ผู้เขียน หัวข้อ: มูลนิธิเพื่อรัก อาการเอดส์เชียงใหม่ Lovefoundation ด้วยเหตุว่ามีคุณในวันนั้น ฉัน  (อ่าน 218 ครั้ง)

jackbaristaa

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2210
    • ดูรายละเอียด
Lovefoundation เพราะมีเธอในวันนั้น ฉันก็เลยยิ้มได้ในวันนี้
.
ขั้นแรก ฉันขอกล่าวคำกล่าวขอบคุณแก่มูลนิธิเพื่อรัก อาการเอดส์เชียงใหม่ Lovefoundation สำหรับในการประสานมือพาดิฉันให้เดินก้าวผ่านเรื่องร้ายที่สุดในชีวิต กระทั่งสามารถที่จะมานั่งยิ้มแป้นหน้าบาน เล่าของตัวเองอยู่นี้
.

.
ขอเริ่มเรื่องด้วยการเล่าเรื่องราวของตัวเองให้เพื่อนๆได้รับฟังกันก่อนนะค่ะ ดิฉันได้รับรู้ข่าวการเจ็บป่วยของพี่ชายจากพี่สะใภ้ที่อยู่กินกับพี่ชายมาประมาณ 2 ปี ซึ่งก่อนหน้าที่ผ่านมาจำต้องเห็นด้วยพี่ชายของฉันเจ้าชู้มาก พูดได้ว่าติดอยู่สโนว่าตัวพ่อเลยยังได้ ในวันที่ฉันไปถึงโรงพยาบาลพี่ชายรักษาตัวอยู่ และได้รับรู้ว่าพี่ชายเป็นเชื้อไวรัสบี แม้กระนั้นสภาพที่มองเห็นมันน่าตกใจมากมาย เพราะพี่ชายมองหดหู่มากกว่าธรรมดา ดิฉันเข้าไปคุยกับหมอ เพื่อแจ้งเหตุประสงค์จะพาตัวพี่ชายกลับไปรักษาที่โรงหมอใกล้บ้าน เพื่อได้ช่วยเหลือกันพลัดแปลงมาดูแล ด้วยเหตุว่าในขณะนี้พี่สะใภ้กินนอนในโรงพยาบาลร่วม1เดือน ไม่ได้ทำหน้าที่การงาน ทรัพย์สินก็เริ่มขัดสน แพทย์ก็เลยขอคุยกับดิฉันสำหรับการปฏิบัติต่อผู้เจ็บป่วย
หมอแจ้งว่าอาการที่เป็นอยู่สามารถกลับไปอยู่บ้านได้เลย ไม่ต้องนอนโรงพยาบาลแต่ว่าต้องทำตามที่หมอเสนอแนะ จากนั้นหมอก็เรียกให้ดิฉันไปพบพยาบาลที่แผนกให้คำปรึกษา พยาบาลถามคำถามว่าฉันได้คุยอะไรกับผู้เจ็บป่วยบ้าง ดิฉันเริ่มงงเพราะว่าไม่รู้เรื่องในสิ่งที่พยาบาลบอก คือด้วยสิทธิของคนป่วย หากสติของคนเจ็บยังบริบูรณ์ทุกสิ่ง แพทย์ต้องแจ้งกับคนป่วยโดยตรงถึงอาการเจ็บป่วยไข้ แต่ว่าในกรณีนี้ พยาบาลขอทำผิดสิทธิมนุษยชนสักครั้งนึง โดยการแจ้งให้ญาติของคนป่วยทราบถึงลักษณะการป่วย ทั้งๆที่คนเจ็บไม่ยินยอม แต่หมอและก็พยาบาลสรุปแล้วว่า ถ้าไม่มีผู้ใดทราบจะยิ่งมีอันตรายกับคนป่วย จึงตกลงใจคุยกันเป็นการส่วนตัว
.

.
และก็ในที่สุดพยาบาลก็แจ้งให้ดิฉันรู้ดีว่า พี่ชายติดโรค HIV ช็อกค่ะยอมรับเลย ถึงแม้ว่าจะทราบดีว่าเขาเป็นคนหัวงู แต่ไม่คิดว่าไอ้โรคบ้านี่จะมาอยู่ใกล้ครอบครัวเรามากขนาดนี้ พวกเราเคยได้ฟังคนนั้นเป็นคนนี้เป็น ก็ไม่ได้ตกระกำลำบากอะไร เนื่องจากเป็นบุคคลอื่นไงจ้ะ แต่ว่าเพียงพอเป็นคนในครอบครัวช็อกมากมายจ้ะบอกเลย พยาบาลแนะนำการดูแลและปฏิบัติตนต่อผู้ป่วยให้ละเอียด รวมทั้งจ่ายยาถุงใหญ่มาก เป็นแค่เห็นยาก็เดาได้เลยว่าโรคนี้ไม่ดีเหมือนปกติแน่นอน
หลังจากนั้นพยาบาลก็แนะนำต่อว่าต่อขานให้ดิฉันคุยกับพี่สะใภ้เพื่อเข้ารับการตรวจแต่เนิ่นๆเพื่อวางแผนการรักษาที่ถูกต้องแล้วก็สามารถที่จะดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกันคนอื่นๆได้ตามธรรมดา ฉันก็ผงกศีรษะทราบ แต่ในสมองทำงานมากมากว่าจะพูดหัวข้อนี้ได้เช่นไร อนาคตพี่สะใภ้จะคืออะไร ถ้าเกิดเขารับได้ก็ดีไป แต่ว่าถ้าเขารับมิได้ขึ้นมาเกิดคิดสั้น บาปหนาที่สุดก็อาจจะเป็นเรา เพราะว่ามันเท่ากับพวกเราเป็นคนฆ่าเขาเองกับมือ แต่ว่าถ้าเกิดไม่บอกชีวิตที่เหลือต่อจากนี้ของพี่สะใภ้จะเป็นยังไง ดิฉันวนเวียนคิดจำเจตราบจนกระทั่งพาพี่ชายกลับมาถึงที่หน้าบ้าน
พี่ชายดำเนินชีวิตแบบคนเจ็บที่หมดกำลังใจที่สุดตั้งแต่เคยได้เห็นมา เขาไม่ยอมรับประทานอะไรเลยไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นของกินที่เขาเคยถูกใจ อย่างยิ่งที่สุดก็คือ นมสักอึกสองอึก น้ำส้มคั้นอีกนิดนึง แล้วก็มีสีหน้ากังวลใจอยู่ตลอดระยะเวลา บางครั้งบางคราวเขามองหน้าพี่สะใภ้แบบขอโทษทางสายตา ถ้าเกิดคนไม่สนิทอาจไม่เคยทราบว่านี่เป็นสายตาแห่งความเศร้าใจ แม้กระนั้นฉันมองออกเนื่องจากว่าเราสองพี่น้องสนิทกันมาก ดิฉันมิได้บอกเรื่องพี่ชายติดเชื้อกับคนใดกันแน่เลย ต่อให้สามี เพราะเหตุว่ากลัวว่าเขาจะเกลียดชังพี่ชายของพวกเรา ได้แม้กระนั้นเก็บทุกอย่างไว้ในดวงใจ พอเพียงมีเวลาว่างก็เปิดอ่านขั้นตอนการรักษาและก็ดูแลคนป่วยติดเชื้อโรคHIV จากอินเตอร์เน็ต พอจะได้ความทราบมาบ้าง แต่ก็มิได้กระทำตามขั้นตอนที่ถูกมากเท่าไรนัก กลัวพี่สะใภ้สงสัย เลยทำเนียนไป
.

.
ต่อไปราวๆ 1 อาทิตย์ พี่สะใภ้ขอกลับไปเยี่ยมบ้าน เพราะเหตุว่าทางนู้นก็มีแต่คุณพ่อกับคุณแม่ที่แก่มากมายแล้ว ดิฉันก็เห็นด้วย เพราะว่าตั้งแต่พี่ชายป่วยไข้ พี่สะใภ้ก็ไม่เคยได้นอนเต็มตามานานเป็นเดือน ต้องการให้คุณได้พักผ่อนบ้าง เมื่อเธอกลับไปอยู่ที่บ้านไปแล้ว ดิฉันก็สามารถคุยกับพี่ชายอย่างเปิดเผยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเนื่องจากเรารู้ๆกันอยู่ถึงอาการโรคที่เป็นอยู่
แต่ว่าสุดท้ายเวลาที่ไม่เคยคาดการณ์ก็มาถึง ภายหลังจากพี่สะใภ้กลับไปอยู่บ้านไปประมาณ 3 วันพี่ชายดูเหมือนจะคลายความกังวลไปได้บ้างแต่ก็ยังไม่ยอมรับประทานอะไรอย่างเดิม จวบจนกระทั่งยามเช้าวันนั้นฉันบอกพี่ชายว่าจะไปส่งลูกที่สถานที่เรียน และก็บางครั้งอาจจะแวะซื้อกับข้าวนิดหนึ่งไม่เกิน ครึ่งชั่วโมงก็กลับมา ถ้าหากอยากได้อะไรให้กดกระดิ่งเรียกลูกพี่ลูกน้องที่บ้านติดกัน ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ดิฉันกลับมาถึงบ้าน ปรากฏว่าพี่ชายเสียชีวิตแล้วค่ะ จากไปแบบราวกับคนนอนปกติ ดิฉันช๊อกมากมาย งงงวยไปหมดโทรหาสามี พี่สาวและก็แม่ ว่าพี่ชายไม่มีแล้วให้ทุกคนรีบมา แม่สะดุ้งและเสียใจมากมายรีบนั่งรถยนต์กลับมาบ้านโดยทันที(แม่ไปดำเนินงานกับญาติที่ชนบท) และก็ฉันก็แจ้งข่าวร้ายนี้กับพี่สะใภ้ พี่สะใภ้เศร้าใจอย่างที่สุด พร่ำบอกเพียงว่า เพราะเหตุใดพี่ไม่รอคอยพบคุณก่อน แล้วก็ร้องไห้ตลอดเวลา จนตราบเท่างานฌาปนกิจศพผ่านไป ญาติๆถามถึงอาการป่วย ว่าพี่ชายเป็นอะไรถึงเสียชีวิต ฉันตอบไปแบบส่งๆว่า เป็นไวรัสตับ จบแค่นั้น
ภายหลังจากงานศพผ่านไปจวบจนกระทั่งผ่านไปหนึ่งเดือน ฉันเครียดกับเรื่องราวของพี่ชายมาก หลับตาเห็นแต่พี่สะใภ้ร้องไห้ตลอดงานฌาปนกิจศพ ในสมองคิดเพียงว่าจะทำยังไงดี จะบอดคุณอย่างไรดี จะทำยังไงกับชีวิตคุณถัดไปจากนี้ดี คิดหลายๆครั้ง เคยโทรศัพท์ไปหา ก็ไม่กล้าบอก เคยพูดวกวนๆว่า โรคเชื้อไวรัสตับบางทีอาจติดทางการสัมผัสได้ให้ทดลองไปตรวจร่างกายมอง พี่สะใภ้ก็ไปตรวจแต่ว่าไม่พบอะไร จนกระทั่งกระทั้งรู้มาว่า การตรวจเชื้อ HIV เป็นการตรวจแบบพิเศษ จำต้องตรวจแบบระบุจึงจะมีการตรวจให้ เป็นเวลาตรวจจำเป็นต้องกำหนดไปเลยว่าตรวจเชื่อตัวนี้ สถานพยาบาลก็เลยจะตรวจให้ แต่เนื่องจากว่าพี่สะใภ้ไม่เคยรู้เรื่องไอ้โรคบ้าโรคบอนี่เลย ก็เลยไม่ได้แจ้งตอนไปตรวจ แล้วดิฉันจะกล่าวอย่างไร ฉันจะทำยังไง เพื่อให้เธอรู้ตัวและก็ได้เริ่มทำรักษา ด้วยเหตุว่าเคยได้ยินมาว่า หากทราบดีว่าเป็นเร็วก็รักษาก้าวหน้า และก็อาจมีอายุอยู่ได้แบบยาวๆแบบคนธรรมดา แม้กระนั้นเพียงพอเอาจริงๆก็ไม่กล้าพูด กลัวเขาโกรธ กลัวเขาไม่ชอบ กลัวเขาตาย ก็เขาจะแช่งที่ครอบครัวเราสร้างความเดือดร้อนให้ครอบครัวเขา เชื่อไหมค่ะ ว่าจากคนไม่ค่อยชอบเข้าวัดทำบุญสุนทาน ดิฉันแปลงเป็นผู้ที่ต้องไปวัดเมื่อใดก็ตามได้โอกาส ไปนั่งนิ่งๆหน้าพระ เผื่อจะมีทางออกตามความเลื่อมใสทางพุทธศาสนา เครียดจ้ะ เครียดมากมาย เช่นเดียวกับพวกเรากำลังฆ่าคนอย่างใจร้ายยังไงยังงั้น ฉันไม่คุยไม่ยิ้มกับผู้ใดกันแน่เลยนานยาวนานหลายเดือนทีเดียวค่ะ มันเครียด เพราะเหตุว่าพวกเรากำลังฆ่าผู้บริสุทธิ์ให้ตายอย่างโหดร้ายที่สุด
.

.
เวลาเครียดมากมายๆก็อาศัยการอ่านเรื่องร่าวต่างๆในเน็ตว่าผู้ใดกันพอเพียงจะมีเคสเหมือนเราบ้าง คนไหนจะช่วยพวกเราได้บ้าง จนกว่า ฉันได้พบกับเว็บไซต์ ตรวจเลือดเชียงใหม่ www.Lovefoundation.or.th และก็คณะทำงานที่มีความรู้ในเรื่องการประพฤติตนต่อผู้ติดเชื้อHIVอย่างถูกแนวทาง ด้วยความรักรวมทั้งความรู้ความเข้าใจ ฉันตกลงใจโทรไปถามทางออกจากเขา ว่าจะทำอย่างไรก็เคสของพี่สะใภ้ดี เพราะมันเป็นความเป็นความตายของเธอเลยทีเดียว
ทางทีมงานแนะนำให้ดิฉันพูดความจริง บอกทั้งปวง บอกให้คุณได้รับรู้ว่าพวกเราหวังดีกับคุณมากเพียงไร แล้วก็พาเธอไปตรวจที่คลีนิกนิรนามก็ได้ แล้วหากผลออกมาเป็นบวก เธอก็จะได้รับข้อเสนอการรักษาที่ถูกต้องในกรรมวิธีทางการแพทย์ หรือถ้าเกิดเป็นไปได้ ให้ชวนคุณมาเที่ยวที่มูลนิธิเพื่อรัก ซึ่งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อที่มูลนิธิเพื่อรัก จะได้ทำหน้าที่สำหรับเพื่อการพูดคุยแทนเราตรงนั้น รวมทั้งที่นี่ยังมีบริการตรวจค้นเชื้อ HIV ที่สามารถรู้ผลได้ข้างใน 30 นาที อีกทั้งหากเจอผลบวกจริง ทางคณะทำงานพร้อมที่จะช่วยดูดซับพอร์ตทั้งหมดทุกอย่าง เพื่อเรื่องที่หนักอึ้งเปลี่ยนเป็นเรื่องเบาบางลงไปได้
ดิฉันตกลงใจแบบไม่ต้องถามความเห็นจากคนใด โทรหาพี่สะใภ้รวมทั้งเชิญชวนไปจังหวัดเชียงใหม่ทันที ซึ่งเธอก็ตกลง พวกเราตกลงใจไปมูลนิธิเพื่อรักตามข้อเสนอแนะของทีมงาน จนถึงปัจจุบันนี้ดิฉันก็ยังไม่กล้าบอกเธออยู่ดีว่าเป้าประสงค์ที่จริงจริงเป็นอย่างไร ได้แม้กระนั้นภาวนาว่าขอให้คุณรับให้ได้ทุกเหตุการณ์ด้วยเถอะ
พอไปถึงมูลนิธิ เจ้าหน้าที่เข้ามาต้อนรับพวกเราอย่างดีจ้ะ พี่สะใภ้เริ่มประหลาดใจนิดนึง แต่ว่าก็มิได้ไม่สามารถพูดได้ถามอะไรเพิ่ม และทีมงานของมูลนิธิก็พุดคุยถึงที่ไปที่มาของมูลนิธิเพื่อรัก และสุดท้ายก็ถึงเวลาแห่งนาทีที่โลกกำลังจะแตก คณะทำงานได้เสวนาถึงเรื่องของพวกเรา ว่าเรามาตรงนี้กันเพราะเหตุไร พี่สะใภ้ช๊อกค่ะ ช๊อกมากมาย เธอหน้าซีดกระทั่งฉันตระหนกตกใจ แต่ว่าจำต้องสารภาพในความเป็นมืออาชีพของทีมงานจ้ะ เนื่องจากเขาสามารถควบคุมสถานการณ์อยู่ คณะทำงานยังปฏิบัติภารกิจปรับทรรศนะคติต่อไป แล้วก็พูดคุยอย่างธรรมดากับพี่สะใภ้ เสมือนการสนทนาเรื่องทั่วๆไปกับเพื่อนเกลอ เรื่องราวเนื้อหาต่างๆถูกถ่ายทอดออกมาราวกับเป็นสิ่งปกติที่เราสามารถพบเจอได้ทุกเมื่อเชื่อวัน เสมือนการไม่สบายหวัดทั่วๆไป ก็แค่ไข้อย่างนี้มันป่วยที่จำต้องดูแลตัวเองมากมายเป็นพิเศษ เจ็บป่วยที่จะต้องทำร่างกาย จิตใจ ให้อดทนและต้องแข็งแรงมากมายๆเพื่อจะสามารถเอาชนะมันได้
พี่สะใภ้ฟังอยู่นานตราบจนกระทั่งตัดสินใจตรวจค่ะ คุณยอมตรวจแต่ว่าโดยดี และปรากฏว่าเป็นไปเหมือนอย่างที่คิดจ้ะ คุณติดเชื้อHIV แม้กระนั้นภาวะของเธอผิดกับพี่ชายของดิฉันมากมาย เธอมองนิ่งกว่า รวมทั้งมองมีสติสัมปชัญญะกว่ามาก บางครั้งก็อาจจะเกิดขึ้นจากความสามารถของทีมงานรักษาเอดส์ Lovefoundation ก็เป็นได้ ที่ทำให้คุณสงบและเย็นได้ถึงขนาดนี้ เพราะเหตุว่าถ้าเป็นตัวดิฉันเองคาดว่าน่าจะสติแตกแน่ๆค่ะ ส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นเนื่องจากพี่สะใภ้อาจไม่มีลูกที่ควรเป็นห่วง จะมีก็เพียงบิดามารดา ซึ่งเป็นข้อแม้ที่คณะทำงานใช้สำหรับในการชักชวนให้พี่สะใภ้เข้มแข็งและสารภาพเรื่องจริง เพื่อวางแผนการรักษาที่ดีและมีคุณภาพ เพื่อที่เธอจะได้อยู่ดูแลบิดาแล้วก็แม่ที่แก่ตัวของคุณได้อีกนานๆแบบไม่ต้องกังวลกับโรคเลยแม้กระทั้งนิดนึง
ที่ Lovefoundation อาการเอดส์เชียงใหม่ หรือมูลนิธิเพื่อรัก นอกเหนือจากการที่จะความรู้ความเข้าใจในการกู้สถานการณ์อันชั่วร้ายได้ดีเยี่ยมแล้ว ทางคณะทำงานยังเป็นมืออาชีพในประเด็นการประพฤติตนต่อคนเจ็บทุกคนด้วยความรักจริงๆจ้ะ เข้ามาตรงนี้ ไม่มีใครทำตัวราวกับคนป่วยเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากว่าทุกคนดูยิ้มแย้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เดินเข้าออกทักกันเสมือนเพื่อนเกลอ บอกตามตรงว่าดูไม่ออกเลยค่ะว่านี้คือผู้ตำหนิเชื้อHIV แล้วก็เวลานี้พี่สะใภ้ที่น่าสงสารที่สุดในโลก ก็กำลังเป็นอย่างงั้นอยู่จ้ะ เธอกำลังเสวนากับเจ้าหน้าที่อย่างมีรสออกชาติ ไม่ถูกกับภาพที่ดิฉันคิดเอาไว้อย่างสิ้นเชิง
.

.
สรุปแล้วคนที่โง่เขลาเบาปัญญาและก็หงุดหงิด มีเพียงแค่ดิฉันผู้เดียวแค่นั้น เนื่องจากขนาดผู้ที่ประสบเจอกับปัญหาเองยังคุยกับทีมงานได้อย่างมีความสุขเฉิบ รู้อย่างงี้ พาคุณมาซะตั้งแต่วันแรกแล้วจ้ะ ไม่คิดว่ามันจะง่ายขนาดนี้ จำเป็นต้องกราบขอบพระคุณคณะทำงาน รักษาเอดส์ อย่างจริงใจจ้ะ เนื่องจากมีพวกท่านนี่แหละจ้ะ ดิฉันจึงกลับมาเป็นคนปกติแบบบุคคลอื่นเขาได้ และก็ในที่สุดฉันก็รู้เรื่องซะคราวว่า ปัญหาทุกอย่างมีทางออกที่ดีอยู่เสมอขอแค่คุณใช้ความพากเพียรอีกนิดที่จะแสวงหามันให้เจอ และสุดท้ายฉันก็เจอ Lovefoundation เนื่องจากว่ามีคุณในวันนั้น ฉันจึงยิ้มได้ในวันนี้
.
สำหรับคนไหนกันแน่ที่พอใจรายละเอียดเกี่ยวกับตรวจเลือดเชียงใหม่ ขอข้อมูลติดต่อเหมาะนี่
Website รักษาเอดส์: http://lovefoundation.or.th

Tags : ตรวจเลือดเชียงใหม่,อาการเอดส์เชียงใหม่,รักษาเอดส์

 

Sitemap 1 2 3