ผู้เขียน หัวข้อ: เบอร์เบินกับเทนเนสซีไม่เหมือนกันยังไง  (อ่าน 374 ครั้ง)

damonshoppu

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 72
    • ดูรายละเอียด

 
ประวัติศาสตร์ฉบับย่อของอเมริกันวิสกี้
 
ว่ากันว่าศาสตร์ของการกลั่นนั้นมีต้นกำเนิดมาไม่น้อยกว่าเมื่อ 2,000 ปีก่อนคริสตกาล ในอารยธรรมเมโสโปเตเมียโบราณ จนกระทั่งเมื่อตอนราวๆ คริสต์ศักราช 1,000-1,200 ความรู้ความเข้าใจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการกลั่นก็เดินทางข้ามจากแผ่นดินหลักของยุโรปไปยังสกอตแลนด์แล้วก็ไอร์แลนด์
 
เมื่อความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการกลั่นเดินทางไปถึงแถบตะวันออกเฉียงเหนือของอเมริกาพร้อมๆ กับผู้ตั้งรกรากผู้ดีอังกฤษ ไรย์ เป็นเมล็ดพืชที่พวกเขาใช้เพื่อการผลิตวิสกี้ และ ถัดมาก็ได้มีการหันมาใช้เมล็ดข้าวโพด เนื่องจากว่าเป็นพืชที่เหมาะสมกับสภาพอากาศมากกว่า การผลิตวิสกี้ที่ทำจากข้าวโพดนั้นมีฐานอยู่ที่มลรัฐเคนทักกี ซึ่งถือเป็นบ้านของเบอร์เบินวิสกี้ (Bourbon Whisky) มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 1700s
 
เพราะอะไรจำเป็นต้องเคนทักกี ?
 
ผู้ผลิตวิสกี้ทุกคนต่างรู้ดีว่าคุณภาพของน้ำนั้นมีส่วนสำคัญสำหรับในการกำหนดรสชาติของวิสกี้ ยกตัวอย่างน้ำในบางพื้นที่ของสกอตแลนด์ก็จะมีรสชาติที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งส่งผลกับบุคลิกของวิสกี้ ตัวอย่างเช่น ในบางพื้นที่ที่ไหลผ่านการเผาหน้าดินก็ชอบมีกลิ่นพีท แล้วก็บางพื้นที่อยู่ใกล้กับทะเลก็จะมีผลให้น้ำที่เอามาผลิตมีรสเค็ม และก็มีผลกับวิสกี้ด้วย ไม่เว้นแม้กระทั้งเบอร์เบิน ซึ่งน้ำจากแม่น้ำเคนทักกีที่ไหลผ่านหินแร่ไลม์สโตนที่อุดมอยู่ในมลรัฐดังที่กล่าวถึงมาแล้ว มีส่วนสำคัญที่ทำให้น้ำจากที่นี่มีผลต่อรสชาติหวานนุ่มอันเป็นเอกลักษณ์ของเบอร์เบิน รวมถึงพื้นที่ตั้งแต่ชายแดนของแคนาดา อยู่ตลอดไปจนกระทั่งรัฐอลาบามาด้วย ที่นับได้ว่าเป็น Bourbon Zone
 
คำจำกัดความ ตามกฎหมายของเบอร์เบินวิสกี้

  • เบอร์เบินต้องผลิตขึ้นจากเมล็ดพืช โดยมีส่วนผสมของเมล็ดข้าวโพดไม่ต่ำกว่า 51%
  • เบอร์เบินจะต้องได้รับการกลั่นโดยไม่ให้มีแอลกอฮอล์เกินกว่า 160 Proof หรือ 80% ABV (Alcohol By Volume)
  • ไม่มีการผสมสี หรือ แต่งรสชาติ
  • เบอร์เบินจะต้องได้รับการบ่มในถังไม้โอ๊กใหม่ ที่เผาไฟด้วยถ่านชนิดพิเศษ
  • โดยต้องได้รับการบ่มไม่น้อยกว่า 2 ปี
  • ได้รับการบรรจุเข้าไปในถังบ่มในขณะมีแอลกอฮอล์ไม่สูงมากไปกว่า 125 Proof หรือ 62.5% ABV
  • เมื่อบรรจุขวดเบอร์เบินต้องมีแอลกอฮอล์ไม่ต่ำยิ่งกว่า 80 Proof หรือ 40% ABV
  • เบอร์เบินที่บ่มนานน้อยกว่า 4 ปี ต้องมีการระบุที่ฉลาก ถึงอายุของวิสกี้ตัวที่เอามาผสมแล้วก็ได้รับการบ่มมาน้อยที่สุดในวิสกี้ขวดนั้น (แต่ว่าจำนวนมากก็นานไม่ต่ำลงมากยิ่งกว่านี้กันทั้งนั้นล่ะ)
  • ถ้าครบทุกคุณสมบัติข้างต้น และผลิตในรัฐเคนทักกีเท่านั้นจึงจะเรียกได้ว่า ‘Kentucky Straight Bourbon Whisky’
  • ข้อนี้สำคัญที่สุด กฎนี้ออกมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1907 วิสกี้ที่ผลิตขึ้นในสหรัฐฯเท่านั้นจึงจะสามารถพูดได้ว่าเป็นเบอร์เบินวิสกี้

 
ครอบครัวที่กลั่นเบอร์เบินมานานกว่า 90 ปี
 
เอ็ดดี้ รัสเซลล์ ผู้ที่มีความชำนาญด้านการกลั่นของ Wild Turkey
 
เมื่อไม่นานมานี้ เอ็ดดี้ รัสเซลล์ ผู้ที่มีความชำนาญด้านการกลั่น (Master Distiller) ของ Wild Turkey เบอร์เบินมีชื่อเสียงจากเมืองเคนทักกีได้เดินทางมาเปิดมาสเตอร์คลาสในเมืองไทย นอกจากให้ความรู้เกี่ยวกับอเมริกันวิสกี้ให้เราฟังแล้ว ยังเล่าถึงเรื่องราวของครอบครัวของเขา ซึ่งเป็นผู้สร้างเบอร์เบินถึง 2 ชั่วอายุคน เป็นตัวเขากับคุณพ่อ ซึ่งรวมแล้วครอบครัวนี้มีประสบการณ์ในการกลั่นเบอร์เบินนานถึงกว่า 90 ปี เลยทีเดียว
 
ถังไม้โอ๊กสำหรับบ่มจะต้องเป็นถังโอ๊กใหม่เท่านั้น แล้วก็ของ Wild Turkey ควรเป็น American White Oak เขาได้เล่าถึงความเด่นของวิสกี้แบรนด์ไก่งวงเถื่อนนี้ให้ฟังว่า โรงกลั่นของ Wild Turkey ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำเคนทักกี ซึ่งมีชั้นหินปูนใต้น้ำ ที่เปรียบดังตัวกรองน้ำจากธรรมชาติ ทำให้โรงกลั่นได้น้ำที่ใสบริสุทธิ์ ซึ่งจำเป็นสำหรับเพื่อการผลิตวิสกี้ประสิทธิภาพสูง และ โดยปกติเมื่อนำไปบรรจุถังไม้โอ๊กในขั้นตอนบ่ม ก็จะใช้เฉพาะถังไม้โอ๊กที่เยี่ยมที่สุดที่เป็นอเมริกัน ไวต์ โอ๊ก ซึ่งจะถูกนำไปเผาที่เบอร์ 4 หรือที่เรียกว่า "The Number 4 Alligator Char" ซึ่งเป็นการเผาเบอร์สูงที่สุดจนกระทั่งมีลวดลายคล้ายหนังจระเข้ (โดยทั่วไปเบอร์เบินวิสกี้ยี่ห้ออื่นมักใช้กันที่เบอร์ 2-3) ซึ่งเขาบอกว่าด้วยการที่ไม่มีการแต่งสีแล้วก็กลิ่นของวิสกี้ การเผาถังไม้เบอร์รีจะช่วยทำให้วิสกี้มีสีและรสชาติมากขึ้น อันเป็นวิธีเฉพาะของ Wild Turkey รวมถึงช่วงเวลาสำหรับในการบ่ม ซึ่งโดยธรรมดามักจะบ่มกันประมาณ 4 - 6 ปี แต่ว่าที่โรงกลั่นวิสกี้ไก่งวงเถื่อนเขาบ่มนานถึง 6, 8, 10, 12 ปี ตามลำดับ ที่สำคัญอีกข้อคือวัตถุดิบที่ใช้ควรจะเป็นเมล็ดข้าวโพดรวมทั้งเมล็ดพืช Non-GMO
 
ที่มา -  ขายเหล้าราคาส่ง
รับโปรโมทเว็บ

 

Sitemap 1 2 3