ผู้เขียน หัวข้อ: ขิง เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณอันน่าทึ่ง  (อ่าน 369 ครั้ง)

jlkjljkl

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 5
    • ดูรายละเอียด

ขิง
ขิง เป็นพืชที่มีเหง้าใต้ดิน ด้านนอกเหง้าเป็นน้ำตาลแกมเหลือง เนื้อในสีขาวหรือเหลืองอ่อน มักเอามาทำกับข้าวเพราะส่งกลิ่นหอม ยิ่งกว่านั้น ขิงยังคงใช้เป็นองค์ประกอบในเครื่องดื่ม สบู่ รวมทั้งเครื่องแต่งตัวทั้งหลายเช่นกัน ด้านผลดีต่อสุขภาพ มีความเชื่อเกี่ยวกับการใช้ขิงรักษาโรคหลากหลายชนิดมาอย่างช้านาน เช่น โรคที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบการทำงานด้านการย่อยอาหารอย่างท้องเดิน มีก๊าซในกระเพาะ ของกินไม่ย่อย อาการเมารถเมาเรือ อ้วก เบื่ออาหาร
คุณลักษณะของขิงเชื่อว่ามีสารที่บางทีอาจช่วยลดอาการคลื่นไส้แล้วก็ลดการอักเสบ โดยนักวิจัยโดยมากคาดว่าเป็นสารที่ออกฤทธิ์ในกระเพาะอาหารและลำไส้ และก็สารนี้อาจส่งผลต่อสมองหรือระบบประสาทส่วนที่ควบคุมอาการคลื่นไส้ด้วย แต่ว่าการสันนิษฐานดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นยังไม่ชัดเจนนัก รวมทั้งคุณสมบัติด้านอื่นๆมีข้อมูลน้อยกว่า ซึ่งประโยชน์ของขิงต่อสุขภาพที่เราเชื่อกันนั้น บัดนี้ด้านวิทยาศาสตร์มีข้อมูลชี้แจงไว้ดังนี้
การรักษาที่บางทีอาจได้ผล
อาการคลื่นไส้อาเจียนที่เกิดขึ้นจากการใช้ยาต่อต้านเชื้อไวรัสไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องหรือโรคภูมิคุมกันบกพร่อง คุณประโยชน์ทุเลาอาการคลื่นไส้อาเจียนของขิงอาจมีประโยชน์ต่อผู้เจ็บป่วยโรคนี้ที่มักมากรับผลกระทบจากการใช้ยารักษาโรค โดยจากการศึกษาผู้เจ็บป่วยปริมาณ 102 คน แบ่งให้กลุ่มหนึ่งกินขิง 500 กรัม อีกกรุ๊ปกินยาหลอกวันละ 2 ครั้ง ในตอน 30 นาทีก่อนที่จะได้รับยารักษาโรคโรคภูมิคุมกันบกพร่องอย่างยาต้านรีโทรไวรัส เป็นเวลาทั้งหมด 14 วัน พบว่าขิงช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนที่เกิดจากการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องได้
อาการอ้วกอ้วกภายหลังจากการผ่าตัด ขิงบางทีอาจช่วยบรรเทาอาการอ้วกรวมทั้งคลื่นไส้จากการผ่าตัดได้เหมือนกัน โดยการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์โดยมากชี้ว่าการรับประทานขิง 1-1.5 กรัม ในตอน 1 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัดนั้นดูเหมือนจะช่วยลดอาการอาเจียนอาเจียนที่บางทีอาจเกิดขึ้นในระหว่าง 24 ชั่วโมงหลังได้รับการผ่าตัด
งานวิจัยหนึ่งทดสอบแบ่งคนไข้ปริมาณ 122 รับการผ่าตัดต้อกระจกให้กินแคปซูลขิง 1 กรัม รวมทั้งอีกกลุ่มได้รับแคปซูลขิง 500 มิลลิกรัมแต่แบ่งให้ 2 ครั้งก่อนผ่าตัด ซึ่งผลพบว่าผู้ป่วยในกลุ่มหลังมีลักษณะคลื่นไส้อ้วกน้อยครั้งและมีความร้ายแรงของอาการน้อยกว่า โดยงานวิจัยนี้พบว่าการใช้ขิงนั้นคงจะให้คุณภาพสูงสุดเมื่อกินเสมอๆและก็สม่ำเสมอโดยแบ่งจำนวนการใช้
นอกเหนือจากนั้น การทดสอบทาน้ำมันขิงบริเวณข้อมือของคนเจ็บก่อนเข้ารับการผ่าตัด พบว่าช่วยคุ้มครองอาการคลื่นไส้ในผู้เจ็บป่วยราว 80 เปอร์เซ็นต์จากผู้เข้ารับการผ่าตัดทั้งสิ้น ทว่าการใช้ขิงช่วยลดอาการอ้วกอาเจียนร่วมกับยาลดอ้วกอาเจียนนั้นบางทีอาจได้ผลได้ไม่ดีนัก รวมทั้งการใช้ขิงกับผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อการคลื่นไส้อ้วกน้อยอยู่รวมทั้งอาจไม่ได้ผลเช่นเดียวกัน
อาการแพ้ท้อง การรับประทานขิงอาจมีส่วนช่วยทุเลาอาการแพ้ท้อง ยกตัวอย่างเช่น อาเจียน อาเจียน หรือเวียนศีรษะ ผลการศึกษาเรียนรู้ชิ้นหนึ่งที่ช่วยรับรองคุณลักษณะนี้เป็นการทดสอบในหญิงที่มีอายุท้องน้อยกว่า 20 สัปดาห์ ปริมาณ 120 คน ซึ่งเผชิญอาการแพ้ท้องแต่ละวันนานขั้นต่ำ 1 อาทิตย์ และไม่รู้สึกดีขึ้นแม้จะแปลงการกินอาหารและจากนั้นก็ตาม ภายหลังจากกินสารสกัดจากขิง 125 มิลลิกรัม ซึ่งเทียบเท่ากับขิงแห้ง 1.5 กรัม วันละ 4 ครั้ง 4 วัน ผลสรุปได้ทำให้เห็นว่าขิงบางทีอาจสามารถนำมาใช้ผลดีในฐานะการดูแลรักษาโอกาสต่ออาการแพ้ท้องได้
นับว่าสอดคล้องกับอีกงานศึกษาเรียนรู้วิจัยก่อนหน้าที่ชี้ว่าการรับประทานขิง 1 กรัมต่อวัน ติดต่อนาน 4 วัน สามารถช่วยลดความรุนแรงของอาการคลื่นไส้อาเจียนในหญิงมีท้องที่มีลักษณะแพ้ท้องได้ แต่การใช้ขิงสำหรับคุณประโยชน์ด้านนี้บางทีอาจมองเห็นการรักษาได้ช้ากว่าหรือให้ผลดีไม่พอๆกับการใช้ยาแก้อาเจียนอ้วก ยิ่งไปกว่านี้ การเล่าเรียนเกี่ยวกับคุณสมบัติช่วยลดอาการแพ้ท้องของขิงยังมีความจำกัดรวมทั้งเจอผลลัพธ์ที่ไม่สม่ำเสมอ โดยมีบางการทดลองที่ชี้ว่าขิงอาจมิได้มีส่วนช่วยสำหรับการลดอาการแพ้ท้องด้วยเหมือนกัน
อาการหน้ามืดศีรษะ อาการที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งการอ้วกนี้อาจทุเลาให้ได้ด้วยการใช้คุณประโยชน์จากขิง จากการค้นคว้าที่ทดลองด้วยการให้ผู้ที่มีอาการบ้านหมุน รวมทั้งตากระตุกจากการกระตุ้นโดยใช้อุณหภูมิรับประทานผงเหง้าขิง ปรากฏว่าเหง้าขิงช่วยลดอาการวิงเวียนหัวได้อย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่รับประทานยาหลอก แต่มิได้ช่วยลดระยะเวลาหรือชะลอการกระตุกของตามากนัก
โรคข้อเสื่อม มีการศึกษาเล่าเรียนบางงานที่ชี้ว่าขิงอาจมีคุณประโยชน์ลดลักษณะของการเจ็บที่เกิดขึ้นมาจากโรคข้อเสื่อม จากการทดสอบหนึ่งที่ให้คนป่วยรับประทานสารสกัดจากขิงประเภทหนึ่ง (Zintona EC) ในปริมาณ 250 กรัม วันละ 4 ครั้ง พบว่าช่วยลดอาการปวดข้อหัวเข่าภายหลังจากการดูแลและรักษาเป็นเวลา 3 เดือน ส่วนอีกงานศึกษาค้นคว้าวิจัยที่ใช้สารสกัดจากขิงผสมกับข่า พบว่าให้ผลลัพธ์สำหรับเพื่อการช่วยลดลักษณะการเจ็บขณะยืน ลักษณะการเจ็บข้างหลังเดิน และอาการข้อติด
นอกจากนั้น มีการศึกษาเล่าเรียนเปรียบเทียบสมรรถนะระหว่างขิงและก็ยาแก้ปวด โดยให้คนเจ็บโรคข้ออักเสบในกระดูกสะโพกแล้วก็ข้อหัวเข่ากินสารสกัดขิง 500 มก.ทุกวัน วันละ 2 ครั้ง ขิงให้ผลทุเลาลักษณะของการปวดได้เท่ากันกับการใช้ยาไอบูโพรเฟน 400 มก. วันละ 3 ครั้ง รวมทั้งยังมีงานค้นคว้าวิจัยที่เสนอแนะว่าการนวดด้วยน้ำมันที่มีส่วนผสมของขิงและส้มอาจช่วยบรรเทาลักษณะของการปวดแล้วก็อ่อนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆของคนป่วยที่มีอาการเจ็บหัวเข่าได้ด้วย
อาการปวดเมนส์ เว้นเสียแต่อาการปวดจากโรคข้อเสื่อม การเรียนรู้บางงานยังชี้ว่าขิงอาจมีคุณลักษณะช่วยบรรเทาลักษณะของการปวดเมนส์ ดังเช่นว่า การทดลองในนิสิตมหาวิทยาลัย 120 คน โดยให้รับประทานผงเหง้าขิงทีละ 500 มก. วันละ 3 ครั้งในตอน 2 วันก่อนเริ่มมีระดูต่อเนื่องไปจนกระทั่ง 3 วันแรกของการมีรอบเดือน รวมเบ็ดเสร็จเป็น 5 วัน พบว่าผงเหง้าขิงมีส่วนช่วยลดความร้ายแรงของอาการปวดรอบเดือนได้อย่างมีนัยสำคัญด้านการเรียนรู้เปรียบเทียบประสิทธิภาพของขิงรวมทั้งยาลดลักษณะของการปวดระดูอย่างเมเฟนามิค (Mefenamic acid) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) 400 มก. ในอาสาสมัคร 150 คน โดยแบ่งกลุ่มรับประทานแคปซูลขิงหรือยาแต่ละชนิดในจำนวน 250 มก. วันละ 4 ครั้ง นาน 3 วัน โดยเริ่มตั้งแต่มีรอบเดือน ผลลัพธ์ปรากฏไปในทิศทางเดียวกันกับงานศึกษาเรียนรู้วิจัยแรก คือ ขิงมีคุณภาพบรรเทาความรุนแรงของลักษณะของการปวดระดูไม่มีความต่างกับการใช้ยาเมเฟนามิคหรือไอบูโพรเฟน
การดูแลและรักษาที่บางทีอาจไม่เป็นผล
อาการเมารถและก็เมาเรือ นับเป็นสรรพคุณของขิงที่มีการเอ๋ยถึงกันมาก แต่ทว่าขิงบางทีก็อาจจะช่วยลดอาการตาลายได้ แม้กระนั้นสำหรับเพื่อการตาลายอ้วกที่เกิดขึ้นมาจากการเดินทางนั้น งานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยส่วนมากระบุว่าขิงบางทีอาจไม่มีส่วนช่วยได้จริง ได้แก่ การแบ่งกลุ่มให้นักเรียนนายเรือ 80 ผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการออกเรือท่ามกลางสมุทรที่มีคลื่นแรง กินเหง้าขิง 1 กรัม เทียบกับอีกกลุ่มที่กินยาหลอก ปรากฏว่ากรุ๊ปที่กินขิงนั้นมีลักษณะคลื่นไส้แล้วก็เวียนหัวน้อยลงจริงแต่ว่าอยู่ในระดับบางส่วนแค่นั้น หรือในอีกงานศึกษาวิจัยที่ชี้ว่าการรับประทานผงขิงในปริมาณ 500 กรัม 1,000 กรัม หรือเหง้าขิงสด 1,000 มก. ต่างไม่มีส่วนช่วยสำหรับการคุ้มครองปกป้องอาการเมารถหรือลักษณะการทำงานของกระเพาะที่เกี่ยวเนื่องกับอาการเมารถที่เกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด
การดูแลรักษาที่ยังไม่มีหลักฐานพอเพียงต่อการเจาะจงคุณภาพ
อาการอ้วกอ้วกจากกระบวนการทำเคมีบรรเทา อีกหนึ่งสรรพคุณคือลดอาการอาเจียนและคลื่นไส้ ซึ่งมีการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ แต่ว่าหลักฐานเกี่ยวกับการใช้ขิงในผู้เจ็บป่วยที่รับเคมีบำบัดรักษานั้นยังเป็นที่แย้งกันอยู่ว่าจะมีส่วนช่วยได้ใช่หรือไม่ การศึกษาหนึ่งที่ชี้ถึงคุณประโยชน์ข้อนี้ของขิง โดยให้คนไข้กินแคปซูลขิงที่ประกอบด้วยขิง 0.5-1.5 กรัม เทียบกับยาหลอก ตั้งแต่ 3 วันก่อนวันทำเคมีบำบัดนานสม่ำเสมอเป็นเวลา 6 วัน พบว่า มีระดับความรุนแรงของอาการอ้วกที่เกิดขึ้นภายหลังจากการรักษาน้อยกว่ากรุ๊ปที่มิได้กินแคปซูลขิง แม้กระนั้นได้ผลได้ชัดในกรุ๊ปที่ใช้แคปซูลขิง 0.5 กรัม กับ 1 กรัมเพียงแค่นั้น ส่วนกรุ๊ปที่กินแคปซูลขิง 1.5 กรัมกลับเห็นผลน้อยกว่า หมายความว่าการรับประทานขิงในปริมาณมากก็เลยบางทีอาจมิได้ทำให้อาการอาเจียนดีขึ้นอย่างที่น่าจะเป็น
แม้กระนั้น มีหลักฐานที่คัดค้านข้อเกื้อหนุนดังที่กล่าวถึงมาแล้วซึ่งเป็นการค้นคว้าที่เผยว่าการรับประทานขิงมิได้มีคุณภาพดีไปกว่าการใช้ยาแก้คลื่นไส้ ทั้งนี้ ผลการศึกษาเรียนรู้ที่ขัดแย้งกันนี้ คาดว่าอาจมีสาเหตุมาจากปริมาณขิงที่ใช้ทดลองนั้นแตกต่างกัน รวมถึงขณะที่เริ่มรักษาด้วยการใช้ ขิงจะนำมาใช้คุณประโยชน์ทางด้านการแพทย์ในด้านนี้แล้วได้ผลหรือไม่อาจจะต้องมีการยืนยันเพิ่มเติมอีกถัดไป
เบาหวาน คุณสมบัติของขิงต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของคนป่วยโรคเบาหวานในตอนนี้ยังมีผลการศึกษาวิจัยที่ไม่แน่นอน งานค้นคว้าวิจัยหนึ่งพบว่าการรับประทานขิง 2 กรัม นาน 12 อาทิตย์ สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสม ระดับไขมันในเลือด แล้วก็สารมาลอนไดอัลดีไฮด์ที่แสดงถึงระดับอนุมูลอิสระในผู้เจ็บป่วยเบาหวานประเภทที่ 2 และก็อาจช่วยลดการเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังบางชนิดจากโรคเบาหวานได้ ในเวลาเดียวกัน มีงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยอื่นๆที่ชี้แนะว่าขิงนั้นมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดจริง กลับไม่มีผลต่อระดับอินซูลิน หรือบางงานศึกษาเรียนรู้วิจัยกล่าวว่าขิงมีผลกับอินซูลิน แต่กลับไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดน้อยลง ซึ่งผลวิจัยที่ต่างกันนั้นอาจมาจากจำนวนขิงหรือระยะเวลาที่ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานในแต่ละการทดลองนั้นไม่เท่ากันนั่นเอง
ของกินไม่ย่อย มีการวิจัยเรียนรู้คุณภาพของขิงในผู้เจ็บป่วยที่มีลักษณะอาการอาหารไม่ย่อยจำนวน 11 คน โดยให้รับประทานแคปซูลที่มีขิง 1.2 กรัมหลังจากการงดของกิน 8 ชั่วโมง ผลปรากฏว่าขิงช่วยกระตุ้นให้กระเพาะเกิดการย่อยของกินแล้วก็เกิดการบีบตัวของกระเพาะส่วนปลาย แต่การกินขิงนั้นไม่มีผลต่ออาการที่เกี่ยวพันกับระบบทางเดินอาหารหรือสารเปปไทด์ในไส้ อย่างไรก็ตาม ผู้ร่วมการทดสอบนี้มีจำนวนน้อย ทำให้ไม่บางทีอาจระบุได้อย่างแจ่มแจ้งว่าขิงช่วยลดอาการอาหารไม่ย่อยได้แน่ๆเพียงใด
อาการเมาค้าง เช้าใจกันว่าการกินน้ำขิงจะสามารถช่วยบรรเทาอาการเมาค้างซึ่งเป็นผลใกล้กันจากการดื่มแอลกอฮอล์ได้ สำหรับผลดีข้อนี้มีงานศึกษาเรียนรู้เมื่อนานมาแล้วที่ชี้แนะว่าการผสมขิงกับเปลือกด้านในของส้มเขียวหวาน แล้วก็น้ำตาลทรายแดงก่อนดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยลดอาการแฮงค์ในวันหลัง รวมทั้งอาการอ้วก คลื่นไส้และท้องเสีย แม้กระนั้น การศึกษาเล่าเรียนดังที่กล่าวมาข้างต้นยังจัดว่าไม่กระจ่างอยู่มากและไม่บางทีอาจรับรองได้ว่ามีเหตุมาจากขิงจริงๆหรือส่วนผสมอื่นๆที่ใช้ประกอบ
ลดคอเลสเตอรอล คุณสมบัติของขิงซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลนั้นได้มีการทดสอบโดยให้ผู้เจ็บป่วยที่มีสภาวะไขมันในเลือดสูงกินแคปซูลขิงวันละ 3 ครั้ง ทีละ 1 กรัม ผลสรุปบอกว่าเมื่อเทียบกับคนเจ็บกรุ๊ปที่รับประทานยาหลอก ขิงมีคุณภาพช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลลงได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง ซึ่งการใช้ขิงลดระดับคอเลสเตอรอลจะให้ผลดีจนกระทั่งสามารถนำมาใช้รักษาผู้ป่วยสภาวะนี้ได้หรือเปล่าคงจะจำต้องรอคอยการเรียนรู้ในอนาคตที่เด่นชัดกันถัดไป
ลักษณะของการเจ็บกล้ามข้างหลังบริหารร่างกาย คุณลักษณะด้านการบรรเทาปวดและก็ลดการอักเสบของขิงจะช่วยลดลักษณะของการเจ็บจากการบริหารร่างกายได้ด้วยไหมนั้นยังคงไม่แน่ชัดแล้วก็เป็นที่ถกเถียงกันอยู่เช่นเดียวกัน จากการทดสอบหนึ่งที่ให้ผู้เข้าร่วมรับประทานขิงสดหรือขิงที่ทำให้สุกด้วยความร้อนแล้ว 2 กรัมอย่างต่อเนื่องนาน 11 วัน พบว่าขิงสดและก็ขิงสุกต่างมีส่วนช่วยลดลักษณะการเจ็บกล้ามจากการบริหารร่างกายแบบหดยืดกล้ามได้ในระดับปานกลางไปจนถึงระดับมาก
แต่อีกงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยหนึ่งกลับเจอคำตอบในทางตรงกันข้าม จากการให้ผู้เข้าร่วมการทดลองที่ทำกิจกรรมออกกำลังกายยืดหดกล้ามแบบเดียวกัน กินขิง 2 กรัมในตอน 24 ชั่วโมงและ 48 ชั่วโมงภายหลังจากการบริหารร่างกาย พบว่ามิได้ทำให้อาการเจ็บกล้าม การอักเสบ หรือบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการบริหารร่างกายลดลง แต่ผู้ทำการวิจัยพบว่าการรับประทานขิงอาจช่วยให้ลักษณะการเจ็บกล้ามเนื้อค่อยๆดีขึ้นในทุกวัน หากแม้อาจไม่เห็นผลได้ในทันที
ลักษณะของการปวดหัวไมเกรน มีการเรียนกับคนไข้ 100 คน ที่เคยมีลักษณะปวดศีรษะไมเกรนกระทันหันโดยให้รับผงขิงหรือยารักษา http://www.disthai.com/

eetnhrwm540240

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 5
    • ดูรายละเอียด
Re: ขิง เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณอันน่าทึ่ง
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 25, 2018, 09:01:52 am »
สรรพคุณของขิง/ประโยช์นของขิง

 

Sitemap 1 2 3