บุก สมุนไพรไทย เพื่อหลีกไกล เรื่องอ้วนๆบุก มาแล้ว ! บุกมาแล้ว ! รีบหนีเร็ว เอ๊ะยังไงนี่ เรากำลังดูหนังการทำศึกอยู่หรอ ไม่ขอรับ บุกในที่นี้มิได้ถึงข้าศึกบุก แม้กระนั้นคือหัวบุก สมุนไพรไทยบ้านพวกเรา ต่างหาก รวมทั้งที่จำเป็นต้องหนี ไม่ใช่ใครกันแน่ที่ไหน แม้กระนั้นเป็นโรคฮอตได้รับความนิยมในตอนนี้อย่างโรคอ้วน เบาหวาน ต่างหากที่จำเป็นต้องหนีไป
บุก ส่วนที่มองเห็นเป็น หัวบุก ทีแรกเรื่องของบุกในประเทศไทย มันก็มิได้แพร่หลายหรือเป็นยอดนิยมราวกับทุกๆวันนี้เพราะว่าจริงๆตอนแรกมันก็เป็นพืชพื้นบ้านอยู่ดี คนภายในแคว้นก็นำบุกมาทำกับข้าว เสมือนเผือก เสมือนมันทั่วๆไปเพียงพอเริ่มมีคนมาวิจัย สรรพคุณต่างๆของมัน เลยเปลี่ยนเป็นพืชสมุนไพรไทยยอดนิยม มีการดัดแปลงเป็นแบบอย่างต่างๆตั้งแต่สารสกัด บุกผง วุ้นบุก และก็อื่นๆอีกมาก วันนี้เองก็คงจะไม่ช้าเกินความจำเป็นที่จะนำทุกท่านมารู้จะ พืชสมุนไพรไทย ที่เรียกว่าบุกกันแบบลึกซึ้งมารู้จะบุกกัน
ชื่อไทย บุกชื่อสามัญ Konjac , devil’s tongue (ลิ้นปีศาจ น่าสยดสยองครับผมชื่อนี้ คาดว่ามาจากลักษณะของดอกบุก ) , shade palm, umbrella arum
ชื่อวิทยาศาสตร์ Amorphophallus rivieri Durieu cv. Konjac
ชื่อสกุล ARACEAE
ชื่อตามแคว้น : บุกคุงคก (ชลบุรี) เบีย เบือ (แม่ฮ่องสอน) มันซูรัน (ภาคดลาง) หัวบุก (จังหวัดปัตตานี) บุกคางคก (ภาคกลาง, เหนือ)
บุกหนาม บุกหลวง (แม่ฮ่องสอน) กระบุก (อิสาน)
เราเจอบุกถึงที่กะไว้ไหนบุกเป็นพืชป่าล้มลุกที่พบทั่วๆไปทุกภาคของประเทศ โดยขึ้นอยู่กับตาม ชายป่า แล้วก็บางโอกาสก็พบตามพื้นที่ ทำนา เป็นต้นว่าที่ปทุมธานี และนนทบุรี เป็นต้น บุกขึ้นได้ในสภาพดินทุกประเภท แต่จะเจริญวัยก้าวหน้าให้หัวขนาด ใหญ่ได้ในดินซึ่งร่วนซุย น้ำไม่ขังและก็ดินที่มีฮิวมัส หรือสารอินทรีย์สูง
รูปแบบของต้นบุกรูปแบบของต้น บุก ชี้ให้เห็นองค์ประกอบเป็นใบบุก แล้วก็หัวบุกลำต้นใต้ดิน บุกมีลำต้นใต้ดินหรือที่พวกเราเรียกแบบง่ายๆก็คือ หัวบุก ลักษณะเดียวกันกับเรียกหัวเผือก หัวมัน ขนาดอยู่ที่ประมาณ 25 เซนติเมตร (บางพันธ์อาจเล็กมากยิ่งกว่านี้ )ทรงกลมแป้นลักษณะทรงเดียวกับลูกฟักทอง แต่ว่าบางสายพันธ์มีลักษณะพิเศษไม่เหมือนกันออกไป ซึ่งส่วนนี้เอง เป็นใช้ที่สะสมของกินของบุก
ใบ
บุก ลักษณะเสมือนใบมะละกอ มีสีเขียวเข้ม บางชนิดมีก้านใย เป็นลวดลายบางจำพวกมีหนามอ่อนๆ หรือบางโอกาสบุกบางจำพวกก็มีใบมีจุดแบบไข่ปลาสีขาวข้างบน จะมีความคิดเห็นว่าใบบุกมีใบลักษณะที่มากมายมากมาย แต่ที่เด่นๆพิจารณาง่ายว่าเป็บุกเป็น จะมีก้านตรงจากกลางของหัว เมื่อโผล่จากดินแล้วแผ่กางออก 3 ทาง มีรูปทรงแผ่กว้างแบบร่ม แม้กระนั้นบาง พันธุ์จะแปลกตรงที่กลับขึ้นข้างบนเหมือนหงายร่ม โดยเหตุนั้นรูปแบบของใบบุก มีหลายแบบขึ้นอยู่กับจำพวกของบุก
ดอกของบุกลักษณะดอกดอกคล้ายต้นหน้าวัว แต่ละจำพวกมีขนาด สี รวมทั้งรูป ทรงแตกต่างกัน บางจำพวกมีดอกใหญ่มาก โดยเฉพาะบุกคางคก ดอกบุกมีกลิ่น เหม็นราวกับเนื้อสัตว์เน่า บุกชนิดอื่นๆมีดอกเล็กก้านดอกจะโผล่ขึ้นตรง จากกึ่งกลางหัวบุก เหมือนกับก้านใบ บุกมักจะมีดอกในช่วงปลายหน้าแล้ง แม้กระนั้นบุกสามารถออกดอกได้ในช่วง เวลาต่างๆกัน ระยะเวลาสำหรับเพื่อการแก่เต็มที่ ของดอกที่จะติดผลก็แตกต่าง
ผล
บุก (อย่างงงวยกับหัวบุกนะ ) ภายหลังดอก ผสมพันธุ์ก็จะเป็นผล ผลอ่อนของบุก มีสีขาวอมเหลือง พอเพียงอายุ ได้ 1-2 เดือน จะส่งผลสีเขียวเข้ม มีจุดดำที่ปลายเหมือนผลกล้วย ผล ของบุกจำนวนมากจะมีลักษณะคล้ายกัน แม้กระนั้นเม็ดข้างในแตกต่าง พบว่าส่วนมากมีเมล็ดเป็นรูปทรงอูมยาว บุกบางชนิดก็มีเม็ดในกลม ผลแก่ของบุกจะมีสีแดงหรือแดงส้ม
บุกกับการนำมาทำอาหารเป็นพืชอาหารประจำถิ่นซึ่งคนประเทศไทยนำเอาก้านใบมาแกงส้ม ลวกจิ้มน้ำพริก ท่อนหัวบุกมีการนำไปปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงตามแต่ละภูมิภาค ดังเช่นว่าทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการทำขนมที่เรียกว่าของหวานบุก แกงบรรพชามันบุก แกงอีสาน (แกงลาว) ภาคทิศตะวันออกจะมีการฝาน หัวบุกเป็นแผ่น บางบาง แล้วเอามานึ่งกินอาหาร ทางภาคเหนือโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนดอย มักเอามา ปิ้งกิน ภาคกลางมักนำหัวบุกที่ฝานเป็นชิ้นบางๆมาแช่น้ำปูน แช่น้ำก่อนล้างหลายๆครั้งแล้วจึงนำไปทำเป็นของว่าง
*
บุกมีหลากหลายประเภทหลายประเภท อาจขมและมีพิษ ทุกชนิดมีผลึกแคลเซียมออกซาเลต (calcium oxalate) ทั้งที่ก้านใบแล้วก็หัว ซึ่งอาจจะทำให้คัน ก่อนนำมาประกอบอาหารจะต้องต้มซะก่อน ไม่เช่นนั้นกินเข้าไปทำให้คันปากและลิ้นพอง
อาหารที่ดัดแปลงมาจากบุกปัจจุบันนี้มีการนำบุกมาดัดแปลง ทั้งในรูปแบบของเส้นบุก ซึ่งคือผลิตภัณฑ์ดัดแปลงจากส่วนหัวบุก มีแบบเส้นใส สามารถเอามาปรุงเป็นอาหารจานอร่อยได้ ผมว่าใครกันแน่เคยไปกินเนื้อย่างอาจจะเคยเจอบ้าง เว้นเสียแต่เส้นบุกแล้วมีการนำมาผสมเครื่องดื่มต่างๆเอาแบบฮิตๆสมัยก่อนเป็นเจเล่ ผสมผงบุก ถ้าเกิดจำไม่ผิดอันนี้เขามาทำเป็นรายแรก (ผู้ครอบครองบริษัทผ่านมาอ่านขอค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์ด้วยนะครับ)
คุณประโยชน์ของบุกจากการเรียนรู้พบว่า แป้งบุกเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน พวกกลูวัวแมนแนน (glucomannan) เป็นสารโมเลกุลใหญ่ (polysaccharides)ที่มีน้ำตาล 2 จำพวก คือ ดี-เดกซ์โทรส (D-glucose) รวมทั้ง (D-mannose) เป็นสารที่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพในรูปของใยอาหาร (dietary fiber) ซึ่งดูดน้ำได้มาก แต่ว่าร่างกายย่อยสลายได้ยาก ดูดซึมได้ช้า จึงให้พลังงานและสารอาหารน้อย เหลือกากมาก ทำให้ระบบขับถ่ายดำเนินการดี ผู้ที่อยากลดหุ่นนิยมกินอาหารจากแป้งบุก ได้แก่ วุ้นเส้นบุก เส้นหมี่แป้งหัวบุก เนื่องจากว่ารับประทานอิ่มได้ ระบายท้อง แม้กระนั้นไม่ทำให้อ้วน
ยิ่งไปกว่านี้เองเจ้า สารกลูวัวแมนแนนนี้ สามารถลดจำนวนน้ำตาลในเลือดได้ ก็เนื่องจากว่าความรั้ง ซึ่งยั้งการดูดซึมของกลูวัวลสจากทางเดินอาหาร ยิ่งเหนียวหนืดมาก็ยิ่งมีผลลดการดูดซึมกลูวัวลส ด้วยเหตุนี้ กลูโคแมนแนนช่วยลดน้ำตาลก้าวหน้ามาก ปัจจุบันก็เลยใช้แป้งเป็นวุ้นเป็นของกินสำหรับคนป่วยเป็นโรคเบาหวาน แล้วก็สำหรับคนป่วยเป็นโรคมีไขมันในเลือดสูง
นี่แหละครับคือประโยชน์จากบุก ทดลองหามาทานกันนะครับ เป็นประโยชน์ขนาดนี้ ปัจจุบันนี้ไม่หายากแล้วเดินไปห้าง ก็ได้บุกเส้นแล้ว เสนอแนะมามายำแบบยำวุ้นเส้นนะครับ รับประกันอร่อยแท้ๆ
http://www.disthai.com/Tags : สมุรไพรบุก
