ผู้เขียน หัวข้อ: นมผึ้งและคุณค่าที่น่ารู้แล้วก็ต้องลองหามาทานซักครั้ง  (อ่าน 271 ครั้ง)

jeerapunsanook

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2181
    • ดูรายละเอียด
นมผึ้ง ได้ผลผลิตที่หลั่งออกมาจากต่อมไฮโปฟาริงจ์ (Hypopharyngeal Gland) ของผึ้งงาน นมผึ้งมีลักษณะเป็นของเหลวสีขาวเหมือนนม รสหวาน มีกลิ่นเปรี้ยวเล็กน้อย เป็นของกินหลักของผึ้งราชินีและตัวอ่อนผึ้งเพื่อช่วยกระตุ้นสำหรับในการเติบโต หลายประเทศใช้นมผึ้งในฐานะยารักษาโรค อาหารเสริม และก็ยังรวมทั้งเป็นส่วนผสมของครีมบำรุงและก็เครื่องแต่งตัว
นมผึ้ง
นมผึ้งมีน้ำเป็นองค์ประกอบหลักราวๆ 60-70% และอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆอาทิเช่น โปรตีน น้ำตาล วิตามิน เกลือแร่ และก็กรดอะมิโน นอกจากนี้ ยังเจอสารอื่นในนมผึ้ง เช่น กรดไขมันเอชดีเอ (10-Hydroxy-Trans-2-Decenoic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีบทบาทในการเติบโตของผึ้ง สารแอซิติลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ปฏิบัติภารกิจเกี่ยวกับความรู้สึกและกลไกแนวทางการทำงานของร่างกาย รวมถึงฮอร์โมนเพศ ตัวอย่างเช่น เทสโทสเตอโรน โปรเจสเตอโรน ฯลฯ ทั้งนี้สถานที่ ภูมิศาสตร์ และก็สภาพภูมิอากาศเป็นตัวแปรที่ทำให้ส่วนประกอบของนมผึ้งต่างกันออกไป ผู้คนจำนวนมากมั่นใจว่าการกินนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการวัยทอง กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย รักษาเบาหวาน รวมทั้งแผลโรคเบาหวาน ฯลฯ ทั้งยังยังเชื่อกันอีกว่าแม้นำนมผึ้งทาที่หนังหัวบางทีอาจช่วยกระตุ้นการเจริญก้าวหน้าเติบของเส้นผมอีกด้วย ซึ่งคำกล่าวอ้างเหล่านี้จะเป็นจริงไหม และก็มีหลักฐานด้านการแพทย์มาดน้อยแค่ไหนที่จะช่วยรับรองคุณประโยชน์ คุณประโยชน์ และก็ความปลอดภัยของนมผึ้งที่มีบทบาทหรือส่วนช่วยสำหรับในการรักษาโรคเหล่านี้
ประโยชน์ซึ่งมาจากนมผึ้งที่อาจมีต่อสุขภาพ
บรรเทาอาการวัยทอง อาการวัยทองเป็นปัญหาทางสุขภาพที่เกิดขึ้นกับหญิงกลางคน นำไปสู่อาการหลายสิ่งหลายอย่าง ตัวอย่างเช่น ช่องคลอดแห้ง แสบร้อนหรือคันในช่องคลอด เจ็บขณะมีเซ็กส์ เป็นต้น อาการดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นสามารถบรรเทาลงได้ด้วยการใช้สารหล่อลื่น แต่สารหล่อลื่นจำนวนมากจะออกฤทธิ์ได้เพียงแค่ชั่วครั้งชั่วคราว ซึ่งนมผึ้งมีคุณลักษณะต้านทานจุลชีวิน (Antimicrobial Activity) และมีคุณลักษณะคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน จากการศึกษาโดยให้หญิงวัยทองที่สมรสแล้วอายุ 50-65 ปี ปริมาณ 90 คน กรุ๊ปหนึ่งใช้ครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้ง 15% กรุ๊ปหนึ่งใช้ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนจำพวกครีมยี่ห้อหนึ่ง และก็อีกกรุ๊ปใช้สารหล่อลื่นทาบริเวณช่องคลอดตรงเวลา 3 เดือน พบว่าครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้งมีประสิทธิภาพในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเพศหญิงวัยทองได้มากกว่าอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนประเภทครีมรวมทั้งสารหล่อลื่น ซึ่งจากผลของการทดลองอาจจะกล่าวว่าการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตแล้วก็บรรเทาอาการวัยทองที่เกี่ยวพันกับช่องคลอดของหญิงวัยทอง และก็ทางผู้ศึกษาค้นคว้าและวิจัยยังได้กำหนดอีกว่าแม้เพิ่มความเข้มข้นของนมผึ้งก็บางทีก็อาจจะช่วยทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นให้มากขึ้นได้
ลดระดับไขมันในเลือด นมผึ้งมีส่วนประกอบของสารอาหารหลากหลายประเภท หนึ่งในนั้นเป็นกรดไขมันทางสายกลาง (Medium Chain Fatty Acid) แล้วก็สารประกอบที่มีคุณลักษณะช่วยลดไขมันในเลือด ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาเรียนรู้ที่ให้หญิงวัยทองสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงปริมาณ 36 ผู้รับประทานนมผึ้งขนาด 150 มก. เป็นเวลา 3 เดือน โดยตรวจสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่อาจจะเป็นผลให้กำเนิดโรคหลอดเลือดรวมทั้งหัวใจ รวมถึงระดับไขมันในเลือดอีกทั้งก่อนและก็หลังการทดสอบ พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงของระดับไขมันในเลือดอย่างมีนัยสำคัญ โดยที่ระดับคอเลสเตอรอลจำพวกที่ไม่ดี (LDL) ลดน้อยลง 4.1% ระดับคอเลสเตอรอลรวม (TC) ลดน้อยลง 3.09% และระดับคอเลสเตอรอลประเภทที่ดี (HDL) เพิ่มขึ้น 7.7% จากผลของการทดสอบอาจกล่าวได้ว่าการกินนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยลดระดับไขมันในเลือดและก็อาจเป็นช่องทางหนึ่งสำหรับในการควบคุมอาการวัยทองที่เกี่ยวข้องกับสภาวะไขมันในเลือดสูง
นอกนั้น ยังมีอีกการศึกษาเล่าเรียนหนึ่งที่ให้อาสาสมัครซึ่งมีภาวการณ์ไขมันในเลือดสูงจำพวกไม่ร้ายแรงปริมาณ 40 คน กินนมผึ้งขนาด 350 มก.วันละ 9 แคปซูล เป็นเวลา 3 เดือนก็แสดงให้เห็นถึงระดับไขมันในเลือดที่ลดน้อยลงเหมือนกัน ทั้งยังช่วยกระตุ้นฮอร์โมนเพศ (Dehydroepiandrosterone Sulphate: DHEA-S) แล้วก็ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเส้นโลหิตแล้วก็หัวใจได้อีกด้วย
ทุเลาอาการก่อนมีเมนส์ อาการก่อนมีรอบเดือนมักส่งผลในทางลบกับสุขภาพของหญิง บางครั้งการรักษาโดยไม่ใช้ยาก็อาจช่วยทุเลาให้อาการต่างๆดีขึ้นได้ ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาเล่าเรียนชิ้นหนึ่งที่ให้นิสิตหมอปริมาณ 110 คน รับประทานนมผึ้งขนาด 1,000 มิลลิกรัมวันละ 1 ครั้ง โดยเริ่มในวันแรกที่มีเมนส์ และก็รับประทานสม่ำเสมอจนกระทั่งหมดระดูในรอบต่อไป พบว่าอาการก่อนมีระดูลดน้อยลง จากผลของการทดสอบอาจจะบอกได้ว่าการกินนมผึ้งต่อเนื่องกันตรงเวลา 2 เดือน อาจช่วยทุเลาอาการก่อนมีประจำเดือนได้
รักษาแผลโรคเบาหวาน แผลเบาหวานเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยในคนไข้โรคเบาหวานที่ควบคุมอาการได้ไม่ดี โดยมากจะพบแผลโรคเบาหวานที่รอบๆเท้า โดยเฉพาะนิ้วโป้งเท้าแล้วก็ปลายอุ้งเท้า ซึ่งนมผึ้งประกอบไปด้วยสารประกอบฟีนอลิคปฏิบัติหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระ โปรตีนที่มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย และก็กรดไขมันเอชดีเอ ที่ช่วยต้านทานเชื้อจุลินทรีย์ จึงคาดว่าบางครั้งก็อาจจะช่วยรักษาแผลโรคเบาหวานได้ จากการศึกษาชิ้นหนึ่งให้ผู้เจ็บป่วยที่มีแผลโรคเบาหวานที่ได้รับการรักษาหลักตามปกติ ทายาที่มีความเข้มข้นของนมผึ้ง 5% ในบริเวณที่เป็นแผลและปิดแผลด้วยแผ่นปิดแผลจำพวกไม่มีเชื้อตรงเวลา 3 เดือนหรือจนกระทั่งแผลจะหาย และก็มีการประมวลผลสัปดาห์ละ 3 ครั้ง พบว่าใช้เวลาเฉลี่ย 424 ชั่วโมงจึงทำให้แผลหายดี และค่าถัวเฉลี่ยของความยาว ความกว้าง รวมทั้งความลึกของแผลลดลงวันละ 0.35 มิลลิเมตร 0.28 มิลลิเมตร แล้วก็ 0.11 มม.เป็นลำดับ จากผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยอาจจะบอกได้ว่านมผึ้งอาจมีสมรรถนะเป็นหนทางหนึ่งสำหรับการรักษาแผลโรคเบาหวานควบคุ่ไปกับการรักษาหลัก อย่างไรก็ตามผลวิจัยข้างต้นมีผู้เข้าร่วมการทดลองเพียงแค่ 8 คนซึ่งบางครั้งอาจจะเล็กเกินไปที่จะสรุปสมรรถนะของนมผึ้งในการรักษาแผลเบาหวาน
แต่การศึกษาชิ้นหนึ่งได้บอกให้เห็นผลสรุปของนมผึ้งที่แตกต่างกันออกไป โดยให้ผู้ที่มีแผลเบาหวานทายาซึ่งมีความเข้มข้นของนมผึ้ง 5% ในบริเวณที่เป็นแผลตรงเวลา 3 เดือนหรือจะกว่าแผลจะหายเหมือนกัน แต่ยังไม่อาจจะสรุปได้ว่านมผึ้งมีประสิทธิภาพสำหรับในการรักษาแผลโรคเบาหวานได้มากกว่าเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่ใช้ยาหลอก
เพราะการศึกษา 2 ชิ้นข้างต้นชี้ให้เห็นผลของนมผึ้งที่ตรงข้ามกัน ก็เลยอาจยังไม่สามารถที่จะสรุปความสามารถของนมผึ้งในการรักษาแผลโรคเบาหวานได้อย่างชัดเจน ก็เลยต้องศึกษาเล่าเรียนเพิ่ม
บรรเทาอาการอ่อนล้าจากโรคมะเร็ง
อาการอ่อนล้าที่เกิดจากโรคมะเร็งมีเหตุมาจากการดูแลรักษาทั้งการฉายรังสีหรือแนวทางการทำเคมีบำบัด มักมีผลต่ออารมณ์ จิตใจ ร่างกาย และก็คุณภาพชีวิตของคนป่วย ซึ่งการกินยา การบำบัด หรือการบริหารร่างกายอาจช่วยทุเลาอาการลงได้ รวมทั้งการกินอาหารเสริม อาทิเช่น นมผึ้งก็อาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการเหมือนกัน ก็เลยสอดคล้องกับการเรียนรู้หนึ่งที่ให้คนป่วยโรคมะเร็งอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ปริมาณ 52 คน พบว่ากลุ่มที่รับประทานน้ำผึ้งแปรรูปแล้วก็นมผึ้งขนาด 5 มก. วันละ 2 ครั้ง ตรงเวลา 4 อาทิตย์ มีอาการอ่อนแรงจากโรคมะเร็งดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับอีกกลุ่มที่ัรับประทานน้ำผึ้งบริสุทธิ์ อย่างไรก็ดียังจำเป็นที่จะต้องเรียนเพิ่มถึงหน้าที่ที่จริงจริงของนมผึ้งในการทุเลาอาการอ่อนแรงจากโรคมะเร็ง
รักษาไข้ละอองฟาง
โรคภูมิแพ้ประเภทหนึ่งที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสนองตอบอย่างหนักกับละอองเกสรดอกไม้หรือสารอื่นๆทำให้คนไข้มีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล คันตา หูอื้อ เป็นต้น ซึ่งจากการเล่าเรียนทดลองโดยให้เด็กอายุ 5-16 ปี ที่ไม่สบายละอองฟาง จำนวน 80 คน กรุ๊ปหนึ่งรักษาด้วยการใช้การรับประทานสินค้าที่มีส่วนผสมของนมผึ้งและอีกกลุ่มกินยาหลอกเป็นเวลา 3-6 เดือน และก็จวบจนกระทั่งจะสิ้นสุดฤดูของเกสรดอกไม้ พบว่าอีกทั้ง 2 กรุ๊ปยังคงเจอลักษณะของไข้ละอองฟาง และหรูหราความร้ายแรงของอาการที่ไม่มีความต่างกันมากเท่าไรนัก จากผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยอาจกล่าวได้ว่านมผึ้งอาจไม่มีคุณภาพต่อการดูแลรักษาไข้ละอองฟางและไม่สามารถทุเลาอาการต่างๆให้ดียิ่งขึ้นได้ จึงยังจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้เพิ่มเกี่ยวกับคุณภาพของนมผึ้งสำหรับการรักษาไข้ละอองฟางที่กระจ่างยิ่งขึ้น
ความปลอดภัยสำหรับเพื่อการรับประทานนมผึ้ง
การกินนมผึ้งค่อนข้างจะปลอดภัยถ้าเกิดกินในปริมาณที่สมควร แม้กระนั้นก็ได้โอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงได้ ได้แก่ เลือดออกในลำไส้ ปวดท้อง หรือถ่ายเป็นเลือด ฯลฯ บางรายหากมีอาการแพ้อย่างรุนแรงอาจส่งผลให้มีอาการอาการหอบหืด คอบวม หรือถึงกับตาย ทั้งยังการใช้นมผึ้งทาที่บริเวณผิวหนังออกจะไม่เป็นอันตราย แต่ไม่ควรทาบริเวณหนังศีรษะเนื่องจากอาจก่อให้กำเนิดอาการแพ้ ผื่นคัน หรือมีอาการอักเสบ

Tags : นมผึ้ง,royal jelly,นมผึ้งสรรพคุณ

 

Sitemap 1 2 3