ผู้เขียน หัวข้อ: มูลนิธิเพื่อรัก รักษาเอดส์ Lovefoundation เพราะมีเธอในวันนั้น ฉันจึงยิ้มได้ในวัน  (อ่าน 229 ครั้ง)

kkthai20009

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2548
    • ดูรายละเอียด
Lovefoundation เนื่องจากว่ามีเธอในวันนั้น ฉันก็เลยยิ้มได้ในวันนี้
.
ตอนแรก ฉันขอกล่าวคำขอบคุณแก่มูลนิธิเพื่อรัก รักษาเอดส์ Lovefoundation สำหรับการประสานมือพาดิฉันให้เดินก้าวผ่านเรื่องร้ายที่สุดในชีวิต จนถึงสามารถที่จะมานั่งยิ้มแป้นหน้าบาน เล่าของตัวเองอยู่ตรงนี้
.

.
ขอเริ่มเรื่องด้วยการเล่าเรื่องราวของตนเองให้เพื่อนพ้องๆได้รับฟังกันก่อนนะจ้ะ ดิฉันได้รับรู้ข่าวการเจ็บป่วยของพี่ชายจากพี่สะใภ้ที่อยู่รับประทานกับพี่ชายมาราวๆ 2 ปี ซึ่งที่ผ่านมาจะต้องสารภาพพี่ชายของฉันเจ้าชู้มาก เรียกได้ว่าติดอยู่สโนว่าตัวพ่อเลยยังได้ ในวันที่ฉันไปถึงโรงหมอพี่ชายรักษาตัวอยู่ รวมทั้งได้ทราบว่าพี่ชายเป็นไวรัสบี แต่สภาพที่เห็นมันน่าตกใจมากมาย เนื่องจากว่าพี่ชายดูหมดหวังมากยิ่งกว่าปกติ ฉันเข้าไปคุยกับหมอ เพื่อแจ้งเหตุต้องการจะพาตัวพี่ชายกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อได้ช่วยกันพลัดแปลงมาดูแล เนื่องจากในเวลานี้พี่สะใภ้กินนอนในโรงพยาบาลร่วม1เดือน ไม่ได้ทำการทำงาน เงินทองก็เริ่มฝืดเคือง หมอจึงขอคุยกับฉันสำหรับการปฏิบัติต่อคนเจ็บ
หมอแจ้งว่าอาการที่เป็นอยู่สามารถกลับบ้านได้เลย ไม่ต้องนอนโรงพยาบาลแม้กระนั้นจำต้องกระทำตามที่หมอเสนอแนะ แล้วหมอก็เรียกให้ฉันไปพบพยาบาลที่แผนกให้คำปรึกษา พยาบาลถามคำถามว่าดิฉันได้คุยอะไรกับผู้ป่วยบ้าง ฉันเริ่มงวยงงเพราะเหตุว่าไม่เข้าใจในสิ่งที่พยาบาลบอก เป็นด้วยสิทธิของคนไข้ ถ้าหากสติของผู้เจ็บป่วยยังสมบูรณ์ทุกสิ่งทุกอย่าง หมอควรต้องแจ้งกับคนไข้โดยตรงถึงลักษณะการเจ็บป่วย แม้กระนั้นในกรณีนี้ พยาบาลขอทำผิดสิทธิมนุษยชนสักหนึ่งครั้งนึง โดยการแจ้งให้ญาติของผู้ป่วยทราบถึงลักษณะการป่วย ในขณะที่คนไข้ไม่ยินยอม แม้กระนั้นแพทย์และก็พยาบาลสรุปแล้วว่า หากไม่มีผู้ใดรู้จะยิ่งทำให้เป็นอันตรายกับคนเจ็บ จึงตัดสินใจคุยกันเป็นการส่วนตัว
.

.
และในที่สุดพยาบาลก็แจ้งให้ฉันทราบว่า พี่ชายติดเชื้อ HIV ช็อกจ้ะสารภาพเลย ถึงจะรู้ว่าเขาเป็นคนหัวงู แต่ว่าไม่คิดว่าไอ้โรคบ้านี่จะมาอยู่ใกล้ครอบครัวเรามากมายขนาดนี้ พวกเราเคยรับรู้คนนั้นเป็นคนนี้เป็น ก็ไม่ได้ตกระกำลำบากอะไร เพราะเหตุว่าเป็นผู้อื่นไงจ้ะ แม้กระนั้นพอเป็นคนภายในครอบครัวช็อกมากค่ะบอกเลย พยาบาลแนะนำการดูแลและปฏิบัติตัวต่อผู้ป่วยอย่างระมัดระวัง และจ่ายยาถุงใหญ่มาก เป็นเพียงแค่มองเห็นยาก็เดาได้เลยว่าโรคนี้ผิดปกติแน่นอน
ต่อจากนั้นพยาบาลก็แนะนำต่อว่าต่อขานให้ดิฉันคุยกับพี่สะใภ้เพื่อให้เข้ารับการตรวจแต่ว่าเนิ่นๆเพื่อวางแผนรักษาที่ถูกรวมทั้งสามารถที่จะดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันคนอื่นๆได้ตามปกติ ฉันก็พยักหน้าทราบ แต่ในสมองทำงานมากมากว่าจะบอกเรื่องนี้ได้อย่างไร อนาคตพี่สะใภ้จะเป็นยังไง หากเขารับได้ก็ดีแล้วไป แต่ถ้าหากเขารับมิได้ขึ้นมากำเนิดคิดสั้น ผู้ที่บาปหนาที่สุดก็อาจจะเป็นพวกเรา เพราะว่ามันพอๆกับพวกเราเป็นคนฆ่าเขาเองกับมือ แต่ถ้าเกิดไม่บอกชีวิตที่เหลือถัดจากนี้ของพี่สะใภ้จะเป็นอย่างไร ดิฉันวนเวียนคิดจำเจจนกว่าพาพี่ชายกลับมาถึงที่หน้าบ้าน
พี่ชายดำเนินชีวิตแบบคนไข้ที่หม่นหมองที่สุดตั้งแต่เคยได้เห็นมา เขาไม่ยอมรับประทานอะไรเลยไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอาหารที่เขาเคยชอบ อย่างมากที่สุดก็คือ นมสักอึกสองอึก น้ำส้มคั้นอีกนิดหนึ่ง รวมทั้งมีสีหน้าตื่นตระหนกอยู่ตลอดเวลา บางทีเขามองหน้าพี่สะใภ้แบบขอโทษทางสายตา หากคนไม่สนิทอาจไม่รู้จักว่านี่เป็นสายตาที่ความเสียใจ แม้กระนั้นฉันมองออกด้วยเหตุว่าพวกเราสองลูกพี่ลูกน้องสนิทกันมาก ฉันมิได้พูดเรื่องพี่ชายติดเชื้อกับคนไหนเลย ถึงแม้ว่าจะสามี เพราะว่ากลัวว่าเขาจะรังเกียจพี่ชายของเรา ได้แต่ว่าเก็บทุกๆสิ่งทุกๆอย่างไว้ในใจ พอเพียงมีเวลาว่างก็เปิดอ่านกรรมวิธีการรักษาและก็ดูแลคนไข้ติดเชื้อโรคHIV จากอินเตอร์เน็ต พอเพียงจะได้การทราบมาบ้าง แม้กระนั้นก็ไม่ได้กระทำตามขั้นตอนที่ถูกมากสักเท่าไรนัก กลัวพี่สะใภ้สงสัย เลยทำเนียนไป
.

.
หลังจากนั้นประมาณ 1 อาทิตย์ พี่สะใภ้ขอกลับไปเยี่ยมบ้าน ด้วยเหตุว่าทางนู้นก็มีแต่ว่าพ่อกับแม่ที่แก่มากแล้ว ฉันก็เห็นด้วย เนื่องจากว่าตั้งแต่พี่ชายเจ็บไข้ พี่สะใภ้ก็ไม่เคยได้นอนเต็มตามานานเป็นเดือน อยากให้คุณได้พักผ่อนบ้าง เมื่อคุณกลับไปอยู่ที่บ้านไปแล้ว ดิฉันก็สามารถเสวนากับพี่ชายอย่างเปิดเผยมากยิ่งขึ้นเพราะว่าเราเข้าใจกันดีอยู่แล้วถึงลักษณะของโรคที่เป็นอยู่
แต่สุดท้ายตอนที่ไม่เคยคาดการณ์ก็มาถึง หลังจากพี่สะใภ้กลับบ้านไปราว 3 วันพี่ชายดูเหมือนจะความหนักใจลดลงไปได้บ้างแม้กระนั้นก็ยังไม่ยินยอมรับประทานอะไรดังเดิม จนตราบเท่าตอนเช้าวันนั้นฉันบอกพี่ชายว่าจะไปส่งลูกที่โรงเรียน และก็บางทีอาจจะแวะซื้อกับข้าวนิดหน่อยไม่เกิน ครึ่งชั่วโมงก็กลับมา ถ้าเกิดอยากอะไรให้กดกระดิ่งเรียกลูกพี่ลูกน้องที่บ้านชิดกัน ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ดิฉันกลับมาถึงหน้าบ้าน ปรากฏว่าพี่ชายเสียชีวิตแล้วค่ะ จากไปแบบราวกับคนนอนหลับธรรมดา ฉันช๊อกมากมาย งวยงงไปหมดโทรหาสามี พี่สาวและก็แม่ ว่าพี่ชายไม่มีแล้วให้ทุกคนรีบมา แม่ตระหนกตกใจและก็เศร้าใจมากรีบนั่งรถกลับมาบ้านในทันที(แม่ไปดำเนินงานกับพี่น้องที่บ้านนอก) และดิฉันก็แจ้งข่าวร้ายนี้กับพี่สะใภ้ พี่สะใภ้เศร้าใจอย่างที่สุด พูดพร่ำบอกเพียงว่า เพราะเหตุใดพี่ไม่รอคอยพบเธอก่อน แล้วก็ร้องไห้ตลอดระยะเวลา จนตราบเท่างานศพผ่านไป พี่น้องๆถามหาลักษณะการป่วย ว่าพี่ชายเป็นอะไรถึงเสียชีวิต ฉันตอบไปแบบมั่วๆว่า เป็นเชื้อไวรัสตับ จบเท่านั้น
ภายหลังจากงานศพผ่านไปจวบจนกระทั่งผ่านไปหนึ่งเดือน ดิฉันเครียดกับเรื่องราวของพี่ชายมาก หลับตามองเห็นแต่ว่าพี่สะใภ้ร้องไห้ตลอดงานศพ ในสมองคิดเพียงว่าจะทำอย่างไรดี จะบอดเธอยังไงดี จะทำอย่างไรกับชีวิตเธอถัดไปจากนี้ดี คิดแล้วคิดอีก เคยโทรศัพท์ไปหา ก็ไม่กล้าบอก เคยพูดอ้อมค้อมๆว่า โรคไวรัสตับบางทีอาจติดทางการสัมผัสได้ให้ทดลองไปตรวจร่างกายดู พี่สะใภ้ก็ไปตรวจแต่ไม่เจออะไร จนกระทั่งกระรู้มาว่า การตรวจเชื้อ HIV เป็นการตรวจแบบพิเศษ จำเป็นต้องตรวจแบบเฉพาะเจาะจงก็เลยจะมีการตรวจให้ คือเวลาตรวจจำเป็นต้องกำหนดไปเลยว่าตรวจเชื่อตัวนี้ สถานพยาบาลก็เลยจะตรวจให้ แม้กระนั้นด้วยความที่พี่สะใภ้ไม่เคยทราบเรื่องไอ้โรคบ้าโรคบอนี่เลย จึงไม่ได้แจ้งตอนไปตรวจ แล้วฉันจะกล่าวเช่นไร ฉันจะทำยังไง เพื่อให้คุณรู้สึกตัวรวมทั้งได้เริ่มกระทำการรักษา เนื่องจากเคยได้ยินมาว่า หากทราบว่าเป็นเร็วก็รักษาเจริญ และอาจมีอายุอยู่ได้แบบยาวๆแบบคนธรรมดา แม้กระนั้นเพียงพอเอาจริงๆก็ไม่กล้าพูด กลัวเขาโกรธ กลัวเขาชัง กลัวเขาตาย ก็เขาจะแช่งที่ครอบครัวเราสร้างความเดือดร้อนให้ครอบครัวเขา เชื่อไหมจ้ะ ว่าจากคนไม่ค่อยชอบเข้าวัดทำบุญ ฉันกลายเป็นผู้ที่ต้องไปวัดทุกครั้งที่มีโอกาส ไปนั่งนิ่งๆหน้าพระ เผื่อจะมีทางออกตามความศรัทธาทางพระพุทธศาสนา เครียดค่ะ เครียดมาก อย่างกับพวกเรากำลังฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยมอย่างไรแบบนั้น ฉันไม่คุยไม่ยิ้มกับผู้ใดกันเลยนานนับเป็นเวลาหลายเดือนทีเดียวค่ะ มันเครียด เพราะเรากำลังฆ่าผู้บริสุทธิ์ให้ตายอย่างเหี้ยมโหดที่สุด
.

.
เวลาเครียดมากมายๆก็อาศัยการอ่านเรื่องร่าวต่างๆในเน็ตว่าคนไหนกันแน่เพียงพอจะมีเคสราวกับเราบ้าง คนใดกันจะช่วยพวกเราได้บ้าง จนถึง ฉันได้พบกับเว็บ อาการเอดส์เชียงใหม่ www.Lovefoundation.or.th แล้วก็ทีมงานที่มีความเข้าใจในประเด็นการกระทำตนต่อผู้ติดเชื้อHIVอย่างถูกทาง ด้วยความรักและความเข้าใจ ฉันตัดสินใจโทรไปถามทางออกจากเขา ว่าจะทำอย่างไรก็เคสของพี่สะใภ้ดี เพราะว่ามันคือความเป็นความตายของคุณอย่างยิ่งจริงๆ
ทางทีมงานเสนอแนะให้ฉันพูดความจริง บอกทั้งหมดทั้งปวง พูดให้เธอได้รับรู้ว่าเราหวังดีกับคุณมากแค่ไหน และก็พาเธอไปตรวจที่คลีนิกนิรนามก็ได้ แล้วถ้าเกิดผลออกมาเป็นบวก คุณก็จะได้รับข้อเสนอแนะการดูแลรักษาที่ถูกในกรรมวิธีการทางด้านการแพทย์ หรือถ้าเกิดเป็นได้ ให้ชวนคุณมาเที่ยวที่มูลนิธิเพื่อรัก ซึ่งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อพื้นที่มูลนิธิเพื่อรัก จะได้ทำหน้าที่สำหรับการสนทนาแทนพวกเรานั่น แล้วก็ตรงนี้ยังมีบริการตรวจค้นเชื้อ HIV ที่สามารถรู้ผลตอบแทนด้านใน 30 นาที อีกทั้งถ้าเจอผลบวกจริง ทางทีมงานพร้อมที่จะช่วยดูดซับพอร์ตทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อให้เรื่องที่หนักอึ้งเปลี่ยนเป็นเรื่องเบาบางลงไปได้
ดิฉันตกลงใจแบบไม่ต้องถามความคิดเห็นจากผู้ใด โทรหาพี่สะใภ้และก็ชักชวนไปเชียงใหม่ในทันที ซึ่งเธอก็ตกลง เราตกลงใจไปมูลนิธิเพื่อรักตามข้อเสนอแนะของทีมงาน จนถึงปัจจุบันนี้ดิฉันก็ยังไม่กล้าบอกเธออยู่ดีว่าเป้าประสงค์ที่จริงจริงเป็นอย่างไร ได้แต่ภาวนาว่าขอให้เธอรับให้ได้ทุกเหตุการณ์ด้วยเหอะ
พอเพียงไปถึงมูลนิธิ ข้าราชการเข้ามาต้อนรับพวกเราอย่างดีจ้ะ พี่สะใภ้เริ่มงงงวยนิดนึง แม้กระนั้นก็ไม่ได้ไม่สามารถพูดได้ถามอะไรเพิ่ม และก็คณะทำงานของมูลนิธิก็พุดคุยถึงความเป็นมาของมูลนิธิเพื่อรัก และก็สุดท้ายก็ถึงเวลาที่นาทีที่โลกกำลังจะแตก คณะทำงานได้เสวนาถึงเรื่องของพวกเรา ว่าพวกเรามาที่นี่กันเพราะเหตุไร พี่สะใภ้ช๊อกค่ะ ช๊อกมาก เธอหน้าซีดจนฉันตกใจ แม้กระนั้นจะต้องสารภาพในความเป็นมืออาชีพของทีมงานจ้ะ เนื่องจากเขาสามารถคุมสถานการณ์อยู่ ทีมงานยังทำหน้าที่ปรับทรรศนะคติถัดไป และคุยอย่างปกติกับพี่สะใภ้ ราวกับการสนทนาเรื่องธรรมดากับเพื่อนสนิท เรื่องราวรายละเอียดต่างๆถูกถ่ายทอดออกมาเสมือนเป็นสิ่งปกติที่เราสามารถพบเจอได้ทุกๆวัน เสมือนการจับไข้หวัดทั่วๆไป เพียงไข้แบบนี้มันป่วยที่จำต้องดูแลตนเองมากเป็นพิเศษ ป่วยที่จำเป็นต้องทำร่างกาย จิตใจ ให้อดทนและก็จำต้องแข็งแรงมากมายๆเพื่อจะสามารถเอาชนะมันได้
พี่สะใภ้ฟังอยู่นานตราบจนกระทั่งตัดสินใจตรวจจ้ะ เธอยอมตรวจแต่ว่าโดยดี และปรากฏว่าเป็นไปอย่างที่คิดค่ะ เธอติดโรคHIV แม้กระนั้นภาวะของคุณผิดกับพี่ชายของฉันมากมาย คุณมองนิ่งกว่า แล้วก็มองมีสติกว่ามากมาย บางครั้งก็อาจจะมีสาเหตุมาจากฝีมือของคณะทำงานตรวจเลือดเชียงใหม่ Lovefoundation ก็เป็นได้ ที่ทำให้เธอสงบแล้วก็เย็นได้ถึงขั้นนี้ เพราะว่าหากเป็นตัวดิฉันเองคาดว่าน่าจะสติแตกแน่ๆค่ะ ส่วนหนึ่งเป็นเนื่องจากว่าพี่สะใภ้บางทีอาจไม่มีลูกที่ควรจะเป็นห่วง จะมีก็เพียงแค่บิดามารดา ซึ่งเป็นข้อแม้ที่ทางทีมงานใช้สำหรับการหว่านล้อมให้พี่สะใภ้อดทนแล้วก็สารภาพความจริง เพื่อวางแผนการรักษาที่ดีแล้วก็มีประสิทธิภาพ เพื่อที่เธอจะได้อยู่ดูแลบิดารวมทั้งแม่ที่แก่ตัวของเธอได้อีกนานๆแบบไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลหรือกลุ้มใจกับโรคเลยแม้แต่นิดเดียว
ที่ Lovefoundation รักษาเอดส์ หรือมูลนิธิเพื่อรัก นอกเหนือจากการที่จะความสามารถสำหรับเพื่อการกู้สถานการณ์อันไม่ดีได้ดีเยี่ยมแล้ว ทางทีมงานยังเป็นมืออาชีพในหัวข้อการกระทำตนต่อคนเจ็บทุกคนด้วยความรักจริงๆจ้ะ คนที่เข้ามาตรงนี้ ไม่มีใครทำตัวเหมือนผู้เจ็บป่วยเลยแม้แต่น้อย เพราะทุกคนดูยิ้มแย้มเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เดินเข้าออกทักกันราวกับเพื่อนสนิท บอกตามตรงว่าดูไม่ออกเลยค่ะว่านี้เป็นผู้ติเชื้อHIV แล้วก็เวลานี้พี่สะใภ้ที่น่าสังเวชที่สุดในโลก ก็กำลังเป็นอย่างนั้นอยู่จ้ะ คุณกำลังสนทนากับข้าราชการอย่างออกรสออกชาติ ผิดกับภาพที่ฉันคิดเอาไว้อย่างสิ้นเชิง
.

.
สรุปแล้วโง่เขลาและก็หงุดหงิด มีเพียงแค่ดิฉันคนเดียวแค่นั้น เพราะเหตุว่าขนาดคนที่พบเจอปัญหาเองยังคุยกับทีมงานได้อย่างมีความสุขเฉิบ ทราบอย่างงี้ พาคุณมาซะตั้งแต่วันแรกแล้วค่ะ ไม่คิดว่ามันจะง่ายขนาดนี้ ต้องกราบขอบคุณมากทีมงาน ตรวจเลือดเชียงใหม่ อย่างจริงใจจ้ะ เนื่องจากมีพวกท่านนี่แหละจ้ะ ดิฉันจึงกลับมาเป็นคนปกติแบบคนอื่นๆเขาได้ แล้วก็ในที่สุดฉันก็เข้าใจซะคราวว่า ปัญหาทั้งหมดทุกอย่างมีทางออกที่ดีอยู่เป็นประจำขอเพียงแค่คุณใช้ความเพียรพยายามอีกนิดที่จะแสวงหามันให้พบ และท้ายที่สุดฉันก็เจอ Lovefoundation ด้วยเหตุว่ามีเธอในวันนั้น ฉันจึงยิ้มได้ในวันนี้
.
สำหรับคนใดกันแน่ที่พอใจรายละเอียดเกี่ยวกับตรวจเลือดเชียงใหม่ ขอข้อมูลติดต่อถึงที่เหมาะนี่
Website รักษาเอดส์: http://lovefoundation.or.th

Tags : ตรวจเลือดเชียงใหม่,อาการเอดส์เชียงใหม่

 

Sitemap 1 2 3