ผู้เขียน หัวข้อ: โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร  (อ่าน 227 ครั้ง)

promiruntee

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2207
    • ดูรายละเอียด

โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza)
1.โรคไข้หวัดใหญ่ เป็นยังไง  ไข้หวัดใหญ่ หรือ ฟลู (Influenza , Flu) เป็นโรคติดต่อจากเชื้อไวรัสที่ระบบทางเดินหายใจเช่นเดียวกับหวัด แต่เกิดขึ้นจากไวรัสคนละประเภทรวมทั้งมีความรุนแรงสูงขึ้นยิ่งกว่าหวัดปกติมาก และก็เป็นอีกโรคหนึ่งพบได้มากในทุกกลุ่มวัยอีกทั้งในเด็กจน ถึงผู้สูงวัย และได้โอกาสเกิดโรคใกล้เคียงกันทั้งยังในหญิงและในผู้ชาย  โดยมีลักษณะทางสถานพยาบาลที่สำคัญคือ มีไข้สูงแบบทันทีทันใด ปวดศีรษะ เมื่อยกล้าม หมดแรง ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่สำคัญที่สุดโรคหนึ่งในกรุ๊ปโรคติดเชื้อเกิดใหม่แล้วก็โรคติดเชื้ออุบัติซ้ำ เพราะว่ามีการระบาดใหญ่ทั้งโลก (pandemic) มาแล้วหลายที แต่ละครั้งเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางเกือบทุกทวีป ทำให้มีผู้ป่วยรวมทั้งเสียชีวิตนับล้านคน

  • สาเหตุของไข้หวัดใหญ่ โรคไข้หวัดใหญ่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ ไวรัสไข้หวัดใหญ่ ที่มีชื่อเรียกว่า อินฟลูเอนซาไวรัส (Influenza virus) เป็น RNA ไวรัส อยู่ในเชื้อสาย Orthomyxoviridae ที่เจออยู่ในสารคัดหลั่งของคนป่วย อาทิเช่น น้ำมูก น้ำลาย แล้วก็เสลด เป็นต้น เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ มีทั้งสิ้น 3 ชนิดเป็นเชื้อ influenza A, B แล้วก็ C และ เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A เป็นประเภทที่ท้าให้มีการระบาดอย่าง กว้างขวางทั่วโลก ชนิด B ท้าทายให้มีการระบาดในพื้นที่ระดับภูมิภาค ส่วนประเภท C มักเป็นการติดเชื้อที่แสดงอาการ น้อยไหมออกอาการ และไม่ท้าให้เกิดการระบาด เชื้อไวรัสประเภท A แบ่งเป็นชนิดย่อย (subtype) ตามความไม่เหมือนของโปรตีนของไวรัสที่เรียกว่า hemagglutinin (H) และ neuraminidase (N) ประเภทย่อยของไวรัส A ที่ค้นพบว่าเป็นสาเหตุของการต่อว่าดเชื้อในพบในขณะนี้อย่างเช่น A(H1N1), A(H1N2), A(H3N2), A(H5N1) และก็ A(H9N2) ส่วนไวรัสชนิด B แล้วก็ C ไม่มีแบ่งเป็นจำพวกย่อย
  • อาการโรคไข้หวัดใหญ่ อาการจะเริ่มหลังได้รับเชื้อ 1-4 วัน คนป่วยจะมีไข้สูงแบบทันทีทันควัน ( 38 ซ ในคนแก่ ส่วนในเด็กมักจะสูงกว่านี้) ปวดหัว หนาวสั่น เมื่อยกล้าม อ่อนแรงมาก ปวดกระบอกตาเวลาตาขยับเขยื้อน มีน้ำตาไหลเมื่อมีแสงไฟ และบางทีอาจเจออาการคัดจมูก เจ็บคอ ถ้าหากป่วยเป็นระยะเวลานานอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีอาการไอจากหลอดลมอักเสบ (post viral bronchitis) อาการจะรุนแรงและเจ็บไข้เป็นเวลานานกว่าหวัดปกติ (common cold) คนป่วยจำนวนมากจะหายเป็นปกติข้างใน 1-2 อาทิตย์ แต่มีบางรายที่มีอาการร้ายแรง เนื่องจากมีภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญเป็น ปอดบวม ซึ่งอาจส่งผลให้เสียชีวิตได้
  • กรุ๊ปบุคคลเป้าหมายที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคไข้หวัดใหญ่


           พนักงานทางด้านการแพทย์ แล้วก็ข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับคนป่วยโรคไข้หวัดใหญ่
           คนที่มีโรคเรื้อรัง คือ ปอดอุดกันเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ เส้นเลือดสมอง ไตวาย มะเร็งที่กำลังให้เคมี บำบัด เบาหวาน ธาลัสซีเมีย ภูมิต้านทานผิดพลาด (รวมถึงผู้ติดโรคเอชไอวีที่มีลักษณะอาการ)
           บุคคลที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
           หญิงตั้งท้อง อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป
           คนที่มีน้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัมขึ้นไป
           ผู้ทุพพลภาพทางสมองที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
           เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี

  • แนวทางอาการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ การวิเคราะห์โรคโดยอาการทางคลินิกยังมีข้อจำกัด เพราะอาการเหมือนโรคติดเชื้อทางเดิน หายใจจากไวรัสจำพวกอื่น การวินิจฉัยควรที่จะใช้ การตรวจทางห้องทดลองเพื่อรับรองการวินิจฉัยโรค ยกตัวอย่างเช่นตรวจพบเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในเสมหะที่ป้ายหรือดูดจากจมูกหรือลำคอ หรือ ตรวจพบแอนติเจนของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ใน epithelial cell จาก nasopharyngeal secretion โดยแนวทาง fluorescent antibody หรือ ตรวจพบว่ามีการเพิ่มขึ้นของระดับภูมิคุ้มกันต่อเชื้อในซีรั่มอปิ้งน้อย 4 เท่าในระยะทันควันรวมทั้งระยะพักฟื้น โดยวิธี haemaglutination inhibition (HI) ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐาน หรือ complement fixation (CF) หรือ Enzyme - linked immunosorbent assay (ELISA)และการใช้ข้อมูลทางระบาดวิทยาช่วย ได้แก่ ตอนที่มีการแพร่ระบาดของโรค ไข้หวัดใหญ่ คนไข้ที่มีลักษณะน้อย ให้การรักษาตามอาการ ดังเช่น ยาลดไข้พาราเซตามอล ยาละลายเสลด ฯลฯ การให้ยาต่อต้านเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่โดยทันทีภายหลังที่มีลักษณะอาการช่วยลดความรุนแรงและอัตราตายในคนไข้ ยาต้านทานเชื้อไวรัส ไข้หวัดใหญ่ ดังเช่น ยาโอเซลทามิเวียร์ (Oseltamivir) แล้วก็ซานามิเวียร์ (Zanamivir) การพินิจพิเคราะห์เลือกใช้ตัวไหน ขึ้นอยู่กับข้อมูลความไวของยาต่อเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในแต่ละประเทศส่วนการให้ยาต้านเชื้อไวรัส amantadine hydrochloride หรือยา rimantidine hydrochloride ภายใน 48 ชั่วโมง นาน 3-5 วัน จะช่วยลดอาการรวมทั้งปริมาณเชื้อไวรัสจำพวก A ในสารคัดเลือกหลั่งที่เดินหายใจได้ ขนาดยาที่ใช้ในเด็กอายุ 1-9 ปี ให้ขนาด 5 มก./กก./วัน แบ่งให้ 2 ครั้ง สำหรับผู้ป่วยอายุ 9 ปีขึ้นไปให้ขนาด 100 มก. วันละ 2 ครั้ง (แต่หากผู้เจ็บป่วยน้ำหนักน้อยกว่า 45 กก. ให้ใช้ขนาดเดียวกับเด็กอายุ 1-9 ปี) นาน 2-5 วัน สำหรับผู้เจ็บป่วยอายุ 65 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่แนวทางการทำงานของตับและก็ไตไม่ดีเหมือนปกติ จะต้องลดปริมาณยาลง ในตอนหลังๆของการดูแลรักษาด้วยยาต่อต้านไวรัส อาจพบการดื้อยาตามด้วยการแพร่โรคไปยังบุคคลอื่นได้ กรณีนี้อาจจำเป็นต้องให้ยาต้านไวรัสแก่ผู้เสี่ยงโรคสูงที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ถ้าหากมีลักษณะสอดแทรกจากเชื้อแบคทีเรียต้องให้ยาปฏิชีวนะด้วย แล้วก็ควรเลี่ยงยาลดไข้พวก salicylates เพื่อลดการเสี่ยงต่อการเกิดโรค Reye's syndrome


    6.การติดต่อของไข้หวัดใหญ่ ระยะฟักตัวของโรค ระยะฟักตัวของโรคมักจะสั้น 1 - 4 วัน แม้กระนั้นโดยเฉลี่ยแล้วประมาณ เฉลี่ย 2 วัน ซึ่งจะขึ้นกับจำนวนของไวรัสที่ ได้รับ การติดต่อ เชื้อไวรัสที่อยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้เจ็บป่วยแพร่ติดต่อไปยังผู้อื่นโดยการไอจามรดกันโดยตรง หรือหายใจเอาฝอยละอองเข้าไปถ้าหากอยู่ใกล้ผู้ป่วยในระยะ 1 เมตร บางรายได้รับเชื้อทางอ้อมผ่านทางมือหรือ สิ่งของเครื่องใช้ที่แปดเปื้อนเชื้อ เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูก ตา ปาก  และคนเจ็บสามารถกระจายเชื้อเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตั้งแต่ 1 วันก่อนมีลักษณะอาการแล้วก็จะแพร่เชื้อถัดไปอีก 3-5 วันหน้ามีอาการในคนแก่ ส่วนในเด็กอาจแพร่เชื้อได้นานกว่า 7 วัน คนที่ได้รับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่แต่ว่าไม่มีอาการก็สามารถแพร่เชื้อขณะนั้นได้เช่นเดียวกัน ในช่วงศตวรรษก่อนหน้านี้ที่ผ่านมามีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ทั่วโลก 4 ครั้งคือ

  • พุทธศักราช 2461 - 2462 Spanish flu จากไวรัส A(H1N1) เป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุด ประชากรทั่วโลกเจ็บป่วยปริมาณร้อยละ 50 และตายสูงถึง 20 ล้านคน
  • พ.ศ. 2500 - 2501 Asian flu จากไวรัส A(H2N2) โดยเริ่มตรวจพบในประเทศจีน
  • พ.ศ. 2511 - 2512 Hong Kong flu จากเชื้อไวรัส A(H3N2) เริ่มตรวจพบในฮ่องกง
  • พ.ศ. 2520 - 2521 Influenza A (H1N1) กลับมาระบาดใหญ่อีกรอบ แยกได้จากผู้ป่วยในรัสเซีย ก็เลยเรียก Russian flu แม้กระนั้นมีถิ่นกำเนิดจากเมืองจีน


7.การกระทำตนเมื่อป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ การดูแลตัวเอง เมื่อไม่สบายหวัดใหญ่เป็นเมื่อจับไข้ ควรหยุดโรงเรียนหรือหยุดงาน แยกตัวและเครื่องใช้จากผู้อื่น เพื่อพักผ่อนรวมทั้งคุ้มครองป้องกันการกระจายเชื้อสู่คนอื่น พักให้มากๆรักษาสุขลักษณะฐานราก  เพื่อสุขภาพแข็งแรง ลดช่องทางกำเนิดโรคข้างเคียงหรือแทรกซ้อน พยายามรับประทานอาหารมีสาระห้ากลุ่มในทุกวี่ทุกวันกินน้ำสะอาดให้มากมายๆขั้นต่ำวันละ 6 - 8 แก้วเมื่อไม่มีโรคจะต้องจำกัดน้ำดื่ม รับประทานยาลดไข้พาราเซตามอล หรือตามแพทย์แนะนำ ไม่สมควรกินยาแอสไพรินเนื่องจากว่าอาจมีการแพ้ ดังกล่าวมาแล้วข้างต้น ล้างมือให้สะอาดบ่อยๆรวมทั้งทุกครั้งก่อนที่จะรับประทานอาหารแล้วก็ข้างหลังเข้าส้วม  ใช้ทิชชู่ในการสั่งขี้มูกหรือเช็ดปาก ไม่สมควรใช้ผ้าสำหรับเช็ดหน้า ต่อไปทิ้งทิชชู่ให้ถูกสุขอนามัย  รู้จักใช้หน้ากากอนามัย งดยาสูบ เลี่ยงควันของบุหรี่ เนื่องจากว่าเป็นต้นเหตุให้อาการร้ายแรงขึ้น ควรรีบเจอหมอเมื่อ ไข้สูงเกิน 39 - 40 องศาเซียลเซียส แล้วก็ไข้ไม่ต่ำลงข้างหลังได้ยาลดไข้ภายใน 1 - 2 วัน  ดื่มน้ำได้น้อยหรือทานอาหารได้น้อย ไอมาก มีเสลด และก็/หรือ เสมหะมีสีเหลืองหรือเขียว ซึ่งแสดงว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียสอดแทรก เป็นโรคหืด เนื่องจากโรคหืดมักกำเริบเสิบสานรวมทั้งควบคุมเองมิได้ อาการต่างๆเลวลง หอบอิดโรยร่วมกับไอมากมาย อาจร่วมกับนอนราบมิได้ เนื่องจากเป็นอาการสอดแทรกจากปอดบวม เจ็บอกมากมายร่วมกับหายใจขัด เมื่อยล้า เพราะเป็นอาการจากอาการแทรกซ้อนจากเยื่อห่อหุ้มหัวใจ หรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ชัก ซึม สับสน แขน/ขาอ่อนแรง บางทีอาจร่วมกับปวดศีรษะร้ายแรง และคอแข็ง เพราะเหตุว่าเป็นอาการเข้าแทรกจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบ  หรือ สมองอักเสบ

  • การป้องกันเองจากไข้หวัดใหญ่ รักษาร่างกายให้แข็งแรง เพื่อร่างกายสามารถสร้างภูมิต้านทานโรคได้ดี โดยการออกกำลังกาย สม่ำเสมอและก็พักผ่อนให้พอเพียง อยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก หลบหลีกความเคร่งเครียด ยาสูบ เหล้าแล้วก็ยาเสพติด แล้วก็ระวังรักษาร่างกายให้อบอุ่นในตอนอากาศหนาวเย็น หรืออากาศเปลี่ยน กินอาหารที่มีประโยชน์ ผัก แล้วก็ผลไม้ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารแล้วก็วิตามินเพียงพอ ในตอนที่มีการระบาดของโรค ควรเลี่ยงการเข้าไปในที่ที่มีผู้คนคับแคบ อย่างเช่น ห้าง สถานบันเทิง งานมหรสพ รวมทั้งการใช้โทรศัพท์สาธารณะหรือลูกบิดประตู ฯลฯ แต่ถ้าเลี่ยงมิได้ ควรจะสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่หรือทามือด้วยแอลกอฮอล์เพื่อกำจัดเชื้อโรคที่บางทีอาจติดมาจากการสัมผัสถูกเสมหะของผู้เจ็บป่วย และอย่าใช้นิ้วมือขยี้ตาหรือแคะไชจมูกถ้าเกิดยังมิได้ล้างมือให้สะอาด ผู้ป่วยควรจะปลีกตัวออกห่างจากคนอื่นๆ อย่านอนปะปนหรือคลุกคลีสนิทสนมกับผู้อื่น เวลาไอหรือจามควรจะใช้ผ้าปิดปากและจมูกเสมอ เวลาเข้าไปในที่ที่มีคนอยู่กันมากมายๆควรสวมหน้ากากอนามัยด้วยทุกคราว ส่วนการฉีดยาคุ้มครองปกป้องไข้หวัดใหญ่นั้น โดยปกติถ้าเกิดไม่มีการระบาดโรค หมอจะไม่ชี้แนะให้ฉีดยาแก่สามัญชนทั่วๆไป ยกเว้นในผู้ที่อยู่ในกลุ่มมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงดังที่ได้กล่าวมาแล้ว คนสูงอายุ (แก่กว่า 65 ปี) คนที่มีอายุต่ำกว่า 19 ปีที่ต้องกินยาแอสไพรินเป็นประจำ สตรีตั้งครรภ์ที่คาดว่าอายุท้องย่างเข้าไตรมาสที่ 2 ขึ้นไปในตอนที่มีการระบาดของโรค ผู้ที่เป็นเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ ผู้ที่จะต้องเดินไปในถิ่นที่มีการระบาดของโรค ผู้ที่มีกิจกรรมจำเป็นที่ไม่อาจจะหยุดงานได้ (ดังเช่น ดาราหนัง นักกีฬา ผู้เดินทาง ตำรวจ ข้าราชการบริการสังคม เด็กนักเรียนหรือนักศึกษาที่อยู่รวมกัน รวมถึงผู้ที่อาศัยอยู่ในที่พักฟื้น สถานสงเคราะห์ผู้สูงวัย) ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ (อย่างเช่น คนไข้โรคภูมิคุมกันบกพร่อง คนไข้ที่ได้รับยาสเตียรอยด์ คนป่วยรังสีรักษาหรือเคมีบำบัด) ผู้ป่วยที่เป็นโรคเรื้อรัง (ดังเช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอด โรคหอบหืด โรคตับ โรคไต โรคเลือด) ซึ่งบุคคลพวกนี้เป็นกลุ่มที่ควรจะได้รับการฉีดยาคุ้มครองปกป้องไข้หวัดใหญ่
  • สมุนไพรประเภทไหนที่สามารถช่วยทุเลา/รักษาโรคไข้หวัดใหญ่ได้
สมุนไพรที่มีฤทธิ์ต้านทานไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Herbs with anti-influenza activity) มีสมุนไพร        
                พลูคาว / ผักคาวโคนง (Houttuynia cordata) จากการศึกษาในหลอดทดลอง น้ำมันระเหยการกลั่นพลูคาวสดมีฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัส ไข้หวัดใหญ่ เริม (Herpes simplex virus type 1) ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง (HIV-1) โดยสารสำคัญในน้ำมันระเหยจากพลูคาวที่มีฤทธิ์ต่อต้านไวรัสดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว อาทิเช่น methyl n-nonyl ketone, laurly aldehyde, capryl aldehyde
                Epigallocatechin (EGCG) ในชาเขียว EGCG เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีมากที่สุดในชาเขียว EGCG ขนาดต่ำในหลอดทดสอบมีฤทธิ์ ยั้งไม่ให้ไวรัสไข้หวัดใหญ่ทั้งยังประเภท A รวมทั้ง B เข้าเซลล์& ลดการต่อว่าดเชื้อของเซลล์เพาะเลี้ยงจากไตสุนัขได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง
                ใบเตย (Pandanus amaryllifolius) ใบเตยมีสารพวกเลกติน (lectin) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นโปรตีน ชื่อ Pandanin ที่มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อ ไข้หวัดใหญ่จำพวก A (H1N1) อย่างเป็นจริงเป็นจัง โดยมีค่าความเข้มข้นที่ยับยั้งเชื้อได้ 50% (EC50) เท่ากับ15.63 microM
                สาร Aloe emodin Aloe emodin = สารแอนทราควิโนน (anthraquinone) ที่พบได้ในยางว่านหางจระเข้ เมื่อนำสาร Aloe emodin มาผสมกับไวรัสไข้หวัดใหญ่ในหลอดทดสอบนาน 15 นาที ที่ 37 องศาเซลเซียส สามารถยั้งเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ ยิ่งไปกว่านี้ สาร aloe emodin ยังยั้งเชื้อไวรัสที่ก่อโรคเริม และก็งูสวัดได้อีกด้วย
สมุนไพรกระตุ้นภูมิคุ้มกัน (Immunomodulator / Immunostimulant)
                กระเทียม  Aged Garlic Extract (AGE) มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิต้านทาน AGEเป็นผลิตภัณฑ์กระเทียมเตรียมโดยการแช่กระเทียมที่หั่นหรือสับใน 15-20% แอลกอฮอล์แล้วทิ้งไว้เป็นเวลานานมากกว่า 10 เดือน ที่อุณหภูมิห้องแล้วนำมาทำให้เข้มข้น เมื่อให้ AGE ทางปากแก่หนูถีบจักร 10 วันก่อนให้เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่แก่หนูโดยการหยอดทางจมูก มีประสิทธิผลสำหรับการคุ้มครองป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ดิบได้ดีเท่าการให้วัคซีน
                สินค้าเสริมของกินกระเทียมที่มีสาร allicin มีการศึกษาค้นคว้าในอาสาสมัคร 146 คน โดยให้กลุ่มควบคุมได้รับยาหลอก และก็กลุ่มทดลองได้รับกระเทียมรับประทานวันละ 1 แคปซูล นาน 12 อาทิตย์ ระหว่างฤดูหนาว (พ.ย. - กุมภาพันธ์) และให้แต้มสุขภาพ และอาการหวัดทุกวี่ทุกวัน พบว่า กรุ๊ปที่ได้รับกระเทียมได้โอกาสเป็นหวัดน้อยกว่ากลุ่มยาหลอก แล้วก็เมื่อเป็นหวัดแล้วหายเร็วกว่า
                โสม (Ginseng)    สารสกัดโสมอเมริกันที่จดสิทธิบัตรแล้ว (CVT-E002) โดยทดสอบให้สารสกัดนี้ ขนาด 200 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้งหรือยาหลอกแก่ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่รวมกันคนจำนวนไม่น้อย (institutional setting) จำนวนรวม 198 คน ระหว่างฤดูการระบาดของไข้หวัดใหญ่ (หน้าหนาวปี 2543 -44) เพื่อเล่าเรียนประสิทธิผลในการป้องกันการป่วยด้วยโรคทางเท้าหายใจอย่างกระทันหัน (Acute Respiratory Illness, ARI) พบว่า อุบัติการณ์ของไข้หวัดใหญ่ที่ได้รับการตรวจยืนยันทางห้องทดลองของกรุ๊ป ยาหลอกสูงกว่ากลุ่มที่ได้รับสารสกัดโสมอย่างมีนัยสำคัญ (7/101 รวมทั้ง 1/97) และก็การลดลงของความเสี่ยงจากการป่วยด้วยโรค ARI ในกลุ่มที่ได้รับยา CVT-E002 เท่ากับ 89%เอกสารอ้างอิง

  • Braunwald, E., Fauci, A., Kasper, D., Hausen, S., Longo, D., and Jamesson, J.(2001). Harrrison’ s:Principles of internal medicine. New York. McGraw-Hill. http://www.disthai.com/
  • ”สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่-H1n1 (1 มกราคม – 26 ธันวาคม 2558)” สำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข
  • ดร.ภก.อัญชลี จูฑะพุทธิ.สรุปการบรรยายประชุมวิชาการกรมพัฒน์เรื่อง”สมุนไพร:ไข้หวัดใหญ่-ไข้หวัดนก.”ณ.ห้องประชุมเบญจกูล กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก.วันที่ 28 ธันวาคม 2548
  • (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).”ไข้หวัดใหญ่(lnfluenza/Flu).หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป2.หน้า 393-396
  • “ไข้หวัดใหญ่”คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล.(ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก
  • ไข้หวัดใหญ่.กลุ่มระบาดวิทยา/โรคติดต่อ.สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข
  • โรคไข้หวัดใหญ่แนวทางการดำเนินการให้บริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลปี2559.แนวทางการเฝ้าระวังโรคติดต่อในสถานศึกษา 2559 กองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร


 

Sitemap 1 2 3