ผู้เขียน หัวข้อ: เห็ดหลินจือ รักษาโรคมะเร็งได้จริงหรือ?..  (อ่าน 300 ครั้ง)

uoid01s5x8c7

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 7
    • ดูรายละเอียด

เห็ดหลินจือ
เห็ดหลินจือ รักษาโรคโรคมะเร็ง
อีกหนึ่งงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยที่เล่าเรียนเกี่ยวกับประสิทธิผลของสารโพลีแซ็คคาไรค์ในเห็ดหลินจือของผู้ในคนป่วยมะเร็งปอด จากการวิเคาะห์พบว่า สารดังที่กล่าวถึงมาแล้วมีส่วนสำหรับในการยัยยั้งแนวทางการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว
จากการศึกษาเรียนรู้วิจัยล้นหลามถึงประสิทธิผลทางการรักษาโรคมะเร็งของเห็ดหลินจืออาจมีผลต่อการต้านการอักเสบในคนป่วยโรคมะเร็งปอดบางราย แต่ว่ายังคงไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์หรือการทดสอบทางด้านการแพทย์ที่ให้ข้อมูลเพียงพอที่สนับสนุนให้ใช้เห็ดหลินจือสำหรับเพื่อการรักษามะเร็งอย่างเป็นทางการ
เมื่อพินิจพิจารณาเทียบจากการรวบงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยที่ศึกษาประสิทธิผลของเห็ดหลินจือเพื่อรักษาโรคมะเร็งในมนุษย์ 373 คน แม้ว่าจะพบว่าคนเจ็บสนองตอบต่อการรักษาด้วยเคมีบรรเทาหรือรังสีบรรเทาได้ดีขึ้นเมื่อรักษาร่วมกับการใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือ แต่เมื่อตรวจสอบและลองใช้เห็ดหลินจือเพียงอย่างเดียวกลับไม่มีประสิทธิผลในในการทำให้มะเร็งลดขนาดลงอย่างใด
นอกเหนือจากนั้น จาการทบทวนงานศึกษาเรียนรู้พบว่ามีงานศึกษาเรียนรู้วิจัย 4 ชิ้นที่ส่งผลลัพธ์ส่งเสริมว่าเห็ดหลินจืออาจสโมสรต่อการปรับปรุงแก้ไขคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดียิ่งขึ้น และในเวลาเดียวกัน ก็มีผลลัพธ์จากงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยหนึ่งที่แสดงถึงผลข้างคียงของเห็ดหลินจือ เป็นอาการคลื่นใส้และก็นอนไม่หลับด้วย
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ก็เลยอาจกล่าวได้ว่า สิ่งที่ใช้พิสูจน์ทางคุณลักษณะแล้วก็ประโยชน์ซึ่งมาจากเห็ดหลินจือยังคงมีจำกัด บาง การวิจัยเป็นการทดลองขนาดเล็ก หลักฐานที่ได้ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ หรือเป็นเพียงแค่การทดลองในคนเจ็บบางกลุ่มแค่นั้น ประสิทธิผลของเห็ดหลินจือต่อโรคมะเร็ง จึงยังคงเป็นหัวข้อการค้นคว้าที่ควรจะดำเนินการทดสอบถัดไปเพื่อให้ได้เห็นผลลัพ์ที่แจ่มแจ้งรวมทั้งมีคุณประโยชน์ในวงกว้างต่อการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งได้ในอนาคต
ภาวะต่อมลูกหมากโต แล้วก็การเจ็บป่วยในระบบทางเท้าเยี่ยว
มีกรรมวิธีทดลองหนึ่งที่ใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือทดสอบในคนป่วยเพศ 88 รายซึ่งมีอายุเกินกว่า 49 ปีขึ้นไป ที่มีลักษณะอาการปัสสาวะขัดข้อง หลังการทดสอบกว่า 12 อาทิตย์ ผลสรุปที่ได้เป็น คนป่วยต่างหรูหราคะแนน IPSS ที่ดีขึ้น ( TNE lnternational Prostate Symptom Score )ซึ่งเป็นค่าคะแนนสากลในการวัดปัญหาในระบบทางเดินปัสวะของคนไข้จากการตอบคำถาม แต่กลับไม่ปรากฏผลในเชิงการเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิต การขับถ่ายปัสวะ หรือขนาดของต่อมลูกหมากอะไร
ด้วยเหตุนั้น การทดลองดังกล่าวข้างต้นจึงยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาสตร์ที่กระจ่างแจ้งพอเพียง จะต้องมีการค้นคว้าทดลองในด้านนี้ถัดไปในอนาคต เพื่อค้นหาข้างหลังฐานที่กระจ่างสำหรับการสรุปเกี่ยวกับประสิทธิของเห็ดหลินจือต่อการดูแลรักษาภาวะต่อมลูกหมากโตหรือปัญหาสุขภาพใดๆก็ตามที่เกี่ยวพัน
ลดปัจจัยเสี่ยงของโรคเส้นเลือดหัวใจ
จากการวิเคราะห์ผลของการทดลองทางด้านการแพทย์ 5 ราการ ซึ่งมีผู้เจ็บป่วยเบาหวานประเภท 2 ร่วมทดสอบกว่า 398 รายพบว่า เห็ดหลินจือไม่มีผลทางการรักษาในเชิงการลดระดับน้ำตาลในเลือดไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่มีคุณภาพเพียงพอจะส่งเสริมผลทางการรักษาเหล่านั้น และไม่มีข้อมูลที่เพียงพอสำหรับในการยืนยันด้านความปลอดภัยจากการบริโภคเห็ดหลินจือสิ่งเดียวกัน โดยหนึ่งในงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยเหล่านั้น ได้แสดงถึงผลกระทบจากการบริโภคเห็ดหลินจือในคนไข้บางราย เป็นอาการคลื่นใส้ ท้องเดิน หรือท้องผูก
เพราะฉะนั้นจำเป็นที่จะต้องมีการค้นคว้าทดลองถึงประสิทธิภาพของเห็ดหลินจือสำหรับการลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆกลุ่มนี้เพื่อคุ้มครองป้องกันและก็การดูแลและรักษาโรคเส้นโลหิตหัวใจต่อไป และให้ได้การเด่นชัดชัดดเจนในด้านดังกล่าวข้างต้นเยอะขึ้น อันเป็นผลดีต่อขั้นตอนการรักษาป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจรวมทั้งอาการต่างๆที่เกี่ยวเนื่องต่อไปในอนาคต
ปริมาณที่สมควรสำหรับเพื่อการบริโรคเห็ดหลินจืออปิ้งแจ่มชัด เนื่องประสิทธิผลและก็ผลข้างคียงจากการบริโภค ด้วยเหตุดังกล่าว ผู้บริโภค ควรศึกษาเรียนรู้เนื้อหาเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ แล้วก็ขอคำแนะนำหมอหรือเภสัชกรก่อนจะมีการบริโรค เนื่องจากว่าถึงแม้เห็ดหลินจือในแต่ละแบบอย่างจะเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ แต่ว่าสารเคมีแล้วก็ส่วนประต่างบางทีอาจมีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้เช่นกัน

โดยทั่วไป จำนวนการบริโภคเห็ดหลินจือ/วันยกตัวอย่างเช่น
-เห็ดหลินจืออบแห้ง ไม่สมควรบริโภคเกิน 1.5-9 กรัม/วัน
-ผงสารสกัดเห็ดหลินจือ ไม่สมควรบริโภคเกิน 1-1.5 กรัม
-สารละลายเห็ดหลินจือ ไม่สมควรบริโภคเกิน 1 มล./วัน
ความปลอดภัยสำหรับการบริโภคเห็ดหลินจือ
แม้ว่าจะมีการพิสูจน์ถึงคุณค่าในบางด้านที่บางทีอาจเกิดขึ้นได้จากการบริโภคเห็ดหลินจือ แม้กระนั้นคนซื้อก็ควรศึกษาเนื้อหาสาระเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ และก็ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนที่จะมีการบริโภค โดยเฉพาะ ควรรอบคอบในด้านปริมาณรวมทั้งต้นแบบเห็ดหลินจือที่บริโภค เพราะเหตุว่าบางทีอาจเป็นผลใกล้กันต่อสุขภาพได้ในภายหลัง
โดยสิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวังในการบริโภคเห็ดหลินจือดังเช่นว่า
ลูกค้าทั่วๆไป.......
-ควรจะบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนที่พอดิบพอดี
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันนานเกินกว่า 1 ปี อาจจะส่งผลให้มีอันตรายต่อร่างกายได้
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันนานเกินกว่า 1 ปี อาจจะส่งผลให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้
-การบริโภคสารสกัดเห็ดหลินจืออาจก่อกำเนิดผลกระทบได้ ดังเช่นว่า ปากแห้ง คอแห้งผาก คันจมูก เลือดกำเดาไหล ท้องไส้ป่วนปั่น ถ่ายเป็นเลือด
-การดื่มเหล้าองุ่นเห็ดหลินจืออาจนำมาซึ่งผลกระทบเป็นอาการผื่นคัน
-การดมหายใจเอาเซลล์แพร่พันธุ์ หรือ สปอร์ (Spores) ของเห็ดหลินจือเข้าไปอาจจะทำให้กำเนิดอาการแพ้
คนที่ต้องระวังในการบริโภคเป็นพิษ
ผู้ที่ครรภ์ หรือกำลังให้นมลูก แม้ยังไม่มีการรับรองผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ในกรุ๊ปลูกค้านี้แม้กระนั้นผู้ที่มีท้องและผู้ที่กำลังให้นมบุตรควรจะหลบหลีกการบริโภคเห็ดหลินจือ เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกายของตัวเองและก็ลูกน้อย
คนที่จำต้องเข้ารับการผ่าตัด การบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนมาก อาจเพิ่มการเสี่ยงสำหรับการเกิดภาวะมีเลือดออกในผู้เจ็บป่วยบางรายที่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด เพราะฉะนั้น เพื่อลดการเสี่ยง คนเจ็บควรจะหยุดบริโภคเห็ดหลินจือ ขั้นต่ำ 2 สัปดาห์ก่อนวันผ่าตัด
ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ
ความดันเลือดต่ำ เห็ดหลินจืออาจทำให้ความดันเลือดต่ำลง โดยเหตุนั้น ผู้เจ็บป่วยภาวะความดันเลือดต่ำควรต้องเลี่ยงการบริโภคเห็ดหลินจือ
สภาวะเกล็ดเลือดต่ำ การบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนมากบางทีอาจเพิ่มการเสี่ยงในการเกิดภาวะมีเลือดออกในผู้ที่มีเกล็ดเลือดต่ำ โดยเหตุนี้ผู้ป่วยภาวการณ์เกล็ดเลือดต่ำจึงไม่ควรบริโภคเห็ดหลินจือ
ภาวการณ์มีเลือดออกไม่ดีเหมือนปกติ การบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนมาก อาจเพิ่มความเสี่ยงสำหรับเพื่อการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนไข้บางราย โดยยิ่งไปกว่านั้นในคนที่มีภาวะเลือกออกไม่ดีเหมือนปกติอยู่แล้ว http://www.disthai.com/

 

Sitemap 1 2 3