ก็ดูจะรุนแรงกับผิวเกินไป ลองเปลี่ยนมาใช้น้ำสบู่สำหรับเช็ดคราบเลือดหรือคราบอาหารแทนน้ำยาสารเคมีดูสิ หรือใช้แปรงสีฟันขัดเบา ๆ ก็อาจจะช่วยได้ในระดับหนึ่ง หากผลไม่เป็นที่น่าติดใจหรือคราบไม่ออกก็ให้เปลี่ยนมาใช้ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์เทลงไปบนคราบ ซึ่งหากเทตอนคราบเกิดใหม่ ๆ จะทำให้เกิดผลดีมาก แต่วิธีนี้อาจไม่ทำให้คราบหายไปกับตาเลยซะทีเดียว เพราะเพียงแต่จะช่วยสลายคราบได้ในเบื้องต้นแต่อาจจะไม่หายขาดหรือเจอจางมาก ต้องลองใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดคราบที่อยู่บนที่นอนอีกครั้ง ทำความสะอาดที่นอน
ทำความสะอาดที่นอน
ซึ่งจะว่าไปเตียงนอนก็คือสิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ใครๆ ก็ต้องเอนหลังแบบแนบสนิททุกคืนกลิ้งเกลือกไปมาบนที่นอน หรือเอานั่นเอานี่มาทำบนที่นอน หรือแม้แต่การเปิดหน้าต่างเพื่อรับแสง รับลม ซึ่งอาจจะมีฝุ่นละอองเข้ามาได้จนเกิดการสะสมมากขึ้น ทำให้ฝุ่นที่เกาะกันเป็นก้อน หรือเข้ามาเกาะตามส่วนมุมหรือหลืบต่างๆ แม้แต่การเปิดแอร์บ่อย ก็อาจทำให้เกิดความชื้นอยู่บนฟูกที่นอนได้ ซึ่งหากไม่ยอม
ทำความสะอาดที่นอน ทำความสะอาดที่นอน
แบบชิลๆ ที่คุณก็รอบรู้จัดการได้ด้วยตัวเอง ซึ่งหากได้ทำอย่างถูกวิถีทางแล้ว เชื่อว่าจะช่วยให้เตียงนอนขัดสนเชื้อโรคได้อย่างที่คุณอาจคาดคะเนไม่ถึง เพราะการทำความดีงามเตียงนอนหรือ ฟูกนอน รวมทั้งผ้าปูที่นอนเป็นเรื่องที่ไม่ไกลตัวสักเท่าไร แต่ไม่น่าเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่โดยมากจะทำเป็นหลง ๆ ลืม ๆ และไม่ใส่ใจเรื่องความงดงามของที่นอนสักเท่าไร นั่นอาจเป็นเพราะคิดว่าที่นอนอยู่ในห้องนอน คงไม่เจอะเจอฝุ่น เจอฝน แถมที่นอนก็มีความหนักเบามากไม่ใช่เล่น ครั้นจะให้ยกออกไปตากแดดทุกอาทิตย์ หรือต้องรื้อทุกอย่างมาจัดการทำความสะอาดบ่อย ๆ อาจจะไม่ไหวและหมดแรงไปก่อนก็ได้ แต่จะว่าไปหากคุณปล่อยให้ที่นอน มีการสะสมฝุ่นไรหรือเชื้อโรคโดยไม่คิดทำอะไร บอกเลยว่าคงจะไม่เป็นผลดีแน่ ทำความสะอาดที่นอน
การดูดฝุ่นเพื่อ ทำความสะอาดที่นอน
แนวทางในการ ทำความสะอาดที่นอน
อาจจะใช้วิธีขจัดคราบต่างๆ ด้วยการผสมเบกกิ้งโซดา 2 ส่วน กับน้ำ 1 ส่วน เมื่อคนให้เข้ากัน แล้วควรนำไปป้ายคราบเลือด จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วจึงใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำหมาดๆ เพื่อเช็ดทำความสะอาดคราบต่างๆ ให้หมดจด หรือจะเลือกใช้วิธีชุบผ้าสะอาดด้วยการจุ่มลงในส่วนผสมของน้ำยา แล้วนำผ้าผืนนั้นไปเช็ดทำความสะอาดคราบต่างๆ ก็จะช่วยได้เช่นกัน ทำความสะอาดที่นอน
การ ทำความสะอาดที่นอน
บ่อยๆ ก็อาจกลายเป็นศูนย์รวมแห่งความสกปรก สำหรับการใช้น้ำยาทำความสะอาดฟูกที่มาในรูปของส่วนผสมสารเคมีจะต้องเลิกคิดไปก่อน ลองหันมาใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ได้จากวิธีธรรมชาติ ซึ่งหากเป็นน้ำยาทำความสะอาดชนิดเอนไซม์ อาจจะมีความรู้สึกว่าปลอดภัยกว่าและเมื่อเอนไซม์ที่ถูกสกัดมาเป็นน้ำยาทำความสะอาด ก็ยังมีสรรพคุณในการย่อยสลายรอยหรือคราบเปื้อนต่างๆ บนที่นอนของคุณได้ด้วย ทำความสะอาดที่นอน
ถ้ามีรอยด่างเปื้อนบนฟูกมากเกินไป และไม่มีทีท่าว่าจะลบออกไปได้ง่าย ๆ ลองใช้น้ำมะนาวคั้นสดก็ได้ ให้นำมาเทลงไปบนคราบหรือรอยเปื้อนให้ชุ่ม แล้วทิ้งไว้สักประมาณ 5 นาที แล้วค่อยๆ ใช้ผ้าขาวซับน้ำออกให้หมดจากนั้นจึงทำความสะอาดด้วยสบู่ หรือน้ำยาล้างจานอีกครั้ง หากมีรอยหรือคราบเปื้อนจากเลือด หรือน้ำที่เป็นสีๆ หกใส่บนฟูก ลองผสมน้ำอุ่นกับเกลือเข้าด้วยกันก่อน แล้วค่อยนำมาฉีดพ่นคราบที่มีรอยเปื้อนให้ชุ่ม ซึ่งการใช้เกลือจะช่วยสลายคราบจากสีต่างๆ และทำให้โปรตีนในเลือดแตกตัว จากนั้นจึงใช้ผ้าสะอาดเช็ดรอยออกได้ การ ทำความสะอาดที่นอน
อาจจะไม่ได้ใช้แค่เพียงวิธีสองวิธีเท่านั้น ทำความสะอาดที่นอน
เป็นการเขี่ยความสกปรกที่หนึ่ง รองลงมาจากการนำผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ปลอกหมอนข้างไปซัก ซึ่งหลังจากที่จัดการเตรียมถอดทุกอย่างออกหมดเพื่อเตรียมจะนำไปซักแล้ว คุณอาจจะทำความสะอาดฟูกนอนด้วยการใช้เครื่องดูดฝุ่นค่อยๆ จัดการกับไรฝุ่นและความสกปรกก่อน ตามร่องของที่นอนในแต่ละช่อง จะมีเศษฝุ่นอยู่มาก จะได้กำจัดฝุ่นที่ฝังตัวอยู่บนฟูกได้อย่างสะดวก แล้วค่อยจัดการดูดฝุ่นที่นอนให้ครบทุกซอกทุกหลืบ ทุกหลุมแค่นี้ก็สามารถลดฝุ่น และความปอนไปได้บ้าง ส่วนใครที่เปิดแอร์นอนประจำ อาจจะหาคนช่วยยกออกไปตากแดดบ้าง จะได้ไม่ทำให้ที่นอนชื้นก่อนจะเกิดการขึ้นรา หากที่นอนคุณเป็นขนาดมาตรฐานน้ำหนักหลายกิโล คุณสาวๆ อาจจะต้องขอแรงคนในบ้านให้มาช่วยยกที่นอนออกไปตากแดดก็น่าจะดีกว่าปล่อยให้ที่นอนอับชื้น ซึ่งอาจเกิดเชื้อรา และทำให้คุณเองอาจเกิดโรคภูมิแพ้ต่างๆ ขึ้นได้ ทำความสะอาดที่นอน
ที่นอนบางคนอาจจะมีรอยเปื้อนที่มักจะทิ้งข้อพิสูจน์ไว้บนที่นอน ไม่ว่าจะเป็นคราบอาหาร หรือคราบเลือดจากประจำ เดือนที่เป็นวง ๆ หรือลูกๆ ฉี่รถที่นอน ฯลฯ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะกลายมาเป็นปัญหาที่หลายคนคิดไม่ออกว่าจะหาทางแก้ไขอย่างไร เพราะหากจะใช้น้ำยาเคมีกำจัดคราบสำหรับ ทำความสะอาดที่นอน