ผู้เขียน หัวข้อ: โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่  (อ่าน 295 ครั้ง)

asianoned

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 50
    • ดูรายละเอียด
โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่
« เมื่อ: มิถุนายน 29, 2018, 07:07:18 pm »
ย้อนกลับในศักราช 2001 สมาร์ทโฟนได้เริ่มมีการจัดจำหน่ายในวงกว้างแต่เหตุเพราะความเจริญของเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือเครือข่าย ยังไม่พร้อมต่อการใช้งานอย่างเอาเป็นเอาตายมากนัก เมื่อผนวกและมูลค่าที่สูงเป็นปกติของเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่ๆ ในตอนนั้น ส่งผลลัพธ์ให้มีผู้บริโภคโทรศัพท์มือถือไม่มากนักเมื่อเทียบกับตลาดมือถือรวมทั้งหมด
 
 แต่กระนั้นยุคสมัยก็แปรผันพร้อมทั้งการเจริญเติบโตของเทคโนโลยีมาเรื่อยๆ กระทั่งทุกวันนี้ โทรศัพท์มือถือ กลายเป็นส่วนสำคัญอีกอย่างหนึ่งในชีวิตของหลายๆ คน ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และเครือข่ายต่าง ๆ ส่งเสริมให้ผู้ใช้งานหลาย ๆ ล้านคนได้ติดต่อและมีกิจกรรมอื่น ๆ บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้อย่างง่ายดาย
 
 ในศก 2017 ยอดสุทธิส่งออกโทรศัพท์มือถือทั่วโลกอยู่ที่ 408 ล้านเครื่องซึ่งในไตรมาสที่ 3 ปี 2017 นั้นมือถือถูกซื้อขายไปรวมเบ็ดเสร็จราวๆ 383 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปี 2016 ราว 5% โดย 3 ระดับของยี่ห้อที่มียอดขายสูงสุดคือ 1. ซัมซุง ส่วนแบ่งการตลาด 21%,2. แอปเปิ้ล ส่วนแบ่งการตลาด 12%และ 3. หัวเว่ย ส่วนแบ่งตลาด 10% พวกเราไปล้วงลึกสถานการณ์ของแต่ละแบรนด์กันเลย

 ปลายปีที่ผ่านมา ซัมซุงเพิ่งเผยสถิติผลกำไรมากเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2017โดยกำไรสุทธิตั้งแต่เดือนตุลาคมกระทั่งถึงธันวาคมกระโจนไปแตะ 357,000 ล้านบาทแต่ดูท่า ซัมซุงจะทุบสถิติลงอีกครั้งหลังจากล่วงเลยเพียง 3 เดือน ครั้นก้าวเข้าสู่เดือนมีนาคม 2018โดยทำรายได้คร่าวๆ 1.7 ล้านล้านบาทแล้ว

 
โดยแม้กระนั้นเงินรายได้รวมยอดในไตรมาสแรกของปี 2018 นั้นจะน้อยกว่าไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา แต่กระนั้นด้วยค่าใช้จ่ายต่างๆ นั้นน้อยกว่า ทำให้ ซัมซุงสามารถทำผลกำไรได้เป็นสถิติใหม่ของบริษัทอีกครั้งที่ 14,600 ล้านเหรียญ กลายเป็นเงินไทยที่ 450,000 ล้านบาท

ต้นกำเนิดของกำไรที่เป็นสถิตินี้ ก็เป็นชิ้นงานของสมาร์ทโฟนซัมซุง Galaxy S9 / S9+ ที่ปีนี้เลื่อนมาขายรวดเร็วขึ้น ผนวกกับความสำเร็จของ Galaxy A (2018) ที่เป็นโทรศัพท์ซัมซุงราคาไม่แพงที่วางขายในหลายๆ ดินแดน และหน้าจอ OLED แต่ที่เป็นตัวสร้างเงินรายได้สูงสุดจริงๆ นั้นคือชิป DRAM ที่สามารถทำการเงินกำไรได้สูงถึง 70% ของท้องตลาด

 ด้านแอปเปิ้ลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงิน 2018 ของบริษัท (ตุลาคม-ธันวาคม 2017) โดยเงินรายได้รวมทำสถิติใหม่สูงสุดในประวัติศาสตร์บริษัทอีกครั้ง 88,293 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 20,065 ล้านดอลลาร์ หรือ 643,485 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นสถิติใหม่บริษัทเช่นกัน ด้านรายรับจากต่างประเทศนอกสหรัฐอเมริกาคิดเป็น 65% ของรายได้รวม

 3 เดือนที่ผ่านมาแอปเปิ้ลเริ่ม วางขาย iPhone X ซึ่งประมาณการณ์กันว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่ทำเงิน ถึงแม้ว่าจะมีข่าวใส่สีออกมาไม่ดีนัก โดยในรายงานผลประกอบการนั้นแอปเปิ้ลบอกตัวเลขรวมของ iPhone ทั้งหมดว่าขายได้ 77.316 ล้านเครื่อง ลดลงจาก3 เดือนเดียวกันในปีก่อน 1% (78.290 ล้านเครื่อง)

 รายได้จาก iPhone ทุกรุ่นอยู่ที่ 61,576 ล้านดอลลาร์ เพิ่มปริมาณ 13% (54,378 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.74 ล้านบาท)
                ที่น่าสนใจคือ iPhone X เป็นไอโฟนรุ่นที่ขายดีที่สุดของแอปเปิ้ลในทุกอาทิตย์ นับจากเริ่มต้นส่งมอบครั้นเดือนพฤศจิกายน 2017 และจำหน่ายได้มากกว่าที่แอปเปิลคาด
 
 ทางด้านหัวเว่ยสรุปผลประกอบการรวมปี 2017 ยังคงมีเงินรายได้ที่ดีแตะ 9,250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 296.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2016 ถึง 15.7% คิดเป็นผลกำไรสุทธิ 730,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 23.4 ล้านบาท เพิ่ม 28.1% ในปีที่ผ่านมา

 ซึ่งในศก 2017 หัวเว่ยได้ให้โทรศัพท์มือถือทั้งสิ้น 153 ล้านเครื่อง (รวมแบรนด์ Honor ที่เป็นผู้ครอบครองเดียวกัน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.9 จากปี 2016

 โดยครั้นเมื่อปี 2016 CEO ของ หัวเว่ยเคยประกาศเอาไว้ว่า เป้าหมายของบริษัทคือการก้าวขึ้นไปเป็นบริษัทโทรศัพท์เคลื่อนที่ใหญ่โตอันดับ 1 ของโลกให้ได้ภายใน 5 ปี อย่างไรก็ตามในเวลานี้ หัวเว่ยยังค่อนข้างจะมีปัญหาในการพยายามเจาะตลาดแถบอเมริกาเหนือ เนื่องด้วยฝั่งนั้นยังมีเจ้าตลาดอย่าง iPhone ดูแลอยู่ ส่วนตลาดในฝั่งทวีปยุโรปนั้น หัวเว่ยทำได้สวยเลยทีเดียว เหตุเพราะมือถือเกรดไฮเอนด์ในซีรีส์ Mate และ P ได้รับความชื่นชมเป็นอย่างดี

 แม้ยอดสรุปไตรมาสล่าสุดปี 2018 ของหัวเว่ยยังไม่ประกาศออกมา แต่ปี 2018หัวเว่ย ก็ง่วนไปที่การใช้งานเทคโนโลยีใหม่ในสเกลใหญ่ อาทิ Internet of Thing, Cloud Computing, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ 5G
 
 ในหลายปีที่ผ่านมาเครือข่ายไร้สาย 3G มีการใช้งานทั่วโลก หลายประเทศมี 4G และปี2018 คาดว่าเป็นการเริ่มต้นแห่งยุค 5G ซึ่งจะมีการใช้งานในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ 23 (พย็องชัง 2018) ที่เกาหลีใต้ เป็นการทดสอบประสิทธิภาพก่อนจะใช้อย่างเป็นทางการใน 2 ปีภายภาคหน้า
 
 การปรากฏตัวของขอบข่ายไร้สาย 5G เป็นเหตุให้มีการคาดคะเนกันว่า สมาร์ทโฟนจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันมากขึ้นไปอีกซึ่งต้องรอจับตาดูว่าแบรนด์โทรศัพท์เคลื่อนที่กลุ่มนี้จักใช้โอกาสนี้เป็นประโยชน์ได้มากแค่ไหนในการเพิ่มยอดจำหน่ายและแข่งขันความเป็นที่ 1 ต่อไป
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : โทรศัพท์ซัมซุงราคา

Tags : โทรศัพท์ซัมซุง,โทรศัพท์ซัมซุงราคา,โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่

 

Sitemap 1 2 3