ผู้เขียน หัวข้อ: ขิง เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณอันน่าทึ่ง  (อ่าน 303 ครั้ง)

h5s5s8c54fgjnz

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 5
    • ดูรายละเอียด

ขิง
ขิง เป็นพืชที่มีเหง้าใต้ดิน ภายนอกเหง้าเป็นน้ำตาลปนเหลือง เนื้อในสีขาวหรือเหลืองอ่อน มักเอามาทำอาหารเนื่องจากว่าส่งกลิ่นหอม นอกเหนือจากนั้น ขิงยังคงใช้เป็นองค์ประกอบในเครื่องดื่ม สบู่ และก็เครื่องสำอางทั้งหลายแหล่ด้วยเหมือนกัน ด้านประโยชน์ต่อร่างกาย มีความเชื่อเกี่ยวกับการใช้ขิงรักษาโรคหลากหลายชนิดมาอย่างยาวนาน ดังเช่น โรคเกี่ยวกับระบบที่ทำหน้าที่ย่อยอาหารอย่างท้องร่วง มีก๊าซในกระเพาะ ของกินไม่ย่อย อาการเมารถเมาเรือ คลื่นไส้ เบื่ออาหาร
คุณสมบัติของขิงมั่นใจว่าประกอบด้วยสารที่อาจช่วยลดอาการอ้วกและก็ลดการอักเสบ โดยนักค้นคว้าโดยมากคาดว่าเป็นสารที่ออกฤทธิ์ในกระเพาะอาหารและไส้ และสารนี้อาจส่งผลต่อสมองหรือระบบประสาทส่วนที่ควบคุมอาการคลื่นไส้ด้วย แม้กระนั้นการสันนิษฐานดังที่กล่าวถึงมาแล้วยังคลุมเครือนัก และก็คุณลักษณะด้านอื่นๆมีข้อมูลน้อยกว่า ซึ่งประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากขิงต่อสุขภาพที่พวกเราเชื่อกันนั้น ตอนนี้ทางด้านวิทยาศาสตร์มีข้อมูลชี้แจงไว้ดังนี้
การดูแลและรักษาที่อาจเห็นผล
อาการอ้วกคลื่นไส้ที่เกิดขึ้นมาจากการใช้ยาต้านทานเชื้อไวรัสเอชไอวีหรือเอดส์ คุณประโยชน์บรรเทาอาการอ้วกคลื่นไส้ของขิงบางทีอาจมีประโยชน์ต่อคนป่วยโรคนี้ที่เห็นแก่ได้รับผลกระทบจากการใช้ยารักษาโรค โดยจากการศึกษาผู้เจ็บป่วยปริมาณ 102 คน แบ่งให้กรุ๊ปหนึ่งรับประทานขิง 500 กรัม อีกกลุ่มรับประทานยาหลอกวันละ 2 ครั้ง ในช่วง 30 นาทีก่อนจะได้รับยารักษาโรคโรคภูมิคุมกันบกพร่องอย่างยาต้านรีโทรไวรัส เป็นเวลาทั้งสิ้น 14 วัน พบว่าขิงช่วยลดอาการคลื่นไส้อ้วกที่เกิดขึ้นมาจากการดูแลและรักษาโรคติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องได้
อาการอ้วกอ้วกหลังจากการผ่าตัด ขิงอาจช่วยทุเลาอาการอาเจียนและอ้วกจากการผ่าตัดได้อย่างเดียวกัน โดยการศึกษาเล่าเรียนด้านวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ชี้ว่าการกินขิง 1-1.5 กรัม ในตอน 1 ชั่วโมงก่อนที่จะมีการผ่าตัดนั้นดูเหมือนจะช่วยลดอาการอ้วกอ้วกที่อาจเกิดขึ้นในระหว่าง 1 วันข้างหลังได้รับการผ่าตัด
งานค้นคว้าหนึ่งทดลองแบ่งผู้เจ็บป่วยปริมาณ 122 รับการผ่าตัดต้อกระจกให้กินแคปซูลขิง 1 กรัม รวมทั้งอีกกรุ๊ปได้รับแคปซูลขิง 500 มิลลิกรัมแม้กระนั้นแบ่งให้ 2 ครั้งกระโน้นผ่าตัด ซึ่งผลลัพธ์พบว่าผู้ป่วยในกรุ๊ปข้างหลังมีลักษณะอ้วกอ้วกน้อยครั้งและก็มีความร้ายแรงของอาการน้อยกว่า โดยงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยนี้พบว่าการใช้ขิงนั้นคงจะให้สมรรถนะสูงสุดเมื่อรับประทานเป็นประจำรวมทั้งสม่ำเสมอโดยแบ่งปริมาณการใช้
นอกนั้น การทดลองทาน้ำมันขิงรอบๆข้อมือของผู้ป่วยก่อนเข้ารับการผ่าตัด พบว่าช่วยปกป้องอาการอาเจียนในผู้เจ็บป่วยราว 80 เปอร์เซ็นต์จากผู้เข้ารับการผ่าตัดทั้งผอง แต่การใช้ขิงช่วยลดอาการอ้วกคลื่นไส้ร่วมกับยาลดอ้วกอาเจียนนั้นอาจให้ผลได้ไม่ดีนัก รวมทั้งการใช้ขิงกับคนเจ็บที่มีความเสี่ยงต่อการอาเจียนคลื่นไส้น้อยอยู่และบางทีอาจไม่เป็นผลเช่นเดียวกัน
อาการแพ้ท้อง การรับประทานขิงอาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้อง ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน หรือเวียนศีรษะ ผลการค้นคว้าชิ้นหนึ่งที่ช่วยยืนยันคุณสมบัตินี้เป็นการทดลองในหญิงที่แก่ครรภ์ต่ำลงมากยิ่งกว่า 20 อาทิตย์ ปริมาณ 120 คน ซึ่งเผชิญอาการแพ้ท้องทุกๆวันนานขั้นต่ำ 1 อาทิตย์ และไม่กระปรี้กระเปร่าขึ้นแม้ว่าจะเปลี่ยนแปลงการกินอาหารแล้วหลังจากนั้นก็ตาม ภายหลังรับประทานสารสกัดจากขิง 125 มิลลิกรัม ซึ่งเท่ากันกับขิงแห้ง 1.5 กรัม วันละ 4 ครั้ง 4 วัน ผลสรุปได้ชี้ให้เห็นว่าขิงบางทีอาจสามารถนำมาใช้คุณประโยชน์ในฐานะการรักษาช่องทางต่ออาการแพ้ท้องได้
นับว่าสอดคล้องกับอีกงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยก่อนหน้าที่ชี้ว่าการรับประทานขิง 1 กรัมต่อวัน ติดต่อนาน 4 วัน สามารถช่วยลดความร้ายแรงของอาการอาเจียนคลื่นไส้ในหญิงตั้งท้องที่มีลักษณะแพ้ท้องได้ อย่างไรก็ดีการใช้ขิงสำหรับคุณประโยชน์ด้านนี้บางทีอาจมองเห็นการดูแลรักษาได้ช้ากว่าหรือได้ผลดีไม่เทียบเท่าการใช้ยาแก้คลื่นไส้คลื่นไส้ นอกเหนือจากนั้น การเรียนเกี่ยวกับคุณลักษณะช่วยลดอาการแพ้ท้องของขิงยังมีความจำกัดและพบผลที่ไม่สม่ำเสมอ โดยมีบางการทดสอบที่ชี้ว่าขิงบางทีอาจไม่ได้มีส่วนช่วยสำหรับในการลดอาการแพ้ท้องด้วยเหมือนกัน
อาการวิงเวียนศีรษะ อาการที่เกิดขึ้นพร้อมกับการอ้วกนี้บางทีอาจทุเลาให้ดียิ่งขึ้นได้ด้วยการใช้คุณค่าจากขิง จากงานศึกษาค้นคว้าวิจัยที่ทดลองด้วยการให้ผู้ที่มีลักษณะอาการบ้านหมุน และก็ตากระตุๆกจากการกระตุ้นโดยใช้อุณหภูมิรับประทานผงเหง้าขิง ปรากฏว่าเหง้าขิงช่วยลดอาการเวียนหัวศีรษะได้อย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอก แม้กระนั้นไม่ได้ช่วยลดระยะเวลาหรือชะลอการกระตุกของตามากนัก
โรคข้อเสื่อม มีการเรียนรู้บางงานที่ชี้ว่าขิงอาจมีสรรพคุณลดลักษณะการเจ็บที่เกิดขึ้นมาจากโรคข้อเสื่อม จากการทดสอบหนึ่งที่ให้คนไข้รับประทานสารสกัดจากขิงประเภทหนึ่ง (Zintona EC) ในจำนวน 250 กรัม วันละ 4 ครั้ง พบว่าช่วยลดอาการปวดข้อเข่าภายหลังจากการดูแลรักษาเป็นเวลา 3 เดือน ส่วนอีกการค้นคว้าวิจัยที่ใช้สารสกัดจากขิงผสมกับข่า พบว่าให้ผลลัพธ์ในการช่วยลดลักษณะของการเจ็บขณะยืน ลักษณะการเจ็บหลังเดิน และอาการข้อติด
ยิ่งไปกว่านี้ มีการเล่าเรียนเทียบสมรรถนะระหว่างขิงและก็ยาแก้ปวด โดยให้ผู้เจ็บป่วยโรคข้ออักเสบในกระดูกสะโพกและก็ข้อหัวเข่ารับประทานสารสกัดขิง 500 มิลลิกรัมแต่ละวัน วันละ 2 ครั้ง ขิงได้ผลทุเลาอาการปวดได้เสมอกันกับการใช้ยาไอบูโพรเฟน 400 มก. วันละ 3 ครั้ง และก็ยังมีงานศึกษาค้นคว้าวิจัยที่แนะนำว่าการนวดด้วยน้ำมันที่มีส่วนผสมของขิงและก็ส้มอาจช่วยทุเลาอาการปวดรวมทั้งอ่อนล้าที่เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆของคนไข้ที่มีอาการเจ็บหัวเข่าได้ด้วย
อาการปวดประจำเดือน นอกเหนือจากอาการปวดจากโรคข้อเสื่อม การเล่าเรียนบางงานยังชี้ว่าขิงอาจมีคุณสมบัติช่วยทุเลาลักษณะของการปวดเมนส์ อย่างเช่น การทดลองในนิสิตมหาวิทยาลัย 120 คน โดยให้กินผงเหง้าขิงครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้งในตอน 2 วันก่อนเริ่มมีเมนส์ตลอดไปจนถึง 3 วันแรกของการมีเมนส์ รวมยอดเป็น 5 วัน พบว่าผงเหง้าขิงมีส่วนช่วยลดความร้ายแรงของลักษณะของการปวดเมนส์ได้อย่างเป็นจริงเป็นจังด้านการศึกษาเล่าเรียนเปรียบเทียบคุณภาพของขิงรวมทั้งยาลดลักษณะของการปวดรอบเดือนอย่างเมเฟนามิค (Mefenamic acid) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) 400 มก. ในอาสาสมัคร 150 คน โดยแบ่งกลุ่มรับประทานแคปซูลขิงหรือยาแต่ละชนิดในปริมาณ 250 มก. วันละ 4 ครั้ง นาน 3 วัน โดยเริ่มตั้งแต่มีประจำเดือน ผลสรุปปรากฏไปในทำนองเดียวกันกับงานศึกษาค้นคว้าวิจัยแรก คือ ขิงมีคุณภาพทุเลาความร้ายแรงของลักษณะของการปวดระดูไม่ต่างอะไรกับการใช้ยาเมเฟนามิคหรือไอบูโพรเฟน
การดูแลและรักษาที่อาจไม่ได้เรื่อง
อาการเมารถรวมทั้งเมาเรือ นับเป็นคุณประโยชน์ของขิงที่มีการกล่าวถึงกันมากมาย แต่ทว่าแม้ขิงบางครั้งอาจจะช่วยลดอาการเวียนหัวได้ แต่ในการตาลายคลื่นไส้ที่เกิดขึ้นจากการเดินทางนั้น งานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยส่วนใหญ่ระบุว่าขิงบางทีอาจไม่มีส่วนช่วยได้จริง เป็นต้นว่า การแบ่งกรุ๊ปให้นักเรียนนายเรือ 80 ผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการออกเรือท่ามกลางสมุทรที่มีคลื่นแรง กินเหง้าขิง 1 กรัม เทียบกับอีกกรุ๊ปที่รับประทานยาหลอก ปรากฏว่ากลุ่มที่รับประทานขิงนั้นมีอาการอาเจียนแล้วก็วิงเวียนลดน้อยลงจริงแต่ว่าอยู่ในระดับนิดหน่อยเท่านั้น หรือในอีกงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยที่ชี้ว่าการรับประทานผงขิงในปริมาณ 500 กรัม 1,000 กรัม หรือเหง้าขิงสด 1,000 มิลลิกรัม ต่างไม่มีส่วนช่วยในการป้องกันอาการเมารถหรือหลักการทำงานของกระเพาะอาหารที่เกี่ยวโยงกับอาการเมารถที่เกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด
การรักษาที่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอต่อการกำหนดความสามารถ
อาการคลื่นไส้อาเจียนจากการทำเคมีบำบัด อีกหนึ่งคุณประโยชน์คือลดอาการคลื่นไส้แล้วก็อ้วก ซึ่งมีการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ แต่หลักฐานเกี่ยวกับการใช้ขิงในคนป่วยที่รับเคมีบรรเทานั้นยังเป็นที่คัดค้านกันอยู่ว่าจะมีส่วนช่วยได้ใช่หรือไม่ การศึกษาหนึ่งที่ชี้ถึงประโยชน์ข้อนี้ของขิง โดยให้ผู้เจ็บป่วยกินแคปซูลขิงที่มีขิง 0.5-1.5 กรัม เทียบกับยาหลอก ตั้งแต่ 3 วันก่อนวันทำเคมีบำบัดนานตลอดตรงเวลา 6 วัน พบว่า หรูหราความรุนแรงของอาการคลื่นไส้ที่เกิดขึ้นภายหลังการดูแลรักษาน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้กินแคปซูลขิง แต่ได้ผลได้ชัดในกลุ่มที่ใช้แคปซูลขิง 0.5 กรัม กับ 1 กรัมเพียงแค่นั้น ส่วนกลุ่มที่รับประทานแคปซูลขิง 1.5 กรัมกลับสำเร็จน้อยกว่า แสดงว่าการกินขิงในจำนวนมากจึงอาจมิได้ทำให้อาการอ้วกดีขึ้นอย่างที่น่าจะเป็น
แต่ มีหลักฐานที่ถกเถียงข้อส่งเสริมดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นซึ่งเป็นงานศึกษาค้นคว้าวิจัยที่เผยว่าการรับประทานขิงมิได้มีคุณภาพดีไปกว่าการใช้ยาแก้อาเจียน ทั้งนี้ ผลการศึกษาเรียนรู้ที่ขัดแย้งกันนี้ คาดว่าอาจมีต้นสายปลายเหตุมาจากปริมาณขิงที่ใช้ทดลองนั้นต่างกัน รวมทั้งขณะที่เริ่มรักษาด้วย ขิงจะนำมาใช้ผลดีด้านการแพทย์ในด้านนี้แล้วได้ผลหรือไม่คงจะควรจะมีการพิสูจน์เพิ่มเติมอีกถัดไป
โรคเบาหวาน คุณลักษณะของขิงต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของคนป่วยเบาหวานในปัจจุบันยังมีผลการศึกษาเรียนรู้ที่ไม่แน่นอน งานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยหนึ่งพบว่าการกินขิง 2 กรัม นาน 12 สัปดาห์ สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสม ระดับไขมันในเลือด และก็สารมาลอนไดอัลดีไฮด์ที่แสดงถึงระดับอนุมูลอิสระในคนไข้โรคเบาหวานจำพวกที่ 2 รวมทั้งอาจช่วยลดการเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังบางประเภทจากเบาหวานได้ ในขณะเดียวกัน มีการค้นคว้าวิจัยอื่นๆที่เสนอแนะว่าขิงนั้นมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดจริง แต่ไม่มีผลต่อระดับอินซูลิน หรือบางงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยกล่าวว่าขิงมีผลกับอินซูลิน แต่กลับไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดน้อยลง ซึ่งผลการศึกษาเรียนรู้ที่ต่างกันนั้นอาจมาจากจำนวนขิงหรือช่วงเวลาที่คนไข้ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคโรคเบาหวานในแต่ละการทดสอบนั้นแตกต่างกันนั่นเอง
อาหารไม่ย่อย มีการวิจัยศึกษาสมรรถนะของขิงในคนเจ็บที่มีอาการอาหารไม่ย่อยปริมาณ 11 คน โดยให้กินแคปซูลที่ประกอบด้วยขิง 1.2 กรัมภายหลังการอดของกิน 8 ชั่วโมง ผลปรากฏว่าขิงช่วยกระตุ้นให้กระเพาะเกิดการย่อยอาหารแล้วก็มีการบีบตัวของกระเพาะส่วนปลาย แต่การรับประทานขิงนั้นไม่เป็นผลต่ออาการที่เกี่ยวพันกับระบบทางเดินอาหารหรือสารเปปไทด์ในลำไส้ อย่างไรก็ดี ผู้ร่วมการทดลองนี้มีจำนวนน้อย ทำให้ไม่บางทีอาจกำหนดได้อย่างเห็นได้ชัดว่าขิงช่วยลดอาการของกินไม่ย่อยได้แน่นอนแค่ไหน
อาการแฮงค์ เช้าใจกันว่าการกินน้ำขิงจะสามารถช่วยทุเลาอาการเมาค้างซึ่งสำเร็จใกล้กันจากการดื่มแอลกอฮอล์ได้ สำหรับคุณประโยชน์ข้อนี้มีงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยเมื่อนานมาแล้วที่เสนอแนะว่าการผสมขิงกับเปลือกด้านในของส้มเขียวหวาน แล้วก็น้ำตาลทรายแดงก่อนดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยลดอาการเมาค้างในภายหลัง รวมทั้งอาการอาเจียน อ้วกแล้วก็ท้องเดิน อย่างไรก็ตาม การเรียนดังกล่าวมาแล้วข้างต้นยังจัดว่ากำกวมอยู่มากและไม่อาจรับรองได้ว่าเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากขิงจริงๆหรือส่วนผสมอื่นๆที่ใช้ประกอบ
ลดคอเลสเตอรอล คุณลักษณะของขิงซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลนั้นได้มีการทดสอบโดยให้ผู้เจ็บป่วยที่มีสภาวะไขมันในเลือดสูงรับประทานแคปซูลขิงวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1 กรัม ผลลัพธ์ระบุว่าเมื่อเทียบกับคนเจ็บกรุ๊ปที่กินยาหลอก ขิงมีประสิทธิภาพช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลลงได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง ซึ่งการใช้ขิงลดระดับคอเลสเตอรอลจะได้ผลดีกระทั่งสามารถประยุกต์ใช้รักษาคนไข้ภาวการณ์นี้ได้ไหมอาจจะต้องคอยการศึกษาในอนาคตที่แจ่มแจ้งกันถัดไป
ลักษณะของการเจ็บกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย คุณลักษณะด้านการบรรเทาปวดรวมทั้งลดการอักเสบของขิงจะช่วยลดอาการเจ็บจากการออกกำลังกายได้ด้วยหรือเปล่านั้นยังคงไม่กระจ่างและเป็นที่ถกเถียงกันอยู่เช่นกัน จากการทดลองหนึ่งที่ให้ผู้เข้าร่วมกินขิงสดหรือขิงที่ทำให้สุกด้วยความร้อนแล้ว 2 กรัมอย่างสม่ำเสมอนาน 124 ชั่วโมง พบว่าขิงสดรวมทั้งขิงสุกต่างมีส่วนช่วยลดอาการเจ็บกล้ามเนื้อจากการบริหารร่างกายแบบหดยืดกล้ามได้ในระดับปานกลางไปจนกระทั่งระดับมาก
แต่ว่าอีกงานวิจัยหนึ่งกลับเจอผลลัพธ์ตรงกันข้าม จากการให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบที่ทำกิจกรรมบริหารร่างกายยืดหดกล้ามเนื้อเหมือนกัน รับประทานขิง 2 กรัมในตอน 24 ชั่วโมงและก็ 48 ชั่วโมงภายหลังการออกกำลังกาย พบว่าไม่ได้นำมาซึ่งการทำให้ลักษณะของการเจ็บกล้ามเนื้อ การอักเสบ หรือบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการออกกำลังกายน้อยลง แม้กระนั้นผู้ศึกษาค้นคว้าและวิจัยพบว่าการรับประทานขิงอาจช่วยทำให้ลักษณะการเจ็บกล้ามเนื้อเบาๆดีขึ้นในทุกๆวัน บางทีอาจไม่เห็นผลตอบแทนโดยทันที
ลักษณะของการปวดศีรษะไมเกรน มีการเรียนกับผู้เจ็บป่วย 100 คน ที่เคยมีลักษณะปวดศีรษะไมเกรนกระทันหันโดยให้รับผงขิงหรือยารักษา http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรขิง

 

Sitemap 1 2 3