ผู้เขียน หัวข้อ: บรรพบุรุษ Huawei P Series  (อ่าน 294 ครั้ง)

mmhaloha

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 50
    • ดูรายละเอียด
บรรพบุรุษ Huawei P Series
« เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2018, 11:18:36 am »
ถ้าพูดถึง Huawei สาย P Series ตัวแรกที่คำนึงถึงเลย ก็น่าจะหลีกหนีไม่พ้น Huawei P9 เนื่องมาจากช่วงที่เปิดตัวรุ่นนี้ออกมาเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2559 ถือว่าเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ด้วยความเป็นกล้องถ่ายรูปคู่ที่ได้รับการผสมผสานของเทคโนโลยีที่เข้าร่วมพัฒนากับ LEICA จึงเป็นเหตุให้ Huawei P9 ที่สามารถถ่ายภาพที่มีรายละเอียดสูงได้อย่างงดงาม และยังได้รับความชื่นชมอยู่ในตอนนี้ วันนี้กระผมจะพาไปย้อนรอยเรื่องกล้องถ่ายรูปของ Huawei P9 อีกครั้ง ไปดูกันครับ
 
 Huawei P9 มีกล้องถ่ายภาพข้างหลัง 2 กล้องถ่ายภาพที่ทาง Huawei ได้ร่วมแรงกับทาง LEICA ซึ่งเป็นบริษัทกล้องถ่ายรูปดีกรีตำนานมาร่วมดีไซน์กล้องถ่ายภาพให้กับทาง Huawei P9 โดยบริเวณกล้องข้างหลังจะมีข้อความกำกับไว้ว่า LEICA ซึ่งใต้ LEICA จะเขียนไว้ว่า Summarit H 1:2.2/27 APSH ซึ่ง Summarit เป็นการบ่งชี้ช่วงขนาดรูรับแสงของเลนส์ LEICA ส่วนเลขแนบท้าย 1:2.2 คือเลนส์มีรูรับแสงขนาด 2.2 และเลข 27 คือทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 27mm ซึ่งนับว่าเป็นระยะที่ให้มุมกว้างที่เหมาะเลยเชียว
 
 โดยกล้องถ่ายรูปตัวแรกของ Huawei P9 เป็นกล้องถ่ายรูปที่มีเซนเซอร์รับภาพสี (RGB) ในขณะที่กล้องถ่ายภาพตัวที่ 2 จะเป็นกล้องถ่ายรูปที่ใช้เซ็นเซอร์รับภาพขาว-ดำ (Monochrome) ซึ่งให้ภาพที่คมชัดกว่า สามารถรับแสงได้มากกว่าปกติธรรมดา และการที่รับแสงได้มากกว่า นั่นหมายถึงปริมาณ noise ที่น้อยกว่านั่นเอง จึงได้คุณภาพของไฟล์ภาพที่ดีกว่า แต่กล้องถ่ายรูปทั้งสองตัวก็มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดพิกเซล 1.25 ไมครอน, ไฟแฟลช LED แบบ Dual-Tone และระบบการโฟกัสภาพแบบ Hybrid Autofocus แบบเดียวกันเลย อีกอย่างถึงแม้ว่าจะแบ่งแยกเป็นกล้อง RGB กับ กล้องถ่ายภาพ Monochrome แต่ว่ากล้องถ่ายภาพทั้งสองตัวจะทำงานร่วมกันอยู่แล้ว จึงทำให้ภาพที่ได้มีสีสัน และรายละเอียดปลีกย่อยในส่วนสีขาว-ดำชัดมากกว่าการถ่ายด้วยกล้องถ่ายภาพทั่วไป รวมไปถึงสามารถปรับจุดโฟกัสหลังจากทำการถ่ายรูปได้ด้วยเหมือนกัน

 ด้านกล้องด้านหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง 2.4 ซึ่งก็ยังนับว่ายังทำออกมาได้ดีแม้จะมิใช่ LEICA แล้วก็ตาม และสามารถปรับระดับความฟรุ้งฟริ้งกิงก่องแก้ว หรือ Beauty Mode ได้ถึง 10 ระดับเลยทีเดียว ที่สำคัญคือกล้องถ่ายภาพหน้าของ Huawei P9 สามารถวัดแสงและชดเชยออกมาได้ค่อนข้างจะสว่าง ใบหน้าขาวใส ถ้าหากใครที่ชอบถ่ายภาพตัวเอง ก็ไม่ควรพลาด ยิ่งกว่านั้นยังสามารถถ่ายได้แม้ในที่ความสว่างน้อย ก็ยังทำได้ดีอีกเช่นกัน ตัวอย่างเช่นคุณไปงานกินเลี้ยงกลางคืน แต่ว่าอยากเซลฟี่ ท่านก็สามารถถ่ายได้ทุกทุกหนทุกแห่ง โดยไม่ต้องสอดส่ายหาแสงจากที่ไหน เพราะว่าจอของ Huawei P9 จะส่องสว่างโดยทันทีที่ท่านลั่นชัตเตอร์ ซึ่งทำหน้าที่เหมือนกับแฟลชด้านหน้าเลยเทียว
 
 และหากเจาะลึกไปทีละโหมดการใช้งาน ก็คงเริ่มที่โหมดออโต้ ซึ่งเป็นโหมดที่ใช้งานง่ายที่สุด ก็เพราะว่าเพียงแค่ยก Huawei P9 ขึ้นมาแล้วกดชัตเตอร์แค่นั้น เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยอยากปรับอะไรมาก หรือผู้ที่หัดถ่ายรูป แต่ต้องการรูปที่สวยงาม โหมดอัตโนมัติก็สามารถตอบโจทย์ส่วนนี้ได้ดี ถัดมาเป็นโหมดโปร เหมาะกับผู้ที่มีพื้นฐานการถ่ายรูปอยู่บ้าง ซึ่งคุณสามารถเลือก ISO / WB / Shutter Speed แต่ไม่สามารถปรับรูรับแสงได้ ซึ่งตัวเครื่องจะกำหนดพื้นฐานที่ 2.2 และในโหมดโปรสามารถเลือกบันทึกภาพเป็นแบบ raw file ได้ด้วย ถ้าหากใครอยากนำไปแต่งในโปรแกรมต่างๆ ต่อ แต่ก็มิได้มีฤทธิ์เดชในการแต่งเยอะมากมาย เพราะด้วยขีดจำกัดเรื่องขนาดเซนเซอร์นั่นเอง
 
 ถัดมาเป็นโหมดขาว-ดำ ในกล้อง Monochrome ซึ่งจัดว่าเป็นอีกหนึ่งข้อดีเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นแบรนด์แรกที่มีกล้องสำหรับถ่ายขาวดำโดยเฉพาะซึ่งจะสามารถเก็บรายละเอียดความต่างแสง (Dynamic range) ได้มากกว่าถ่ายแบบสี ซึ่งได้ภาพที่กระจ่าง สวยงามมาก เหมือนราวกับมาจาก LEICA ซะเองเลย และอีกโหมดที่น่าสนใจคือ โหมด Wide Aperture ซึ่งเป็นโหมดหน้าชัดหลังเบลอนั่นเองซึ่งในโหมดนี้เป็นการจำลองรูรับแสง ซึ่งสามารถปรับต่ำสุดได้ที่ F 0.95 และสูงสุดที่ F 16 ซึ่งอาจจะทำได้ไม่ดีเหมือนกับกล้องใหญ่อย่าง DSLR เนื่องจากมีขนาด Sensor ที่เล็กกว่านั่นเอง แต่ก็ไม่ได้ทำออกมาจนขี้ริ้วขี้เหร่
 
 และโหมดสุดท้ายที่ไม่แนะนำไม่ได้ นั่นคือ โหมดถ่ายกลางคืน หรือว่า Night mode นั่นเอง ซึ่งถ้าหากคุณมีขาตั้งอีกตัว ภาพที่ท่านจะได้นี่เท่าเทียมกล้องถ่ายภาพใหญ่ๆได้เลยนะ เพราะว่าหากไร้ขาตั้งกล้อง อาจเป็นเหตุให้ภาพสั่นไหวได้ และโหมดนี้ท่านสามารถเลือก ISO ได้สูงสุดที่ 1600 และ Shutter Speed เลือกเปิดได้นานถึง 32 วินาทีเลยเชียว แต่ถ้าไม่อยากเปลี่ยนแปลงอะไร ก็สามารถให้ระบบเลือกให้อัตโนมัติได้เลย
 
 นี่เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นของ Huawei P9 ซึ่งยังมีจุดเด่น สเปคการใช้งานต่างๆ ที่น่าศึกษาอีกมากหลาย แต่อย่างที่บอกไปในข้างต้น ว่า Huawei กลุ่ม P Series นั้น มีข้อเด่นที่กล้องถ่ายรูปอยู่แล้ว ซึ่งหากว่าใครที่ชอบการถ่ายภาพ และอยากได้รูปที่ค่อนข้างจะมีคุณภาพเทียบเท่ากล้องถ่ายรูปใหญ่ๆ แถมสามารถติดตัวได้อย่างฉลุยมากกว่าพกกล้องถ่ายภาพจริงๆ เสียอีก ก็ขอแนะนำเครื่องนี้เลย ซึ่งเดี๋ยวนี้ Huawei P9 ราคาได้ลดลง โดยเริ่มต้นเพียง 7,300 บาทเท่านั้น โดยแต่ละเว็บไซต์ หรือห้างร้าน ราคาอาจแตกต่างกันออกไป ยังไงก็ลองตรวจสอบราคากันอีกครั้งนะครับผม
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : รีวิว Huawei P9

Tags : Huawei p9,Huawei p9 ราคา,รีวิว Huawei P9

 

Sitemap 1 2 3