ผู้เขียน หัวข้อ: นมผึ้งและก็คุณประโยชน์ที่น่าสนใจรวมทั้งจำเป็นต้องลองหามาทานซักครั้ง  (อ่าน 250 ครั้ง)

ManUThai2017

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2183
    • ดูรายละเอียด
นมผึ้ง สำเร็จผลิตที่หลั่งออกมาจากต่อมไฮโปฟาริงจ์ (Hypopharyngeal Gland) ของผึ้งงาน นมผึ้งมีลักษณะเป็นของเหลวสีขาวเหมือนนม รสหวาน มีกลิ่นเปรี้ยวน้อย เป็นอาหารหลักของผึ้งนางพญาแล้วก็ตัวอ่อนผึ้งเพื่อช่วยกระตุ้นสำหรับเพื่อการเจริญวัย หลายประเทศใช้นมผึ้งในฐานะยารักษาโรค อาหารเสริม หรือแม้กระทั่งเป็นส่วนผสมของครีมบำรุงแล้วก็เครื่องแต่งหน้า
นมผึ้ง
นมผึ้งมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักประมาณ 60-70% และอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆเช่น โปรตีน น้ำตาล วิตามิน เกลือแร่ และกรดอะมิโน นอกนั้น ยังเจอสารอื่นในนมผึ้ง อาทิเช่น กรดไขมันเอชดีเอ (10-Hydroxy-Trans-2-Decenoic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีบทบาทสำหรับการเติบโตของผึ้ง สารแอสิตำหนิลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับความรู้ความเข้าใจสึกแล้วก็กลไกหลักการทำงานของร่างกาย รวมถึงฮอร์โมนเพศ ยกตัวอย่างเช่น เทสโทสเตอโรน โปรเจสเตอโรน ฯลฯ ทั้งนี้สถานที่ ภูมิศาสตร์ รวมทั้งลักษณะอากาศเป็นตัวแปรที่ทำให้ส่วนประกอบของนมผึ้งแตกต่างออกไป ผู้คนจำนวนมากเชื่อว่าการรับประทานนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยทุเลาอาการวัยทอง กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย รักษาโรคเบาหวาน รวมทั้งแผลโรคเบาหวาน เป็นต้น ทั้งยังเชื่อกันอีกว่าหากนำนมผึ้งทาที่หนังหัวอาจช่วยกระตุ้นการเจริญเติบของเส้นผมอีกด้วย ซึ่งคำกล่าวอ้างเหล่านี้จะเป็นจริงหรือเปล่า แล้วก็มีหลักฐานทางการแพทย์มาดน้อยเท่าใดที่จะช่วยรับรองสรรพคุณ ประโยชน์ แล้วก็ความปลอดภัยของนมผึ้งที่มีบทบาทหรือส่วนช่วยสำหรับในการรักษาโรคพวกนี้
คุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากนมผึ้งที่อาจมีต่อร่างกาย
บรรเทาอาการวัยทอง อาการวัยทองเป็นปัญหาทางสุขภาพที่เกิดขึ้นกับหญิงวัยกลางคน เป็นเหตุให้เกิดอาการหลายแบบ ตัวอย่างเช่น ช่องคลอดแห้ง แสบร้อนหรือคันในช่องคลอด เจ็บขณะร่วมเพศ ฯลฯ อาการดังที่กล่าวผ่านมาแล้วสามารถบรรเทาลงได้ด้วยการใช้สารหล่อลื่น แต่สารหล่อลื่นจำนวนมากจะออกฤทธิ์ได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราว ซึ่งนมผึ้งมีคุณสมบัติต่อต้านจุลชีวัน (Antimicrobial Activity) รวมทั้งมีคุณลักษณะเหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน จากการศึกษาโดยให้ผู้หญิงวัยทองที่สมรสแล้วอายุ 50-65 ปี ปริมาณ 90 คน กลุ่มหนึ่งใช้ครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้ง 15% กลุ่มหนึ่งใช้ฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจนจำพวกครีมยี่ห้อหนึ่ง รวมทั้งอีกกรุ๊ปใช้สารหล่อลื่นทาบริเวณช่องคลอดเป็นเวลา 3 เดือน พบว่าครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้งมีประสิทธิภาพในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้หญิงวัยทองได้มากกว่าอย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อเทียบกับฮอร์โมนตอบแทนเอสโตรเจนประเภทครีมและสารหล่อลื่น ซึ่งจากผลของการทดลองอาจกล่าวได้ว่าการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตแล้วก็บรรเทาอาการวัยทองที่เกี่ยวเนื่องกับช่องคลอดของผู้หญิงวัยทอง แล้วก็ทางผู้ศึกษาค้นคว้าและวิจัยยังได้ระบุอีกว่าถ้าเพิ่มความเข้มข้นของนมผึ้งก็บางทีก็อาจจะช่วยทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นให้มากยิ่งขึ้นได้
ลดระดับไขมันในเลือด นมผึ้งมีส่วนประกอบของสารอาหารหลายแบบ หนึ่งในนั้นคือกรดไขมันสายกลาง (Medium Chain Fatty Acid) รวมทั้งสารประกอบที่มีคุณสมบัติช่วยลดไขมันในเลือด ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาวิจัยที่ให้ผู้หญิงวัยทองสุขภาพดีปริมาณ 36 ผู้รับประทานนมผึ้งขนาด 150 มิลลิกรัม ตรงเวลา 3 เดือน โดยตรวจปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะเป็นผลให้กำเนิดโรคเส้นโลหิตแล้วก็หัวใจ รวมทั้งระดับไขมันในเลือดทั้งยังก่อนแล้วก็หลังการทดสอบ พบว่ามีการเปลี่ยนของระดับไขมันในเลือดอย่างเป็นจริงเป็นจัง โดยที่ระดับคอเลสเตอรอลประเภทที่ไม่ดี (LDL) ต่ำลง 4.1% ระดับคอเลสเตอรอลรวม (TC) ลดลง 3.09% และก็ระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ดี (HDL) มากขึ้น 7.7% จากผลของการทดสอบอาจจะบอกได้ว่าการรับประทานนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยลดระดับไขมันในเลือดแล้วก็อาจเป็นโอกาสหนึ่งในการควบคุมอาการวัยทองที่เกี่ยวข้องกับภาวการณ์ไขมันในเลือดสูง
นอกนั้น ยังมีอีกการศึกษาหนึ่งที่ให้อาสาสมัครซึ่งมีสภาวะไขมันในเลือดสูงจำพวกไม่ร้ายแรงจำนวน 40 คน กินนมผึ้งขนาด 350 มิลลิกรัมวันละ 9 แคปซูล ตรงเวลา 3 เดือนก็ชี้ให้เห็นถึงระดับไขมันในเลือดที่ลดลงเช่นกัน อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นฮอร์โมนเพศ (Dehydroepiandrosterone Sulphate: DHEA-S) และก็ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเส้นเลือดรวมทั้งหัวใจได้อีกด้วย
ทุเลาอาการก่อนมีเมนส์ อาการก่อนมีระดูมักส่งผลในทางลบกับสุขภาพของสตรี บางโอกาสการรักษาโดยไม่ใช้ยาก็อาจช่วยบรรเทาให้อาการต่างๆดีขึ้นได้ ซึ่งสอดคล้องกับการเรียนรู้ชิ้นหนึ่งที่ให้นักศึกษาแพทย์จำนวน 110 คน รับประทานนมผึ้งขนาด 1,000 มก.วันละ 1 ครั้ง โดยเริ่มในวันแรกที่มีรอบเดือน และกินต่อเนื่องจนกระทั่งหมดรอบเดือนในรอบถัดไป พบว่าอาการก่อนมีระดูลดลง จากผลของการทดลองอาจจะบอกได้ว่าการกินนมผึ้งต่อเนื่องกันเป็นเวลา 2 เดือน บางทีอาจช่วยทุเลาอาการก่อนมีประจำเดือนได้
รักษาแผลโรคเบาหวาน แผลเบาหวานเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยในผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ควบคุมอาการได้ไม่ดี จำนวนมากจะเจอแผลเบาหวานที่บริเวณเท้า โดยยิ่งไปกว่านั้นนิ้วโป้งเท้ารวมทั้งปลายอุ้งเท้า ซึ่งนมผึ้งประกอบไปด้วยสารประกอบฟีนอลิคปฏิบัติหน้าที่ต้านทานอนุมูลอิสระ โปรตีนที่มีคุณลักษณะต้านทานเชื้อแบคทีเรีย แล้วก็กรดไขมันเอชดีเอ ที่ช่วยต้านทานเชื้อจุลินทรีย์ จึงคาดว่าบางครั้งอาจจะช่วยรักษาแผลโรคเบาหวานได้ จากการศึกษาเล่าเรียนชิ้นหนึ่งให้คนเจ็บที่มีแผลเบาหวานที่ได้รับการรักษาหลักตามเดิม ทายาที่มีความเข้มข้นของนมผึ้ง 5% ในบริเวณที่เป็นแผลรวมทั้งปิดแผลด้วยแผ่นปิดแผลประเภทปลอดเชื้อโรคเป็นเวลา 3 เดือนหรือจนกระทั่งแผลจะหาย และก็มีการประมวลผลสัปดาห์ละ 3 ครั้ง พบว่าใช้เวลาเฉลี่ย 41 วันจึงทำให้แผลหายดี และค่าถัวเฉลี่ยของความยาว ความกว้าง รวมทั้งความลึกของแผลลดน้อยลงวันละ 0.35 มม. 0.28 มิลลิเมตร และ 0.11 มม.เป็นลำดับ จากผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยอาจจะกล่าวว่านมผึ้งอาจมีความสามารถเป็นหนทางหนึ่งสำหรับในการรักษาแผลโรคเบาหวานควบคุ่ไปกับการดูแลรักษาหลัก อย่างไรก็ตามผลการค้นคว้าข้างต้นมีผู้เข้าร่วมการทดลองเพียงแค่ 8 คนซึ่งบางครั้งอาจจะเล็กเกินไปที่จะสรุปความสามารถของนมผึ้งในการรักษาแผลโรคเบาหวาน
แต่การเล่าเรียนชิ้นหนึ่งได้แสดงให้เห็นผลของนมผึ้งที่แตกต่างออกไป โดยให้ผู้ที่มีแผลเบาหวานป้ายยาซึ่งมีความเข้มข้นของนมผึ้ง 5% ในบริเวณที่เป็นแผลเป็นเวลา 3 เดือนหรือจะกว่าแผลจะหายเหมือนกัน แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่านมผึ้งมีคุณภาพในการรักษาแผลโรคเบาหวานได้มากกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ใช้ยาหลอก
เนื่องมาจากการเรียนทั้งยัง 2 ชิ้นข้างต้นบอกให้เห็นผลของนมผึ้งที่ตรงกันข้ามกัน ก็เลยอาจยังไม่สามารถสรุปประสิทธิภาพของนมผึ้งในการรักษาแผลโรคเบาหวานได้อย่างแจ่มแจ้ง ก็เลยจำเป็นที่จะต้องศึกษาเล่าเรียนเพิ่ม
ทุเลาอาการอ่อนล้าจากโรคมะเร็ง
อาการอ่อนกำลังที่เป็นผลมาจากโรคมะเร็งเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการรักษาทั้งยังการฉายรังสีหรือวิธีการทำเคมีบำบัด มักส่งผลต่ออารมณ์ จิตใจ ร่างกาย รวมทั้งคุณภาพชีวิตของคนไข้ ซึ่งการกินยา การบำบัด หรือการบริหารร่างกายบางทีอาจช่วยบรรเทาอาการลงได้ รวมทั้งการทานอาหารเสริม ได้แก่ นมผึ้งก็อาจมีส่วนช่วยทุเลาอาการอย่างเดียวกัน จึงสอดคล้องกับการเรียนรู้หนึ่งที่ให้คนป่วยโรคมะเร็งอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ปริมาณ 52 คน พบว่ากรุ๊ปที่รับประทานน้ำผึ้งแปรรูปและนมผึ้งขนาด 5 มก. วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 4 สัปดาห์ มีลักษณะอาการเหน็ดเหนื่อยจากโรคมะเร็งอย่างเป็นจริงเป็นจังทางสถิติเมื่อเทียบกับอีกกรุ๊ปที่ัรับประทานน้ำผึ้งบริสุทธิ์ อย่างไรก็แล้วแต่ยังจึงควรเรียนเพิ่มเติมอีกถึงหน้าที่ที่แท้จริงของนมผึ้งในการทุเลาอาการอ่อนแรงจากโรคมะเร็ง
รักษาไข้ละอองฟาง
โรคภูมิแพ้ที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสนองตอบอย่างหนักกับละอองเกสรดอกไม้หรือสารอื่นๆทำให้ผู้ป่วยมีลักษณะอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล คันตา หูอื้อ ฯลฯ ซึ่งจากการเรียนรู้ทดลองโดยให้เด็กอายุ 5-16 ปี ที่เป็นไข้ละอองฟาง ปริมาณ 80 คน กรุ๊ปหนึ่งรักษาด้วยการใช้การรับประทานสินค้าที่มีส่วนผสมของนมผึ้งแล้วก็อีกกรุ๊ปกินยาหลอกตรงเวลา 3-6 เดือน แล้วก็จนกว่าจะสิ้นสุดฤดูของเกสรดอกไม้ พบว่าทั้งยัง 2 กลุ่มยังคงพบลักษณะของไข้ละอองฟาง และก็มีระดับความร้ายแรงของอาการที่ไม่มีความแตกต่างกันมากนัก จากผลวิจัยอาจพูดได้ว่านมผึ้งอาจไม่มีประสิทธิภาพต่อการรักษาไข้ละอองฟางและไม่สามารถบรรเทาอาการต่างๆให้ดียิ่งขึ้นได้ จึงยังต้องศึกษาเล่าเรียนเพิ่มอีกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของนมผึ้งสำหรับในการรักษาไข้ละอองฟางที่เด่นชัดเพิ่มขึ้น
ความปลอดภัยสำหรับการกินนมผึ้ง
การรับประทานนมผึ้งค่อนข้างไม่มีอันตรายถ้ากินในจำนวนที่สมควร แต่ว่าก็ได้โอกาสที่จะเกิดผลใกล้กันได้ ได้แก่ เลือดออกในลำไส้ ปวดท้อง หรือถ่ายเป็นเลือด เป็นต้น บางรายแม้มีอาการแพ้อย่างหนักอาจทำให้มีลักษณะอาการหอบหืด คอบวม หรือถึงกับตาย ทั้งยังการใช้นมผึ้งทาที่บริเวณผิวหนังค่อนข้างไม่เป็นอันตราย แต่ว่าไม่ควรทาบริเวณหนังศีรษะเนื่องจากอาจจะเป็นผลให้กำเนิดอาการแพ้ ผื่นคัน หรือมีลักษณะอักเสบ

Tags : นมผึ้ง,royal jelly,นมผึ้งสรรพคุณ

 

Sitemap 1 2 3