ผู้เขียน หัวข้อ: นมผึ้งและคุณประโยชน์ที่น่ารู้และต้องลองหามาทานซักครั้ง  (อ่าน 252 ครั้ง)

Kittipong99010

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2231
    • ดูรายละเอียด
นมผึ้ง เป็นผลผลิตที่หลั่งออกมาจากต่อมไฮโปฟาริงจ์ (Hypopharyngeal Gland) ของผึ้งงาน นมผึ้งมีลักษณะเป็นของเหลวสีขาวคล้ายนม รสหวาน มีกลิ่นเปรี้ยวบางส่วน เป็นอาหารหลักของผึ้งราชินีและก็ตัวอ่อนผึ้งเพื่อช่วยกระตุ้นสำหรับการเติบโต หลายประเทศใช้นมผึ้งในฐานะยารักษาโรค อาหารเสริม และยังรวมไปถึงเป็นส่วนผสมของครีมบำรุงและเครื่องแต่งตัว
นมผึ้ง
นมผึ้งมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักราวๆ 60-70% รวมทั้งอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆเช่น โปรตีน น้ำตาล วิตามิน เกลือแร่ และก็กรดอะมิโน นอกเหนือจากนั้น ยังเจอสารอื่นในนมผึ้ง เช่น กรดไขมันเอชดีเอ (10-Hydroxy-Trans-2-Decenoic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีหน้าที่สำหรับการเจริญวัยของผึ้ง สารแอสิติลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกรวมทั้งกลไกการทำงานของร่างกาย รวมถึงฮอร์โมนเพศ ดังเช่นว่า เทสโทสเตอโรน โปรเจสเตอโรน เป็นต้น ทั้งนี้สถานที่ ภูมิศาสตร์ แล้วก็ลักษณะอากาศเป็นตัวแปรที่ทำให้องค์ประกอบของนมผึ้งแตกต่างกันออกไป หลายคนมั่นใจว่าการกินนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการวัยทอง กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย รักษาเบาหวาน รวมถึงแผลโรคเบาหวาน ฯลฯ ทั้งยังเชื่อกันอีกว่าถ้าเกิดนำนมผึ้งทาที่หนังหัวอาจช่วยกระตุ้นการเจริญเติบของเส้นผมอีกด้วย ซึ่งคำกล่าวอ้างพวกนี้จะเป็นจริงหรือเปล่า รวมทั้งมีหลักฐานทางด้านการแพทย์มาดน้อยเพียงใดที่จะช่วยรับรองคุณประโยชน์ ประโยชน์ และความปลอดภัยของนมผึ้งที่มีหน้าที่หรือส่วนช่วยสำหรับการรักษาโรคกลุ่มนี้
คุณประโยชน์ของนมผึ้งที่อาจมีต่อสุขภาพ
บรรเทาอาการวัยทอง อาการวัยทองคือปัญหาทางสุขภาพที่เกิดขึ้นกับเพศหญิงวัยกลางคน เป็นเหตุให้เกิดอาการหลายแบบ เช่น ช่องคลอดแห้ง แสบร้อนหรือคันในช่องคลอด เจ็บขณะร่วมเพศ เป็นต้น อาการดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นสามารถทุเลาลงได้ด้วยการใช้สารหล่อลื่น แต่สารหล่อลื่นส่วนมากจะออกฤทธิ์ได้เพียงแค่ชั่วครั้งชั่วคราว ซึ่งนมผึ้งมีคุณลักษณะต้านทานจุลชีวิน (Antimicrobial Activity) และก็มีคุณสมบัติเหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน จากการศึกษาโดยให้สตรีวัยทองที่สมรสแล้วอายุ 50-65 ปี ปริมาณ 90 คน กลุ่มหนึ่งใช้ครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้ง 15% กรุ๊ปหนึ่งใช้ฮอร์โมนตอบแทนเอสโตรเจนชนิดครีมแบรนด์หนึ่ง และก็อีกกรุ๊ปใช้สารหล่อลื่นทาบริเวณช่องคลอดตรงเวลา 3 เดือน พบว่าครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้งมีประสิทธิภาพในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้หญิงวัยทองได้มากกว่าอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับฮอร์โมนตอบแทนเอสโตรเจนประเภทครีมรวมทั้งสารหล่อลื่น ซึ่งจากผลของการทดลองอาจพูดได้ว่าการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตและก็บรรเทาอาการวัยทองที่เกี่ยวเนื่องกับช่องคลอดของสตรีวัยทอง แล้วก็ทางผู้ทำการวิจัยยังได้ระบุอีกว่าถ้าหากเพิ่มความเข้มข้นของนมผึ้งก็บางทีอาจจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้นเรื่อยๆได้
ลดระดับไขมันในเลือด นมผึ้งมีส่วนประกอบของสารอาหารหลากหลายประเภท หนึ่งในนั้นคือกรดไขมันทางสายกลาง (Medium Chain Fatty Acid) และสารประกอบที่มีคุณลักษณะช่วยลดไขมันในเลือด ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาวิจัยที่ให้ผู้หญิงวัยทองสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงปริมาณ 36 คนรับประทานนมผึ้งขนาด 150 มิลลิกรัม ตรงเวลา 3 เดือน โดยตรวจปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะเป็นผลให้เกิดโรคเส้นโลหิตและก็หัวใจ รวมทั้งระดับไขมันในเลือดทั้งยังก่อนและก็ข้างหลังการทดลอง พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงของระดับไขมันในเลือดอย่างเป็นจริงเป็นจัง โดยที่ระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี (LDL) น้อยลง 4.1% ระดับคอเลสเตอรอลรวม (TC) น้อยลง 3.09% รวมทั้งระดับคอเลสเตอรอลประเภทที่ดี (HDL) เพิ่มขึ้น 7.7% จากผลการทดสอบอาจจะกล่าวว่าการรับประทานนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยลดระดับไขมันในเลือดรวมทั้งอาจเป็นหนทางหนึ่งสำหรับการควบคุมอาการวัยทองที่เกี่ยวพันกับภาวะไขมันในเลือดสูง
ยิ่งกว่านั้น ยังมีอีกการศึกษาเล่าเรียนหนึ่งที่ให้อาสาสมัครซึ่งมีภาวะไขมันในเลือดสูงประเภทไม่รุนแรงจำนวน 40 คน กินนมผึ้งขนาด 350 มก.วันละ 9 แคปซูล ตรงเวลา 3 เดือนก็บ่งบอกถึงถึงระดับไขมันในเลือดที่ต่ำลงสิ่งเดียวกัน อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นฮอร์โมนเพศ (Dehydroepiandrosterone Sulphate: DHEA-S) และลดการเสี่ยงของการเกิดโรคเส้นโลหิตและหัวใจได้อีกด้วย
บรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือน อาการก่อนมีประจำเดือนมักมีผลในทางลบกับสุขภาพของสตรี บางทีการดูแลรักษาโดยไม่ใช้ยาก็บางทีอาจช่วยบรรเทาให้อาการต่างๆดีขึ้นได้ ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาชิ้นหนึ่งที่ให้นักศึกษาหมอปริมาณ 110 คน กินนมผึ้งขนาด 1,000 มก.วันละ 1 ครั้ง โดยเริ่มในวันแรกที่มีประจำเดือน แล้วก็กินต่อเนื่องจนถึงหมดรอบเดือนในรอบถัดไป พบว่าอาการก่อนมีประจำเดือนลดน้อยลง จากผลการทดสอบอาจกล่าวได้ว่าการกินนมผึ้งต่อเนื่องกันตรงเวลา 2 เดือน อาจช่วยบรรเทาอาการก่อนมีเมนส์ได้
รักษาแผลโรคเบาหวาน แผลโรคเบาหวานเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบมากในคนไข้เบาหวานที่ควบคุมอาการได้ไม่ดี ส่วนใหญ่จะเจอแผลโรคเบาหวานที่รอบๆเท้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิ้วโป้งเท้าและปลายฝ่าเท้า ซึ่งนมผึ้งประกอบไปด้วยสารประกอบฟีนอลิคปฏิบัติหน้าที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ โปรตีนที่มีคุณสมบัติต้านทานเชื้อแบคทีเรีย และกรดไขมันเอชดีเอ ที่ช่วยต้านทานเชื้อจุลินทรีย์ ก็เลยคาดว่าบางทีอาจจะช่วยรักษาแผลเบาหวานได้ จากการศึกษาเล่าเรียนชิ้นหนึ่งให้ผู้เจ็บป่วยที่มีแผลโรคเบาหวานที่ได้รับการดูแลรักษาหลักตามเดิม ทายาที่มีความเข้มข้นของนมผึ้ง 5% ในรอบๆที่เป็นแผลแล้วก็ปิดแผลด้วยแผ่นปิดแผลจำพวกไม่มีเชื้อเป็นเวลา 3 เดือนหรือจนกระทั่งแผลจะหาย และก็มีการประเมินผลสัปดาห์ละ 3 ครั้ง พบว่าใช้เวลาเฉลี่ย 424 ชั่วโมงก็เลยทำให้แผลหายดี รวมทั้งค่าถัวเฉลี่ยของความยาว ความกว้าง และก็ความลึกของแผลลดน้อยลงวันละ 0.35 มม. 0.28 มิลลิเมตร และก็ 0.11 มิลลิเมตรตามลำดับ จากผลวิจัยอาจพูดได้ว่านมผึ้งอาจมีคุณภาพเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับเพื่อการรักษาแผลโรคเบาหวานควบคุ่ไปกับการรักษาหลัก แม้กระนั้นผลวิจัยข้างต้นมีผู้เข้าร่วมการทดสอบเพียงแค่ 8 คนซึ่งบางทีอาจจะเล็กเหลือเกินที่จะสรุปคุณภาพของนมผึ้งในการรักษาแผลเบาหวาน
แต่ว่าการเรียนรู้ชิ้นหนึ่งได้แสดงให้เห็นผลของนมผึ้งที่ต่างกันออกไป โดยให้ผู้ที่มีแผลโรคเบาหวานป้ายยาซึ่งมีความเข้มข้นของนมผึ้ง 5% ในรอบๆที่เป็นแผลตรงเวลา 3 เดือนหรือจะกว่าแผลจะหายสิ่งเดียวกัน แต่ว่ายังไม่สามารถที่จะสรุปได้ว่านมผึ้งมีประสิทธิภาพสำหรับในการรักษาแผลเบาหวานได้มากกว่าเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่ใช้ยาหลอก
เพราะการศึกษา 2 ชิ้นข้างต้นชี้ให้เห็นผลของนมผึ้งที่ตรงกันข้ามกัน จึงอาจยังไม่อาจจะสรุปสมรรถนะของนมผึ้งในการรักษาแผลเบาหวานได้อย่างชัดเจน จึงจำเป็นจะต้องศึกษาเล่าเรียนเพิ่มอีก
บรรเทาอาการอ่อนแรงจากโรคมะเร็ง
อาการอ่อนเพลียที่เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากโรคมะเร็งเป็นผลมาจากการดูแลรักษาทั้งการฉายรังสีหรือแนวทางการทำเคมีบำบัดรักษา มักมีผลต่ออารมณ์ จิตใจ ร่างกาย และก็คุณภาพชีวิตของคนเจ็บ ซึ่งการกินยา การบำบัด หรือการออกกำลังกายอาจช่วยบรรเทาอาการลงได้ รวมทั้งการกินอาหารเสริม ยกตัวอย่างเช่น นมผึ้งก็อาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการสิ่งเดียวกัน ก็เลยสอดคล้องกับการเล่าเรียนหนึ่งที่ให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ปริมาณ 52 คน พบว่ากรุ๊ปที่กินน้ำผึ้งดัดแปลงและก็นมผึ้งขนาด 5 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 4 อาทิตย์ มีลักษณะเมื่อยล้าจากโรคมะเร็งดียิ่งขึ้นอย่างเป็นจริงเป็นจังทางสถิติเมื่อเทียบกับอีกกลุ่มที่ักินน้ำผึ้งบริสุทธิ์ แม้กระนั้นยังจำต้องศึกษาเพิ่มเติมถึงหน้าที่ที่จริงจริงของนมผึ้งสำหรับการทุเลาอาการอ่อนกำลังจากโรคมะเร็ง
รักษาไข้ละอองฟาง
โรคภูมิแพ้ประเภทหนึ่งที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสนองตอบอย่างหนักกับละอองเกสรดอกไม้หรือสารอื่นๆทำให้ผู้เจ็บป่วยมีลักษณะคัดจมูก น้ำมูกไหล คันตา หูอื้อ เป็นต้น ซึ่งจากการศึกษาเล่าเรียนทดลองโดยให้เด็กอายุ 5-16 ปี ที่ป่วยละอองฟาง ปริมาณ 80 คน กรุ๊ปหนึ่งรักษาด้วยการใช้การรับประทานผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของนมผึ้งและก็อีกกลุ่มรับประทานยาหลอกเป็นเวลา 3-6 เดือน และตราบจนกระทั่งจะหมดฤดูของเกสรดอกไม้ พบว่าทั้ง 2 กลุ่มยังคงเจอลักษณะของไข้ละอองฟาง แล้วก็มีระดับความร้ายแรงของอาการที่ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก จากผลการค้นคว้าอาจพูดได้ว่านมผึ้งบางทีอาจไม่มีความสามารถต่อการดูแลและรักษาไข้ละอองฟางและไม่สามารถทุเลาอาการต่างๆให้ได้ ก็เลยยังจึงควรเล่าเรียนเสริมเติมเกี่ยวกับคุณภาพของนมผึ้งสำหรับเพื่อการรักษาไข้ละอองฟางที่กระจ่างเพิ่มขึ้น
ความปลอดภัยสำหรับเพื่อการกินนมผึ้ง
การกินนมผึ้งออกจะไม่มีอันตรายแม้กินในจำนวนที่สมควร แต่ก็ได้โอกาสที่จะเป็นผลข้างเคียงได้ ตัวอย่างเช่น เลือดออกในลำไส้ เจ็บท้อง หรือถ่ายเป็นเลือด ฯลฯ บางรายหากมีลักษณะอาการแพ้อย่างรุนแรงอาจจะทำให้มีลักษณะอาการโรคหอบหืด คอบวม หรือถึงกับตาย ทั้งการใช้นมผึ้งทาที่บริเวณผิวหนังออกจะไม่เป็นอันตราย แม้กระนั้นไม่สมควรทาบริเวณหนังศีรษะเพราะอาจจะส่งผลให้เกิดอาการแพ้ ผื่นคัน หรือมีอาการอักเสบ

Tags : นมผึ้ง,royal jelly,นมผึ้งสรรพคุณ

 

Sitemap 1 2 3