ผู้เขียน หัวข้อ: บีทีเอส กินรวบ ผูกขาด เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว 30 ปี  (อ่าน 269 ครั้ง)

diorarmani2000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2655
    • ดูรายละเอียด
 

 
บีทีเอส กินรวบ ผูกขาด เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว 30 ปี
กทม.จ้างกรุงเทพธนาคม-บีทีเอส 30 ปี เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อขยาย หมอชิตคูคต พร้อมกับ แบริ่ง-สมุทรปราการ รวม 31.5 กม. จ่ายปีละกว่า 1 พันล้าน แก้ปัญหา ไร้รอยต่อ ได้เตรียมเจรจาคลังกู้ 8 หมื่นล้าน ทั้งจ่ายหนี้คืน รฟม. เพราะพ่วงค่าติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ ทั้งไฟฟ้ากับสื่อสาร ต่อรอง จ่ายคืนปีที่ 11-30 ปลอดหนี้ 10 ปี บีทีเอส ทุ่มกว่า 1 หมื่นล้าน ซื้อรถเพิ่ม 36 ขบวน ดึงให้ผู้ผลิตทั่วโลกยื่นประมูล ทั้งจีน เกาหลี เยอรมนี ฝรั่งเศส แคนาดา พร้อมด้วยสเปน ปลายปี นำร่องไปเปิดใช้ถึงสำโรง
 
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเปรยว่า ตามมติ คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ตราบใดวันที่ 10 มิ.ย.ที่ตัดผ่านมานั้นเอง เห็นชอบ ให้ทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นผู้บริหารการเดินรถในโครงการรถไฟฟ้าของสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต พร้อมกับช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ จึงมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเจรจากับ กทม. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และทางกระทรวงการคลัง ในการบริหารจัดการทางเดินรถพร้อมด้วยเงื่อนไขทางการเงิน ในซึ่งทุกหน่วยเห็นชอบให้มีการจัดทำร่างบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ขึ้น
 
ถ่ายโอนหนี้ 6 หมื่นล้านให้ กทม.
 
รายละเอียดของบันทึกคือ การบริหารงานก่อสร้างโยธาเป็นความรับผิดชอบของ รฟม. ครั้น กทม.รับโครงการนี้ไปแล้วทาง กทม.ต้องการรับภาระหนี้สิน ถึงทรัพย์สิน สิทธิ หน้าที่ และภาระผูกพันอื่น ๆ ที่ รฟม.ใช้ในการดำเนินโครงการ เพราะ กทม. ต้องเร่งจัดการเดินรถโดยเร็ว กับถ้ามีการเปลี่ยนงานโยธา หรือไม่งานอื่น ๆ ด้วยว่าค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ทางกทม.ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
 
นอกจากนี้ยังมีการแต่งตั้งคณะกรรมการ 2 คณะ เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือ ประกอบด้วย 1.คณะกรรมการประเมินมูลค่าหนี้สิน ด้วยกันทรัพย์สิน ขั้นตอนทางการเงิน พร้อมกับด้วยงบคาดคะเน การทำหน้าที่ประเมินมูลค่าหนี้สินพร้อมทั้งทรัพย์สิน เพราะรวมทั้งกำหนดขั้นตอนและถึงวิธีการโอนที่เกี่ยวข้องกับเงินกู้ของภาครัฐ พร้อมทั้ง 2.คณะกรรมการประสานงานด้านเทคนิคและการเดินรถ สนับสนุนให้ทำเป็นดำเนินการ ติดตั้งพร้อมทั้งแข่งขันรถไฟฟ้า
 
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เพราะว่าผู้ว่าฯ กทม. ได้กล่าวว่า ให้ความร่วมมือกันครั้งนี้ถึงการเป็นมิติใหม่ เพราะว่า รฟม.เป็นผู้ก่อสร้างมอบให้ กทม. บริหารจัดการ เพื่อให้ประชาชนเดินทางสะดวก ปลอดภัย กับประหยัด อีกทั้งยังเป็นโครงการที่ กทม.ได้มีระบบรถไฟฟ้านอกเขตพื้นที่เป็นครั้งแรก ต้องเจรจากับทางจังหวัดสมุทรปราการเพื่อขอใช้พื้นที่จากนั้น
 
ด้านการชำระหนี้กว่า 6 หมื่นล้านบาท ให้ รฟม. แยกเป็นช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต วงเงิน 39,774 ล้านบาท พร้อมกับช่วงแบริ่ง- สมุทรปราการ 21,086 ล้านบาท จักมีทางคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นเพื่อพิจารณา ในหลักการ ไม่มีปัญหาอะไรเลย เพราะว่าเป็นหน่วยงานรัฐ ส่วนการเดินรถจักจ้างบีทีเอส ทำให้เปิดบริการได้เร็วขึ้น คาดว่าปีนี้จะเปิดช่วง แบริ่ง-สมุทรปราการ ได้ 1 สถานี จากทางแบริ่ง- สำโรง
 
การจ้างบีทีเอส 30 ปี เดินรถ
 
โดยแหล่งข่าวจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดพูด ประชาชาติธุรกิจ ว่า กทม.จักจ้างบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) ทางรัฐวิสาหกิจของ กทม. ได้ติดตั้งระบบอาณัติสบถสาบานณ เป็นระบบไฟฟ้า การสื่อสาร พร้อมด้วยเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต 18.7 กม. ด้วยกันช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ 12.8 กม. รวม 31.5 กม. เป็นระยะเวลา 30 ปี จากนั้นกรุงเทพธนาคมจะจ้าง บมจ.ด้วยระบบขนส่งทางกรุงเทพ หรือบีทีเอสซี เพราะว่าผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ได้เดินรถให้ 30 ปีเช่นเดียวกัน
 
วิธีการจ้างเป็นโมเดลเดียวกับที่จ้าง บีทีเอสเดินรถช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง 5.3 กม. พร้อมทั้งตากสิน-บางหว้า 7.4 กม. เพราะว่าจ้างปีต่อปี ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 30 ปี การใช้งบประมาณการ กทม. ในส่วนค่าก่อสร้างที่ กทม.ชำระคืนให้ รฟม.จักเป็นเงินกู้ระยะยาวตามที่ รฟม.กู้ไว้เดิม แต่การเปลี่ยนลูกหนี้จาก รฟม.เป็น กทม. การจะหารือกับกระทรวงการคลังว่า กทม.เพื่อจะชำระหนี้คืนได้ครั้งไหร่ เดิมเสนอจะคืนให้ปีที่ 11-30 มีระยะปลดหนี้ 10 ปีแรกของสัมปทาน โอกาสนี้ยังมีเวลาเพราะกว่าช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการจะสร้างเสร็จปลายปีนี้ ในส่วนของช่วงหมอชิต-คูคตจะเสร็จปี'63
 
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า สำหรับวงเงิน จัดจ้างติดตั้งระบบอาณัติหนังสือสัญญาณและขบวนรถทั้ง 2 เส้นทาง คาดว่าอยู่ที่คร่าวๆ 3 หมื่นล้านบาท แยกเป็นช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ 9,120 ล้านบาท พร้อมกับหมอชิต-สะพานใหม่คูคต ราวๆ 20,055 ล้านบาท
 
ซึ่งก่อนหน้านี้ บีทีเอสเสนอรูปแบบการลงทุนช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จะลงทุนงานโยธา (ยังไม่รวมศูนย์ซ่อมบำรุง) พร้อมกับงานของระบบรถไฟฟ้า (ไม่รวมตัวรถ) การให้รัฐบาลชำระคืน 10 งวด งวดละ 1 ปี รวม 10 ปี เพราะว่านับจากวันที่เปิดให้บริการให้ครบทุกสถานี ในส่วนช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ทางบีทีเอสซีเสนอลงทุนงานระบบรถไฟฟ้า ไม่รวมตัวรถ ให้รัฐบาลชำระคืน 10 งวด งวดละ 1 ปี รวม 10 ปีเช่นกัน
 
อีกทั้งบริษัทยังได้เสนอรูปแบบการเดินรถกับผลตอบแทนให้พิจารณา เพราะว่าตั้งแต่มีการเปิดให้บริการครบทุกสถานีจนถึง 4 ธ.ค. 2572 รวม 15 ปี ในบริษัทขอรับสิทธิ์สัมปทานในการรับรายได้ค่าเพราะสารพร้อมกับการใช้พื้นที่เชิงพาณิชย์ ด้วยกันตั้งแต่ 5 ธ.ค. 2572 ไปถึง 4 ธ.ค. 2602 รวม 30 ปี ทางบริษัทจักรับค่าจ้าง ของการเดินรถพร้อมด้วยบำรุงรักษาระบบ กับได้รับสิทธิ์ในการเข้าใช้พื้นที่เชิงพาณิชย์พร้อมทั้ง ด้วยกันค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยส่วนกรณีผลตอบแทนเฉลี่ยตลอดอายุโครงการเกิน 12% บริษัทจักแบ่งผลประโยชน์ของส่วนที่เกิน 12% ให้กับรัฐบาล
 
ทุ่มหมื่นล้านซื้อรถเพิ่ม
 
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา ทางกรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ของระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือไม่ก็ทางบีทีเอสซี เปิดปริปาก ประชาชาติธุรกิจ ว่า บริษัทพร้อมจะเดินรถให้ กทม. เตรียมเงินคร่าวๆ 1 หมื่นล้านบาท ซื้อขบวนรถเพิ่มแล้ว จำนวน 36 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้ รวมถึง 144 ตู้ แยกเป็นด้วยว่าช่วงแบริ่งไปสมุทรปราการ 15 ขบวน กับในช่วงหมอชิตไปสะพานใหม่-คูคต 21 ขบวน
 
ขณะนี้อยู่ระหว่างเปิดประมูล โดยเชิญ ผู้ผลิตรถไฟฟ้าจากทั่วโลกมาร่วมเสนอราคา อาทิ บริษัท โรเทมส์ (Rotem) กับฮุนไดมาจากประเทศเกาหลีใต้, บริษัท CRC จากประเทศจีน กับ บริษัท ซีเมนส์ จากประเทศเยอรมนี, บริษัท บอมบาดิเอร์จากประเทศแคนาดา พร้อมทั้ง บริษัท อัลสตรอมจากประเทศฝรั่งเศส, บริษัท CAF จากประเทศสเปน ส่วนบริษัท J-TREC กับคาวาซากิ เป็นผู้ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น ไม่คิดสนใจจักเข้าร่วม
 
เพราะว่าระบบอาณัติสบถสาบานณ บริษัทได้ติดตั้งของบอมบาดิเอร์ ซึ่งส่วนต่อขยายทาง กทม.น่าจักใช้ระบบเดียวกัน เพื่อให้การเดินรถไม่สะดุดพร้อมทั้งง่ายต่อการซ่อมบำรุงในระยะยาว ส่วนการรับจ้างให้เดินรถจากกรุงเทพธนาคมนั้น ยังไม่ได้จะเจรจาในรายละเอียด เราจักจ้างเป็นระยะเวลาเท่าไหร่ แต่เพื่อให้ประหยัดควรจักจ้างเป็นระยะยาว ที่ไม่ใช่รูปแบบสัมปทาน โดยต่ออายุการจ้างทุกปี เช่น 10 ปี 20 ปี 30 ปี
 
ใช้ค่าจ้างเดินรถจักอ้างอิงระยะเวลาการจ้าง จำนวนรถที่วิ่ง อาจจักเป็นค่าเดียวกับที่ กทม.เคยจ้างบีทีเอสเดินรถส่วนต่อขยาย เพราะว่างานคล้ายคลึงกัน เฉลี่ยปีละ 1,000 กว่าล้านบาท
 
ถ้าหากจ้างบีทีเอสเดินรถ จะทำให้การเดินรถนี้ต่อเนื่องพร้อมด้วยก็เปิดใช้เส้นทางแบริ่งสมุทรปราการได้เร็วขึ้น จะทยอยเปิดบริการ หลังโหมโรงงานใน 1 ปี เปิดได้ 1 สถานี จากแบริ่ง-สำโรง ก็เพราะว่าบริษัทมีขบวนรถเดิมรองรับอยู่แล้ว ระหว่างรอรถขบวนใหม่จักใช้เวลาผลิต 2 ปี เพราะว่าเราจักเชี่ยวชาญเปิดได้ตลอดเส้นทางเลยภายใน 2 ปีครึ่ง เราจะทำให้บริษัทมีผู้โดยสารรายใหม่เพิ่มขึ้นเกือบ 2-3 หมื่นเที่ยวคนต่อวัน ที่เข้ามาเติมในระบบเดิมของบีทีเอส ที่มีผู้ใช้บริการเฉลี่ย 7 แสนเที่ยวคนต่อวัน
 
 
กินรวบ ผูกขาด
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : กิบรวบ ผูกขาด

Tags : กิบรวบ

 

Sitemap 1 2 3