เชื่อฟังแหวบัดนี้มีพ่อแม่ผลรวมมากที่แยกออกจุดสำคัญกับการมีคาร์ซีทของเจ้าตัวเล็กเข้าประจำที่อยู่ชั้นในรถ เพื่อซื้อความปลอดภัยให้ลูกน้อยกันทวีคูณ เพราะว่าในสมัยปัจจุบันระยะนี้ก็เป็นที่ประจักษ์แจ้งกันดีว่าการกินคาร์ซีทในรถยนต์ หรือไม่ก็ที่นั่งสำหรับเด็กนั้น มีความสะดวกมากกว่าการอุ้มลูกไว้ในตักล้นหลามนัก ถ้าแม้ว่าผู้อุ้มจะเป็นบิตุรงค์ม้าไม่ใช่หรือผู้อาวุโสก็ตามที เพราะว่าในการเกิดเทกระจาด ย่อมเป็นสถานการณ์ที่เราไม่ทันการได้ตั้งตัวทั้งผอง ครั้นแล้วการคุ้มกันอาจจะเป็นไปได้ไมาม่ากเท่าที่ควร ซึ่งที่ผ่านมาสื่อต่าาง ๆ ก็ได้เคยเล่าข้อดีไม่ใช่หรือเหตุผลต่าง ๆ ของการมีคาร์ซีทเอาไว้ในรถกันมาบ้างพอควรแล้ว แต่ก็ยังพบว่ามีอีกหลายครอบครัวทีเดียวที่ยังอาจมองข้ามความปลอดภัยตรงนี้ไป แต่จนกระทั่งมีคาร์ซีทในรถแล้ว การวางคาร์ซีทก็เป็นส่วนที่ประธานเช่นเดียวกัน เนื่องจากบางคนยังไม่รู้ว่า ต้องติดตั้งยังไงให้ถูกต้อง วันนี้ทางเราจึงขอนำคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับการเข้าประจำที่คาร์ซีทให้เป็นธรรมพร้อมทั้งพ้นภัยที่สุดมาไหว้วานกันจ๋า ไปดูกันคะ
1. คาร์ซีทก็จะมีกฎเกณฑ์ของการหันหน้า-หันหลัง เพราะว่าโดยทั่วไป ข้าพเจ้าก็จะคิดว่าเหมาะสมหันหน้าไปทางหน้ารถ แต่ตามข้อแนะนำของสถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งสหรัฐฯนั้น แนะว่า “เด็กอ่อน” พึงเข้าประจำที่คาร์ซีทโดยหันหน้าไปทางหาง จนกว่าจะวัย 2 ขวบ หรือส่วนสูงและน้ำหนักถึงเกณฑ์ ส่วนหนึ่งส่วนใดก็เนื่องจากคอของทารกยังไม่ค่อยเข้มแข็ง ถ้าแม้รถมีการเบรกอย่างแรงอาจเป็นวิกฤติต่ออคอและตัวเด็กได้ค่ะ แต่วิธีนี้คงจะเป็นเหตุให้เจ้าตัวเล็กร้องโวยวายได้ เพราะว่าเขาจะมองไม่เห็นหน้าพ่อแม่ของเขา โดยเหตุนั้น พ่อแม่อย่างเราก็ควรควบคุมใจเย็นๆ ไว้นะคะ หาของเล่นเด็กที่มีเสียงกรุ๋งกริ๋งติดรถไว้บ้างขา
2. มิควรเข้าประจำที่คาร์ซีทไว้ที่เบาะหน้าทนของรถ เพราะหากปรากฏคว่ำ ถุงลมนิรภัยถิ่นที่จะพองออกมาศักยทำให้ลูกได้รับปากเหยี่ยวปากกาได้จ้ะ ด้วยเหตุนั้น ทางที่ปลอดภัยที่สุดจึงชอบเป็นการประดิษฐานที่เบาะข้างหลังจะดีกว่าขา
3. จักควรรัดสายรัดเอวอย่างชำนาญ นัยอีกชนิดหนึ่งของการมีคาร์ซีทนั้นก็คือ การรัดสายรัดเอวค่ะ เมื่อจัดให้ลูกนั่งได้งามแล้ว ควรจะพึงจงระวังในการคาดสายรัดเอวอย่างถูกวิธีการ มิควรปลงให้สายคาดทูมทามเกินไป เพราะจะไม่ไหวช่วยปกป้องลูกจากอุบัติเหตุ เข็มขัดไม่ต้องหลวมเกินสอดนิ้วได้นิ้วเดียว สายคาดอกน่าจะคาดอยู่บนอก พร้อมทั้งเครื่องมือต่างๆ เหมาะอยู่ในที่ที่โดนออกแบบมานะคะ
4. ควรอ่านหนังสือก่อนประดิษฐานนะคะ ก็เพราะว่าการติดตั้งคาร์ซีท คงจะเป็นถ้อยคำยากซักหน่อย ว่าสายใดต้องอยู่ตรงไหน เพราะฉะนี้จึงชอบอ่านพร้อมทั้งวางตนตามคู่มืออย่างเคร่งครัด เพื่อสวัสดิภาพสูงสุดของเจ้าตัวน้อย และลองขยับเบาะหลังการประดิษฐานดูนะคะ ถ้าหากติดตั้งได้เที่ยงธรรม คาร์ซีทจะเปล่าควรขยับได้เกิน 1 นิ้วในทุกทิศทางจ๋า
5. ต้องเลือกตั้งเบาะของ Carseat ถวายเข้ากันกับวัย การเลือกตั้งจับจ่ายใช้สอย Carseat จำต้องเหนี่ยวจากการดีไซน์ว่าได้ที่กับวัย ส่วนสูง พร้อมทั้งน้ำหนักของลูกน้อยหรือไม่ พร้อมกับควรแลกพอลูกโตเกินวัยนั่งเบาะเก่า พร้อมด้วยเด็กแบเบาะก็พึงจะนั่งในที่นั่งด้วยแบเบาะเป็นพิเศษ
6. สมมติจำเป็นต้องที่จะสัมผัสซื้อ
คาร์ซีทมือสองควรตื่นสำหรับนะคะ ก็เพราะว่าคาร์ซีทก็มีพระชนมายุใช้ผลงานอย่างกับสินค้าอื่น ๆ ส่วนมากจะมีพระชนมายุใช้งานอยู่ที่ 6 ศักราช แต่หลายท่านที่มีงบประมาณจำกัดเนื่องด้วยพี่น้องอาจมองหา
คาร์ซีทมือสอง จักต้องวิเคราะห์ของให้ถ้วนถี่นะคะ ว่ามีส่วนใดแตกหัก แตกสลาย บ้างหรือเปล่า รวมถึงเครื่องใช้ไม้สอยต่าง ๆ ที่จะมากับคาร์ซีทว่าอยู่ครบหรือไม่ ก็เพราะว่าอาจข้องแวะกับสวัสดีข้าวของบุตรเราได้
ด้วยกันนี่คือแบบการติดตั้งที่ชอบ ป๋ามาดาแตะต้องวางเบาะอย่างถูกวิธีเพื่อลูกน้อย เกี่ยวกับสวัสดิภาพสำหรับเจ้าลูกเล็กกันนะคะ
เครดิตบทความจาก :
http://www.orthoinsf.com/index.php?topic=387050.new#newTags : เป้อุ้ม,เปลเด็ก
