแล้วก็อีกกลุ่มกินยาหลอกเป็นเวลา 3-6 เดือน แล้วก็กระทั่งจะสิ้นสุดฤดูของเกสรดอกไม้ พบว่าทั้งยัง 2 กรุ๊ปยังคงเจอลักษณะของไข้ละอองฟาง และก็มีระดับความรุนแรงของอาการที่ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก จากผลการศึกษาเรียนรู้อาจกล่าวได้ว่านมผึ้งอาจไม่มีประสิทธิภาพต่อการดูแลรักษาไข้ละอองฟางและไม่สามารถทุเลาอาการต่างๆให้ได้ จึงยังจำต้องเล่าเรียนเสริมเติมเกี่ยวกับคุณภาพของนมผึ้งสำหรับการรักษาไข้ละอองฟางที่ชัดเจนเพิ่มขึ้น
ความปลอดภัยสำหรับการรับประทานนมผึ้ง
การกินนมผึ้งออกจะไม่เป็นอันตรายถ้ารับประทานในจำนวนที่สมควร แม้กระนั้นก็มีโอกาสที่จะเป็นผลข้างเคียงได้ ดังเช่นว่า เลือดออกในไส้ ปวดท้อง หรือถ่ายเป็นเลือด ฯลฯ บางรายหากมีอาการแพ้อย่างหนักอาจจะก่อให้มีอาการหอบหืด คอบวม หรือถึงกับตาย ทั้งยังการใช้นมผึ้งทาที่รอบๆผิวหนังค่อนข้างไม่มีอันตราย แม้กระนั้นไม่สมควรทาบริเวณหนังศีรษะเนื่องจากอาจก่อให้กำเนิดอาการแพ้ ผื่นคัน หรือมีลักษณะอาการอักเสบ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : นมผึ้งสรรพคุณ

Tags : royal jelly

 

Sitemap 1 2 3