ผู้เขียน หัวข้อ: แนวทางตัดสินใจเลือกโปรแกรมบัญชีที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ  (อ่าน 278 ครั้ง)

lnwneverdie2015

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 370
    • ดูรายละเอียด
ปัจจุบันนี้ ธุรกิจขนาดย่อม หลายบริษัทต่างสรรหาวิธีการที่จะสร้างความสามารถในการทำงานและลดค่าใช้จ่ายให้น้อยลงที่สุด พอให้สามารถขับเคี่ยวและอยู่รอดในยุคที่การค้าขายฝืดเคืองเช่นในเวลานี้ การปรับเปลี่ยนมาใช้ ซอฟแวร์โปรแกรมบัญชีอีกรูปแบบหนึ่งที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่กระนั้นซอฟแวร์มีมากมายหลายเจ้า จะเลือกเจ้าไหนจึงจะคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป เราจึงอยากขอชี้แนะข้อควรพิจารณาเพื่อเป็นแนวให้ท่านเลือกโปรแกรมบัญชีที่ลงตัวกับร้านค้าของท่าน ดังต่อไปนี้ครับ

1.ประเภทอุตสาหกรรม
กิจการของคุณอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมไหน เป็นร้านค้าขายปลีก กลุ่มผู้ผลิต หรือบริษัททางด้านงานบริการ ซึ่งแต่ละประเภทอุตสาหกรรม ก็มีรูปแบบการบันทึกบัญชีที่แตกต่างกัน นอกจากนี้โปรแกรมเมอร์ จะพัฒนาโปรแกรมบัญชีให้ลงตัวกับแต่ละประเภทธุรกิจ อย่างไรก็ดี โปรแกรมบัญชีทั่วไปก็สามารถใช้งานได้ดีกับอุตสาหกรรมหลายๆ ชนิดเช่นเดียวกัน แต่ถ้าคุณต้องการโปรแกรมบัญชีที่มีรูปแบบการใช้งานเหมาะสมกับร้านค้าคุณ หรือมีส่วนเบ็ดเตล็ดพิเศษสำหรับอุตสาหกรรมบางแบบ เช่น ธุรกิจปลูกสร้าง โรงงานผลิต และศูนย์กระจายสินค้า ควรจ้างเขียนดีไซน์โปรแกรมบัญชีเฉพาะสำหรับบริษัทคุณจะดีกว่า
2.ขนาด บริษัท
รายละเอียดปลีกย่อยของการบันทึกบัญชีจะมีความซับซ้อนมากน้อยขึ้นอยู่กับขนาดของ กิจการ ท่านอาจจะใช้โปรแกรมบัญชีทั่วไป ที่ทำงานได้อย่างดีกับ กิจการที่มียอดขาย เฉลี่ย ล้านบาทต่อปี แต่ถ้าบริษัทของคุณมีขนาดใหญ่กว่านี้และมีความซับซ้อน โปรแกรมบัญชี ทั่วๆ ไป อาจจะไม่สามารถรองรับระบบได้ เพราะฉะนั้นควร เลือกให้เข้ากับขนาด และสามารถที่จะอัพเกรดวางแผนเผื่ออนาคตไว้ด้วย
3.ความต้องการในการใช้งาน
ก่อนการ ซื้อซื้อโปรแกรมบัญชีออนไลน์ควรซักถามว่ามีส่วนใดหรือโมดูลอะไรที่กิจการท่านต้องการ ควรเขียนความต้องการเหล่านี้ คุณลักษณะ หรือรูปแบบการใช้งานออกมาเป็นหัวข้อเสียก่อน บางธุรกิจอาจจะต้องการการใช้งานที่ไม่ยาก มีฟังก์ชันไม่ซับซ้อน ขณะที่บริษัทอื่นอาจจะต้องรูปแบบตอบสนองรองรับในการจ่ายเงินผ่านเว็บไซต์ หรือการใช้ credit card หรือการจัดการสินค้าคงคลัง หรือสร้างเปลี่ยนแปลงใบอินวอยซ์ เองได้ ดั้งนั้นควร ตัดสินใจเลือกโปรแกรมบัญชีสามารถรองรับความต้องการเหล่านี้ได้ และเหมาะสมกับธุรกิจท่าน อย่าจ่ายเงินให้กับฟังก์ชันที่ไม่ได้ใช้งาน
4.การบริการ
เวลาที่คุณมีปัญหาใช้งานโปรแกรมบัญชี บริษัทซอฟแวร์สามารถซับพอร์ท แก้ปัญหาได้รวดเร็วเพียงใด ติดต่อสื่อสารได้ง่ายสะดวก น่าเชื่อถือหรือไม่ ตัวแทนดูแลอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงหรือไม่ และที่สำคัญตัวแทนเหล่านั้น มีผู้ชำนาญการด้านบัญชี คอยให้คำแนะนำคุณหรือไม่ โดยข้อมูลเหล่านี้สามารถ research จากอินเตอร์เน็ต หรือสอบถามบริษัทที่อยู่อยู่ใกล้ๆ กันดูได้
5.งบประมาณ
งบประมาณจะเป็นปัจจัยประเด็นหลักที่มีผลต่อการ เลือกโปรแกรมบัญชี โดยโปรแกรมบัญชีทั่วไปจะมีราคาที่ไม่แพงมากนัก แต่ถ้าคุณต้องการโปรแกรมบัญชีเฉพาะที่ออกแบบ Function การใช้พิเศษ ท่านคงต้องลงทุนสูงกว่าแน่นอน และก่อนจะตัดสินใจซื้อโปรแกรมบัญชีควรทำการวิเคราะห์ความคุ้มค่าเบื้องต้น เพื่อจะได้ทราบว่าท่านไม่ได้จ่ายค่าโปรแกรมบัญชีแพงเกินความจำเป็น หรือไม่คุ้มกับการลงทุน
6.โปรแกรมบัญชีมีระยะเวลาทดลองใช้หรือไม่
จะเป็นสิ่งที่ดีอย่างมากถ้าท่านได้รับโปรแกรมบัญชีใช้งานฟรีก่อนที่จะซื้อจริง เพราะจะสามารถเห็นแง่มุมต่างๆ ทั้งเรื่องความสะดวกในการใช้งาน อุปสรรคที่พบ การใช้งานฟังก์ชันระบบต่างๆ เหมาะสมหรือไม่ ดังนั้น ก่อน เลือกซื้อซื้อไถ่ถามกับบริษัทซอฟแวร์ว่ามีตัวทดลองใช้ฟรีหรือไม่ โดยปรกติจะจะเปิดให้ลูกค้าลองใช้ได้ 1-2 ปี ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากทีเดียว
ในที่สุดแล้วควรซักถามร้านค้าอื่นๆ ที่ท่านรู้จักเกี่ยวกับโปรแกรมบัญชีที่อยู่ในความสนใจ อย่างน้อย 3 ร้านค้า ควรไถ่ถามเกี่ยวกับปัญหาการใช้งาน พบปัญหาอะไรหรือไม่ สิ่งที่ควรจะปรับปรุง หรือการบริการซับพอร์ทของบริษัทซอฟแวร์เป็นอย่างไร ยิ่งไปกว่านี้สิ่งสำคัญควรเลือกซื้อโปรแกรมบัญชีที่ติดตลาด มีผู้ใช้จำนวนมาก ซึ่งจะปลอดภัยมากกว่า

ที่มา : http://peakaccountonline.blogspot.com/2015/07/blog-post_6.html

Tags : โปรแกรมบัญชี,โปรแกรมบัญชีออนไลน์,โปรแกรมบัญชีใช้งานฟรี

 

Sitemap 1 2 3