ผู้เขียน หัวข้อ: น้ำมันเหลืองมีส่วนประกอบของสมุนไพรที่น่าทึ่ง  (อ่าน 287 ครั้ง)

uujuyjk01010205

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 16
    • ดูรายละเอียด

น้ำมันเหลือง
น้ำมันเหลือง ไพล หรือปูลอย ปูเลย มิ้นสะข้างล่าง ว่านไฟ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Zingiber montanum (Koenig) Link ex Dietr. หรือ Zingiber cassumunar Roxb. วงศ์ Zingiberaceae เป็นสมุนไพรตัวหนึ่งในบัญชียาจากสมุนไพร ใน บัญชียาหลักแห่งชาติ ปี 2554 กรุ๊ปที่ 2 บัญชียาพัฒนาจากสมุนไพร กรุ๊ปยารักษาอาการทางกล้ามแล้วก็กระดูก ยาสำหรับใช้ภายนอก อาทิเช่น ตำรับยาครีมไพล ประกอบด้วยน้ำมันไพลที่จากการกลั่น ร้อยละ 14 โดยปริมาตรต่อน้ำหนัก (v/w) แล้วก็ ยาน้ำมันไพล สารสกัดน้ำมันไพลที่ได้จากการทอด (hot oil extract) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ในตำรับ ซึ่งเป็นสูตรเภสัชตำรับของโรงพยาบาล ข้อบ่งใช้ของทั้งคู่ตำรับคือ ทุเลาอาการบวม ฟกช้ำดำเขียว เคล็ดยอก
น้ำมันเหลือง ไพลที่ได้จากการทอดแล้วก็การกลั่นต่างกันอย่างไร? น้ำมันไพลที่ได้จากการกลั่นเป็น น้ำมันหอมระเหย ซึ่งเป็นของเหลวที่เป็น hydrophobic ระเหยได้ บางครั้งก็อาจจะได้จากผู้กระทำลั่นโดยการต้มด้วยน้ำ (water distillation) ไอน้ำจะพาเอาน้ำมันหอมระเหย ไปควบแน่นเมื่อสัมผัสกับความเย็นของเครื่องควบแน่น (condenser) วิธีการกลั่นแบบนี้เป็นวิธีที่ชาวยุโรปเริ่มแรกนิยมใช้กัน แม้กระนั้นมีข้อเสียตรงที่ไพลที่นำมากลั่นจะถูกความร้อนนาน อาจจะทำให้น้ำมันไพลที่ได้มีกลิ่นผิดไปได้ หรือจะได้จากผู้กระทำลั่นโดยใช้การผ่านของละอองน้ำเข้าสู่ภาชนะที่มีไพลใส่อยู่ (steam distillation) ละอองน้ำจะพาเอาน้ำมันเหลือง หอมระเหยไปควบแน่นที่เครื่องควบแน่น วิธีแบบนี้มีจุดเด่นกว่าคือ ไพลจะถูกความร้อนไม่มากมาย น้ำมันหอมระเหยที่ได้จะไม่มีกลิ่นผิดเพี้ยนไป นั่นเป็นน้ำมันหอมระเหยที่ได้จากอีกทั้ง 2 วิธี จะมีสารประกอบทางเคมีที่ไม่เหมือนกันบ้าง โดยทั่วไปน้ำมันหอมระเหยที่ได้จากการกลั่นจะมีสารประกอบทางเคมีที่มีโมเลกุลเล็ก ดังเช่น สารกลุ่ม monoterpenes (สารที่ประกอบด้วยคาร์บอนปริมาณ 10 ตัว) และก็สารกรุ๊ป sesquiterpenes (สารที่มีคาร์บอนปริมาณ 15 ตัว) น้ำมันหอมระเหยไพลที่ได้จากผู้กระทำลั่นประกอบด้วย สารกลุ่ม monoterpenes อย่างเช่น sabinene, terpinen-4-ol, alpha-pinene, alpha-terpinene, gamma-terpinene, limonene, myrcene, p-cymene, terpinolene2, (E)-1-(3,4-dimethoxyphenyl)butadiene (DMPBD), (E)-4-(3’,4’-dimethoxyphenyl)but-3-en-1-ol (Compound D)3,4
ส่วนน้ำมันเหลือง ไพลที่ได้จากการทอดด้วยน้ำมันพืช เป็นวิธีของชาวไทยโบราณที่ใช้ตระเตรียมน้ำมันไพลเพื่อใช้ในครัวเรือน เป็นน้ำมันเช็ดนวด แก้ปวดกล้ามเนื้อ ปัจจุบันหลายโรงพยาบาลของเมืองได้มีการจัดแจงเป็นเภสัชตำรับของโรงพยาบาล และก็เป็นเยี่ยมตำรับในบัญชียาจากสมุนไพร ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ปี 2554 น้ำมันไพลสูตรนี้จัดเตรียมได้จากการนำไพลสดมาทอดกับน้ำมันพืชจำพวกอิ่มตัว (ประกอบด้วยกรดไขมันประเภทอิ่มตัว) ยกตัวอย่างเช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันเหลือง หรือน้ำมันปาล์ม ไม่สมควรใช้น้ำมันพืชชนิดไม่อิ่มตัว (ประกอบด้วยกรดไขมันประเภทไม่อิ่มตัว) อย่างเช่น น้ำมันงา น้ำมันที่สกัดจากมะกอก น้ำมันคำฝอย น้ำมันทานตะวัน หรือน้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากรำข้าวน้ำมันเหลือง ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าน้ำมันจำพวกไม่อิ่มตัวจะไม่ทนต่อความร้อน ทำให้ภาระคู่ในโมเลกุลมีการแตก แล้วก็รวมตัวเป็นสาร “โพลีเมอร์” เกิดขึ้น กระตุ้นให้เกิดความหนืด นอกจากนี้จะก่อให้กำเนิดควันได้ง่าย รวมทั้งน้ำมันเหม็นหืน น้ำมันพืชที่ใช้สำหรับทอดเป็นน้ำมันที่ประกอบด้วยกรดไขมัน (fatty acids) ซึ่งถือได้ว่าเป็นสารประกอบทางเคมีที่มีขั้วน้อย เป็นตัวทำละลายที่ดีสำหรับการสกัดสารที่มีขั้วน้อยด้วย ด้วยเหตุนั้นน้ำมันพืชก็สามารถจะสกัดน้ำมันหอมระเหยซึ่งมีสารประกอบที่มีขั้วน้อยและโมเลกุลเล็กได้ พร้อมทั้งสกัดสารประกอบที่มีขั้วน้อยแต่มีโมเลกุลใหญ่ได้ด้วย ซึ่งในไพลเว้นเสียแต่มีน้ำมันหอมระเหยแล้ว ยังประกอบสารกรุ๊ป arylbutanoids, curcuminoids, และก็ cyclohexene derivatives เป็นสารที่มีโมเลกุลใหญ่กว่าสารในน้ำมันหอมเหลือง และก็เป็นสารที่ไม่ระเหย สรุปกล้วยๆเป็น น้ำมันไพลที่ได้จากผู้กระทำลั่นจะเป็นน้ำมันหอมระเหยที่มีสารโมเลกุลเล็กรวมทั้งระเหยได้ ส่วนน้ำมันที่ได้จากการทอดจะประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหยและก็สารที่มีโมเลกุลใหญ่และไม่ระเหย
น้ำมันเหลือง หอมระเหยแล้วก็สารที่มีโมเลกุลใหญ่ (สารกรุ๊ป arylbutanoids, curcuminoids, แล้วก็ cyclohexene derivatives) เป็นกลุ่มสารที่ส่งผลการศึกษาค้นคว้าวิจัยพบว่า มีฤทธิ์ต้านทานการอักเสบและก็แก้ปวดในสัตว์ทดลอง โดยมีกลไกการออกฤทธิ์เช่นเดียวกับยากลุ่ม NSAIDs3,4-12 นอกจากนี้ยังมีรายงานการศึกษาน้ำมันเหลือง ทางสถานพยาบาลพบว่า ครีมไพลหรือไพลจีซาล (14% ของน้ำมันหอมระเหย) มีฤทธิ์ลดการอักเสบแล้วก็การปวดของข้อเท้าแพลงในผู้ป่วยนักกีฬาที่เจ็บข้อเท้าแพลงมากยิ่งกว่ากรุ๊ปควบคุมที่ได้รับยา หลอก13 และพบว่าครีมไพจีซาลได้ประสิทธิภาพที่ดีสำหรับเพื่อการรักษาอาการปวดปวดเมื่อยข้างหลัง ไหล่ ก้านคอ เอว เข่า14 แต่ว่าตำรับยาน้ำมันเหลืองที่ได้จากการทอดด้วยน้ำมันพืช หรือการสกัดด้วยตัวทำละลายที่ไม่มีขั้ว ยังไม่เคยมีการเรียนรู้ทางสถานพยาบาลมาก่อน ซึ่งในช่วงเวลานี้คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ปรึกษาโครงการ “การพัฒนาประสิทธิภาพผู้ประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมยาสมุนไพรไทยเพื่อลดผลพวงจากการเปิดเสรีทางการค้า AFTA ด้วยสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ 2554” เป็นแผนการที่ได้รับทุนเกื้อหนุนจากกองทุน FTA กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กำลังเรียนทางสถานพยาบาลในผู้ป่วยข้อหัวเข่าเสื่อมของตำรับยาครีมไพลสกัด ซึ่งเป็นการเอาอย่างแนวทางการสกัดแบบความคิด ซึ่งเป็นการสกัดสารหลายๆชนิด ไม่เพียงแต่[url=https://www.charmingfresh.com/product/49/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3http://www.chiangdaoherb.com/product/19/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3]น้ำมันเหลือง[/url] หอมระเหยเท่านั้น รวมทั้งคือการใช้วัตถุดิบอย่างคุ้มค่า

Tags : น้ำมันเหลือง

 

Sitemap 1 2 3