ผู้เขียน หัวข้อ: หลักสำคัญที่ป๋าพระชนนีต้องรู้ ก่อนกำหนดให้บุตรนั่งคาร์ซีทในรถยนต์  (อ่าน 259 ครั้ง)

itopinter_111

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2148
    • ดูรายละเอียด
 

ป๊ะป๋ามาตุรงค์มือใหม่หลายคนคงเป็นกังวลใจ โอกาสที่จะพาเจ้าตัวน้อยขึ้นรถใช่มั้ยหล่ะ หลายหนคุณแม่อาจกังวลว่าเข็มขัดนิรภัยจะแน่นเกินไป ทำเอาลูกน้อยไม่สบายตัวเหรอเป็นร้ายแรง หรือไม่ก็กังวลไปต่างๆ นานาว่า คาร์ซีท ไม่ก็ เบาะนั่งเด็กในรถ จะดีกับลูกน้อยไหม จะพิทักษ์อุบัติเหตุได้จริงหรือ ซึ่งการลำบากใจนั้นเป็นเรื่องปกติครับ เพราะหากคุณแม่คาดเข็มขัดให้ลูกผิดตำแหน่ง ทำได้ส่งผลต่อหลอดเลือดของลูกจนเป็นปากเหยี่ยวปากกาได้ ดังนั้น การที่คุณตรวจสอบอัตราเข็มขัด ตำแหน่งที่นั่งของลูกทุกครั้งเป็นการดีครับ นอกจากข้อกลุ้มด้านบนแล้ว มาดูกันครับว่ามีทางการใช้ คาร์ซีท ข้อไหนบ้างที่ลื้อพึงระวัง

1. จัดตั้งคาร์ซีท ไม่ดี ข้อแรกที่จำเป็นรู้ก่อนเลยคือว่า ขนาดของคาร์ซีทที่เราจับจ่ายใช้สอยมานั้น เพะกับเบาะรถรึเปล่า และต้องทำการตั้งประทานตรงด้วย ก็เพราะว่าคาร์ซีทมีทั้งแบบหันหน้าและหันหลัง หากคาร์ซีทเป็นพวกไหน ควรติดตั้งทิศทางให้ถูกต้อง นอกจากนี้ ควรตรวจทานดูสายคาดให้อยู่ในตำแหน่งที่พอดี เป็นได้ล็อคได้เด็ดเดี่ยว สมมติว่ามารดรเห็นว่าคาร์ซีทมีความปกติไม่ก็ได้ยินเสียงแปลกๆ ควรจะนำคาร์ซีทไปซ่อมเหรอเปลี่ยนใหม่ ไม่ควรให้บุตรใช้ต่อไปครับ หากอยู่ในประกัน ช่างจะปฏิรูปปันออกฟรีขอรับ

2. ชดใช้สายคาดผิดแบบ จารชนคาดไม่เหมาะปล่อยปละละเลยหรือไม่รัดตึงเกินควร ป๊ะป๋าคุณแม่ศักยทดลองสายคาดเพราะว่าจับสายคาดให้ตึง ต่อไปใช้นิ้วจิ้มดู สมมุติสายบุ๋มลงมาก กล่าวถึงว่าหลวมเกินพอดี ด้วยว่าคาร์ซีทแม่แบบหันหลัง ทางควรอยู่ที่เกรดหรือว่าอยู่ใต้อังสาของลูกเล็กน้อย สมมติว่าเป็นคาร์ซีทแบบผินหน้า สายคาดถูกอยู่ขั้นเดียวกับหรือว่าเหนือชั้นกว่าไหล่ของลูกขอรับกระผม

3. มอบบุตรนั่งหันหน้าขวับเกินพอดี ป๋าคุณแม่หลายคนอาจจะเคยได้ยินมาว่า ช่วงขวบปีแรกจำต้องให้ลูกนั่งหันหลัง ตราบเท่าที่ลูกจักความหนักเบา 9-10 กิโล ถึงจะให้นั่งผินหน้า ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด โดยสมาพันธ์กุมารแพทย์แห่งอเมริกาชี้นำว่า ควรให้ลูกหันหลังจนกว่าจะ 2 ขวบ พร้อมด้วยต่างว่าเป็นไปได้การดำรงตำแหน่งแบบหันหลังนั้นปึกแผ่น ด้วยกันชอบให้ลูกนั่งหันหลังให้นานมากสุดขอบเท่าที่จะจัดทำได้ มาตุรงค์หลายคนอาจหวั่นใจว่าสมมติว่าลูกตัวใหญ่ขึ้น อาจนั่งหันหลังแล้วรู้สึกว่าขาติดกับพนักเบาะรถไม่ก็ต้องงอขา แต่จริงๆ แล้วตัวของเด็กสมรรถยืดงอได้ดีกว่าผู้ใหญ่ คุณพ่อชนนีไม่ควรเคร่งเครียดในข้อนี้ พอลูกโตเกินกว่าสัดส่วนคาร์ซีท แล้วค่อยให้ลูกนั่งหันหน้ากับเบาะปรกติก็ไม่ช้าเกินไปครับผม

 4. อุปการะลูกนั่งบูสเตอร์ซีทรวดเร็วเกินไป บูสเตอร์ซีท ลงความว่าเบาะรองนั่งของเด็กเกี่ยวกับใช้คืนแห่งรถ ใช้สำหรับเด็กยุคสมัยชนมพรรษา 3-12 ขวบ (น้ำหนักเด็กประมาณ 15 – 36 กิโลกรัม) มีเจ้าของสินค้าบางเจ้า พินิตว่าถูกให้ลูกนั่งบูสเตอร์ซีทตั้งแต่ลูกคราว 3 ขวบ แต่จริงๆ แล้วควรรอให้ลูกน้ำหนักหมาย 18 กม.หรืออายุ 4-5 ขวบ กับลูกทำเป็นนั่งโดยมีไม่ทันเวลาคาดพาดผ่านหน้าอกได้ทุกทัวร์ พร้อมกับแพทย์ยังนำทางว่าสายรัดตัวทำนองคลองธรรม 5 จุดปลอดภัยกว่าบูสเตอร์ และพ่อแม่ควรใช้สายรัดตัวจะดีกว่า ก็เพราะว่าทำเป็นดูแลเด็กได้เป็นต่อสายรัดเอวนิรภัยของบูสเตอร์ซีท เพราะว่าสายรัดตัวศักยอภิบาลลำตัวชั้นบน ลดความเคลื่อนไหวและการเขกบนหัวด้วยกันคอลงได้ ขณะที่ปั้นเหน่งนิรภัยคุ้มครอง โซนทรวงกับบั้นท้ายเฉพาะ

ครันอยู่ว่าบิดามารดาอาจมิอาจจะป้องกันภัยทุกอย่างที่พร้อมกดขี่ลูกได้ ทว่าการที่คุณพ่อมาตุเรศรอบรู้เลือกใช้เครื่องไม้เครื่องมือรักษาณประกอบด้วยพลังได้อย่างถูกทาง ก็นับว่าครอบครองการทวีการคุ้มครองภัยให้เลือดเนื้อเชื้อไขได้อีกทางหนึ่งครับ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เป้อุ้ม

ขอบคุณบทความจาก : http://www.suratlink.com/board/index.php?topic=161748.new#new

Tags : เป้อุ้ม

 

Sitemap 1 2 3