ผู้เขียน หัวข้อ: เครื่องเย็บผ้า กับความรู้ดี ๆ ที่แม่ศรีเรือนต้องเอาใจใส่  (อ่าน 354 ครั้ง)

uchaiyawat

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 50
    • ดูรายละเอียด
คงมีแม่ศรีเรือนหลาย ๆ คนที่โปรดปรานซ่อมแซมเสื้อผ้าอาภรณ์หรือเย็บผ้า ซึ่งเครื่องไม้เครื่องมือสำคัญคงหลีกหนีไม่พ้นเครื่องเย็บผ้านั่นเอง ซึ่งใครตะกลามจะได้จักรเย็บผ้าสักเครื่องและไม่มีข้อมูลมาก่อนอาจจะฉงนน่าดูเลยเทียว ผมเลยเก็บข้อมูลและความรู้มาให้ทุกผู้ทุกนามรับทราบกัน
 
 ในสมัยปัจจุบันผู้ผลิตได้มีการดีไซน์จักรเย็บผ้าออกมาต่างๆ นาๆรูปแบบ โดยออกแบบให้มีนำสมัยมากขึ้น ใช้งานสบายเพิ่มขึ้น รวมถึงยังออกแบบให้สามารถใช้งานได้นานาประการ โดยผู้ใช้งานสามารถคัดเลือกซื้อเครื่องเย็บผ้าได้ตามจุดประสงค์ที่พึงปรารถนาใช้งานดังนี้
 
 1. รู้เป้าหมายที่จักเอาไปใช้
                ควรเริ่มแรกจากการที่มีจุดหมายชัดแจ้งแล้วว่าต้องประสงค์เลือกซื้อเครื่องเย็บผ้า เพื่อมาใช้งานแบบอะไรเช่นว่า
 
ซ่อมเครื่องนุ่งห่มทั่วไป
                โดยรากฐานสำหรับมือใหม่หรือต้องการเพียงนำมาใช้แก้ เติมแต่งเสื้อผ้าในยามจำเป็นและปะเป้ไม่ก็เครื่องใช้หยุมหยิม สามารถเลือกเป็นเครื่องเย็บผ้าที่มีฟังก์ชันการซ่อมทางตรงอย่างเดียวก็พอ ซึ่งขณะนี้ก็มีทั้งจักรเย็บผ้าไฟฟ้าหรือว่าเครื่องเย็บผ้าคอมที่มีขนาดพอดี ปุปะได้นุ่มนวลและใช้งานสะดวกกว่าหัวจักรเหล็กที่จะย้ำความแข็งแกร่งแข็งแรงจากการใช้งานอย่างทุกครั้ง อยู่ที่ว่าอยากปะเป็นอดิเรกหรือมุ่งหวังรับงานแก้ไขมาปะเพิ่มเติมด้วยนั่นเอง
 
 ทำงานฝีมือ
                นอกจากเครื่องเย็บผ้าที่มีฟังก์ชันการเย็บทางตรงอย่างเดียวแล้ว ก็ยังมีรูปแบบที่เสริมฟังก์ชันการปุปะตะเข็บรูปแบบต่างๆ เช่นแถวซิกแซก รวมถึงการเย็บงานควิ้นล์ และในบางรุ่นอาจเสริมการปักเข้ามาด้วย โดยจักเหมาะสำหรับการปุปะเสื้อผ้าทั่วๆ ไปพร้อมด้วยทำงานฝีมืออื่น ๆ เพิ่มด้วย ถ้าวันใดใคร่ตัดเย็บขากางเกงก็ทำได้
 
 2. ตั้งงบและตรวจสอบราคา
                หลังจากรับรู้เหตุจำเป็นและเลือกสรรรูปแบบเครื่องเย็บผ้าที่ปรารถนาได้แล้ว ต่อมาก็ต้องตั้งงบและตรวจสอบราคากัน โดยเครื่องเย็บผ้าที่ไม่มีลูกเล่นอื่นๆ ก็อาจเริ่มที่ 3,000-4,000 บาท อย่างไรก็ดีถ้าเป็นเครื่องเย็บผ้าที่เชี่ยวชาญปุปะได้หลายรูปแบบหรือเครื่องเย็บผ้าปักก็อาจจะมีราคาแพงถึงหลักหมื่น
 
 3. ดูผลิตภัณฑ์ของจริง
                ก่อนที่จักควักกระเป๋าผู้ชื้อควรจะได้ดูผลิตภัณฑ์จริง มากกว่าการดูผ่านแค่รูปภาพอย่างเดียว ควรจะเดินทางไปดูสินค้าจริงที่ร้านขายจริงโดยตรง บางร้านขายของอาจมีการแสดงให้เห็นการใช้งานเครื่องเย็บผ้ารุ่นนานา ให้ได้ชม รวมทั้งผู้ซื้อยังสามารถถามสิ่งที่ต้องการทราบจากมืออาชีพด้วย
 
 4. เปรียบส่วนดีข้อตำหนิของแต่ละรุ่น
                หลังจากที่ได้ดูสินค้าของจริงแล้ว ต้องมีการเอาข้อมูลที่ได้มาทำการเปรียบเทียบรุ่นของจักรเย็บผ้าว่าแต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันเช่นไร อาทิความชำนาญ วิธีใช้งาน รวมไปถึงมูลค่าจักรเย็บผ้าแต่ละรุ่นด้วย
 
 5. ตรวจทานบริการหลังการขาย
                บริการหลังการขายเป็นอีกสาระสำคัญในการเลือกซื้อจักร ด้วยเหตุนั้นถ้าหากร้านค้าค้าขายจักรเย็บผ้าที่ให้บริการมีการบริการเสริมนอกเหนือจากการจำหน่าย จักร ตัวอย่างเช่น การบริการซ่อม การบริการขนย้าย การบริการจัดตั้ง จะทำให้ผู้ซื้อสะดวกในการใช้งานจักรเย็บผ้าและการขนย้ายมากยิ่งขึ้นรวมถึงผู้ใช้สมควรเลือกสรรร้านรวงทำการค้าเครื่องเย็บผ้าที่มีอะไหล่เครื่องเย็บผ้าให้บริการจนกระทั่งเสื่อมสภาพ
 
 ครั้นเมื่อได้เครื่องเย็บผ้ามาแล้วการดูแลรักษาจึงเป็นสิ่งที่พึงกระทำตามมาดังนี้

  • การหล่อลื่นหรือว่าการหยอดน้ำมันเครื่องจักรกล การหยอดน้ำมันเครื่องจักรกลให้ปฏิบัติอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง ตรงจุดที่มีเครื่องหมายกำหนดไว้ และตามรอยต่อข้อเหวี่ยงต่างๆ โดยใช้น้ำมัน จุดละ 1-2 หยด และอย่าหยอดน้ำมันในขณะเครื่องจักรทำงาน
     
     2. สมมติว่ามิได้ใช้เครื่องเย็บผ้าเป็นระยะนานมาก ควรใช้จาระบีประเภทใส พอกให้ทั่วถึงทุกส่วนที่เป็นโลหะ เพื่อให้ป้องกันการเกิดสนิม และสมควรใช้ผ้าปกคลุมจักรให้มิดชิด
  • เราไม่ควรจะวางเครื่องเย็บผ้าไว้ใกล้ที่ที่มีความชื้น เหตุเพราะเป็นเหตุให้เกิดสนิมได้
     
     นอกจากนี้วิธีการการดูแลรักษาแยกได้เป็น 2 ลักษณะดังต่อไปนี้

  •  ทะนุบำรุงทุกวัน


                โดยตรวจทานดูความเรียบร้อยทั่วๆ ไป ดังเช่น ความผิดปกติที่บริเวณตัวเครื่องจักรเย็บผ้าและมอเตอร์ ล้างที่บริเวณเท้าทับผ้า แป้นฟันจักร เข็มเครื่องเย็บผ้าและโดยรอบ ตัวเรือนกระสวย และหลังจากเลิกใช้จักรแล้ว ให้เอาเศษผ้า มากางไว้ที่ใต้เท้าทับผ้าเป็นประจำ
 
 2. การทะนุบำรุงประจำสัปดาห์
                โดยตรวจทานเช็คสังเกตระดับน้ำมัน ให้อยู่ในระดับที่ถูกต้อง คือ ระดับ High กับ Low หากว่าน้ำมันสกปรกมาก ควรทำการเปลี่ยนโยกย้ายน้ำมันจักร โดยใส่น้ำมันใหม่ ให้ได้ตำแหน่งตามหลักเกณฑ์มาตรฐาน และต้องตรวจทานความตึงของสายพานเครื่องเย็บผ้า โดยให้อยู่ในตำแหน่งที่พอเหมาะพอควร รวมถึงหยอดน้ำมันหล่อลื่น ตรงรอยเชื่อมหรือตรงจุดส่วนประกอบที่เกิดการเสียดสี แม้กระนั้นห้ามหยอดน้ำมันพร่ำเพรื่อ เนื่องมาจากจะทำให้น้ำมันไหลออกมาข้างนอกจนเลอะเทอะ
 
 หัตถศิลป์นั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดอยู่ที่ฝีไม้ลายมือผู้ทำ แม้กระนั้นวัสดุอุปกรณ์อย่างเครื่องเย็บผ้าที่ดีทรงคุณภาพก็เป็นตัวช่วยสำคัญให้งานออกมาปราศจากข้อเสียมากเพิ่มขึ้น ซึ่งจากที่ผมรวมความถึงข้อมูลก่อนการเลือกซื้อและการรักษาจักรเย็บผ้าไปแล้วนั้น หวังว่าจะเป็นวิถีทางที่ดีให้ผู้สนใจทุกคนนะขอรับกระผม

Tags : จักรเย็บผ้า,จักรเย็บผ้า ราคา,จักรเย็บผ้า ยี่ห้อไหนดี

 

Sitemap 1 2 3