ผู้เขียน หัวข้อ: โรคปอดอักเสบ/ปอดบวม-อาการ-สาเหตุ-วิธีรักษา-เเละ สมุนไพร  (อ่าน 223 ครั้ง)

xcepter2016

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2276
    • ดูรายละเอียด

โรคปอดอักเสบ / ปอดบวม (Pneumonia)

  • โรคปอดอักเสบ / ปอดบวม เป็นอย่างไร ปอด (Lung) เป็นอวัยวะในระบบการหายใจที่อยู่ภายในทรวงอกทั้งยัง 2 ข้าง มีลักษณะเป็นเนื้อหยุ่นๆมีสีออกชมพูมีบทบาทเปลี่ยนก๊าสจากอากาศที่เราหายใจเข้าไป คือ ในช่วงที่พวกเราหายใจเข้าปอดจะปฏิบัติภารกิจนำก๊าสออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงร่างกายแล้วก็ในขณะเดียวกันปอดก็จะขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ออกมากับลมหายใจ ธรรมดาเนื้อปอดนี้จะเป็นอวัยวะที่ไม่มีเชื้อโรค เมื่อมีเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมอื่นๆเข้าไปถึงเนื้อปอด จะส่งผลให้การอักเสบรวมทั้งมีการบวมเกิดขึ้น ซึ่งโรคปอดอักเสบ (Pneumonitis – นิวโมนิว่ากล่าวส) เป็นคำทั่วไปที่หมายถึงการอักเสบของเยื่อปอด เวลาที่ปอดบวม (Pneumonia – นิวโมเนีย) เป็นชนิดของการตำหนิดเชื้อที่นำมาซึ่งการอักเสบของปอด โรคปอดอักเสบแล้วก็ปอดบวมก็เลยสื่อความหมายคล้ายกันมากมายจนถึงใช้เรียกแทนกันได้ แม้กระนั้นในปัจจุบันนิยมเรียกโรคปอดอักเสบมากกว่าด้วยเหตุว่ามีความหมายตรงกว่า โรคปอดอักเสบ (Pneumonia) เป็นโรคติดเชื้อในระบบฟุตบาทหายใจ ซึ่งระยะฟักตัวขึ้นกับเชื้อที่ก่อโรคโดยบางทีอาจใช้เวลาฟักตัว 1-3 วัน หรือบางทีอาจจะนาน 1-4 สัปดาห์ อย่างยิ่งจริงๆ ซึ่งจะทำให้กำเนิด การอักเสบของเนื้อปอด*ซึ่งประกอบไปด้วยถุงลมปอดและก็เนื้อเยื่อโดยรอบทำให้ปอดปฏิบัติหน้าที่ได้ลดลง รวมทั้งเกิดอาการหายใจหอบเหนื่อย หายใจไม่สะดวก ซึ่งจัดเป็นสภาวะร้ายแรงทำให้ผู้เจ็บป่วยอาจมีอาการรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในกรุ๊ปเสี่ยง ดังเช่นว่า เด็กเล็ก คนแก่ คนที่มีภูมิต้านทานต่อต้านโรคต่ำ เป็นต้น
  • ต้นเหตุของโรคปอดอักเสบ/ปอดบวม ปอดอักเสบเกิดขึ้นจากหลายกรณี แต่ว่าที่มักพบหมายถึงการต่อว่าดเชื้อ ดังเช่น เชื้อไวรัส แบคทีเรีย โปโตซัว หรือ เชื้อวัณโรค อาทิเช่น การตำหนิดเชื้อแบคทีเรีย ชนิดหนึ่งที่เป็นสาเหตุของปอดอักเสบที่มักพบที่สุดในคนทุกวัย ดังเช่นว่า เชื้อปอดอักเสบ ที่มีชื่อว่า “สเตรปโตค็อกคัส นิวโมเนียอี (Streptococcus pheumoniae) หรือมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า “นิวโมค็อกคัส” (Pneumococcus) ซึ่งเป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดอาการปอดอักเสบกระทันหันและรุนแรง โดยแต่ละคนมีการ ติดเชื้อโรคยากง่ายไม่เหมือนกัน ถ้าเกิด เป็นมีภูมิคุ้มกันร่างกายผิดพลาด ติดเชื้อโรคโรคภูมิคุมกันบกพร่อง ได้ยากดภูมิคุ้มกันก็มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายกว่าคนเดินดินทั่วไป เช่นเดียวกับคนวัยแก่สุขภาพไม่ดีราวกับวัยรุ่น ถ้าเกิดติดเชื้อตัวเดียวกัน คนสูงอายุอาจมีอาการร้ายแรงกว่า นอกเหนือจากนั้นคนวัยแก่อาจเป็นโรคอย่างอื่นร่วมด้วย ตัวอย่างเช่น เบาหวาน ความดันเลือดสูง โรคหัวใจ หากมีภาวะเหล่านี้ พอมีปอดอักเสบร่างกายก็จะทรุดเร็วภาวะแทรกซ้อนก็เกิดได้ง่ายมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น ขาดออกสิเจนได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
  • ลักษณะโรคปอดอักเสบ/ปอดบวม ลักษณะโรคปอดอักเสบ/ปอดอักเสบ ผู้เจ็บป่วยจะมีลักษณะไอ มักมีเสลด มีไข้ เจ็บหน้าอก อ่อนล้าง่าย ลักษณะของการมีไข้ มักเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน หรือเป็นไข้ตัวร้อนตลอดระยะเวลา อาการไอ ในระยะเริ่มต้นอาจมีอาการไอแห้งๆไม่มีเสมหะ แล้วต่อมาจะมีเสลดขาวหรือขุ่นข้นออกเป็นสีเหลือง สีเขียว หรือบางรายอาจะเป็นสีสนิมเหล็กหรือมีเลือดคละเคล้า ลักษณะของการเจ็บทรวงอก บางรายอาจมีอาการเจ็บหน้าอก แบบเจ็บแปลบเวลาหายใจเข้าหรือขณะที่ไอแรงๆตรงจุดที่มีการอักเสบของปอด ซึ่งบางครั้งบางทีอาจเจ็บปวดรวดร้าวไปที่หัวไหล่ สีข้าง หรือท้อง แล้วถัดมาจะมีอาการหายใจหอบเร็ว อาการหอบอ่อนเพลียคนป่วยมักมีลักษณะอาการหอบอิดโรย หายใจเร็ว หากเป็นมากอาจมีอาการปากเขียว ตัวเขียว ส่วนในรายที่เป็นไม่มากมายบางทีอาจไม่มีอาการหอบเหนื่อยแจ้งชัด อาการกลุ่มนี้อาจมีไม่ครบทุกๆอย่าง โดยเฉพาะในคนไข้เด็กเล็กๆผู้สูงอายุ คนไข้พิกลพิการทุพพลภาพที่ไม่สามารถที่จะช่วยตัวเองและก็ติดต่อได้จำกัด ควรจะสนใจแล้วก็สงสัยมากยิ่งกว่าธรรมดา เหตุเพราะอาการบางทีอาจไม่ชัดเจน ดังเช่นว่า ในผู้สูงอายุ อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีเพียงแต่เป็นไข้ หรือตัวอุ่นๆและก็ซึมลงเท่า นั้น บางครั้งอาจจะไอเพียงแค่เล็กๆน้อยๆ หรือบางทีก็อาจจะไม่ไอให้เห็นก็ได้ เนื่องจากมีความจำกัดในการเขยื้อน ไหว รวมทั้ง/หรือกล้ามเหนื่อยพอที่จะไอได้อย่างมีคุณภาพ ส่วนอาการแทรกฝึกที่บางทีอาจเกิดขึ้นได้ ได้แก่ เกิดฝีในปอด หรือเกิดหนองในเยื่อหุ้มปอด โดยหากเป็นไม่มากมายก็ใช้วิธีใส่ท่อระบายหนองออก ถ้าเกิดเป็นมากอาจถึงขนาดจะต้องผ่าตัดเพื่อเอาหนองออก เจาะเยื่อหุ้มปอดออก ตอนที่คนป่วยบางรายอาจมีอาการไอเป็นเลือด ถุงลมรั่ว แม้กระนั้นเจอได้น้อย
  • ปัจจัยเสี่ยงที่จะกำเนิดโรคปอดอักเสบ/ปอดบวม ยกตัวอย่างเช่น
  • อายุ ในเด็กตัวเล็กๆๆและในผู้สูงวัย ด้วยเหตุว่าร่างกายมีความบกพร่องสำหรับในการปกป้องและก็กำจัดเชื้อโรค
  • การดื่มสุรา ดูดบุหรี่ แล้วก็/หรือกินยาบางจำพวก ยกตัวอย่างเช่น ยากดภูมิคุ้มกัน ยารักษาโรคมะ เร็ง (ยาเคมีบำบัด) ซึ่งจะมีผลกระทบต่อระบบภูมิต้านทานขัดขวางโรค และก็การกำจัดเชื้อโรค
  • การมีโรคประจำตัวบางอย่างเป็นต้นว่า โรคถุงลมโป่งพอง โรคมะเร็ง เบาหวาน โรคหัวใจ  โรคไตเรื้อรัง อื่นๆอีกมากมาย
  • การไม่รักษาสุขภาพและอนามัย อย่างเช่น การได้รับอาหารน้อยเกินไป สุขภาพย่ำแย่ อยู่อาศัยในสถานที่ที่ไม่มีการถ่ายเทอากาศที่ดีพอ ในที่ที่มีมลพิษที่ต้องหายหัวใจและก็สูดมลภาวะเข้าไปในปอด
  • วิธีการรักษาโรคปอดอักเสบ/ปวดบวม การตรวจหาเชื้อต้นเหตุของโรคปอดอักเสบจำต้องใช้การตรวจทางห้องปฏิบัติการแล้วก็จำเป็นต้องใช้เวลาสำหรับเพื่อการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ซึ่งมี
  • การตรวจ เพื่อวินิจฉัยโรคปอดอักเสบ
  • การตรวจเพื่อประเมิน site of care,
  • การตรวจเพื่อหาเชื้อสาเหตุ,
  • การตรวจเพื่อ ประเมินโรคประจำตัวของผู้เจ็บป่วย, รวมทั้ง
  • การตรวจเพื่อหา ภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้น

ส่วนในด้านการลดอัตราการเสียชีวิต ของผู้เจ็บป่วยโรคปอดอักเสบ สิ่งที่สำคัญที่สุดหมายถึงการให้ยา ปฏิชีวนะที่สมควรรวมทั้งให้อย่างรวดเร็วด้านใน 4 ถึง 6 ชั่วโมง ภายหลังให้การวิเคราะห์แล้วก็ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ซึ่งกรรมวิธีการเลือกใช้ยาปฏิชีวนะ จะพินิจพิเคราะห์ตาม site of care เพราะว่ามีข้อมูลทางระบาดวิทยาว่า พบเชื้อสาเหตุอะไรได้หลายครั้งในผู้ป่วยแต่ละกลุ่ม ซึ่งข้อมูลเชื้อก่อโรคในประเทศไทย จะราวทางประเทศอเมริกา ซึ่งกระบวนการรักษาปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ประกอบด้วย การให้ยาปฏิชีวนะชนิดกิน ตัวอย่างเช่น เพนิสิลลินวี (Penicillin V.) อะม็อกซีซิลลิน (Amoxicillin) หรืออิริโทรมัยซิน (Erythromycin) ฯลฯ (สำหรับกลุ่มวัยรุ่นรวมทั้งวัยหนุ่มวัยสาว ควรใช้ยาอิริดทรมัยสิน เพื่อครอบคลุมเชื้อไมโคพลาสมานิวโมเนียอี และเชื้อคลามัยเดีย นิวโมเนียอี) หรือบางทีอาจให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดแบบผู้ป่วยใน การดูแลและรักษาช่วยเหลือตามอาการทั่วๆไปเป็นต้นว่า การให้ยาลดไข้ การให้สารน้ำทางเส้นเลือด การให้ออกสิเจน การให้อาการเหลวทางสายให้อาหารลงกระเพาะในรายที่กินอาหารเองน้อยเกินไป อื่นๆอีกมากมาย

  • การติดต่อของโรคปอดอักเสบ/ปอดอักเสบ ระยะติดต่อ สามารถกระจายเชื้อได้ตลอดระยะเวลาที่เป็นโรคจนกว่าเสมหะจากปากรวมทั้งจมูกจะมีเชื้อไม่รุนแรงแล้วก็มีปริมาณไม่มากพอ ส่วนเด็กที่เป็นพาหะของเชื้อโดยไม่ออกอาการซึ่งพบได้ในสถานที่เลี้ยงเด็กก่อนวัยศึกษาก็สามารถแพร่ระบาดได้เช่นกัน  โดยเชื้อโรคและสารก่อโรคสามารถไปสู่ปอดได้โดยทางใดทางหนึ่ง ดังต่อไปนี้  การหายใจนำเชื้อไปสู่ปอดโดยตรง โดยการสูดเอาเชื้อโรคที่แพร่กระจายอยู่ในอากาศในรูปละออกฝอยขนาดเล็ก (จาการไอหรือจามใส่) หรือเชื้อที่อยู่เป็นปกติวิสัย (Normal flora) ในโพรงปากและคอหอยลงไปในปอด เช่น สเตรปโตค็อกคัส นิวโมเนียอี (Streptococcus pneumonia)  ฮีดมฟิลัส อินฟลูเอนเซ (Haemophilus influenzae) กลุ่มแบคทีเรียที่ไม่พึ่งออกสิเจน – แอนแอโรบส์ (Anaerobes) การสำลัก เป็นกรณีคราวมีต้นเหตุมาจากการสำลักเอาน้ำแล้วก็สิ่งปนเปื้อน (ในคนไข้จมน้ำ) น้ำย่อยในคนเจ็บโรคกรดไหลย้อน สารเคมี (ได้แก่ น้ำมันก๊าด เบนซิน) หรือเศษอาหารเข้าไปในปอด ซึ่งพบได้ทั่วไปได้ในเด็กเล็ก คนวัยชรา คนเจ็บอัมพาต ลมชัก สลบ หรือผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์จัด จึงทำให้ปอดอักเสบจากการระคายเคืองของสารเคมีหรือการต่อว่าดเชื้อ เรียกว่า “ปอดอักเสบจากการสำลัก” (Aspiration Pneumonia) ซึ่งการอักเสบนอกจากจะเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากสารระคายเคืองแล้ว ยงอาจมีสาเหตุมาจากเชื้อโรคที่มีอยู่ในช่องปากแล้วก็คอหอยที่ถูกสำลักลงไปในปอดด้วย (ปอดอักเสบที่เกิดจากการสำลักมักเป็นที่ปอดข้างขวามากยิ่งกว่าข้างซ้ายเนื่องด้วยหลอดลมข้างขวาหักมุมน้อยกว่าข้างซ้าย)


ในปี พ.ศ.2558 (ค.ศ.2015) สำนักระบาดวิทยา ได้รับรายงานคนเจ็บโรคปอดอักเสบ 215,951ราย อัตราป่วยไข้ 330.06 ต่อประชากรแสนคน เสียชีวิต 486 ราย อัตราตาย 0.74 ต่อสามัญชนแสนคน และก็อัตราป่วยตายร้อยละ 0.23 จากข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 – 2558 (คริสต์ศักราช2006 – 2015) อัตราเจ็บไข้ มีลัษณะทิศทางสูงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ว่าอัตราป่วยไข้ตายมีทิศทางน้อยลง โดยผู้ป่วยเป็นผู้ชาย 117,531 ราย เพศหญิง 98,420 ราย อัตราส่วนผู้หญิงต่อเพศชาย เท่ากับ 1 : 1.2 และก็กลุ่มวัย 0 – 4 ปี มีอัตราป่วยสูงสุด รองลงมาหมายถึงกลุ่มวัย 65 ปีขึ้นไป ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออัตราเจ็บป่วยสูงสุด รองลงมา ดังเช่นภาคเหนือ ภาคใต้ รวมทั้งภาคกลาง

  • การกระทำตนเมื่อเป็นโรคปอดอักเสบ/ปอดบวม แนวทางพินิจง่ายๆว่าตัวเองเป็นโรคปอดอักเสบ/ปอดบวมไหมหมายถึงเมื่อใดที่เกิดอาการอ่อนแรง รู้สึกเริ่มหายใจขัด ไม่ทั่วท้อง จะต้องฉงนใจแล้ว หรือถ้าหากมีลักษณะไข้ ไอ มีเสมหะ คล้ายเป็นหวัด เกิน 3 วันไปแล้วไข้ยังสูงอยู่ ด้วยเหตุว่าโดยทั่วไปคนเป็นหวัดปกติไม่เกิน 3 วันไข้ก็ลดแล้ว แต่ว่าถ้าหากเกิน 3 วันไข้ยังสูง มีความรู้สึกว่าไม่ดีขึ้น รวมทั้งมีอาการอ่อนแรงร่วมด้วย อยู่ในข่ายถูกสงสัยเป็นปอดอักเสบ ควรจะไปพบหมอเพื่อตรวจวินิจฉัย อีกอาการหนึ่งที่ทำให้สงสัยว่ามีลักษณะอาการปอดอักเสบหมายถึงมีอาการเจ็บอกร่วมด้วย ซึ่งเรียกว่าเจ็บแบบเยื่อหุ้มปอดอักเสบ คือ เจ็บตอนหายใจเข้าลึกๆและก็เมื่อไปพบแพทย์แล้ว ปรากฏว่าแพทย์วินิจฉัยว่ามีลักษณะ ปอดบวมเล็กน้อย ที่หมอพิเคราะห์ให้รักษาแบบผู้ป่วยนอกได้ หรือกรณีที่เป็นปอดบวมเข้ารับการดูแลและรักษาในโรงพยาบาลแล้ว แล้วก็หมอใคร่ครวญให้กลับบ้านเพื่อรักษา แล้วก็พักฟื้นต่อที่บ้าน ควรปฏิบัติตนดังนี้ ควรกินยาต่อตามแพทย์สั่งอย่างถูกต้อง ครบสมบูรณ์ โดยเฉพาะยาปฏิชีวนะ ซึ่งไม่สมควรหยุดยาเอง รับประทานอาหารให้เพียงพอกับสิ่งที่จำเป็นของร่างกาย เนื่องมาจากเป็นช่วงๆที่ร่างกายต้องการพลังงานในการต่อสู้กับโรค แล้วก็ซ่อมบำรุงร่างกายให้ฟื้น ควรจะเอาใจใส่พินิจอาการเข้าแทรกที่อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีเกิดขึ้น
  • การป้องดันตนเองจากโรคปอดอักเสบ/ปอดอักเสบ รักษาสุขภาพแล้วก็อนามัยให้แข็งแรงบริบูรณ์อยู่เสมออย่างเช่น การทานอาหาร พัก บริหารร่างกาย ให้เหมาะสมกับสภาพแล้วก็วัยของท่าน หลบหลีกปัจจัยเสี่ยงต่างๆได้แก่ การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา การใช้ยาเสพติด ภาวะทุพโภชนา ควัน ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ หรืออากาศที่หนาวเย็นการงดรวมทั้งเลิก บุหรี่ สุรา และก็ยาเสพติด การคุ้มครองป้องกันการรับเชื้อโดยการปิดปากและก็จมูกเมื่อจำต้องสัมผัสผู้ป่วยที่ไอหรือจาม  และก็คนเจ็บที่มีอาการไอหรือจาม ควรจะคุ้มครองปกป้องการแพร่ระบาดฝอยละอองไปยังคนอื่น ด้วยการปิดปากรวมทั้งจมูกด้วยกระดาษหรือผ้าที่เอาไว้สำหรับเช็ดหน้าหรือหน้ากากอนามัย คนที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น ผู้สูงวัย ผู้มีโรคประจำตัว ตัวอย่างเช่น โรคถุงลมโป่งพอง เบาหวาน โรคหัวใจ  ผู้ได้ยากดภูมิต้านทานต่อต้านโรค ยกตัวอย่างเช่น ยารักษาโรคโรคมะเร็ง/ยาเคมีบำบัดรักษา


ฯลฯ ควรจะใคร่ครวญฉีดยาคุ้มครองปกป้องโรคไข้หวัดใหญ่ หากมีโรคประจำตัว หรือเมื่อเป็นโรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ ฝึกฝน อีสุกอีใส ฯลฯ ควรจะดูแลตั้งแต่เนิ่นๆ

  • สมุนไพรประเภทไหนซึ่งสามารถช่วยบรรเทา/รักษาโรคปอดอักเสบ/ปอดอักเสบได้ ฟ้าทะลายขโมย  รสขม เป็นยาครอบจักรวาล สรรพคุณกินแก้อาการอักเสบต่างๆแก้ไข้ แก้หวัด แก้ปอดอักเสบ แก้ไอ แก้เจ็บคอ ไม่สมควรกินติดต่อนานเกินเจ็ดวัน ทำให้ตับเย็น  กระเทียม  เป็นยาบำรุงร่างกาย รับประทานเป็นยาแก้อักเสบในอก ในปอด แก้เสมหะ กระเทียมเจ็ดกลีบตำอย่างรอบคอบ ลายน้ำผึ้งรับประทานติดต่อกันเจ็ดวัน เพื่อขับเสมหะในระบบฟุตบาทหายใจ แก้หืดหอบ แก้ไอให้เสมหะแห้ง บำรุงปอด แก้ปอดทุพพลภาพ แก้ปอดอักเสบ แก้วัณโรคปอด แก้เสมหะ แก้น้ำลาบเหนียว แก้ริดสีดวงผลิออก เหง้าขิง  รสเผ็ดมีนำมันหอมระเหยที่มีคุณประโยชน์ต่อหัวหัวใจ ปอด ไล่เสลด ไล่ลม ให้ความอบอุ่นยามที่หนาวชื้น กลิ่นหอมยวนใจทำให้หายใจสบาย ดื่มน้ำขิงอุ่นๆผสมนมร้อนบำรุงร่างกายบำรุงปอด  ขมิ้น  เป็นสมุนไพรเบื้องต้นที่ใช้รักษาอาการอักเสบกับอวัยวะต่างๆมาหลายร้อยพันปี เป็นยาบำรุงปอด สมานแผลอักเสบในปอด
เอกสารอ้างอิง

  • นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ “ปอดอักเสบ/ปอดบวม (Pneumonia)” หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป หน้า 441-445
  • “ปอดอักเสบ”เป็นไข้ ไอ มีเสมหะ เหนื่อยเจ็บหน้าอก.สถานีรามาแชนแนล ขับเคลื่อนสังคมไทยให้สุขภาพดี (ออนไลน์)เข้าถึงได้จาก http://wed.mahidol.ac.th/ramanel/old/index.php/kniwforhealth-20140910-31
  • นพ.สุรเกียรติ อาชานุภาพ “โรคปอดอักเสบ ในโรคระบบการหายใจ” http://www.disthai.com/
  • การรักษาโรคปอดบวม.บทความฟื้นฟูวิชาการ.วารสารอายุรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.ปีที่ 1.ฉบับที่ 4.ตุลาคม-ธันวาคม 2558.หน้า 17-29
  • Mandell LA, Wunderink RG, Anzueto A, et al. Infectious Diseases Society of America/American Thoracic Society consensus guidelines on the management of community-acquired pneumonia in adults. Clin Infect Dis 2007; 44 Suppl 2: S27-72.
  • Watkins RR, Lemonovich TL. Diagnosis and management of community-acquired pneumonia in adults. Am Fam Physician 2011; 83: 1299-306.
  • Liapikou A, Torres A. Current treatment of community-acquired pneumonia. Expert Opin Pharmacother 2013; 14: 1319-32.
  • (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ) “ปอดอักเสบ” นิตยสารหมอชาวบ้าน คอลัมน์:สารานุกรมทันโรค เล่มที่306
  • Lim WS, Baudouin SV, George RC, et al. British Thoracic Society guidelines for the management of community acquired pneumonia in adults: update 2009. Thorax 2009; 64 (Suppl 3): iii1-55.
  • Managing CAP: An evidence – based algorithm. The Journal of Family Practice. 2007;56:722-726.
  • Reechaipichitkul W, Lulitanond V, Tantiwong P, Saelee R, Pisprasert V. Etiologies and treatment outcomes in patients hospitalized with community-acquired pneumonia (CAP) at Srinagarind Hospital, Khon Kaen, Thailand. Southeast Asian J Trop Med Public Health 2005; 36: 156-61.
  • Reechaipichitkul W, Lulitanond V, Sawanyawisuth, Lulitanond A, Limpawattana P. Etiologies and treatment outcomes for out-patients with community-acquired pneumonia (CAP) at Srinagarind Hospital, Khon Kaen, Thailand. Southeast Asian J Trop Med Public Health 2005; 36: 1261-7.
  • . Wattanathum A, Chaoprasong C, Nunthapisud P, et al. Community-acquired pneumonia in Southeast-Asia: the microbial different between ambulatory and hospitalized patients. Chest 2003; 123: 1512-9.
  • โรคปอดอักเสบ.สรุปรายงานการเฝ้าระวังโรคประจำปี 2558.สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวจสาธารณสุข.หน้า 101-103
  • สมุนไพรบำรุงปอด.สยามรัฐ.


 

Sitemap 1 2 3