ผู้เขียน หัวข้อ: สัตววัตถุ ปลาดุก  (อ่าน 285 ครั้ง)

xcepter2016

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2276
    • ดูรายละเอียด
สัตววัตถุ ปลาดุก
« เมื่อ: ธันวาคม 29, 2017, 08:51:35 pm »

ปลาดุก
ปลาดุกเป็นสัตว์เลือดเย็น มีกระดูกสันสันหลัง ปลาที่คนประเทศไทยเรียก ปลาดุก หรือ walking catfish นั้น บางทีอาจคือปลาน้ำปลาน้ำจืดขั้นต่ำ ๒ ประเภทในตระกูล Clariidae  คือ
๑. ปลาดุกด้าน
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  Clarias  batrachus  (Linnaeus)
มีชื่อสามัญว่า walking  catfish
ลางตัวที่มีสีขาวตลอด ราษฎรเรียก ดุกเผือก หรือถ้าเกิดมีสีออกจะแดง  ก็เรียก ดุกแดง  แม้กระนั้นถ้าหากมีจุดขาวบริเวณทั่วลำตัว  ก็เรียก ดุกเอ็น ปลาดุกด้านมีรูปร่างยาวเรียว ยาว  ๑๖-๔๐  เซนติเมตร (ในธรรมชาติบางทีอาจยาวได้ถึง ๖๑  ซม.) บริเวณข้างๆของลำตัวมีสีเทาปนดำหรือสีน้ำตาลปนดำ รอบๆท้องมีสีออกจะขาว ไม่มีเกล็ด ความยาวของลำตัวราว ๖-๗.๕ เท่าของความลึกของลำตัว รวมทั้งราว๓.๕ เท่าของความยาวส่วนหัว หัวออกจะแหลมหากมองดูทางด้านข้าง กระดูกหัวมีลักษณะตะปุ่มตะป่ำ กระดูกท้ายทอยยื่นเป็นมุมค่อนข้างจะแหลม ส่วนฐานของครีบหลังยาวแทบตลอดส่วนหลัง ครีบข้างหลังมีก้านครีบอ่อน ๖๕-๗๗  ก้าน ไม่มีก้านครีบแข็ง ครีบก้นมีก้านครีบอ่อน  ๔๑-๕๘  ก้าน ครีบท้องกลม ครีบอกกลม มีก้านครีบแข็งข้างละ ๑ ก้าน ปลายแหลม เป็นหยักทั้ง ๒ ข้าง ครีบหางแบน ปลายมน ไม่ต่อกับครีบข้างหลังรวมทั้งครีบก้น ตามีขนาดเล็กอยู่ด้านบนของหัว มีหนวด ๔ คู่  หนวดที่ขากรรไกรข้างล่างยาวถึงส่วนปลายก้านครีบแข็งของครีบอก หนวดขากรรไกรบนยาวถึงก้านครีบหลังก้านที่  ๗-๘   หนวดที่รอบๆจมูกยาวเป็น ๑ ใน ๓ ของก้านครีบแข็งของครีบอก  แล้วก็หนวดคางยาวถึงส่วนปลายของครีบอก ด้านในท่อนหัวเหนือช่องเหงือก ๒ ข้าง มีอวัยวะพิเศษที่ช่วยในการหายใจ ฟันบนเพดานปากและฟันบนขากรรไกรบนเป็นฟันซี่เล็กๆกระดูกซี่กรองเหงือกมี  ๑๖-๑๙  อัน ปลาดุกด้านมีนิสัยดุ ว่อง เกลียดอยู่นิ่ง เร่งรีบ ชอบดำว่ายดำผุดแล้วก็ถูกใจมุดไปตามพื้นโคลนตม ถูกใจว่ายทวนน้ำออกไปจากแหล่งอาศัยในขณะฝนตกแล้วก็น้ำไหลหลากลงสู่แหล่งน้ำที่ใหม่ มีความทรหดอดทนต่อสิ่งแวดล้อมที่เรวร้ายได้
๒. ปลาดุกอุย
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Clarias  microcephalus  Gunther
มีชื่อสามัญว่า  broadhead  walking  catfish
ปลาดุกอุยเป็นปลาที่ไม่มีเกล็ด ลำตัวยาวเรียว ยาว  ๑๕-๓๕  ซม.  สีค่อนข้างจะเหลือง  มีจุดประตามด้านข้างลำตัวราว ๙-๑๐ แถบ แม้กระนั้นเมื่อโตจะเลือนหายไป ผนังท้องมีสีขาวถึงเหลืองเฉพาะรอบๆอกถึงครีบท้อง ส่วนหัวค่อนข้างจะทู่ ปลายกระดูกท้ายทอยป้านแล้วก็โค้งมนมาก   ส่วนหัวจะลื่น มีรอยยุบตรงกลางน้อย  มีหนวด  ๔  คู่  โคลนหนวดเล็ก ปากไม่ป้าน ออกจะมนครีบอกมีครีบแข็งข้างละ ๑ ก้าง มีลักษณะคม ยื่นยาวหรือเท่ากับครีบอ่อน ครีบข้างหลังมีก้านครีบอ่อน  ๖๘-๗๒  ก้าน   ปลายครีบสีเทาปนดำและก็ยาวตลอดถึงคอดหาง ครีบก้นมีก้านครีบอ่อน  ๔๗-๕๒  ก้าน ครีบหางกลม ไม่ใหญ่มากนัก สีเทาผสมดำ ครีบหางไม่ติดกับฐานครีบหลังและครีบตูด   จำนวนกระดูกซี่กรองเหงือกราว  ๓๒  ซี่งเมื่อดูผิวเผินอีกทั้งปลาดุกด้านแล้วก็ปลาดุกอุยมีลำตัวสั้นป้อมกว่า ลำตัวสีดำคละเคล้าเหลือง มีจุดเล็กๆสีขาวเรียงเป็นแนวตามขวางลำตัวหลายแถว หรืออาจมองเห็นเป็นจุดประสีขาวตามลำตัว ปลายกระดูกกำดันโค้งมน ปลาดุกเป็นปลาที่พบได้ตามคู คลอง หนอง บ่อน้ำทั่วๆไป จัดเป็นปลาที่มีคุณค่าทางด้านเศรษฐกิจของไทย
คุณประโยชน์ทางยา
สมุนไพร แพทย์แผนไทยรู้จักใช้ปลาดุกผสมเป็นเครื่องยาในตำรับยาหลายขนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน พระหนังสือไกษย ให้ยาที่เข้า “ปลาดุกปิ้ง” อยู่ ๒ ขนาน ทั้งยัง ๒ ขนานเป็นยาแกง รับประทานเป็นยาถ่ายอย่างแรง สำหรับแก้กษัย ดังต่อไปนี้ ยาแก้ไกษยปลาดุก เอาเปลือกราชพฤกษ์ ๑ กลีบตาเสือ ๑  รากตอแตง  ๑  พาดไฉนนุ่น ๑  พริกไทยขิงแห้ง ๑  กระเทียม  ๑  ผลจันทน์ ๑  ดอกจันทน์  ๑  กระวาน  ๑  กานพลู  ๑  ข่า  ๑  กระชาย  ๑  กะทือ  ๑  ไพล  ๑  หอม  ๑  ขมิ้นอ้อย  ๑  กะปิ  ๑  ปลาดุกปิ้ง  ๑  ตัว ปลาแดกปลาส้อย ๕  ตัว   ยา  ๒๐  สิ่งนืทำเปนแกง แล้วเอาใบมะกาที่เพสลาดนั้นมาหั่นใส่ลงเปนผัก รับประทานให้ได้ถ้วยแกงหนึ่ง ลงจนสิ้นโทษร้าย หายวิเศษนัก รวมทั้งยางแกงเปนยารุ ท่านให้เอาเปลือกทองหลางใบมนที่ ๒ เปลือกมะรุม ๑ ลูกคัดเลือกเค้า ๑ เครื่องยาดังนี้เอาสิ่งละ ๗ ตัว ปลาดุกย่าง ๑ ตัว เอาใบสลอดที่กินลงที่อ่อนๆนั้น ๗ ใบ หั่นเป็นผักใส่ลง ทำเปนยาเถอะ ลงเสลดเขียวเหลืองออกมา หายแล

 

Sitemap 1 2 3