ผู้เขียน หัวข้อ: บุก สมุนไพรไทย เพื่อหลีกไกล เรื่องอ้วนๆ  (อ่าน 329 ครั้ง)

kkjofkgkuy

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 17
    • ดูรายละเอียด

บุก สมุนไพรไทย เพื่อหลีกไกล เรื่องอ้วนๆ
บุก มาแล้ว ! บุกมาแล้ว !  รีบหนีเร็ว  เอ๊ะยังไงนี่ เรากำลังดูหนังการรบอยู่เหรอ เปล่าครับผม บุกในที่นี้มิได้ถึงศัตรูบุก แต่หมายคือหัวบุก สมุนไพรไทยบ้านพวกเรา ต่างหาก รวมทั้งที่จะต้องหนี ไม่ใช่คนไหนกันที่ไหน แต่เป็นโรคฮอตได้รับความนิยมในตอนนี้อย่างโรคอ้วน เบาหวาน ต่างหากที่จำเป็นต้องหนีไป
บุก ส่วนที่เห็นคือ หัวบุก ตอนแรกเรื่องของบุกในเมืองไทย มันก็มิได้แพร่หลายหรือเป็นยอดนิยมราวกับเดี๋ยวนี้ด้วยเหตุว่าจริงๆทีแรกมันก็เป็นพืชประจำถิ่นอยู่ดี  คนในเขตแดนก็นำบุกมาทำกับข้าว ราวกับเผือก เสมือนมันทั่วๆไปพอเริ่มมีคนมาศึกษาค้นคว้า   คุณประโยชน์ต่างๆของมัน เลยแปลงเป็นพืชสมุนไพรไทยยอดนิยม มีการดัดแปลงเป็นแบบอย่างต่างๆตั้งแต่สารสกัด บุกผง วุ้นบุก และอื่นๆอีกมากมาย วันนี้เองก็น่าจะไม่ช้าเหลือเกินที่จะนำทุกท่านมารู้จัก พืชสมุนไพรไทย ที่เรียกว่าบุกกันแบบถึงกึ๋นมารู้จักบุกกัน
ชื่อไทย   บุก
ชื่อสามัญ  Konjac ,  devil’s tongue  (ลิ้นซาตาน  น่าสยองครับผมชื่อนี้ คาดว่ามาจากรูปแบบของดอกบุก )   , shade palm, umbrella arum
ชื่อวิทยาศาสตร์      Amorphophallus rivieri Durieu cv. Konjac
ชื่อสกุล    ARACEAE
ชื่อตามท้องถิ่น  :  บุกปะทุงคก (ชลบุรี) เบีย เบือ (แม่ฮ่องสอน) มันซูรัน (ภาคดลาง)  หัวบุก (ปัตตานี) บุกคางคก  (ภาคกึ่งกลาง, เหนือ) บุกหนาม บุกหลวง (แม่ฮ่องสอน)  กระบุก (อิสาน)
พวกเราพบบุกถึงที่เหมาะไหน
บุกเป็นพืชป่าล้มลุกที่พบทั่วไปทุกภาคของประเทศ โดยขึ้นอยู่กับตาม ชายป่า และก็บางเวลาก็พบตามพื้นที่ ทำนา เป็นต้นว่าที่ปทุมธานี รวมทั้งจังหวัดนนทบุรี ฯลฯ บุกขึ้นได้ในสภาพดินทุกชนิด แต่ว่าจะเจริญเติบโตก้าวหน้าให้หัวขนาด ใหญ่ได้ในดินร่วนซุย น้ำไม่ขังและก็ดินที่มีฮิวมัส หรืออินทรียวัตถุสูง
รูปแบบของต้นบุก
รูปแบบของต้น บุก แสดงให้เห็นองค์ประกอบเป็นใบบุก และก็หัวบุกลำต้นใต้ดิน  บุกมีลำต้นใต้ดินหรือที่พวกเราเรียกแบบง่ายๆก็คือ หัวบุก  แบบเดียวกับเรียกหัวเผือก หัวมัน ขนาดอยู่ที่ประมาณ 25 เซนติเมตร (บางพันธ์บางทีอาจเล็กกว่านี้ )ทรงกลมแป้นลักษณะทรงเดียวกับลูกฟักทอง แต่บางสายพันธ์มีลักษณะพิเศษแตกต่างออกไป  ซึ่งส่วนนี้เอง เป็นใช้ที่สะสมของกินของบุก
 ใบบุก  ลักษณะเหมือนใบมะละกอ มีสีเขียวเข้ม บางประเภทมีก้านใย เป็นลวดลายบางจำพวกมีหนามอ่อนๆ หรือบางโอกาสบุกบางชนิดก็มีใบมีจุดแบบไข่ปลาสีขาวด้านบน  จะมีความเห็นว่าใบบุกมีใบลักษณะที่นานัปการมาก  แม้กระนั้นที่เด่นๆสังเกตง่ายว่าเป็บุกเป็น จะมีก้านตรงจากกึ่งกลางของหัว เมื่อโผล่จากดินแล้วแผ่กางออก 3 ทาง มีทรงแผ่กว้างแบบร่ม แต่บาง ชนิดจะแปลกตรงที่กลับขึ้นข้างบนราวกับหงายร่ม โดยเหตุนั้นลักษณะของใบบุก มีหลายรูปแบบขึ้นกับจำพวกของบุก
ดอกของบุกลักษณะดอกดอกเหมือนต้นหน้าโค แต่ละชนิดมีขนาด สี แล้วก็รูป ทรงแตกต่าง บางจำพวกมีดอกใหญ่มาก โดยเฉพาะบุกคางคก ดอกบุกมีกลิ่น เหม็นราวกับเนื้อสัตว์เน่า บุกชนิดอื่นๆมีดอกเล็กก้านดอกจะโผล่ขึ้นตรง จากกึ่งกลางหัวบุก เหมือนกับก้านใบ บุกชอบมีดอกในช่วงปลายหน้าแล้ง แต่บุกสามารถออกดอกได้ในช่วง เวลาต่างๆกัน ระยะเวลาสำหรับในการแก่สุดกำลัง ของดอกที่จะติดผลก็ไม่เหมือนกัน
 ผลบุก (อย่างงเต็กกับหัวบุกนะ ) ภายหลังจากดอก สืบพันธุ์ก็จะเกิดผล ผลอ่อนของบุก มีสีขาวอมเหลือง เพียงพออายุ ได้ 1-2 เดือน จะมีผลสีเขียวเข้ม มีจุดดำที่ปลายคล้ายผลกล้วย ผล ของบุกส่วนใหญ่จะมีลักษณะคล้ายๆกัน แต่ว่าเม็ดด้านในต่างกัน พบว่าส่วนใหญ่มีเม็ดเป็นทรงอูมยาว  บุกบางประเภทก็มีเมล็ดในกลม   ผลแก่ของบุกจะมีสีแดงหรือแดงส้ม

บุกกับการนำมาประกอบอาหาร
เป็นพืชของกินพื้นบ้านซึ่งคนประเทศไทยนำเอาก้านใบมาแกงส้ม ลวกจิ้มน้ำพริก     ท่อนหัวบุกมีการนำไปปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงตามแต่ละภูมิภาค ดังเช่นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการทำขนมที่เรียกว่าของหวานบุก แกงบรรพชามันบุก แกงอีสาน (แกงลาว)   ภาคตะวันออกจะมีการฝาน หัวบุกเป็นแผ่น บางบาง แล้วเอามานึ่งรับประทานกับข้าว ทางภาคเหนือโดยยิ่งไปกว่านั้นชาวเขา มักนำมา ปิ้งกิน ภาคกลางมักนำหัวบุกที่ฝานเป็นชิ้นบางๆมาแช่น้ำปูน แช่น้ำก่อนล้างหลายๆครั้งแล้วจึงนำไปทำเป็นขนมหวาน
*บุกมีหลายประเภทหลายประเภท อาจขมแล้วก็มีพิษ ทุกประเภทมีผลึกแคลเซียมออกซาเลต (calcium oxalate) ในขณะที่ก้านใบและหัว ซึ่งอาจจะก่อให้คัน ก่อนนำมาทำกับข้าวจำต้องต้มเสียก่อน ไม่อย่างนั้นรับประทานเข้าไปทำให้คันปากและลิ้นพอง
ของกินที่ดัดแปลงมาจากบุก
ปัจจุบันนี้มีการนำบุกมาดัดแปลง อีกทั้งในรูปแบบของเส้นบุก ซึ่งคือผลิตภัณฑ์แปรรูปจากท่อนหัวบุก มีแบบเส้นใส สามารถนำมาปรุงเป็นของกินจานอร่อยได้ ผมว่าคนใดกันเคยไปกินเนื้อย่างอาจเคยเจอบ้าง เว้นเสียแต่เส้นบุกแล้วมีการเอามาผสมเครื่องดื่มต่างๆเอาแบบฮิตๆสมัยก่อน คือ เจเล่ ผสมผงบุก ถ้าจำไม่ผิดอันนี้เขามาทำเป็นรายแรก (เจ้าของบริษัทผ่านมาอ่านขอค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์ด้วยครับ)
สรรพคุณของบุก
จากการเล่าเรียนพบว่า  แป้งบุกเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน พวกกลูวัวแมนแนน (glucomannan) เป็นสารโมเลกุลใหญ่ (polysaccharides)ที่ประกอบด้วยน้ำตาล 2 ชนิดหมายถึงดี-กลูโคส (D-glucose) และ (D-mannose) เป็นสารที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายในรูปของใยอาหาร (dietary fiber)  ซึ่งดูดน้ำได้มาก แต่ร่างกายย่อยสลายได้ยาก ดูดซึมได้ช้า จึงให้พลังงานรวมทั้งสารอาหารน้อย เหลือกากมากมาย ทำให้ระบบขับถ่ายดำเนินงานดี ผู้ที่อยากได้ลดน้ำหนักนิยมทานอาหารจากแป้งบุก ตัวอย่างเช่น วุ้นเส้นบุก เส้นหมี่แป้งหัวบุก เพราะกินอิ่มได้ ระบายท้อง แต่ไม่ทำให้อ้วน
ยิ่งกว่านั้นเองเจ้า สารกลูวัวแมนแนนนี้ สามารถลดจำนวนน้ำตาลในเลือดได้ ก็เพราะว่าความรั้ง ซึ่งยับยั้งการดูดซึมของกลูวัวลสจากทางเดินอาหาร ยิ่งหนืดมาก็ยิ่งส่งผลลดการดูดซึมกลูวัวลส ด้วยเหตุดังกล่าว กลูโคแมนแนนช่วยลดน้ำตาลก้าวหน้ามาก ปัจจุบันนี้ก็เลยใช้แป้งเป็นวุ้นเป็นอาหารสำหรับคนไข้เป็นโรคโรคเบาหวาน และสำหรับผู้ป่วยเป็นโรคมีไขมันในเลือดสูง
นี่แหละครับผมคือคุณประโยชน์จากบุก ทดลองหามาทานกันนะครับ เป็นประโยชน์ขนาดนี้ ปัจจุบันไม่หายากแล้วเดินไปห้าง ก็ได้บุกเส้นแล้ว ชี้แนะมามายำแบบยำวุ้นเส้นนะครับ ยืนยันอร่อยแท้ๆ http://www.disthai.com/

Tags : สมุรไพรบุก

 

Sitemap 1 2 3