ผู้เขียน หัวข้อ: นมผึ้งแล้วก็คุณค่าที่น่ารู้และจำต้องลองหามาทานซักครั้ง  (อ่าน 228 ครั้ง)

sudteen555

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2231
    • ดูรายละเอียด
นมผึ้ง ได้ผลผลิตที่หลั่งออกมาจากต่อมไฮโปฟาริงจ์ (Hypopharyngeal Gland) ของผึ้งงาน นมผึ้งมีลักษณะเป็นของเหลวสีขาวเหมือนนม รสหวาน มีกลิ่นเปรี้ยวเล็กน้อย เป็นของกินหลักของผึ้งนางพญาและก็ตัวอ่อนผึ้งเพื่อช่วยกระตุ้นในการเจริญเติบโต หลายประเทศใช้นมผึ้งในฐานะยารักษาโรค อาหารเสริม และก็ยังรวมทั้งเป็นส่วนประกอบของครีมบำรุงและเครื่องแต่งตัว
นมผึ้ง
นมผึ้งมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักราว 60-70% และอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆอย่างเช่น โปรตีน น้ำตาล วิตามิน เกลือแร่ และกรดอะมิโน นอกจากนั้น ยังเจอสารอื่นในนมผึ้ง ยกตัวอย่างเช่น กรดไขมันเอชดีเอ (10-Hydroxy-Trans-2-Decenoic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีบทบาทสำหรับเพื่อการเจริญวัยของผึ้ง สารแอสิตำหนิลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจสึกและกลไกหลักการทำงานของร่างกาย รวมถึงฮอร์โมนเพศ อย่างเช่น เทสโทสเตอโรน โปรเจสเตอโรน เป็นต้น ทั้งนี้สถานที่ ภูมิศาสตร์ และก็สภาพภูมิอากาศเป็นตัวแปรที่ทำให้ส่วนประกอบของนมผึ้งแตกต่างออกไป หลายๆคนเชื่อว่าการกินนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยทุเลาอาการวัยทอง กระตุ้นระบบภูมิต้านทานร่างกาย รักษาเบาหวาน รวมถึงแผลโรคเบาหวาน เป็นต้น ทั้งยังเชื่อกันอีกว่าแม้นำนมผึ้งทาที่หนังศีรษะอาจช่วยกระตุ้นการก้าวหน้าเติบของเส้นผมอีกด้วย ซึ่งคำกล่าวอ้างเหล่านี้จะเป็นจริงไหม แล้วก็มีหลักฐานทางการแพทย์มาดน้อยเพียงใดที่จะช่วยยืนยันสรรพคุณ ประโยชน์ แล้วก็ความปลอดภัยของนมผึ้งที่มีบทบาทหรือส่วนช่วยในการรักษาโรคเหล่านี้
คุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากนมผึ้งที่อาจมีต่อร่างกาย
ทุเลาอาการวัยทอง อาการวัยทองคือปัญหาทางสุขภาพที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงกลางคน นำมาซึ่งอาการหลายประเภท ดังเช่นว่า ช่องคลอดแห้ง แสบร้อนหรือคันในช่องคลอด เจ็บขณะมีเซ็กส์ ฯลฯ อาการดังกล่าวสามารถบรรเทาลงได้ด้วยการใช้สารหล่อลื่น แม้กระนั้นสารหล่อลื่นโดยมากจะออกฤทธิ์ได้เพียงแค่ชั่วคราว ซึ่งนมผึ้งมีคุณสมบัติต่อต้านจุลชีวิน (Antimicrobial Activity) แล้วก็มีคุณสมบัติเหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน จากการเล่าเรียนโดยให้เพศหญิงวัยทองที่สมรสแล้วอายุ 50-65 ปี ปริมาณ 90 คน กรุ๊ปหนึ่งใช้ครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้ง 15% กลุ่มหนึ่งใช้ฮอร์โมนชดเชยเอสโตรเจนจำพวกครีมแบรนด์หนึ่ง และอีกกรุ๊ปใช้สารหล่อลื่นทาบริเวณช่องคลอดเป็นเวลา 3 เดือน พบว่าครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้งมีประสิทธิภาพในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเพศหญิงวัยทองได้มากกว่าอย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อเทียบกับฮอร์โมนตอบแทนเอสโตรเจนชนิดครีมรวมทั้งสารหล่อลื่น ซึ่งจากผลของการทดสอบอาจพูดได้ว่าการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตและก็บรรเทาอาการวัยทองที่เกี่ยวข้องกับช่องคลอดของผู้หญิงวัยทอง รวมทั้งทางผู้ศึกษาวิจัยยังได้กำหนดอีกว่าถ้าเพิ่มความเข้มข้นของนมผึ้งก็บางทีอาจจะช่วยทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นให้มากเพิ่มขึ้นได้
ลดระดับไขมันในเลือด นมผึ้งมีส่วนประกอบของสารอาหารหลายชนิด หนึ่งในนั้นคือกรดไขมันสายกลาง (Medium Chain Fatty Acid) และสารประกอบที่มีคุณลักษณะช่วยลดไขมันในเลือด ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาวิจัยที่ให้สตรีวัยทองสุขภาพแข็งแรงจำนวน 36 คนรับประทานนมผึ้งขนาด 150 มก. ตรงเวลา 3 เดือน โดยตรวจสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่อาจจะก่อให้กำเนิดโรคหลอดเลือดและหัวใจ รวมทั้งระดับไขมันในเลือดอีกทั้งก่อนแล้วก็ข้างหลังการทดสอบ พบว่ามีการเปลี่ยนของระดับไขมันในเลือดอย่างเป็นจริงเป็นจัง โดยที่ระดับคอเลสเตอรอลประเภทที่ไม่ดี (LDL) ต่ำลง 4.1% ระดับคอเลสเตอรอลรวม (TC) น้อยลง 3.09% และก็ระดับคอเลสเตอรอลจำพวกที่ดี (HDL) เพิ่มขึ้น 7.7% จากผลการทดลองอาจพูดได้ว่าการกินนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยลดระดับไขมันในเลือดแล้วก็บางทีอาจเป็นโอกาสหนึ่งสำหรับเพื่อการควบคุมอาการวัยทองที่เกี่ยวโยงกับสภาวะไขมันในเลือดสูง
ยิ่งกว่านั้น ยังมีอีกการเล่าเรียนหนึ่งที่ให้อาสาสมัครซึ่งมีภาวะไขมันในเลือดสูงประเภทไม่ร้ายแรงปริมาณ 40 คน รับประทานนมผึ้งขนาด 350 มก.วันละ 9 แคปซูล ตรงเวลา 3 เดือนก็บอกให้เห็นถึงระดับไขมันในเลือดที่น้อยลงเช่นกัน ทั้งยังช่วยกระตุ้นฮอร์โมนเพศ (Dehydroepiandrosterone Sulphate: DHEA-S) และก็ลดการเสี่ยงของการเกิดโรคเส้นเลือดรวมทั้งหัวใจได้อีกด้วย
ทุเลาอาการก่อนมีประจำเดือน อาการก่อนมีระดูมักส่งผลในทางลบกับสุขภาพของสตรี บางครั้งการดูแลและรักษาโดยไม่ใช้ยาก็บางทีอาจช่วยบรรเทาให้อาการต่างๆได้ ซึ่งสอดคล้องกับการเรียนชิ้นหนึ่งที่ให้นักศึกษาหมอจำนวน 110 คน กินนมผึ้งขนาด 1,000 มก.วันละ 1 ครั้ง โดยเริ่มในวันแรกที่มีระดู และก็รับประทานสม่ำเสมอจนถึงหมดเมนส์ในรอบต่อไป พบว่าอาการก่อนมีประจำเดือนลดน้อยลง จากผลการทดสอบอาจกล่าวได้ว่าการกินนมผึ้งต่อเนื่องกันเป็นเวลา 2 เดือน บางทีอาจช่วยทุเลาอาการก่อนมีรอบเดือนได้
รักษาแผลเบาหวาน แผลเบาหวานเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบมากในผู้เจ็บป่วยโรคเบาหวานที่ควบคุมอาการได้ไม่ดี จำนวนมากจะพบแผลเบาหวานที่บริเวณเท้า โดยเฉพาะนิ้วโป้งเท้าและก็ปลายฝ่าตีน ซึ่งนมผึ้งประกอบไปด้วยสารประกอบฟีนอลิคทำหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระ โปรตีนที่มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย และก็กรดไขมันเอชดีเอ ที่ช่วยต้านเชื้อจุลินทรีย์ จึงคาดว่าบางครั้งอาจจะช่วยรักษาแผลโรคเบาหวานได้ จากการเล่าเรียนชิ้นหนึ่งให้คนป่วยที่มีแผลโรคเบาหวานที่ได้รับการดูแลและรักษาหลักตามปกติ ทายาที่มีความเข้มข้นของนมผึ้ง 5% ในรอบๆที่เป็นแผลแล้วก็ปิดแผลด้วยแผ่นปิดแผลจำพวกไม่มีเชื้อเป็นเวลา 3 เดือนหรือกระทั่งแผลจะหาย แล้วก็มีการวัดผลอาทิตย์ละ 3 ครั้ง พบว่าใช้เวลาเฉลี่ย 424 ชั่วโมงก็เลยทำให้แผลหายดี แล้วก็ค่าถัวเฉลี่ยของความยาว ความกว้าง และความลึกของแผลน้อยลงวันละ 0.35 มิลลิเมตร 0.28 มิลลิเมตร และ 0.11 มม.ตามลำดับ จากผลวิจัยอาจพูดได้ว่านมผึ้งอาจมีคุณภาพเป็นช่องทางหนึ่งสำหรับการรักษาแผลเบาหวานควบคุ่ไปกับการดูแลรักษาหลัก แต่ผลการศึกษาเรียนรู้ข้างต้นมีผู้เข้าร่วมการทดสอบเพียงแต่ 8 คนซึ่งบางครั้งอาจจะเล็กเกินความจำเป็นที่จะสรุปประสิทธิภาพของนมผึ้งสำหรับการรักษาแผลโรคเบาหวาน
แม้กระนั้นการเล่าเรียนชิ้นหนึ่งได้บ่งบอกถึงคำตอบของนมผึ้งที่แตกต่างออกไป โดยให้คนที่มีแผลเบาหวานป้ายยาซึ่งมีความเข้มข้นของนมผึ้ง 5% ในบริเวณที่เป็นแผลเป็นเวลา 3 เดือนหรือจะกว่าแผลจะหายเหมือนกัน แม้กระนั้นยังไม่สามารถสรุปได้ว่านมผึ้งมีประสิทธิภาพสำหรับการรักษาแผลเบาหวานได้มากกว่าเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่ใช้ยาหลอก
ด้วยเหตุว่าการเล่าเรียนทั้งยัง 2 ชิ้นข้างต้นชี้ให้เห็นผลลัพธ์ของนมผึ้งที่ตรงข้ามกัน จึงอาจยังไม่อาจจะสรุปสมรรถนะของนมผึ้งสำหรับเพื่อการรักษาแผลเบาหวานได้อย่างแจ่มแจ้ง ก็เลยจำเป็นจะต้องเรียนเพิ่มอีก
บรรเทาอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรงจากโรคมะเร็ง
อาการอ่อนเพลียที่เกิดจากโรคมะเร็งเป็นผลมาจากการดูแลและรักษาการฉายรังสีหรือการทำเคมีบำบัด มักมีผลต่ออารมณ์ จิตใจ ร่างกาย และก็คุณภาพชีวิตของคนไข้ ซึ่งการกินยา การบำบัด หรือการบริหารร่างกายอาจช่วยทุเลาอาการลงได้ รวมถึงการรับประทานอาหารเสริม ตัวอย่างเช่น นมผึ้งก็อาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการอย่างเดียวกัน ก็เลยสอดคล้องกับการเล่าเรียนหนึ่งที่ให้คนไข้โรคมะเร็งอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 52 คน พบว่ากลุ่มที่กินน้ำผึ้งแปรรูปและก็นมผึ้งขนาด 5 มก. วันละ 2 ครั้ง ตรงเวลา 4 อาทิตย์ มีลักษณะอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรงจากโรคมะเร็งดีขึ้นอย่างเป็นจริงเป็นจังทางสถิติเมื่อเทียบกับอีกกลุ่มที่ัรับประทานน้ำผึ้งบริสุทธิ์ อย่างไรก็แล้วแต่ยังจำต้องศึกษาเล่าเรียนเพิ่มเติมอีกถึงบทบาทที่แท้จริงของนมผึ้งสำหรับในการทุเลาอาการเหน็ดเหนื่อยจากโรคมะเร็ง
รักษาไข้ละอองฟาง
โรคภูมิแพ้ที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองอย่างหนักกับละอองเกสรดอกไม้หรือสารอื่นๆทำให้ผู้ป่วยมีลักษณะอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล คันตา หูอื้อ ฯลฯ ซึ่งจากการศึกษาทดสอบโดยให้เด็กอายุ 5-16 ปี ที่ป่วยละอองฟาง จำนวน 80 คน กรุ๊ปหนึ่งรักษาโดยใช้การกินผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของนมผึ้งและก็อีกกลุ่มรับประทานยาหลอกเป็นเวลา 3-6 เดือน รวมทั้งจวบจนกระทั่งจะจบฤดูของเกสรดอกไม้ พบว่า 2 กลุ่มยังคงพบลักษณะของไข้ละอองฟาง แล้วก็มีระดับความรุนแรงของอาการที่ไม่ได้ต่างอะไรกันมากนัก จากผลการศึกษาอาจพูดได้ว่านมผึ้งอาจไม่มีคุณภาพต่อการรักษาไข้ละอองฟางและไม่สามารถบรรเทาอาการต่างๆให้ได้ จึงยังจึงควรเรียนรู้เพิ่มอีกเกี่ยวกับสมรรถนะของนมผึ้งสำหรับเพื่อการรักษาไข้ละอองฟางที่ชัดแจ้งเพิ่มขึ้น
ความปลอดภัยสำหรับการกินนมผึ้ง
การรับประทานนมผึ้งค่อนข้างไม่เป็นอันตรายแม้รับประทานในจำนวนที่เหมาะสม แม้กระนั้นก็ได้โอกาสที่จะเป็นผลใกล้กันได้ เช่น เลือดออกในลำไส้ ปวดท้อง หรือถ่ายเป็นเลือด ฯลฯ บางรายแม้มีอาการแพ้อย่างหนักอาจก่อให้มีลักษณะอาการอาการหอบหืด คอบวม หรือถึงกับตาย ทั้งยังการใช้นมผึ้งทาที่บริเวณผิวหนังออกจะไม่เป็นอันตราย แม้กระนั้นไม่ควรทาบริเวณหนังหัวเพราะอาจจะก่อให้เกิดอาการแพ้ ผื่นคัน หรือมีลักษณะอาการอักเสบ

Tags : นมผึ้ง,royal jelly,นมผึ้งสรรพคุณ

 

Sitemap 1 2 3