ผู้เขียน หัวข้อ: เห็ดหลินจือ รักษาโรคมะเร็งได้จริงหรือ?..  (อ่าน 313 ครั้ง)

ydoois25sd4t

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 6
    • ดูรายละเอียด

เห็ดหลินจือ
เห็ดหลินจือ รักษาโรคมะเร็ง
อีกหนึ่งงานศึกษาค้นคว้าวิจัยที่เรียนรู้เกี่ยวกับประสิทธิผลของสารโพลีแซ็คคาไรค์ในเห็ดหลินจือของผู้ในคนไข้มะเร็งปอด จากการวิเคาะห์พบว่า สารดังที่กล่าวมาแล้วมีส่วนสำหรับในการยัยยั้งลักษณะการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว
จากการวิจัยมากมายถึงประสิทธิผลทางการรักษาโรคโรคมะเร็งของเห็ดหลินจืออาจมีผลต่อการต้านการอักเสบในผู้เจ็บป่วยมะเร็งปอดบางราย แต่ว่ายังคงไม่มีหลักฐานทางด้านวิทยาศาสตร์หรือการทดลองทางการแพทย์ที่ให้ข้อมูลเพียงพอที่ส่งเสริมให้ใช้เห็ดหลินจือสำหรับในการรักษาโรคมะเร็งอย่างเป็นทางการ
เมื่อวิเคราะห์เปรียบจากการรวบงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยที่ศึกษาประสิทธิผลของเห็ดหลินจือเพื่อรักษาโรคโรคมะเร็งในมนุษย์ 373 คน แม้จะพบว่าผู้เจ็บป่วยสนองตอบต่อการดูแลรักษาด้วยเคมีบรรเทาหรือรังสีบำบัดรักษาก้าวหน้าขึ้นเมื่อรักษาร่วมกับการใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือ แต่ว่าเมื่อตรวจสอบและลองใช้เห็ดหลินจือเพียงอย่างเดียวกลับไม่มีประสิทธิผลในสำหรับในการทำให้โรคมะเร็งลดขนาดลงประการใด
นอกเหนือจากนั้น จาการทบทวนงานศึกษาเรียนรู้พบว่ามีงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัย 4 ชิ้นที่ส่งผลลัพธ์ส่งเสริมว่าเห็ดหลินจืออาจสัมพันธ์ต่อการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้เจ็บป่วยให้ดียิ่งขึ้น และในขณะเดียวกัน ก็มีผลลัพธ์จากงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยหนึ่งที่แสดงถึงผลข้างคียงของเห็ดหลินจือ เป็นอาการคลื่นใส้รวมทั้งนอนไม่หลับด้วย
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ก็เลยอาจพูดได้ว่า เครื่องพิสูจน์ทางคุณลักษณะแล้วก็คุณประโยชน์ซึ่งมาจากเห็ดหลินจือยังคงมีจำกัด บาง การวิจัยเป็นการทดลองขนาดเล็ก หลักฐานที่ได้ยังไม่มีคุณภาพพอเพียง หรือเป็นเพียงแต่การทดลองในคนป่วยบางกรุ๊ปแค่นั้น ประสิทธิผลของเห็ดหลินจือต่อโรคมะเร็ง ก็เลยยังคงเป็นหัวข้อการค้นคว้าที่ควรจะดำเนินงานทดสอบต่อไปเพื่อให้ได้สำเร็จลัพ์ที่แจ่มกระจ่างและก็เป็นประโยชน์ในวงกว้างต่อการรักษาคนป่วยมะเร็งได้ในอนาคต
สภาวะต่อมลูกหมากโต และก็การเจ็บป่วยในระบบฟุตบาทฉี่
มีกระบวนการทดลองหนึ่งที่ใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือทดสอบในคนป่วยเพศ 88 รายซึ่งมีอายุเกินกว่า 49 ปีขึ้นไป ที่มีอาการปัสสาวะขัดข้อง หลังการทดสอบกว่า 12 สัปดาห์ คำตอบที่ได้คือ ผู้เจ็บป่วยต่างหรูหราคะแนน IPSS ที่ดียิ่งขึ้น ( TNE lnternational Prostate Symptom Score )ซึ่งเป็นค่าคะแนนสากลสำหรับเพื่อการวัดปัญหาในระบบทางเท้าปัสวะของผู้เจ็บป่วยจากการตอบคำถาม แต่ไม่ปรากฏผลในเชิงการเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิต การขับถ่ายปัสวะ หรือขนาดของต่อมลูกหมากอะไร
ด้วยเหตุผลดังกล่าว การทดลองดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นจึงยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาสตร์ที่ชัดแจ้งเพียงพอ จำเป็นที่จะต้องมีการค้นคว้าทดลองในด้านนี้ถัดไปในอนาคต เพื่อค้นหาหลังฐานที่แจ่มกระจ่างในการสรุปเกี่ยวกับประสิทธิของเห็ดหลินจือต่อการดูแลรักษาภาวะต่อมลูกหมากโตหรือปัญหาด้านสุขภาพอะไรก็ตามที่เกี่ยวเนื่อง
ลดปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ
จากการวิเคราะห์ผลการทดสอบทางด้านการแพทย์ 5 ราการ ซึ่งมีคนเจ็บเบาหวานประเภท 2 เข้าร่วมทดลองกว่า 398 รายพบว่า เห็ดหลินจือไม่มีผลทางการรักษาในเชิงการลดระดับน้ำตาลในเลือดไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่มีคุณภาพเพียงพอจะช่วยเหลือผลทางการรักษาพวกนั้น และไม่มีข้อมูลที่เพียงพอในการยืนยันด้านความปลอดภัยจากการบริโภคเห็ดหลินจือด้วยเหมือนกัน โดยหนึ่งในงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยเหล่านั้น ได้แสดงถึงผลข้างเคียงจากการบริโภคเห็ดหลินจือในผู้ป่วยบางราย เป็นอาการคลื่นใส้ ท้องร่วง หรือท้องผูก
ด้วยเหตุนี้ควรต้องมีการค้นคว้าทดลองถึงคุณภาพของเห็ดหลินจือในการลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆเหล่านี้เพื่อคุ้มครองปกป้องและการรักษาโรคเส้นเลือดหัวใจถัดไป และก็ให้ได้การกระจ่างชัดดเจนในด้านดังที่ได้กล่าวมาแล้วมากเพิ่มขึ้น อันเป็นคุณประโยชน์ต่อกรรมวิธีการรักษาป้องกันโรคเส้นเลือดหัวใจและอาการต่างๆที่เกี่ยวข้องต่อไปในอนาคต
ปริมาณที่สมควรสำหรับเพื่อการบริโรคเห็ดหลินจืออปิ้งแจ่มกระจ่าง เนื่องประสิทธิผลแล้วก็ผลข้างคียงจากการบริโภค โดยเหตุนี้ ผู้ซื้อ ควรศึกษาค้นคว้าเนื้อหาเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ และขอความเห็นหมอหรือเภสัชกรก่อนจะมีการบริโรค เพราะหากแม้เห็ดหลินจือในแต่ละแบบอย่างจะเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ แม้กระนั้นสารเคมีแล้วก็ส่วนประต่างบางทีอาจส่งผลข้างๆที่ทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายได้เหมือนกัน

โดยธรรมดา ปริมาณการบริโภคเห็ดหลินจือ/วันยกตัวอย่างเช่น
-เห็ดหลินจืออบแห้ง ไม่สมควรบริโภคเกิน 1.5-9 กรัม/วัน
-ผงสารสกัดเห็ดหลินจือ ไม่ควรบริโภคเกิน 1-1.5 กรัม
-สารละลายเห็ดหลินจือ ไม่ควรบริโภคเกิน 1 มิลลิลิตร/วัน
ความปลอดภัยสำหรับเพื่อการบริโภคเห็ดหลินจือ
แม้ว่าจะมีการพิสูจน์ถึงคุณประโยชน์ในบางด้านที่บางทีอาจเกิดขึ้นได้จากการบริโภคเห็ดหลินจือ แต่ผู้บริโภคก็ควรศึกษาเรียนรู้เนื้อหาเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ และก็หารือหมอหรือเภสัชกรก่อนจะมีการบริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรรอบคอบในด้านจำนวนและรูปแบบเห็ดหลินจือที่บริโภค เพราะอาจเป็นผลข้างเคียงต่อร่างกายได้ในคราวหลัง
โดยข้อควรพิจารณาสำหรับในการบริโภคเห็ดหลินจือดังเช่น
ลูกค้าทั่วไป.......
-ควรจะบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณที่พอดิบพอดี
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 1 ปี อาจส่งผลให้เป็นอันตรายต่อร่างกายได้
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันนานเกินกว่า 1 ปี อาจจะเป็นผลให้ได้รับอันตรายต่อร่างกายได้
-การบริโภคสารสกัดเห็ดหลินจืออาจนำไปสู่ผลกระทบได้ อย่างเช่น ปากแห้ง คอแห้ง คันจมูก เลือดกำเดาไหล ท้องไส้ป่วนปั่น ถ่ายเป็นเลือด
-การดื่มเหล้าองุ่นเห็ดหลินจืออาจนำไปสู่ผลกระทบเป็นอาการผื่นคัน
-การดมหายใจเอาเซลล์แพร่พันธุ์ หรือ สปอร์ (Spores) ของเห็ดหลินจือเข้าไปอาจจะส่งผลให้กำเนิดอาการแพ้
คนที่ควรจะระวังสำหรับการบริโภคเป็นพิษ
คนที่ท้อง หรือกำลังให้นมบุตร ถึงแม้ยังไม่มีการยืนยันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ในกรุ๊ปผู้ใช้นี้แม้กระนั้นคนที่ท้องแล้วก็คนที่กำลังให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงการบริโภคเห็ดหลินจือ เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกายของตนเองและลูกน้อย
คนที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด การบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนมาก อาจเพิ่มความเสี่ยงสำหรับการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนป่วยบางรายที่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด ด้วยเหตุนั้น เพื่อลดความเสี่ยง ผู้เจ็บป่วยควรจะหยุดบริโภคเห็ดหลินจือ อย่างต่ำ 2 อาทิตย์ก่อนวันผ่าตัด
ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ
ความดันโลหิตต่ำ เห็ดหลินจืออาจนำมาซึ่งการทำให้ความดันเลือดต่ำลง ด้วยเหตุดังกล่าว คนไข้ภาวะความดันเลือดต่ำควรต้องหลีกเลี่ยงการบริโภคเห็ดหลินจือ
ภาวการณ์เกล็ดเลือดต่ำ การบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนมากอาจเพิ่มการเสี่ยงสำหรับเพื่อการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนที่มีเกล็ดเลือดต่ำ ด้วยเหตุนั้นคนไข้ภาวะเกล็ดเลือดต่ำจึงไม่ควรบริโภคเห็ดหลินจือ
ภาวการณ์มีเลือดออกเปลี่ยนไปจากปกติ การบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนมาก อาจเพิ่มความเสี่ยงสำหรับการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนเจ็บบางราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่มีสภาวะเลือกออกเปลี่ยนไปจากปกติอยู่แล้ว http://www.disthai.com/

 

Sitemap 1 2 3