ประวัติศาสตร์สิ่งน่าทึ่งสิ่งของหลอดไฟ

[Narongrit999]

 
ตั้งแต่อดีตกาลจนถึงประจุบันเจ้าหลอดใสๆ ก็ให้ภาสแก่มนุษย์ในยามราตรีได้รวมหมด เริ่มออกจากเมื่อร้อยกว่าปีเก่าที่หลอดไฟเริ่มมีบทบาทในการดำรงชีวิตของเรา กับใช้ต่อเนื่องมาถึงยุคปัจจุบัน มีการปฏิรูปต่อยอดกันมาเรื่อย ๆ หมดทางไปมาถึงหลอดไฟ LED ในปัจจุบัน และมีแนวโน้มในการพัฒนาไปอีกในภายภาคหน้า วันนี้เราจึงมีแนวการพันาของเจ้าหลอดไฟนี้มาเล่าสู่กันเชื่อฟังค่ะ มาเริ่มขนันในยุคประถมเลยค่ะ คือ
 
 ยุคหลอดไส้ หรือไม่ก็ชื่ออย่างเป็นทางราชการว่า หลอด Incandescent
ร้อยกว่าปีมาแล้ว ที่กองนักวิทยาศาสตร์ค้นเจอหลอดไส้ แต่น่าเสียดายว่ามันเป็นเพียงแค่แนวคิดทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น ยังไม่เก่งทำได้จริง เท่าที่ โทมัส เอวา เอดิสัน ก็ได้นำลัทธิที่ว่านี้ มาคืบหน้าต่อจนประสบผลที่เกิดขึ้น และในระยะเวลาต่อมา เขาก็เป็นได้พบวิธีการสร้าง หลอดไฟ หลอดแรก ของโลก เพราะว่าเป็นหลอดไส้ ที่ทำจากคาร์บอน ซึ่งต่อมาก็ได้รับความนิยมไปทั่วโลก แต่ก็ยังมีข้อเสียตรงที่ว่า หลอดไส้ของโทมัสสามารใช้งานได้ยาวนานที่สุดแค่ 13 ชม. เท่านั้น นักวิทยาศาสตร์รุ่นต่อมาจึงคิดค้นวิธีที่จะทำให้มีระยะการใช้งานที่นมนานขึ้น พร้อมทั้งในที่สุดก็ได้พัฒนาเป็นหลอดไส้แบบทังสเตนที่สามารถทนความร้อนได้สูงถึง 3,000 องศาเซลเซียส เป็นเหตุให้ใช้งานได้นานสองนานขึ้นจาก 13 ชม. เป็น 1,000 - 3,000 ชม.

ยุคหลอดก๊าซปรอท หลอดไฟยุคตอนกลาง (ประมาณ 80 ปี โดยประมาณ)
 หลอดก๊าซปรอทหรือไม่เรียกง่าย ๆ ว่า หลอดนีออน เหรอหลอด ฟลูออเรสเซนต์ และที่เรียกว่าหลอดก๊าซเพราะว่าบรรจุก๊าซไว้ข้างใน แนวทางง่าย ๆ ของหลอดฝ่ายนี้คือ การใช้กระแสไฟไหลผ่าน บัลลาสต์และสตาร์ทเตอร์ (คุ้น ๆ ใช่มั้ยหล่ะ) เพื่อกระตุ้นให้ก๊าซในปรอท เกิดการเลื่อนไหลและยอมพลังงานออกมา 2 อย่าง ด้วยกัน นั่นคือ ความร้อนพร้อมกับแสงสว่าง แต่เพราะว่าแสงที่ได้ยังเป็นพิษภัยต่อการมองเห็นของมนุช จึงจำเป็นต้องมาสารเคลือบฟอสฟอรัส ที่มาเคลือบที่ผิวหลอดชั้นใน สำหรับให้เกิดเป็นปรากฎการณ์เรืองแสง และหลอดฟลูออเรสเซนต์ ก็เป็นที่นิยมใช้กันทั่วโลกจนถึงล่าสุด จะมีแยะขนาด ตั้งแต่รุ่น T10 จนพัฒนามาเป็น T8 พร้อมด้วยปัจจุบันก็เริ่มเปลี่ยนมาใช้ T5 กันบ้างแล้ว
** คำว่า T10 ตกว่าขนาด 10 หุ้น หมายเหตุ 1 นิ้ว มี 8 หุ้น T8 คือขนาด 8 หุ้น หรือดำรงฐานะขนาด 1 นิ้วพอดี T5 หรือขนาด 5 หุ้น ประมาณ 1/2 นิ้วกว่าๆ หลอดฟลูออเรสเซนต์ได้เริ่มใช้กัน ปี 1940 จนมาถึงสมัยนี้ ประสิทธิภาพการให้แสงสว่างอยู่ในระดับปานกลาง รกินไฟ พอประมาณ แต่ติดตรงที่ ต้องใช้ปัลลาสต์ พร้อมกับบัลลาสต์ ใช้ไฟสูงถึง 10-12 W

ยุคปัจจุบันนี้ ยุค LED ชื่อเต็มคือ Light Emitting Diode
หลอดไฟ LED ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ สรรพสิ่งระเบียบแสงสว่าง ที่ตอนนี้กำลังเข้ามาแปรระบบแสงสว่างใหม่ ของคนทั้งโลก เป็นการงอกงามจากความเห็นของสารกึ่งตัวนำ ไดโอด พร้อมกับหลอดไฟ LED มีการพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง จนช่วงปัจจุบันเปลี่ยนเป็นหลอดไฟที่กระเหม็ดกระเหมียดไฟ และอัจฉริยะ รอบรู้ทำงานได้หลากหลายฟังก์ชั่น ที่ไม่จำเป็นจะต้องเป็นหลอดไฟอย่างเดียว แต่ยังสามารถเข้าไปอยู่ในหน้าจอทีวี ป้ายไฟต่าง ๆ และอีกมายมาย และยังมั่นคง ไม่มีการปล่อยความร้อน และแสง UV ให้กำเนิดมาอีกด้วย
 
ในช่วงปัจจุบันหลอดไฟก็ได้ถูกจัดเป็น 1 ที่ 5 เทคโนโลยีที่เด่นที่สุดของโลก ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา และกำลังจะก้าวมาแก้ไขกระบิลไฟฟ้าของพื้นพิภพ ด้านในไม่กี่ปีที่จะถึงนี้และสามารถทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างตรงเผง รอจับตาดูกันนะคะ ว่าจะพัฒนาไปได้ไกลแค่ไหน ^^
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : หลอดไฟภาษาอังกฤษ

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://marketbkk.xyz/index.php?topic=21647.new#new

Tags : หลอด led,ไฟ led,หลอดไฟภาษาอังกฤษ