ผู้เขียน หัวข้อ: เห็ดหลินจือ รักษาโรคมะเร็งได้จริงหรือ?..  (อ่าน 327 ครั้ง)

giw3a5c4h4h4a5

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 5
    • ดูรายละเอียด

เห็ดหลินจือ
เห็ดหลินจือ รักษาโรคโรคมะเร็ง
อีกหนึ่งงานค้นคว้าวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิผลของสารโพลีแซ็คคาไรค์ในเห็ดหลินจือของผู้ในคนป่วยมะเร็งปอด จากการวิเคาะห์พบว่า สารดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วมีส่วนสำหรับเพื่อการยัยยั้งแนวทางการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว
จากการศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยเยอะมากถึงประสิทธิผลทางการรักษาโรคโรคมะเร็งของเห็ดหลินจืออาจส่งผลต่อการต้านการอักเสบในคนเจ็บมะเร็งปอดบางราย แม้กระนั้นยังคงไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์หรือการทดสอบทางด้านการแพทย์ที่ให้ข้อมูลพอเพียงที่ส่งเสริมให้ใช้เห็ดหลินจือสำหรับการรักษาโรคมะเร็งอย่างเป็นทางการ
เมื่อวิเคราะห์เทียบจากการรวบงานค้นคว้าที่เรียนรู้ประสิทธิผลของเห็ดหลินจือเพื่อรักษาโรคมะเร็งในมนุษย์ 373 คน แม้จะพบว่าผู้ป่วยตอบสนองต่อการรักษาด้วยเคมีบำบัดรักษาหรือรังสีบำบัดได้ดิบได้ดีขึ้นเมื่อรักษาร่วมกับการใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือ แต่เมื่อทดสอบการใช้เห็ดหลินจือเพียงอย่างเดียวกลับไม่มีประสิทธิผลในในการทำให้มะเร็งลดขนาดลงประการใด
ยิ่งกว่านั้น จาการทบทวนงานศึกษาเรียนรู้วิจัยพบว่ามีงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัย 4 ชิ้นที่ส่งผลลัพธ์เกื้อหนุนว่าเห็ดหลินจืออาจสมาคมต่อการปรับแก้คุณภาพชีวิตของคนไข้ให้ และก็ในขณะเดียวกัน ก็ส่งผลลัพธ์จากการค้นคว้าวิจัยหนึ่งที่แสดงถึงผลข้างคียงของเห็ดหลินจือ เป็นอาการคลื่นใส้รวมทั้งนอนไม่หลับด้วย
โดยเหตุนี้ ก็เลยอาจจะกล่าวว่า สิ่งพิสูจน์ทางคุณลักษณะและก็ประโยชน์ที่ได้รับมาจากเห็ดหลินจือยังคงมีจำกัด บาง การค้นคว้าวิจัยเป็นการทดสอบขนาดเล็ก หลักฐานที่ได้ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ หรือเป็นเพียงแค่การทดลองในคนไข้บางกรุ๊ปเท่านั้น ประสิทธิผลของเห็ดหลินจือต่อโรคมะเร็ง จึงยังคงเป็นหัวข้อการค้นคว้าที่ควรจะปฏิบัติงานทดสอบถัดไปเพื่อให้ได้สำเร็จลัพ์ที่ชัดเจนแล้วก็เป็นประโยชน์ในวงกว้างต่อการดูแลและรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งได้ในอนาคต
สภาวะต่อมลูกหมากโต รวมทั้งการเจ็บป่วยในระบบฟุตบาทฉี่
มีขั้นตอนการทดสอบหนึ่งที่ใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือทดสอบในคนป่วยเพศ 88 รายซึ่งมีอายุเกินกว่า 49 ปีขึ้นไป ที่มีอาการเยี่ยวติดขัด ข้างหลังการทดลองกว่า 12 อาทิตย์ คำตอบที่ได้คือ คนไข้ต่างหรูหราคะแนน IPSS ที่ดียิ่งขึ้น ( TNE lnternational Prostate Symptom Score )ซึ่งเป็นค่าคะแนนสากลสำหรับในการวัดปัญหาในระบบฟุตบาทปัสวะของคนไข้จากการตอบปัญหา แต่กลับไม่ปรากฏผลในเชิงความเคลื่อนไหวคุณภาพชีวิต การขับถ่ายปัสวะ หรือขนาดของต่อมลูกหมากอะไร
โดยเหตุนั้น การทดสอบดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วจึงยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาสตร์ที่แจ่มแจ้งเพียงพอ จำเป็นต้องมีการค้นคว้าทดลองในด้านนี้ต่อไปในอนาคต เพื่อค้นหาข้างหลังฐานที่เด่นชัดในการสรุปเกี่ยวกับประสิทธิของเห็ดหลินจือต่อการรักษาภาวะต่อมลูกหมากโตหรือปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพอะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวพัน
ลดปัจจัยเสี่ยงของโรคเส้นเลือดหัวใจ
จากการวิเคราะห์ผลการทดสอบด้านการแพทย์ 5 ราการ ซึ่งมีผู้ป่วยเบาหวานประเภท 2 เข้าร่วมทดลองกว่า 398 รายพบว่า เห็ดหลินจือไม่มีผลทางการรักษาในเชิงการลดระดับน้ำตาลในเลือดไม่มีหลักฐานด้านวิทยาศาสตร์ที่มีคุณภาพเพียงพอจะเกื้อหนุนผลทางการรักษาพวกนั้น และไม่มีข้อมูลที่พอเพียงสำหรับในการรับรองด้านความปลอดภัยจากการบริโภคเห็ดหลินจือเหมือนกัน โดยหนึ่งในงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยเหล่านั้น ได้แสดงถึงผลข้างเคียงจากการบริโภคเห็ดหลินจือในผู้เจ็บป่วยบางราย เป็นอาการคลื่นใส้ ท้องเสีย หรือท้องผูก
ดังนั้นจะต้องมีการค้นคว้าทดลองถึงสมรรถนะของเห็ดหลินจือในการลดสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่างๆเหล่านี้เพื่อคุ้มครองป้องกันและการดูแลและรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจต่อไป และให้ได้เรื่องกระจ่างแจ้งชัดดเจนในด้านดังกล่าวข้างต้นเยอะขึ้นเรื่อยๆ อันเป็นผลดีต่อขั้นตอนการรักษาคุ้มครองปกป้องโรคเส้นเลือดหัวใจและก็อาการต่างๆที่เกี่ยวพันถัดไปในอนาคต
ปริมาณที่สมควรสำหรับเพื่อการบริโรคเห็ดหลินจืออปิ้งแน่ชัด เนื่องประสิทธิผลแล้วก็ผลข้างคียงจากการบริโภค ด้วยเหตุนั้น ผู้บริโภค ควรศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ และขอคำแนะนำแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการบริโรค เพราะเห็ดหลินจือในแต่ละแบบอย่างจะเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ แม้กระนั้นสารเคมีแล้วก็ส่วนประต่างอาจมีผลข้างเคียงที่เป็นโทษต่อสุขภาพร่างกายได้เหมือนกัน

โดยธรรมดา จำนวนการบริโภคเห็ดหลินจือ/วันตัวอย่างเช่น
-เห็ดหลินจืออบแห้ง ไม่ควรบริโภคเกิน 1.5-9 กรัม/วัน
-ผงสารสกัดเห็ดหลินจือ ไม่สมควรบริโภคเกิน 1-1.5 กรัม
-สารละลายเห็ดหลินจือ ไม่ควรบริโภคเกิน 1 มิลลิลิตร/วัน
ความปลอดภัยสำหรับการบริโภคเห็ดหลินจือ
แม้จะมีการพิสูจน์ถึงคุณประโยชน์ในบางด้านที่อาจเกิดขึ้นได้จากการบริโภคเห็ดหลินจือ แม้กระนั้นคนซื้อก็ควรทำการศึกษาเรียนรู้และทำการค้นคว้าเนื้อหาเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ รวมทั้งขอคำแนะนำแพทย์หรือเภสัชกรก่อนที่จะมีการบริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรรอบคอบในด้านจำนวนและก็ต้นแบบเห็ดหลินจือที่บริโภค เนื่องจากว่าอาจเป็นผลข้างเคียงต่อสุขภาพได้ในภายหลัง
โดยข้อควรคำนึงสำหรับเพื่อการบริโภคเห็ดหลินจืออย่างเช่น
ผู้ซื้อทั่วๆไป.......
-ควรบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณที่พอดี
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันนานเกินกว่า 1 ปี อาจจะก่อให้ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 1 ปี อาจจะเป็นผลให้มีอันตรายต่อร่างกายได้
-การบริโภคสารสกัดเห็ดหลินจืออาจก่อเกิดผลข้างเคียงได้ อย่างเช่น ปากแห้ง คอแห้ง คันจมูก เลือดกำเดาไหล ท้องไส้ป่วนปั่น ถ่ายเป็นเลือด
-การดื่มเหล้าองุ่นเห็ดหลินจืออาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงเป็นอาการผื่นคัน
-การดมหายใจเอาเซลล์ขยายพันธุ์ หรือ สปอร์ (Spores) ของเห็ดหลินจือเข้าไปอาจจะทำให้เกิดอาการแพ้
ผู้ที่ควรระวังสำหรับเพื่อการบริโภคเป็นพิษ
ผู้ที่ครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร หากแม้ยังไม่มีการยืนยันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ในกลุ่มผู้บริโภคนี้แต่ว่าผู้ที่ท้องและก็คนที่กำลังให้นมบุตรควรจะหลบหลีกการบริโภคเห็ดหลินจือ เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกายของตนเองแล้วก็ลูกน้อย
คนที่จำต้องเข้ารับการผ่าตัด การบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนมาก บางทีอาจเพิ่มความเสี่ยงสำหรับในการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนเจ็บบางรายที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ฉะนั้น เพื่อลดความเสี่ยง ผู้เจ็บป่วยควรหยุดบริโภคเห็ดหลินจือ ขั้นต่ำ 2 สัปดาห์ก่อนวันผ่าตัด
ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ
ความดันโลหิตต่ำ เห็ดหลินจืออาจส่งผลให้ความดันโลหิตต่ำลง ฉะนั้น คนไข้ภาวการณ์ความดันโลหิตต่ำจะต้องหลีกเลี่ยงการบริโภคเห็ดหลินจือ
สภาวะเกล็ดเลือดต่ำ การบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณมากอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนที่มีเกล็ดเลือดต่ำ ฉะนั้นคนเจ็บภาวการณ์เกล็ดเลือดต่ำก็เลยไม่ควรบริโภคเห็ดหลินจือ
ภาวการณ์มีเลือดออกแตกต่างจากปกติ การบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนมาก อาจเพิ่มความเสี่ยงสำหรับในการเกิดภาวะมีเลือดออกในผู้เจ็บป่วยบางราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่มีสภาวะเลือกออกแตกต่างจากปกติอยู่แล้ว http://www.disthai.com/

 

Sitemap 1 2 3