ผู้เขียน หัวข้อ: หัวข้อที่ป๊ะป๋ามาดาต้องรู้ แต่ก่อนให้สายเลือดนั่งคาร์ซีทในรถยนต์  (อ่าน 297 ครั้ง)

penpaka2tory

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2241
    • ดูรายละเอียด
 

ป๊ะป๋าคุณแม่ไม่ชำนาญหลายคนคงเป็นกังวลใจ ยามที่จะพาเจ้าตัวน้อยขึ้นรถใช่มั้ยหล่ะ หลายทีคุณแม่อาจกังวลว่าเข็มขัดนิรภัยจะแน่นเกินไป ทำเอาลูกน้อยไม่สบายตัวหรือเป็นภัย ไม่ใช่หรือกังวลไปต่างๆ นานาว่า คาร์ซีท เหรอ เบาะนั่งเด็กในรถ จะดีกับลูกน้อยไหม จะคุ้มกันอุบัติเหตุได้จริงหรือไม่ ซึ่งการวิตกนั้นเป็นเรื่องปกติครับ เพราะหากคุณแม่คาดเข็มขัดให้ลูกผิดตำแหน่ง คงจะส่งผลต่อเส้นเลือดของลูกจนเป็นวิกฤติได้ ดังนั้น การที่คุณตรวจสมณศักดิ์เข็มขัด ตำแหน่งที่นั่งของลูกทุกครั้งเป็นการดีครับ นอกจากข้อกังวลด้านบนแล้ว มาดูกันครับว่ามีวิธีการใช้ คาร์ซีท ข้อไหนบ้างที่ลื้อควรระวัง

1. จัดตั้งคาร์ซีท มิชอบ ข้อแรกที่จำเป็นต้องรู้ก่อนเลยตกว่า สัดส่วนของคาร์ซีทที่เราซื้อหามานั้น พอดิบพอดีกับเบาะรถรึเปล่า พร้อมกับต้องทำการจัดตั้งยกให้ชำนาญด้วย เพราะว่าคาร์ซีทมีทั้งแบบหันหน้าและหันหลัง หากคาร์ซีทเป็นพรรค์ไหน ควรติดตั้งทิศทางให้ถูกต้อง นอกจากนี้ ควรพิจิตดูสายคาดให้อยู่ในตำแหน่งที่เข้าท่า อาจจะล็อคได้หนักแน่น ต่างว่าชนนีเห็นว่าคาร์ซีทมีความปกติใช่ไหมได้ยินเสียงแปลกๆ ถูกต้องนำคาร์ซีทไปซ่อมหรือไม่เปลี่ยนใหม่ ไม่ควรให้ลูกหลานใช้ต่อไปครับ หากอยู่ในประกัน ช่างจะปรับปรุงสละให้ให้เปล่าขอรับกระผม

2. ใช้สายคาดผิดวิถีทาง ล่าช้าคาดไม่พึงสะเพร่าหรือไม่รัดตึงเกินพอดี บิดาคุณแม่รอบรู้ทดลองสายคาดโดยจับสายคาดให้ตึง ต่อไปใช้นิ้วจิ้มดู สมมุติสายบุ๋มลงมาก ชี้ให้เห็นว่าหลวมเกินดี เกี่ยวกับคาร์ซีทแม่พิมพ์หันหลัง สปายควรอยู่ที่ดีกรีไม่ก็อยู่ใต้ไหล่ของลูกเล็กน้อย ถ้าหากเป็นคาร์ซีทแบบเบือนหน้า สายคาดต้องอยู่วรรณะเดียวกับใช่ไหมดีกว่าไหล่ของลูกขอรับกระผม

3. ส่งเสียบุตรนั่งหันหน้าเชาว์เกินควร เตี่ยมาตุเรศหลายคนกล้าหาญเคยได้ยินมาว่า ช่วงขวบปีแรกพึงให้ลูกนั่งหันหลัง จวบจนลูกจักน้ำหนัก 9-10 กิโล ถึงจะให้นั่งหันหน้า ซึ่งเป็นความเลื่อมใสที่ผิด โดยยุ่งกุมารแพทย์แห่งสหรัฐฯชี้ทางว่า ควรให้ลูกหันหลังจนกว่าจะ 2 ขวบ พร้อมกับผิเป็นไปได้การนั่งลงแบบหันหลังนั้นมั่นคง พร้อมทั้งควรจะให้ลูกนั่งหันหลังให้ช้าสุดโต่งเท่าที่จะดำเนินงานได้ ม้าหลายคนอาจหวั่นใจว่าสมมุติลูกตัวใหญ่ขึ้น กล้าหาญนั่งหันหลังแล้วรู้สึกว่าขาติดกับพนักเบาะรถหรือต้องงอขา แต่จริงๆ แล้วสายตัวของเด็กเชี่ยวชาญยืดงอได้ดีกว่าผู้ใหญ่ ป๋าชนนีไม่ควรพะวักพะวงในข้อนี้ พอลูกโตเกินกว่าปริมาตรคาร์ซีท แล้วค่อยให้ลูกนั่งหันหน้ากับเบาะปกติธรรมดาก็ไม่ตระกูลเกินไปครับผม

 4. ประทานลูกนั่งบูสเตอร์ซีททันทีเกินควร บูสเตอร์ซีท หมายถึงเบาะรองนั่งของเด็กด้วยว่าชดใช้ณรถยนต์ ใช้สำหรับเด็กช่วงเวลาวัย 3-12 ขวบ (น้ำหนักเด็กประมาณ 15 – 36 กิโลกรัม) มีเจ้าของของซื้อของขายบางเจ้า แนะนำตัวว่าน่าให้ลูกนั่งบูสเตอร์ซีทตั้งแต่ลูกปูน 3 ขวบ แต่จริงๆ แล้วควรรอให้ลูกความหนักเบาเก็ง 18 กิโลหรืออายุ 4-5 ขวบ พร้อมทั้งลูกรอบรู้นั่งโดยมีล่าช้าคาดพาดผ่านหน้าอกได้รวมหมดทัวร์ พร้อมทั้งแพทย์ยังบอกช่องทางว่าสายรัดตัวแม่แบบ 5 จุดมั่นคงกว่าบูสเตอร์ และพ่อแม่ควรใช้สายรัดตัวจะดีกว่า เพราะว่าสมรรถปกป้องเด็กได้ดีกว่าปั้นเหน่งนิรภัยสิ่งของบูสเตอร์ซีท ก็เพราะว่าสายรัดตัวรอบรู้ปกป้องลำตัวข้างบน ลดความเคลื่อนไหวพร้อมด้วยการกระทบบนหัวพร้อมทั้งคอลงได้ ครั้นที่ปั้นเหน่งนิรภัยรักษา อาณาเขตทรวงกับบั้นท้ายขนาดนั้น

จริงอยู่ว่าบุรพาจารย์ดำรงไม่ศักยรักษาร้ายแรงทุกอย่างที่พร้อมร้ายกาจลูกได้ แต่ถ้าว่าการที่พ่อมาตุเรศรอบรู้เลือกใช้อุปกรณ์ป้องกันตัวณกอบด้วยสมรรถนะได้อย่างถูกแนว ก็จัดทั้งเป็นการเสริมการป้องกันภัยให้สายเลือดได้อีกทางหนึ่งครับ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เปลเด็ก

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.accordclubthailand.com/forum_act/index.php?topic=321860.new#new

Tags : เปลเด็ก

 

Sitemap 1 2 3