ผู้เขียน หัวข้อ: เห็ดหลินจือ รักษาโรคมะเร็งได้จริงหรือ?..  (อ่าน 340 ครั้ง)

gogrov5568225

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 18
    • ดูรายละเอียด

เห็ดหลินจือ
เห็ดหลินจือ รักษาโรคมะเร็ง
อีกหนึ่งการวิจัยที่เรียนรู้เกี่ยวกับประสิทธิผลของสารโพลีแซ็คคาไรค์ในเห็ดหลินจือของผู้ในผู้เจ็บป่วยมะเร็งปอด จากการวิเคาะห์พบว่า สารดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นมีส่วนสำหรับในการยัยยั้งหลักการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว
จากการศึกษาเรียนรู้วิจัยมากมายก่ายกองถึงประสิทธิผลทางการรักษาโรคมะเร็งของเห็ดหลินจืออาจส่งผลต่อการต้านการอักเสบในผู้เจ็บป่วยมะเร็งปอดบางราย แต่ยังคงไม่มีหลักฐานด้านวิทยาศาสตร์หรือการทดสอบด้านการแพทย์ที่ให้ข้อมูลเพียงพอที่ส่งเสริมให้ใช้เห็ดหลินจือสำหรับในการรักษามะเร็งอย่างเป็นทางการ
เมื่อวิเคราะห์เทียบจากการรวบการวิจัยที่ศึกษาประสิทธิผลของเห็ดหลินจือเพื่อรักษาโรคมะเร็งในมนุษย์ 373 คน แม้จะพบว่าผู้ป่วยตอบสนองต่อการดูแลรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือรังสีบรรเทาได้ดีขึ้นเมื่อรักษาร่วมกับการใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือ แต่ว่าเมื่อทดสอบการใช้เห็ดหลินจือเพียงอย่างเดียวกลับไม่มีประสิทธิผลในสำหรับการทำให้โรคมะเร็งลดขนาดลงประการใด
นอกจากนั้น จาการทบทวนการค้นคว้าพบว่ามีการค้นคว้า 4 ชิ้นที่ส่งผลลัพธ์สนับสนุนว่าเห็ดหลินจืออาจชมรมต่อการปรับแต่งคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดีขึ้น และในขณะเดียวกัน ก็ส่งผลลัพธ์จากงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยหนึ่งที่แสดงถึงผลข้างคียงของเห็ดหลินจือ เป็นอาการคลื่นใส้แล้วก็นอนไม่หลับด้วย
โดยเหตุนั้น จึงอาจพูดได้ว่า หลักฐานทางคุณสมบัติแล้วก็คุณประโยช์จากเห็ดหลินจือยังคงมีจำกัด บาง งานค้นคว้าเป็นการทดสอบขนาดเล็ก หลักฐานที่ได้ยังไม่มีคุณภาพพอเพียง หรือเป็นเพียงแต่การทดลองในคนป่วยบางกลุ่มเท่านั้น ประสิทธิผลของเห็ดหลินจือต่อโรคมะเร็ง ก็เลยยังคงเป็นเรื่องการค้นคว้าที่ควรจะปฏิบัติงานทดสอบถัดไปเพื่อได้เห็นผลลัพ์ที่ชัดแจ้งและเป็นประโยชน์ในวงกว้างต่อการดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งได้ในอนาคต
สภาวะต่อมลูกหมากโต รวมทั้งการเจ็บป่วยในระบบทางเท้าปัสสาวะ
มีกระบวนการทดลองหนึ่งที่ใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือทดสอบในผู้เจ็บป่วยเพศ 88 รายซึ่งมีอายุเกินกว่า 49 ปีขึ้นไป ที่มีอาการปัสสาวะติดขัด หลังการทดลองกว่า 12 สัปดาห์ คำตอบที่ได้เป็น คนป่วยต่างหรูหราคะแนน IPSS ที่ ( TNE lnternational Prostate Symptom Score )ซึ่งเป็นค่าคะแนนสากลสำหรับในการวัดปัญหาในระบบทางเดินปัสวะของผู้ป่วยจากการตอบคำถาม กลับไม่ปรากฏผลในเชิงการเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิต การขับถ่ายปัสวะ หรือขนาดของต่อมลูกหมากแต่อย่างใด
ด้วยเหตุนั้น การทดสอบดังกล่าวมาแล้วข้างต้นจึงยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาสตร์ที่แจ่มแจ้งเพียงพอ จำเป็นต้องมีการค้นคว้าทดสอบในด้านนี้ถัดไปในอนาคต เพื่อค้นหาหลังฐานที่แจ้งชัดสำหรับการสรุปเกี่ยวกับประสิทธิของเห็ดหลินจือต่อการดูแลรักษาสภาวะต่อมลูกหมากโตหรือปัญหาสุขภาพอะไรก็ตามที่เกี่ยว
ลดปัจจัยเสี่ยงของโรคเส้นโลหิตหัวใจ
จากการวิเคราะห์ผลของการทดสอบด้านการแพทย์ 5 ราการ ซึ่งมีคนป่วยเบาหวานจำพวก 2 เข้าร่วมทดลองกว่า 398 รายพบว่า เห็ดหลินจือไม่เป็นผลทางการรักษาในเชิงการลดระดับน้ำตาลในเลือดไม่มีหลักฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ที่มีคุณภาพพอเพียงจะเกื้อหนุนผลทางการรักษาเหล่านั้น และไม่มีข้อมูลที่เพียงพอสำหรับในการยืนยันด้านความปลอดภัยจากการบริโภคเห็ดหลินจือสิ่งเดียวกัน โดยหนึ่งในงานศึกษาวิจัยเหล่านั้น ได้แสดงถึงผลข้างเคียงจากการบริโภคเห็ดหลินจือในผู้เจ็บป่วยบางราย เป็นอาการคลื่นใส้ ท้องเดิน หรือท้องผูก
โดยเหตุนี้จึงควรมีการค้นคว้าทดสอบถึงสมรรถนะของเห็ดหลินจือในการลดสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่างๆกลุ่มนี้เพื่อคุ้มครองปกป้องและการดูแลรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจถัดไป รวมทั้งให้ได้การแจ่มกระจ่างชัดดเจนในด้านดังที่กล่าวมาแล้วเยอะขึ้นเรื่อยๆ อันเป็นผลดีต่อขั้นตอนการรักษาคุ้มครองป้องกันโรคเส้นโลหิตหัวใจแล้วก็อาการต่างๆที่เกี่ยวพันถัดไปในอนาคต
ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับเพื่อการบริโรคเห็ดหลินจืออปิ้งชัดแจ้ง เนื่องประสิทธิผลรวมทั้งผลข้างคียงจากการบริโภค ด้วยเหตุดังกล่าว ผู้บริโภค ควรศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ แล้วก็หารือแพทย์หรือเภสัชกรก่อนที่จะมีการบริโรค ด้วยเหตุว่าหากแม้เห็ดหลินจือในแต่ละรูปแบบจะเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ แต่ว่าสารเคมีรวมทั้งส่วนประต่างบางทีอาจมีผลใกล้กันที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายได้ด้วยเหมือนกัน

โดยปกติ จำนวนการบริโภคเห็ดหลินจือ/วันได้แก่
-เห็ดหลินจืออบแห้ง ไม่ควรบริโภคเกิน 1.5-9 กรัม/วัน
-ผงสารสกัดเห็ดหลินจือ ไม่สมควรบริโภคเกิน 1-1.5 กรัม
-สารละลายเห็ดหลินจือ ไม่ควรบริโภคเกิน 1 มล./วัน
ความปลอดภัยสำหรับเพื่อการบริโภคเห็ดหลินจือ
แม้ว่าจะมีการพิสูจน์ถึงคุณค่าในบางด้านที่บางทีอาจเกิดขึ้นได้จากการบริโภคเห็ดหลินจือ แต่ผู้ซื้อก็ควรทำการศึกษาเรียนรู้และทำการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ และขอความเห็นแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการบริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรรอบคอบในด้านปริมาณแล้วก็ต้นแบบเห็ดหลินจือที่บริโภค เนื่องจากว่าบางทีอาจเกิดผลใกล้กันต่อร่างกายได้ในตอนหลัง
โดยข้อควรตรึกตรองในการบริโภคเห็ดหลินจืออาทิเช่น
คนซื้อทั่วๆไป.......
-ควรบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนที่พอดิบพอดี
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันนานเกินกว่า 1 ปี อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 1 ปี อาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้
-การบริโภคสารสกัดเห็ดหลินจืออาจก่อกำเนิดผลข้างเคียงได้ ตัวอย่างเช่น ปากแห้ง คอแห้ง คันจมูก เลือดกำเดาไหล ท้องไส้ปั่นป่วน ถ่ายเป็นเลือด
-การดื่มเหล้าองุ่นเห็ดหลินจืออาจก่อเกิดผลข้างเคียงเป็นอาการผื่นคัน
-การดมหายใจเอาเซลล์ขยายพันธุ์ หรือ สปอร์ (Spores) ของเห็ดหลินจือเข้าไปอาจก่อให้เกิดอาการแพ้
ผู้ที่ควรจะระวังสำหรับการบริโภคเป็นพิษ
ผู้ที่ท้อง หรือกำลังให้นมบุตร ยังไม่มีการยืนยันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ในกรุ๊ปผู้บริโภคนี้แต่ผู้ที่มีท้องและผู้ที่กำลังให้นมบุตรควรเลี่ยงการบริโภคเห็ดหลินจือ เพื่อให้มีความปลอดภัยต่อร่างกายของตนเองและก็ลูกน้อย
ผู้ที่จำต้องเข้ารับการผ่าตัด การบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนมาก อาจเพิ่มความเสี่ยงสำหรับการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนป่วยบางรายที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ด้วยเหตุนั้น เพื่อลดการเสี่ยง คนป่วยควรหยุดบริโภคเห็ดหลินจือ ขั้นต่ำ 2 อาทิตย์ก่อนวันผ่าตัด
ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ
ความดันโลหิตต่ำ เห็ดหลินจืออาจนำมาซึ่งการทำให้ความดันโลหิตต่ำลง ฉะนั้น คนป่วยสภาวะความดันเลือดต่ำจำเป็นจะต้องหลบหลีกการบริโภคเห็ดหลินจือ
ภาวการณ์เกล็ดเลือดต่ำ การบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนมากบางทีอาจเพิ่มการเสี่ยงสำหรับในการเกิดภาวะมีเลือดออกในผู้ที่มีเกล็ดเลือดต่ำ ด้วยเหตุนั้นคนเจ็บภาวะเกล็ดเลือดต่ำจึงไม่ควรบริโภคเห็ดหลินจือ
สภาวะมีเลือดออกแตกต่างจากปกติ การบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณมาก บางทีอาจเพิ่มความเสี่ยงสำหรับการเกิดภาวะมีเลือดออกในผู้เจ็บป่วยบางราย โดยเฉพาะในคนที่มีสภาวะเลือกออกผิดปกติอยู่แล้ว http://www.disthai.com/

 

Sitemap 1 2 3