ผู้เขียน หัวข้อ: น้ำมันเหลืองมีส่วนประกอบของสมุนไพรที่น่าทึ่ง  (อ่าน 312 ครั้ง)

pussy22

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 22
    • ดูรายละเอียด

น้ำมันเหลือง
น้ำมันเหลือง ไพล หรือปูลอย ปูเลย มิ้นสะล่าง ว่านไฟ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Zingiber montanum (Koenig) Link ex Dietr. หรือ Zingiber cassumunar Roxb. ตระกูล Zingiberaceae เป็นสมุนไพรตัวหนึ่งในบัญชียาจากสมุนไพร ใน บัญชียาหลักแห่งชาติ ปี 2554 กลุ่มที่ 2 บัญชียาปรับปรุงจากสมุนไพร กรุ๊ปยารักษาอาการทางกล้ามแล้วก็กระดูก ยาสำหรับใช้ด้านนอก อย่างเช่น ตำรับยาครีมไพล ประกอบด้วยน้ำมันไพลที่จากการกลั่น ร้อยละ 14 โดยปริมาตรต่อน้ำหนัก (v/w) และ ยาน้ำมันไพล สารสกัดน้ำมันไพลที่ได้จากการทอด (hot oil extract) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ในตำรับ ซึ่งเป็นสูตรเภสัชตำรับของโรงพยาบาล ข้อบ่งใช้ของทั้งสองตำรับเป็น ทุเลาอาการบวม ฟกช้ำดำเขียว เคล็ดลับยอก
น้ำมันเหลือง ไพลที่ได้จากการทอดและก็ผู้กระทำลั่นแตกต่างยังไง? น้ำมันไพลที่ได้จากผู้กระทำลั่นเป็น น้ำมันหอมระเหย ซึ่งเป็นของเหลวที่เป็น hydrophobic ระเหยได้ บางทีก็อาจจะได้จากผู้กระทำลั่นโดยการต้มด้วยน้ำ (water distillation) ละอองน้ำจะพาเอาน้ำมันหอมระเหย ไปควบแน่นเมื่อสัมผัสกับความเย็นของเครื่องควบแน่น (condenser) กรรมวิธีกลั่นอย่างนี้เป็นแนวทางที่ชาวยุโรปเริ่มแรกนิยมใช้กัน แต่ว่ามีข้อเสียตรงที่ไพลที่นำมากลั่นจะถูกความร้อนนาน อาจจะทำให้น้ำมันไพลที่ได้มีกลิ่นผิดไปได้ หรือจะได้จากการกลั่นโดยใช้การผ่านของไอน้ำเข้าสู่ภาชนะที่มีไพลใส่อยู่ (steam distillation) ไอน้ำจะพาเอาน้ำมันเหลือง หอมระเหยไปควบแน่นที่เครื่องควบแน่น แนวทางแบบนี้มีจุดเด่นกว่าเป็น ไพลจะถูกความร้อนไม่มาก น้ำมันหอมระเหยที่ได้จะไม่มีกลิ่นผิดเพี้ยนไป นั่นคือน้ำมันหอมระเหยที่ได้จาก 2 วิธี จะมีสารประกอบทางเคมีที่แตกต่างบ้าง โดยธรรมดาน้ำมันหอมระเหยที่ได้จากการกลั่นจะมีสารประกอบทางเคมีที่มีโมเลกุลเล็ก เช่น สารกลุ่ม monoterpenes (สารที่ประกอบด้วยคาร์บอนจำนวน 10 ตัว) และสารกรุ๊ป sesquiterpenes (สารที่ประกอบด้วยคาร์บอนจำนวน 15 ตัว) น้ำมันหอมระเหยไพลที่ได้จากผู้กระทำลั่นประกอบด้วย สารกลุ่ม monoterpenes อย่างเช่น sabinene, terpinen-4-ol, alpha-pinene, alpha-terpinene, gamma-terpinene, limonene, myrcene, p-cymene, terpinolene2, (E)-1-(3,4-dimethoxyphenyl)butadiene (DMPBD), (E)-4-(3’,4’-dimethoxyphenyl)but-3-en-1-ol (Compound D)3,4
ส่วนน้ำมันเหลือง ไพลที่ได้จากการทอดด้วยน้ำมันพืช เป็นแนวทางของชาวไทยโบราณที่ใช้ตระเตรียมน้ำมันไพลเพื่อใช้ในครัวเรือน เป็นน้ำมันเช็ดนวด แก้ปวดกล้าม ปัจจุบันนี้หลายโรงพยาบาลของเมืองได้มีการตระเตรียมเป็นเภสัชตำรับของโรงหมอ และเป็นหนึ่งตำรับในบัญชียาจากสมุนไพร ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ปี 2554 น้ำมันไพลสูตรนี้ตระเตรียมได้จากการนำไพลสดมาทอดกับน้ำมันพืชชนิดอิ่มตัว (ประกอบด้วยกรดไขมันจำพวกอิ่มตัว) อาทิเช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันเหลือง หรือน้ำมันปาล์ม ไม่ควรใช้น้ำมันพืชชนิดไม่อิ่มตัว (ประกอบด้วยกรดไขมันประเภทไม่อิ่มตัว) เป็นต้นว่า น้ำมันงา น้ำมันมะกอก น้ำมันคำฝอย น้ำมันทานตะวัน หรือน้ำมันที่สกัดจากรำข้าวน้ำมันเหลือง แบบนี้ก็เพราะว่าน้ำมันประเภทไม่อิ่มตัวจะไม่ทนต่อความร้อน ทำให้ภาระคู่ในโมเลกุลเกิดการแตก แล้วก็รวมตัวเป็นสาร “โพลีเมอร์” เกิดขึ้น กระตุ้นให้เกิดความหนืด นอกจากนี้จะทำให้เกิดควันได้ง่าย รวมทั้งน้ำมันกลิ่นหืน น้ำมันพืชที่ใช้ทอดเป็นน้ำมันที่ประกอบด้วยกรดไขมัน (fatty acids) ซึ่งถือได้ว่าเป็นสารประกอบทางเคมีที่มีขั้วน้อย เป็นตัวทำละลายที่ดีสำหรับเพื่อการสกัดสารที่มีขั้วน้อยด้วย โดยเหตุนี้น้ำมันพืชก็สามารถจะสกัดน้ำมันหอมระเหยซึ่งมีสารประกอบที่มีขั้วน้อยแล้วก็โมเลกุลเล็กได้ พร้อมกับสกัดสารประกอบที่มีขั้วน้อยแต่ว่ามีโมเลกุลใหญ่ได้ด้วย ซึ่งในไพลเว้นแต่ประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหยแล้ว ยังประกอบสารกรุ๊ป arylbutanoids, curcuminoids, รวมทั้ง cyclohexene derivatives เป็นสารที่มีโมเลกุลใหญ่กว่าสารในน้ำมันหอมเหลือง แล้วก็เป็นสารที่ไม่ระเหย สรุปกล้วยๆคือ น้ำมันไพลที่ได้จากผู้กระทำลั่นจะเป็นน้ำมันหอมระเหยที่มีสารโมเลกุลเล็กและระเหยได้ ส่วนน้ำมันที่ได้จากการทอดจะประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหยและก็สารที่มีโมเลกุลใหญ่และไม่ระเหย
น้ำมันเหลือง หอมระเหยแล้วก็สารที่มีโมเลกุลใหญ่ (สารกรุ๊ป arylbutanoids, curcuminoids, และ cyclohexene derivatives) เป็นกลุ่มสารที่มีผลการศึกษาค้นคว้าวิจัยพบว่า มีฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบและแก้ปวดในสัตว์ทดลอง โดยมีกลไกการออกฤทธิ์เช่นเดียวกับยากลุ่ม NSAIDs3,4-12 ยิ่งกว่านั้นยังมีรายงานการเล่าเรียนน้ำมันเหลือง ทางคลินิกพบว่า ครีมไพลหรือไพลจีซาล (14% ของน้ำมันหอมระเหย) มีฤทธิ์ลดการอักเสบแล้วก็การปวดของข้อเท้าแพลงในคนเจ็บนักกีฬาที่เจ็บข้อเท้าพลิกมากยิ่งกว่ากลุ่มควบคุมที่ได้รับยา หลอก13 และก็พบว่าครีมไพจีซาลได้ผลดีสำหรับในการรักษาลักษณะของการปวดเมื่อยล้าหลัง ไหล่ ต้นคอ เอว เข่า14 แต่ตำรับยาน้ำมันเหลืองที่ได้จากการทอดด้วยน้ำมันพืช หรือการสกัดด้วยตัวทำละลายที่ไม่มีขั้ว ยังไม่เคยมีการเรียนทางคลินิกมาก่อน ซึ่งเวลานี้คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ปรึกษาโครงงาน “การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบกิจการอุตสาหกรรมยาสมุนไพรไทยเพื่อลดผลกระทบจากการเปิดเสรีทางด้านการค้า AFTA ด้วยสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ 2554” เป็นแผนการที่ได้รับทุนช่วยเหลือจากกองทุน FTA กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กำลังศึกษาเล่าเรียนทางสถานพยาบาลในคนเจ็บข้อเข่าเสื่อมของตำรับยาครีมไพลสกัด ซึ่งเป็นการเอาอย่างกระบวนการสกัดแบบภูมิปัญญา ซึ่งเป็นการสกัดสารหลายๆชนิด ไม่เฉพาะแต่น้ำมันเหลือง หอมระเหยแค่นั้น รวมทั้งคือการใช้วัตถุดิบอย่างคุ้มค่า

Tags : น้ำมันเหลือง

 

Sitemap 1 2 3