ผู้เขียน หัวข้อ: โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต อาการ สาเหตุ วิธีการรักษา - สมุนไพร  (อ่าน 197 ครั้ง)

Puttichai9876

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2297
    • ดูรายละเอียด

โรคอัมพฤกษ์อัมพาต

  • โรคอัมพฤกษ์อัมพาต คืออะไร โรคอัมพฤกษ์อัมพาตเป็นอาการของ โรคเส้นเลือดสมองยอดเยี่ยมในกลุ่มโรคหัวใจแล้วก็หลอดเลือดที่มีความสำคัญอย่างมาก ในแต่ละปีมวลชนโลกราว 15 ล้านป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง และก็ผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ปริมาณ 5.5 ล้านคนต่อปี และก็ พิการอีกหลายล้านคน นอกเหนือจากนั้นยังมีผลเสียถึงชุมชนแล้วก็สังคมที่จำต้องแบกภาระการดูแลรักษาทั้งคนดูแลแล้วก็ค่าใช้สอย ทำให้สูญเสียทั้งเศรษฐกิจเงินของประเทศ ในประเทศไทยผู้ที่เสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดสมองมีจำนวนไม่น้อยถึง 40,000 คนต่อปีรวมทั้งมีทิศทางเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆโดยอายุเฉลี่ยโดยมากอยู่ในช่วงอายุ 55-65 ปี โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นลักษณะของแขน ขาหรือหน้า ด้านใดซีกหนึ่งชา อ่อนเพลียหรือเคลื่อนไหวลำบาก หรือขยับเขยื้อนมิได้เลย อย่างฉับพลัน  ซึ่งเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากเส้นเลือดแดงที่ไปเลี้ยงสมองแคบหรือแตก ทำให้เนื้อสมองไม่ได้รับอาหาร รวมทั้งออกซิเจนทำให้เนื้อสมองเกิดการเสียหาย ถ้าหากไม่รีบรักษาเนื้อสมองจะตาย กำเนิดความเสื่อมโทรมถาวรท้ายที่สุด และก็เนื่องจากว่าสมองเป็นศูนย์รวมสำหรับการออกคำสั่งของอวัยวะภายใต้การควบคุมของสมองส่วนนั้น เมื่อเนื้อสมองส่วนใดเสียหายหรือตาย ก็จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะภายใต้อำนาจบังคับของสมองส่วนนั้น

    โรคอัมพาต ในความหมายทั่วๆไปจึงหมายความว่าอาการแขนและก็/หรือ ขาขยับเขยื้อนไม่ได้ เหนื่อย ใช้งานไม่ได้  ส่วนโรคอัมพฤกษ์ คืออาการแขนและก็/หรือขาอ่อนแรงกว่าเดิม ยังพอใช้งานได้ แต่ใช้ได้น้อยกว่าปกติอย่างเช่น อาจชา ถือจับของหนัก หรือเขียนหนังสือตามปกติมิได้ ซึ่งอัมพฤกษ์จะมีความรุนแรงน้อยกว่าอัมพาต
    สำหรับในประเทศไทยสถิติจากกระทรวงสาธารณสุขในปี 2552 พบว่า โรคเส้นโลหิตสมองเป็นต้นเหตุการถึงแก่กรรม หรือทุพพลภาพสูงเป็นอันดับ 3  ในผู้ชาย รองจากโรคภูมิคุมกันบกพร่องแล้วก็อุบัติเหตุ และสูงเป็นชั้น 2 ในเพศหญิงรองจากโรคภูมิคุมกันบกพร่อง  จากข้อมูลดังกล่าวจะมีความเห็นว่าโรคหลอดเลือดสมองเป็นโรคที่รุกรามต่อชีวิตแล้วก็ความเป็นอยู่ของราษฎรทั่วโลก

  • ที่มาของโรคอัมพฤกษ์อัมพาต โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นผลมาจากสมองขาดเลือดไปเลี้ยงเพราะเหตุว่าหลอดเลือดตีบ หลอดเลือดตัน หรือเส้นเลือดแตก นำมาซึ่งการทำให้เนื้อเยื่อในสมองถูกทำลาย นำมาซึ่งการก่อให้เกิดอาการต่างๆขึ้น โดยความไม่ดีเหมือนปกติของโรคหลอดเลือดสมองสามารถแบ่งออกได้เป็นจำพวกต่างๆดังนี้คือ โรคหลอดเลือดสมองจำพวกสมองขาดเลือด (Ischemic Stroke) เป็นชนิดของเส้นเลือดสมองที่เจอได้กว่า 80% ของโรคเส้นโลหิตสมองทั้งผอง มีสาเหตุมาจากตันของหลอดเลือดจนกระทั่งทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองน้อยเกินไป ซึ่งเป็นผลจากการที่คนเจ็บมีสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่างๆเป็นต้นว่า เบาหวาน ความดันโลหิตสูง การบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง  การสูบยาสูบ   สภาวะหัวใจวายหรือหัวใจเต้นผิดจังหวะบางจำพวก การขาดการบริหารร่างกายอย่างสม่ำเสมอ  โรคเลือดอะไรบางอย่าง เป็นต้นว่า ภาวะเลือดข้นไม่ดีเหมือนปกติ   เกร็ดเลือดสูง  เม็ดเลือดขาวสูงไม่ปกติ โดยมาก แล้วมักเกิดร่วมกับสภาวะเส้นโลหิตแดงแข็ง ซึ่งมีเหตุมาจากไขมันที่เกาะตามผนังเส้นโลหิตจนกระทั่งทำให้มีการเกิดเส้นเลือดตีบแข็ง โรคหลอดเลือดสมองชนิดนี้ยังแบ่งออกได้อีก 2 จำพวกย่อย อย่างเช่น  โรคเส้นเลือดขาดเลือดจากภาวการณ์เส้นเลือดสมองตีบ (Thrombotic Stroke) เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) มีเหตุที่เกิดจากภาวการณ์ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปยังสมองได้ โรคเส้นโลหิตขาดเลือดจากการอุดตัน (Embolic Stroke) มีสาเหตุจากการอุดตันของเส้นโลหิตจนถึงทำให้เลือดไม่สามารถที่จะไหลเวียนไปที่สมองได้อย่างเพียงพอ โรคเส้นเลือดสมองประเภทเลือดออกในสมอง (Hemorrhagic Stroke) มีสาเหตุมาจากภาวการณ์เส้นโลหิตสมองแตก เมื่อมีการแตกของเส้นโลหิตสมอง ก้อนเลือดจะเบียดดันเนื้อสมองส่วนที่ดีทำให้อับอายขายขี้หน้าที่เซลล์สมองทำงานเปลี่ยนไปจากปกติ  เกิดอัมพฤกษ์อัมพาตตามมา หรือฉีกจนขาด ทำให้เลือดรั่วไหลเข้าไปในเนื้อเยื่อสมองแม้กระนั้นพบได้น้อยกว่าจำพวกแรก คือราวๆ 20%โดยสภาวะนี้มักสโมสรกับโรความดันโลหิตสูงที่มิได้รับการดูแลรักษาลาภาวะเครียด การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์รวมทั้งยาบางนิดด้วย โรคเส้นโลหิตสมองจำพวกนี้ยัง สามารถแบ่งได้อีก 2 จำพวกย่อยๆเช่น  โรคเส้นโลหิตสมองโป่งพอง (Aneurysm) เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากความอ่อนแอของเส้นเลือด โรคเส้นเลือดสมองไม่ดีเหมือนปกติ(Arteriovenous Malformation) ที่เกิดขึ้นจากความเปลี่ยนไปจากปกติของหลอดเลือดสมองตั้งแต่กำเนิด
  • ลักษณะโรค อัมพฤกษ์ อัมพาต อาการของโรคเส้นโลหิตสมอง สามารถเจออาการได้หลายรูปแบบ ขึ้นกับตำแหน่งของสมองที่เกิดการขาดเลือดหรือถูกทำลาย โดยอาการซึ่งสามารถพบมาก เป็นต้นว่า อาการอ่อนเพลีย หรือมีอาการอัมพฤกษ์ที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย ส่วนมากมักกำเนิดกับร่างกายฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ดังเช่น ครึ่งส่วนทางซ้ายเป็นต้น อาการชา หรือสูญเสียความรู้สึกของร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่ง เช่นเดียวกันกับอาการอ่อนกำลังที่มักกำเนิดกับร่างกายครึ่งส่วนใดครึ่งส่วนหนึ่ง มีปัญหาเกี่ยวกับการพูด ได้แก่ พูดไม่ได้พูดติด เสียงไม่ชัดเจน หรือเปล่ารู้เรื่องคำกล่าว มีปัญหาเกี่ยวกับการเลี้ยงตัว อย่างเช่นเดินเซ หรือมีลักษณะอาการเวียนศีรษะกระทันหัน การสูญเสียการมองเห็นเล็กน้อย หรือเห็นภาพซ้อน


อาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ในบางคราวอาจกำเนิดเป็นอาการเตือนเกิดขึ้นชั้วขณะหนึ่งแล้วหายไปเอง หรือเกิดขึ้นได้หลายคราวก่อนมีลักษณะอาการสมองขาดเลือดแบบถาวร เรียกว่าภาวการณ์มีสมองขาดเลือดชั่วครั้งชั่วคราว(transient ischemic attack) ซึ่งเจอได้ประมาณ 15%

  • สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะนำมาซึ่งการก่อให้เกิดโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงของการเกิดโรคเส้นเลือดสมอง ปัจจัยเสี่ยงมีหลายกรณี โดยอาจแบ่งออกเป็น สาเหตุที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้แล้วก็ต้นเหตุที่สามารถเปลี่ยนได้{คือ|เป็น



    ต้นเหตุที่เปลี่ยนไม่ได้


    อายุ : ในผู้ที่มีอายุมากยิ่งกว่า 65 ปีเนื่องจากว่าแก่ขึ้นเส้นโลหิตจะมีการแข็งตัวมากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งมีไขมันเกาะดกตัวทำให้เลือดไหลผ่านได้ทุกข์ยากลำบากเพิ่มมากขึ้นเพศ : เพศชาย มีการเสี่ยงมากกว่าเพศหญิง
    ความเป็นมาครอบครัว : เป็นโรคเส้นโลหิตสมองหรือโรคเส้นเลือดหัวใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่มีอายุยังน้อย
    ปัจจัยเสี่ยงซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ โรคความดันเลือดสูง ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงเป็นระยะเวลาที่ยาวนานๆทำให้เส้นโลหิตแข็ง จะทำให้สมองทำงานผิดปกติ มีการตีบแตกของเส้นเลือดสมอง โอกาสเป็นอัมพาตมากยิ่งกว่าคนธรรมดามากถึง ๓–๑๗ เท่า เพราะไปทำให้ฝาผนังเส้นโลหิตอ่อนแอ ก็เลยเกิดการแตกง่ายระดับความดันเลือดที่จัดว่าสูง จำต้องพอๆกับหรือมากกว่า 140/90 มม.ปรอท เบาหวาน ส่งผลให้เกิดภาวการณ์เส้นโลหิตตีบแข็งทั่วร่างกาย เส้นโลหิตไปเลี้ยงสมองอุดตัน นำไปสู่อัมพาตได้ ซึ่งจะเพิ่มช่องทางเสี่ยงในการเกิดโรคอัมพฤกษ์อัมพาต 3 เท่า ไขมันในเลือดสูง ไขมันไปเกาะฝาผนังเส้นโลหิต ทำให้ฝาผนังหลอดเลือดแข็ง มีการอุดตัน เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ กระตุ้นให้เกิดอัมพาตได้ ซึ่งจะเพิ่มจังหวะเสี่ยงการเกิดโรคอัมพฤกษ์อัมพาตถึง 1.5 เท่า การสูบบุหรี่ เพราะเหตุว่าสารคาร์บอนมอนอกไซด์ เป็นตัวเร่งทำให้ผนังเส้นเลือดเกิดการลีบขึ้นและก็บุหรี่จะลดจำนวนออกซิเจนในหลอดเลือด เพิ่มความหนืดของเลือด ทำให้โลหิตไหลเวียนไม่ดี ไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายไม่พอ ช่องทางเป็นอัมพาตได้มากกว่าคนที่ไม่ดูด ๓ เท่า ขาดการบริหารร่างกาย การออกกำลังกายช่วยเผาผลาญน้ำตาลและก็ไขมัน ไม่นำไปสู่สภาวะสารอาหารเกิน ช่วยเพิ่มปริมาณการไหลเวียนของโลหิตและออกสิเจนภายในร่างกาย ช่วยลดระดับความดันเลือด ลดความตึงเครียดและก็ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจและกระดูกแข็งแรง นิสัยการบริโภคที่ผิดต้อง ยกตัวอย่างเช่น การทานอาหารในปริมาณมากเกินความจำเป็น จนทำให้อ้วน (ปกติรอบเอว ชายไม่เกิน 90 ซม. หญิง ไม่เกิน 80 เซนติเมตร) อาหารที่มีเกลือ (ปกติ ไม่เกิน 1 ช้อนชา/วัน) และไขมันสูง (การทอด น้ำมันสัตว์ เครื่องในสัตว์ กุ้ง ปลาหมึก หนังไก่ ขาหมู รับประทานอาหารพวกผัก ผลไม้ไม่พอ (น้อยกว่า 5 ส่วนต่อวัน อย่างเช่นผักสดน้อยกว่า 5 ทัพพีต่อวัน/ผักสุกน้อยกว่า 9 ช้อนโต๊ะต่อวัน) ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเสมอๆ (ธรรมดาชาย ไม่เกิน 2 แก้วต่อวัน หญิง ไม่เกิน 1 แก้วต่อวัน) สร้างปัญหาความดันเลือดสูง ไขมันแล้วก็น้ำตาลในเลือดสูง

  • วิธีการรักษา โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต การวิเคราะห์โรคเส้นโลหิตสมอง สำหรับเพื่อการตรวจเพื่อยืนยันโรคเส้นโลหิตสมอง มีขั้นตอนดังต่อไปนี้ วิธีสำหรับซักเรื่องราวรวมทั้งตรวจร่างกาย หมอจะซักประวัติการรักษา อาการ รวมถึงสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่างๆตรวจ ร่างกายทั่วๆไป รวมทั้งตรวจร่างกายทางระบบประสาท  การตรวจทางห้องปฏิบัติการ เป็นต้นว่าการตรวจเลือดต่างๆการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง (CT Scan) เพื่อดูว่าสมองมีลักษณะของการขาดเลือดหรือเกิด เลือดออกในสมองไหม


                สำหรับในการรักษาโรคเส้นเลือดสมอง ที่เกิดขึ้นมาจากการตีบหรือตันของเส้นโลหิตในระยะฉับพลันที่มีการเรียนยืนยันแล้วว่าได้ประสิทธิภาพที่ดีเด่นชัด ดังเช่นว่า

  • การให้ยาสลายลิ่มเลือด (Tissue plasminogen activator, tPA) ทางเส้นเลือดดำแก่คนไข้โรคหลอดเลือดสมองตีบหรือตันภายในระยะเวลา 3 ชั่วโมงข้างหลังเกิดอาการ จะเพิ่มจังหวะของการฟื้นตัวจากความพิกลพิการให้อาการกลับมาใกล้เคียงปกติได้ถึง 1.5 – 3  เท่า  เมื่อเทียบกับคนป่วยกรุ๊ปที่มิได้รับยา อย่างไรก็แล้วแต่การใช้ยานี้มีการเสี่ยงของเลือดออกในสมองได้ประมาณ 6%
  • การให้ยาต่อต้านเกล็ดเลือด เป็นยาที่ช่วยคุ้มครองปกป้องการก่อตัวของเกล็ดเลือด ทำให้การอุดตันน้อยลง ยาในกลุ่มนี้ที่ นิยมใช้ได้แก่ยาแอสไพริน การให้รับประทานยาแอสไพรินขั้นต่ำ 160 mg ต่อวันด้านใน  48  ชั่วโมงข้างหลังเกิดอาการ จะช่วยลดช่องทางเกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบตันซ้ำและเสียชีวิตลง
  • การรับเพศผู้ป่วยไว้ภายในหอพักคนไข้โรคหลอดเลือดสมองทันควัน (acute stroke unit)นับเป็นการรักษาที่ช่วยลดอัตราการตายหรือพิการอีกแนวทางหนึ่ง
  • การผ่าตัดเปิดหัวกะโหลก (Hemicraniectomy) จะพินิจพิเคราะห์ทำเฉพาะในกรณีที่มีอาการ


ร้ายแรงและมีการตีบหรืออุดตันของหลอดเลือดแดงใหญ่ Middle cerebral atery ในสมองเพียงแค่นั้น โดยมีหลักฐานการเล่าเรียนว่าการผ่าตัดดังกล่าวสามารถลดอัตราการตายของผู้ป่วยได้

  • การติดต่อของโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นโรคที่เกี่ยวกับหลายเลือดสมอง ก็เลยไม่มีการติดต่อระหว่าง คนสู่คน หรือสัตว์สู่คน
  • การกระทำตนเมื่อป่วยด้วยโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต อาการเตือนของอัมพาต แขนขาเมื่อยล้า หรือชาครึ่งซีก ปากเบี้ยว บอกทุกข์ยากลำบาก ไหมรู้เรื่องภาษา เวียนหัว หัวปั่น อาเจียน เสียการทรงตัว ตามองมองไม่เห็นครึ่งส่วน หรือสองส่วน ประสาทตาอัมพาต กลอกตาไม่ได้ ตาเข เห็นภาพซ้อน กล้ามเนื้อ ใบหน้าเป็นอัมพาต ปากเบี้ยว ปิดตาไม่สนิท กลืนทุกข์ยากลำบาก บอกไม่ชัด เสียงแหบ ซึมหรือหมดสติ หากมีเส้นเลือดแตกจะมีก้อนกดทับสมอง สมองบวม ความดันในกะโหลกเพิ่มขึ้น ทำให้มีลักษณะอาการต่างๆร่วมด้วย ได้แก่ ปวดหัวมาก คลื่นไส้ อาเจียน ก้านคอแข็งเกร็ง หมดความรู้สึก เมื่อมีลักษณะเตือนของอัมพาตเกิดขึ้น คนสนิทหมั่นพินิจ ถ้าเกิดมีอะไรเปลี่ยนไปจากปกติรีบเจอหมอ กระทำรักษาทันที บางรายหากมีการเปลี่ยนหมดสติไป บางครั้งอาจจะจำต้องรีบกระทำการผ่าตัดด่วน


ส่วนเมื่อได้รับการดูแลและรักษาแล้วและก็หมออนุญาตให้กลับมาดูแลตนเองที่บ้าน การดูแลตน เอง/การพบแพทย์ที่สำคัญเป็น กระทำตามหมอ/พยาบาลแนะนำ เพียรพยายามขยับเขยื้อนร่างกายเท่าที่ทำเป็นเสมอ ยกตัวอย่างเช่น ทำกายภาพบำบัดตามคำแนะนำของหมอ หรือ นักกายภาพบำบัดสม่ำเสมอ อย่าหมดหวัง เพราะเหตุว่าอาการต่างๆจะเบาๆดียิ่งขึ้นช้าๆกินยาต่างๆให้ครบสมบูรณ์ ถูกต้อง ไม่ขาดยา เพื่อคุ้มครองป้องกันโรคกำเนิดเป็นซ้ำ แล้วก็โรคแทรกซ้อนต่างๆรักษาสุขลักษณะรากฐาน  เพื่อลดโอกาสติดเชื้อโรค รู้เรื่องในธรรมชาติของโรค ยอมรับความเป็นจริง ปรับพฤติกรรมให้เข้ากับสภาพ จัดบ้าน ห้องพัก และสุขาเพื่อช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุด ควบคุมโรคต่างๆที่เป็นต้นเหตุ/ปัจจัยเสี่ยง พบแพทย์ตามนัดหมายเสมอและก็รีบเจอก่อนนัดหมายเมื่ออาการต่างๆชั่วโคตรลง

  • การคุ้มครองตนเองจากโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต การปกป้องโรคเส้นเลือดสมอง โรคเส้นโลหิตสมองสามารถป้องกันได้ด้วยการลดความเสี่ยงโรคเส้นโลหิต ซึ่งการลดการเสี่ยงทำได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต การรับประทานอาหาร รวมทั้งการออกกำลังกาย ดังต่อไปนี้ ทานอาหารที่เป็นประโยชน์ แล้วก็ควรจะหลบหลีกอาหารที่มีไขมันสูง เพราะว่าจะทำให้เกิดภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูง รวมทั้งของกินที่มีรสเค็มจัด ที่เป็นต้นเหตุของโรคความดันโลหิตสูง ควบคุมน้ำหนัก โรคอ้วนเป็นต้นเหตุของโรคร้ายแรงต่างๆรวมทั้งโรคเส้นโลหิตสมอง การควบคุมน้ำหนักจะช่วยลดความเสี่ยงลงได้ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยช่วงเวลาสำหรับการบริหารร่างกายที่เหมาะสมคือ 2.5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยควรเป็นการบริหารร่างกายแบบแอโรบิก งดเว้นดูดบุหรี่นอกจากนั้นควรรับการตรวจรักษาตลอดกับแพทย์อย่างสม่ำเสมอเพื่อควบคุมสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่างๆโดยการใช้ ยาด้วยกัน อาทิเช่น การให้ยาควบคุมระดับคอเลสเตอรอล โดยควรจะได้รับการตรวจวัดระดับไขมันในเลือดอย่างน้อยทุก 6-12 เดือน ถ้าเป็นผู้ที่มีการเสี่ยง หรือมีภาวะคอเลสเตอรอลสูงอยู่แล้ว ควรจะไปพบหมออย่างสม่ำเสมอเพื่อติดตามอาการ- ควบคุมระดับความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติโดยความดันโลหิตที่เหมาะสมเป็นต่ำลงมากยิ่งกว่า 140/90 มม.ปรอท- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ปรับเปลี่ยนการกระทำการทานอาหาร และก็การใช้ชีวิต ยิ่งไปกว่านี้ ควรรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยควบคุมอาการได้และทำให้การเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองลดลง กรณีเป็นโรคหัวใจ ควรจะรับการดูแลและรักษาโรคหัวใจอย่างสม่ำเสมอเช่นเดียวกัน โดยกรณีเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะควรจะได้รับยาคุ้มครองป้องกันเลือดแข็ง
  • สมุนไพรที่สามารถช่วยคุ้มครองโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต
  • สมุนไพรที่สามารถช่วยป้องกันโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต (หลอดเลือดสมอง) ดังเช่น กระเทียม กระชาย ขมิ้น ข่า ตะไคร้ ขิง ใบกะเพรา ใบโหระพา ใบสะระแหน่ พริกไทยดำ โดยส่วนใหญ่แล้วในสมุนไพรที่ประกอบไปด้วยน้ำมันหอมระเหยจะมีส่วนช่วยลดการเกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย บำรุงเลือด ทำลายเชื้อแบคทีเรียที่ก่อกำเนิดการอักเสบภายในร่างกาย และก็ทำให้เส้นโลหิตแข็งแรง
  • สมุนไพรท้องถิ่นแก้เบาหวานลดระดับความดันที่เป็นต้นเหตุของโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต มะระขี้นก เป็นไม้เลื้อยแล้วก็เป็นผักพื้นเมืองของไทย มีวิตามิน เอ รวมทั้ง ซี สูง มีสรรพคุณสำหรับการลดน้ำตาลในเลือด และชะลอการเกิดต้อกระจกได้ กระเทียม มีคุณลักษณะช่วยลดความดันเลือดลงได้ ควรกินกระเทียมหัวแก่ แม้กินสดจะได้รับคุณค่ามากกว่ากระเทียมที่ปรุงสุกแล้ว ตะไคร้ เป็นสมุนไพรแก้โรคเบาหวานและก็ความดันที่เรารู้จักกันดี เนื่องจากนิยมเอามาทำกับข้าว ซึ่งตะไคร้จะมีคุณประโยชน์สำหรับในการขับปัสสาวะ ขับลม แล้วก็ยังช่วยลดระดับความดันเลือดได้อีกด้วย ใบชะพลู เป็นผักท้องถิ่นของไทยและก็เป็นสมุนไพรแก้โรคเบาหวานและก็ความดัน  นิยมนำมากินสด ในตำรับยาสมุนไพรพื้นบ้านสามารถนำใบชะพลูมาต้มเพื่อลดเบาหวานได้ เนื่องด้วยใบชะพลูมีคุณประโยชน์สำหรับเพื่อการลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังมีสารต้านทานอนุมูลอิสระสูง
เอกสารอ้างอิง

  • พญ.พรรณวลัย ผดุงวณิชย์กุล.โรคหลอดเลือดสมอง.สาขาวิชาประสาทวิทยา.ภาควิชาอายุรศาสตร์.คณะแพทย์ศาสตร์.มหาวิทยาลัยนเรศวร.
  • อ.นพ.ยงชัย นิละนนท์.อัมพฤกษ์อัมพาต โรคเรื้อรังที่ต้องดูแล.สาขาวิชาประสาทวิทยา.ภาควิชาอายุรศาสตร์.คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล.มหาวิทยาลัยมหิดล.
  • ทำไมต้องรู้จัก”โรคหลอดเลือดสมอง”.นิตยสารหมอชาวบ้าน.เล่มที่350.คอลัมน์อื่นๆ.มิถุนายน 2551.
  • โรคอัมพาต โรคอัมพฤกษ์ โรคหลอดเลือดสมอง(Stroke)
  • อรุณี เจษฎาวิสุทธิ์.อัมพฤกษ์ อัมพาต มหันตภัยใกล้ตัว.นิตยสารหมอชาวบ้าน.เล่มที่320.คอลัมน์ บทความพิเศษ.ธันวาคม 2548
  • Poungvarin, N. et al. (2011). Prevalence of stroke and stroke risk factors in Thailands: Thai Epidemiologic Stroke (TES) Study. J Med Assoc Thai. 94, 427-436.
  • สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์. สถิติสธารณสุข พ.ศ. 2554 (Public Health Statistics A.D. 2011). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก; 2554. 234 p.http://www.disthai.com/
  • สมศักดิ์ เทียมเก่า,กาญจนศรี สิงห์ภู่,พัชรินทร์ อัวนไตร,และณัฐภรณ์ หาดี.(2557).คู่มือการดูแลสุขภาพสำหรับประชาชน เรื่อง โรคหลอดเลือดสมอง.โรคพยาบาลศรีนครินทร์และภาควิชาอายุศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์.
  • Lambert, M. (2011).AHA/ASA guidelines on prevention of recurrent stroke. Am Fam Physician. 83, 993-1001.
  • Braunwald, E., Fauci, A., Kasper, L., Hauser, S., Longo, D., and Jameson, J. (2001). Harrison’s principles of internal medicine (15th ed.). New York: McGraw-Hill.

 

Sitemap 1 2 3