ฤดูฝนเป็นช่วงๆในตอนที่เจ้าของบ้านจะต้องเผชิญกับปัญหาบ้านฤดูฝนหลากหลายต้นแบบ อีกทั้งโถเครื่องสุขภัณฑ์กดชำระไม่ลง น้ำรั่วซึมทางหลังคา รวมทั้งจุดต่างๆในบ้าน นอกเหนือจากนี้ ยังมีอีกปัญหาที่พบกันบ่อยมาก คือปัญหาฝาผนังชื้น ทำให้สีโป่งพอง ลอกล่อน ไปจนกระทั่งกำเนิดเชื้อราหรือตะไคร่ขึ้นตามผนัง ทั้งนี้ การจัดการกับปัญหาความชื้นที่ฝาผนังนั้นมีมากมายแบบอย่าง โดยเจ้าของบ้านควรทำความเข้าใจเรื่องที่มาความชุ่มชื้นเสียก่อน เมื่อฝนตกหนัก ทำให้จำนวนน้ำในดินมีมากมาย น้ำส่วนใดส่วนหนึ่งจะซึมผ่านส่วนประกอบคอนกรีตที่อยู่ในดิน รวมทั้งไล่ขึ้นมาตามเสา คาน พื้น แล้วก็ผนัง ส่วนมากมักจะเจอรอบๆช่วงล่างของบ้านที่สูงจากพื้นขึ้นมาราวๆ 1 เมตร และก็มักพบในบ้านที่หรูหราดิน หรือระดับพื้นภายในบ้านต่ำลงยิ่งกว่าระดับถนนหนทางหรือบริเวณข้างเคียงรอบๆ ด้วยเหตุว่าธรรมชาติของน้ำมักจะไหลจากที่สูงไปสู่ที่ต่ำ ซึ่งจะเกิดขึ้นข้างในชั้นดินเช่นกัน โดยเหตุนั้นดินที่อยู่ใต้บ้านเหล่านี้จึงมีปริมาณน้ำมากกว่าบริเวณโดยรอบที่มีระดับดินสูงกว่า การแก้ปัญหาผนังชื้นนั้นอาศัยวิธีการ 2 ข้อ ข้อแรกคือ การลดจำนวนน้ำในดินรอบๆใต้พื้นบ้าน โดยการทำรางระบายน้ำใต้ดินรอบตัวบ้าน โดยรางระบายน้ำบาดาลนี้ควรจะอยู่ในระดับที่ลึกลงไปจากระดับดินใต้พื้นเมืองพอเหมาะพอควร เพื่อน้ำไหลมาอยู่ในรางนี้แทน แล้วจึงหาทางระบายน้ำออกสู่ทางระบายน้ำสาธารณะ รูปแบบรางระบายน้ำบาดาลนั้นมักจะเป็นการขุดดินให้เป็นสี่เหลี่ยมคางหมู โดยไล่ระดับความลาดเอียงจากต้นรางถึงปลายราง รองด้วยแผ่น GEOTEXTILE โดยรอบราง แล้วหลังจากนั้นให้ใส่หินก่อสร้างลงไป แล้วจึงวางท่อที่มีไว้ระบายน้ำซึ่งมีลักษณะเป็นรูพรุนที่ข้างบนแล้วก็ด้านข้าง ต่อจากนั้นก็กลบทับรอบท่อด้วยหินก่อสร้างอีกครั้ง ห่อแผ่น GEOTEXTILE หุ้มหินก่อสร้างก่อนที่จะกลบด้วยทราย ชั้นบนสุดจะเป็นกรวดหินแม่น้ำ หรือจะปลูกหญ้าตกแต่งเพื่อความสวยงาม การจัดการปัญหาผนังเปียกชื้นด้วยวิธีการข้อที่สองเป็น การทำให้ฝาผนังหายใจได้ เป็นการหาทางให้ความชื้นระเหยออกไปสู่ด้านนอกบ้านได้นั่นเอง
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
การอ้างอิงที่เป็นประโยชน์
