ผู้เขียน หัวข้อ: นมผึ้งรวมทั้งคุณประโยชน์ที่น่ารู้รวมทั้งจำต้องทดลองหามาทานซักครั้ง  (อ่าน 258 ครั้ง)

itopinter_111

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2148
    • ดูรายละเอียด
นมผึ้ง ได้ผลสำเร็จผลิตที่หลั่งออกมาจากต่อมไฮโปฟาริงจ์ (Hypopharyngeal Gland) ของผึ้งงาน นมผึ้งมีลักษณะเป็นของเหลวสีขาวคล้ายนม รสหวาน มีกลิ่นเปรี้ยวเล็กน้อย เป็นของกินหลักของผึ้งนางพญารวมทั้งตัวอ่อนผึ้งเพื่อช่วยกระตุ้นในการเจริญเติบโต หลายประเทศใช้นมผึ้งในฐานะยารักษาโรค อาหารเสริม หรือแม้กระทั่งเป็นส่วนประกอบของครีมบำรุงและเครื่องสำอาง
นมผึ้ง
นมผึ้งมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักราวๆ 60-70% และก็อุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆอย่างเช่น โปรตีน น้ำตาล วิตามิน เกลือแร่ และก็กรดอะมิโน ยิ่งไปกว่านี้ ยังเจอสารอื่นในนมผึ้ง ได้แก่ กรดไขมันเอชดีเอ (10-Hydroxy-Trans-2-Decenoic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีหน้าที่สำหรับในการเจริญวัยของผึ้ง สารแอซิติลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับความรู้สึกและกลไกลักษณะการทำงานของร่างกาย รวมทั้งฮอร์โมนเพศ เป็นต้นว่า เทสโทสเตอโรน โปรเจสเตอโรน ฯลฯ ดังนี้สถานที่ ภูมิศาสตร์ แล้วก็สภาพอากาศเป็นตัวแปรที่ทำให้ส่วนประกอบของนมผึ้งแตกต่างกันออกไป ผู้คนจำนวนมากเชื่อว่าการกินนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยทุเลาอาการวัยทอง กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย รักษาเบาหวาน รวมทั้งแผลโรคเบาหวาน ฯลฯ ทั้งยังเชื่อกันอีกว่าแม้นำนมผึ้งทาที่หนังหัวอาจช่วยกระตุ้นการก้าวหน้าเติบของเส้นผมอีกด้วย ซึ่งคำกล่าวอ้างกลุ่มนี้จะเป็นจริงไหม และมีหลักฐานทางการแพทย์มาดน้อยเพียงใดที่จะช่วยรับรองสรรพคุณ คุณประโยชน์ และความปลอดภัยของนมผึ้งที่มีหน้าที่หรือส่วนช่วยในการรักษาโรคเหล่านี้
คุณประโยชน์ซึ่งมาจากนมผึ้งที่อาจมีต่อสุขภาพ
ทุเลาอาการวัยทอง อาการวัยทองคือปัญหาทางสุขภาพที่เกิดสังกัดเพศหญิงวัยกลางคน ก่อให้เกิดอาการหลายชนิด ดังเช่นว่า ช่องคลอดแห้ง แสบร้อนหรือคันในช่องคลอด เจ็บขณะร่วมเพศ ฯลฯ อาการดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วสามารถบรรเทาลงได้ด้วยการใช้สารหล่อลื่น แต่สารหล่อลื่นส่วนใหญ่จะออกฤทธิ์ได้เพียงแค่ชั่วครั้งคราว ซึ่งนมผึ้งมีคุณสมบัติต้านจุลชีวิน (Antimicrobial Activity) รวมทั้งมีคุณลักษณะคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน จากการเล่าเรียนโดยให้สตรีวัยทองที่แต่งงานแล้วอายุ 50-65 ปี ปริมาณ 90 คน กลุ่มหนึ่งใช้ครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้ง 15% กรุ๊ปหนึ่งใช้ฮอร์โมนชดเชยเอสโตรเจนประเภทครีมแบรนด์หนึ่ง รวมทั้งอีกกรุ๊ปใช้สารหล่อลื่นทาบริเวณช่องคลอดตรงเวลา 3 เดือน พบว่าครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้งมีคุณภาพในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้หญิงวัยทองได้มากกว่าอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับฮอร์โมนชดเชยเอสโตรเจนจำพวกครีมและสารหล่อลื่น ซึ่งจากผลของการทดลองอาจพูดได้ว่าการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตแล้วก็ทุเลาอาการวัยทองที่เกี่ยวพันกับช่องคลอดของหญิงวัยทอง แล้วก็ทางนักวิจัยยังได้กำหนดอีกว่าหากเพิ่มความเข้มข้นของนมผึ้งก็บางครั้งก็อาจจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้เยอะขึ้นได้
ลดระดับไขมันในเลือด นมผึ้งมีส่วนประกอบของสารอาหารหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือกรดไขมันทางสายกลาง (Medium Chain Fatty Acid) แล้วก็สารประกอบที่มีคุณลักษณะช่วยลดไขมันในเลือด ซึ่งสอดคล้องกับการค้นคว้าที่ให้เพศหญิงวัยทองสุขภาพแข็งแรงจำนวน 36 ผู้รับประทานนมผึ้งขนาด 150 มก. เป็นเวลา 3 เดือน โดยตรวจปัจจัยเสี่ยงที่อาจก่อให้กำเนิดโรคเส้นเลือดและหัวใจ รวมทั้งระดับไขมันในเลือดอีกทั้งก่อนแล้วก็หลังการทดสอบ พบว่ามีการเปลี่ยนของระดับไขมันในเลือดอย่างมีนัยสำคัญ โดยที่ระดับคอเลสเตอรอลประเภทที่ไม่ดี (LDL) น้อยลง 4.1% ระดับคอเลสเตอรอลรวม (TC) ลดน้อยลง 3.09% และก็ระดับคอเลสเตอรอลประเภทที่ดี (HDL) เพิ่มขึ้น 7.7% จากผลของการทดสอบอาจจะกล่าวว่าการรับประทานนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยลดระดับไขมันในเลือดและอาจเป็นลู่ทางหนึ่งสำหรับในการควบคุมอาการวัยทองที่เกี่ยวกับภาวการณ์ไขมันในเลือดสูง
นอกจากนี้ ยังมีอีกการศึกษาเล่าเรียนหนึ่งที่ให้อาสาสมัครซึ่งมีภาวะไขมันในเลือดสูงประเภทไม่ร้ายแรงจำนวน 40 คน กินนมผึ้งขนาด 350 มิลลิกรัมวันละ 9 แคปซูล ตรงเวลา 3 เดือนก็ชี้ให้เห็นถึงระดับไขมันในเลือดที่ลดลงสิ่งเดียวกัน ทั้งยังช่วยกระตุ้นฮอร์โมนเพศ (Dehydroepiandrosterone Sulphate: DHEA-S) และก็ลดการเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดรวมทั้งหัวใจได้อีกด้วย
บรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือน อาการก่อนมีเมนส์มักมีผลในทางลบกับสุขภาพของหญิง บางคราวการดูแลและรักษาโดยไม่ใช้ยาก็อาจช่วยทุเลาให้อาการต่างๆดียิ่งขึ้นได้ ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาชิ้นหนึ่งที่ให้นิสิตหมอจำนวน 110 คน กินนมผึ้งขนาด 1,000 มก.วันละ 1 ครั้ง โดยเริ่มในวันแรกที่มีระดู แล้วก็รับประทานตลอดจนกระทั่งหมดระดูในรอบต่อไป พบว่าอาการก่อนมีรอบเดือนลดลง จากผลของการทดลองอาจจะกล่าวว่าการรับประทานนมผึ้งต่อเนื่องกันเป็นเวลา 2 เดือน บางทีอาจช่วยทุเลาอาการก่อนมีประจำเดือนได้
รักษาแผลเบาหวาน แผลเบาหวานเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยในผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ควบคุมอาการได้ไม่ดี ส่วนใหญ่จะเจอแผลโรคเบาหวานที่บริเวณเท้า โดยเฉพาะนิ้วโป้งเท้าแล้วก็ปลายฝ่าตีน ซึ่งนมผึ้งประกอบไปด้วยสารประกอบฟีนอลิคปฏิบัติหน้าที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ โปรตีนที่มีคุณสมบัติต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย แล้วก็กรดไขมันเอชดีเอ ที่ช่วยต้านเชื้อจุลินทรีย์ จึงคาดว่าบางครั้งก็อาจจะช่วยรักษาแผลเบาหวานได้ จากการศึกษาเล่าเรียนชิ้นหนึ่งให้ผู้ป่วยที่มีแผลโรคเบาหวานที่ได้รับการดูแลและรักษาหลักตามเดิม ทายาที่มีความเข้มข้นของนมผึ้ง 5% ในรอบๆที่เป็นแผลแล้วก็ปิดแผลด้วยแผ่นปิดแผลจำพวกไม่มีเชื้อโรคตรงเวลา 3 เดือนหรือตราบจนกระทั่งแผลจะหาย และก็มีการประมวลผลสัปดาห์ละ 3 ครั้ง พบว่าใช้เวลาเฉลี่ย 41 วันจึงทำให้แผลหายดี รวมทั้งค่าถัวเฉลี่ยของความยาว ความกว้าง และก็ความลึกของแผลน้อยลงวันละ 0.35 มม. 0.28 มิลลิเมตร แล้วก็ 0.11 มิลลิเมตรเป็นลำดับ จากผลวิจัยอาจกล่าวได้ว่านมผึ้งอาจมีประสิทธิภาพเป็นช่องทางหนึ่งสำหรับการรักษาแผลเบาหวานควบคุ่ไปกับการรักษาหลัก อย่างไรก็ตามผลการศึกษาข้างต้นมีผู้เข้าร่วมการทดสอบเพียงแค่ 8 คนซึ่งบางครั้งก็อาจจะเล็กเกินไปที่จะสรุปความสามารถของนมผึ้งสำหรับในการรักษาแผลโรคเบาหวาน
แต่ว่าการเรียนชิ้นหนึ่งได้บ่งบอกถึงผลลัพธ์ของนมผึ้งที่ต่างกันออกไป โดยให้คนที่มีแผลเบาหวานป้ายยาซึ่งมีความเข้มข้นของนมผึ้ง 5% ในบริเวณที่เป็นแผลเป็นเวลา 3 เดือนหรือจะกว่าแผลจะหายเช่นกัน แต่ว่ายังไม่สามารถสรุปได้ว่านมผึ้งมีคุณภาพสำหรับเพื่อการรักษาแผลโรคเบาหวานได้มากกว่าเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่ใช้ยาหลอก
เพราะการศึกษาอีกทั้ง 2 ชิ้นข้างต้นบ่งบอกถึงผลของนมผึ้งที่ตรงกันข้ามกัน จึงอาจยังไม่สามารถที่จะสรุปคุณภาพของนมผึ้งสำหรับเพื่อการรักษาแผลเบาหวานได้อย่างชัดเจน จึงจำต้องศึกษาเพิ่มเติมอีก
บรรเทาอาการอ่อนแรงจากโรคมะเร็ง
อาการเหน็ดเหนื่อยที่เกิดขึ้นจากโรคมะเร็งเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการดูแลและรักษาทั้งการฉายรังสีหรือแนวทางการทำเคมีบำบัดรักษา มักส่งผลต่ออารมณ์ จิตใจ ร่างกาย แล้วก็คุณภาพชีวิตของคนไข้ ซึ่งการรับประทานยา การบำบัด หรือการบริหารร่างกายบางทีอาจช่วยทุเลาอาการลงได้ รวมทั้งการกินอาหารเสริม อาทิเช่น นมผึ้งก็อาจมีส่วนช่วยทุเลาอาการเหมือนกัน จึงสอดคล้องกับการเรียนรู้หนึ่งที่ให้ผู้เจ็บป่วยโรคมะเร็งอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 52 คน พบว่ากรุ๊ปที่รับประทานน้ำผึ้งดัดแปลงรวมทั้งนมผึ้งขนาด 5 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 4 สัปดาห์ มีอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรงจากโรคมะเร็งดียิ่งขึ้นอย่างเป็นจริงเป็นจังทางสถิติเมื่อเทียบกับอีกกลุ่มที่ักินน้ำผึ้งบริสุทธิ์ แต่ยังจึงควรเรียนเพิ่มเติมถึงหน้าที่ที่จริงจริงของนมผึ้งสำหรับในการบรรเทาอาการอ่อนแรงจากโรคมะเร็ง
รักษาไข้ละอองฟาง
โรคภูมิแพ้ชนิดหนึ่งที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสนองตอบอย่างหนักกับละอองเกสรดอกไม้หรือสารอื่นๆทำให้ผู้ป่วยมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล คันตา หูอื้อ ฯลฯ ซึ่งจากการเรียนทดลองโดยให้เด็กอายุ 5-16 ปี ที่เป็นไข้ละอองฟาง ปริมาณ 80 คน กรุ๊ปหนึ่งรักษาโดยใช้การกินสินค้าที่มีส่วนผสมของนมผึ้งแล้วก็อีกกรุ๊ปกินยาหลอกเป็นเวลา 3-6 เดือน รวมทั้งจนกว่าจะจบฤดูของเกสรดอกไม้ พบว่า 2 กรุ๊ปยังคงเจอลักษณะของไข้ละอองฟาง และก็มีระดับความร้ายแรงของอาการที่ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก จากผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยอาจพูดได้ว่านมผึ้งบางทีอาจไม่มีประสิทธิภาพต่อการดูแลรักษาไข้ละอองฟางและไม่สามารถทุเลาอาการต่างๆให้ดีขึ้นได้ จึงยังจะต้องเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับสมรรถนะของนมผึ้งในการรักษาไข้ละอองฟางที่แจ่มกระจ่างยิ่งขึ้น
ความปลอดภัยสำหรับในการกินนมผึ้ง
การรับประทานนมผึ้งค่อนข้างไม่มีอันตรายหากรับประทานในปริมาณที่สมควร แต่ว่าก็มีโอกาสที่จะเป็นผลข้างเคียงได้ ได้แก่ เลือดออกในลำไส้ เจ็บท้อง หรือถ่ายเป็นเลือด เป็นต้น บางรายถ้าหากมีลักษณะอาการแพ้อย่างรุนแรงอาจจะส่งผลให้มีลักษณะอาการโรคหอบหืด คอบวม หรือถึงขั้นเสียชีวิต ทั้งการใช้นมผึ้งทาที่บริเวณผิวหนังค่อนข้างไม่เป็นอันตราย แม้กระนั้นไม่ควรทาบริเวณหนังหัวเพราะอาจจะเป็นผลให้เกิดอาการแพ้ ผื่นคัน หรือมีอาการอักเสบ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : royal jelly

Tags : นมผึ้ง,royal jelly,นมผึ้งสรรพคุณ

 

Sitemap 1 2 3