ผู้เขียน หัวข้อ: รู้ไหมว่ากระเทียมนั้นมีสรรพคุณ-เเละประโยชน์อย่างมากๆ  (อ่าน 336 ครั้ง)

n0menskyiii01

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 6
    • ดูรายละเอียด

กระเทียม
กระเทียมกับคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ
กระเทียม เป็นพืชล้มลุกที่มีหัวลักษณะเป็นทรงกระเปาะอยู่ใต้ดินเหมือนกับหัวหอม ซึ่งแต่ละหัวจะมี 6-10 กลีบ นิยมนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงทำอาหาร กระเทียมเป็นพืชที่ค่อนข้างไม่เหมือนกับพืชทั่วๆไป ด้วยเหตุว่าอุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์ในปริมาณมาก นอกนั้นกระเทียมประกอบไปด้วยสารอาหารฯลฯ ดังเช่น อาร์จีนีน (Arginine) โอลิโกแซ็คคาไรด์ (Oligosaccharides) ฟลาโวนอยด์ (Flavoniods) รวมทั้งซีลีเนียม (Selenium) ซึ่งล้วนเป็นสารอาหารที่มีสาระต่อสุขภาพร่างกาย
กระเทียม
คนไม่ใช่น้อยอาจจำกระเทียมได้จากกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งมีสาเหตุมาจากสารอัลลิซิน (Allicin) นอกเหนือจากการที่จะทำให้กระเทียมมีกลิ่นที่สะดุดตาแล้ว อัลลิสินยังเป็นสารออกฤทธิ์หลักที่มีสาระต่อสภาพร่างกาย และก็อาจมีส่วนช่วยรักษาโรคหรือทำให้อาการต่างๆดียิ่งขึ้น โดยที่หลายท่านเชื่อว่าการกินกระเทียมบางทีอาจช่วยบรรเทาอาการที่เกี่ยวพันกับหัวใจรวมทั้งหลอดเลือด ความดันโลหิต คอเลสเตอรอล ทุเลาหวัด รวมถึงใช้น้ำมันกระเทียมเป็นยาทาภายนอกเพื่อรักษาอาการติดเชื้อโรคทางผิวหนัง เล็บ หรือช่วยรักษาอาการผมหล่นอีกด้วย
ทั้งนี้ข้อรับรองหรือหลักฐานทางด้านการแพทย์มีมากน้อยเพียงใดที่จะช่วยยืนยันคุณประโยชน์ ประโยชน์ และความปลอดภัยของการกินกระเทียมที่มีบทบาทหรือส่วนช่วยสำหรับเพื่อการรักษาโรคพวกนี้
ความดันโลหิตสูง อัลลิซินซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่พบได้ในกระเทียมสดหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาการที่มีส่วนประกอบของกระเทียม อาจมีส่วนช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อเรียบที่เรียงหน้าในหลอดเลือดแล้วก็ส่งผลให้เส้นเลือดขยายตัวและก็ทำให้ระดับความดันเลือดลดลดลง ซึ่งสอดคล้องกับการทดลองชิ้นหนึ่งให้ผู้เจ็บป่วยที่มีระดับความดันเลือดสูงโดยที่มีค่าความดันซิสโตลิก (Systolic Blood Pressure: SBP) มากกว่าหรือพอๆกับ 140 ไม่ลลิตรปรอท รับประทานกระเทียมบ่มสกัด (Aged Garlic Extract: AGE) ขนาด 960 มก. เป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าค่าความดันซิสโตลิกลดต่ำลงมากยิ่งกว่าเมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่รับประทานยาหลอก ก็เลยอาจพูดได้ว่าการกินกระเทียมบ่มสกัดอาจมีความสามารถสำหรับในการรักษาคนเจ็บความดันเลือดสูงได้ดีกว่ายาหลอก
ต่อให้มีการทดลองอีก 2 ชิ้นที่บ่งบอกถึงถึงความสามารถของกระเทียมสำหรับการลดระดับความดันเลือดได้ดีมากว่าการใช้ยาหลอก แม้กระนั้นเพราะว่าผลของการทดลองบางทีอาจยังไม่ถูกต้องพอเพียงที่จะสรุปสมรรถนะของกระเทียมได้ว่าสามารถรักษาหรือลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและก็เส้นเลือดในคนไข้ความดันเลือดสูง ก็เลยยังจำเป็นที่จะต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันคุณภาพที่กระจ่างแจ้งเพิ่มขึ้น
โรคมะเร็ง ความสัมพันธ์ของการบริโภคกระเทียมแล้วก็ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งยังไม่ชัดแจ้งรวมทั้งยังคงเป็นที่แย้งกันอยู่ ซึ่งจะมองเห็นได้จากการศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้ชาวจีนทั้งปวงศชายและเพศหญิงที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหารจำนวนกว่า 5,000 คน รับประทานสารอัลลิทริดินขนาด 200 มก.ต่อวัน ร่วมกับสารซีลีเนียมขนาด 100 ไมโครกรัมวันเว้นวัน ซึ่งล้วนเป็นสารสกัดที่ได้จากกระเทียม โดยการทำการทดลองตรงเวลา 5 ปี และเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอกแล้วพบว่ากลุ่มที่รับประทานสารอัลลิทริดินร่วมกับสารซีลีเนียมมีความเสี่ยงต่อการเกิดเนื้องอกน้อยลง 33 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะต่ำลงถึง 52 เปอร์เซ็นต์
แต่ มีการศึกษาวิจัยอีก 19 ชิ้นแสดงให้เห็นว่า ยังไม่พบหลักฐานที่น่าไว้วางใจถึงที่เหมาะจะช่วยส่งเสริมความเกี่ยวพันของการบริโภคกระเทียมต่อการเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะ มะเร็งหน้าอก มะเร็งปอด หรือโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก รวมทั้งมีหลักฐานที่ออกจะจำกัดที่ช่วยเหลือว่าการบริโภคกระเทียมอาจช่วยลดการเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งไส้ โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งหลอดอาหาร โรคมะเร็งกล่องเสียง มะเร็งในโพรงปาก หรือมะเร็งรังไข่
ดังนี้สถาบันโรคมะเร็งแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NCI) ได้กล่าวว่ากระเทียมเป็นพืชผักชนิดหนึ่งที่อาจมีคุณสมบัติต่อต้านโรคมะเร็ง แม้กระนั้นยังมีต้นสายปลายเหตุอื่นๆตัวอย่างเช่น รูปแบบของสินค้าที่ทำจากกระเทียม หรือปริมาณความเข้มข้นที่นานาประการ อาจจะก่อให้พิสูจน์ถึงคุณภาพของกระเทียมได้ยาก และเมื่อเวลาผ่านไปหรือเก็บเอาไว้ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ก็อาจจะส่งผลให้ประสิทธิภาพของกระเทียมสิ้นสุดไปได้เช่นกัน
แก้หวัด หลายคนมั่นใจว่ากระเทียมมีฤทธิ์ต้านทานเชื้อจุลินทรีย์และเชื้อไวรัส และมีการนำมาใช้เพื่อคุ้มครองป้องกันและบรรเทาอาการหวัดมาอย่างยาวนาน ซึ่งสอดคล้องกับการเรียนรู้ชิ้นหนึ่งที่ให้อาสาสมัครปริมาณ 146 คน กินสารสกัดจากกระเทียมแบบเป็นเม็ดซึ่งประกอบไปด้วยสารอัลลิซินขนาด 180 มก.วันละ 1 ครั้ง ตรงเวลา 12 สัปดาห์ แล้วให้อาสาสมัครเขียนบันทึกอาการเมื่อเป็นหวัด พบว่าในกลุ่มที่รับประทานสารสกัดจากกระเทียมมีรายงานการเป็นหวัดปริมาณ 24 ครั้ง ซึ่งน้อยกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอกที่มีรายงานการเป็นหวัดปริมาณ 65 ครั้ง ทั้งยังยังพบว่าช่วงเวลาของการเป็นหวัดในกลุ่มที่กินสารสกัดจากกระเทียมมีจำนวนวันที่น้อยกว่า แต่ระยะเวลาการฟื้นฟูสภาพจากอาการหวัดของอีกทั้ง 2 กลุ่มมีความต่างกันเพียงนิดหน่อย แม้ผลของการทดลองข้างต้นจะแสดงให้เห็นถึงความสามารถของกระเทียม แต่หลักฐานการทดลองทางคลินิกยังไม่พอรวมทั้งจำเป็นต้องเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อยืนยันสมรรถนะของกระเทียมให้แจ่มชัดเพิ่มขึ้น
ลดน้ำหนักรวมทั้งมวลไขมัน ในคนไข้ภาวการณ์ไขมันพอกตับ ที่มิได้เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ แม้กระนั้นมักมีเหตุที่เกิดจากโรคอ้วน เบาหวานจำพวกที่ 2 ความดันโลหิตสูง แล้วก็ไขมันในเลือดสูง ซึ่งการดูแลและรักษาด้วยการกินยา การผ่าตัด หรือลดความอ้วนบางทีอาจน้อยเกินไป ถ้าหากไม่ดูแลหัวข้อการรับประทานอาหารควบคู่ไปด้วย การกินกระเทียมจึงบางทีอาจเป็นหนทางหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะกระเทียมเป็นพืชสมุนไพรที่อุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์รวมทั้งสารอาหารอื่นๆที่อาจมีคุณสมบัติป้องกันภาวการณ์อ้วน ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาเรียนรู้วิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้ผู้ป่วยไขมันพอกตับที่มิได้มีต้นเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ทั้งเพศชายรวมทั้งเพศหญิง อายุตั้งแต่ 20-70 ปี ปริมาณทั้งสิ้น 110 คน รับประทานกระเทียมผงประเภทแคปซูลขนาด 400 มก. ซึ่งภายในประกอบไปด้วยสารอัลซิลินขนาด 1.5 มก. วันละ 2 ครั้ง ตรงเวลา 15 อาทิตย์ โดยสามารถทานอาหารได้ตามธรรมดา แต่รับประทานกระเทียมได้ไม่เกินอาทิตย์ละ 2 กลีบ จากผลการทดลองชี้ให้เห็นว่า น้ำหนักแล้วก็มวลร่างกายต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอก ก็เลยอาจจะบอกได้ว่าการรับประทานกระเทียมบางทีอาจช่วยลดปริมาณไขมันในตับแล้วก็คุ้มครองหรือชะลอการเกิดภาวะไขมันพอกตับที่ไม่ได้เป็นผลมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ แต่การเล่าเรียนในอนาคตยังจะต้องวางแบบการทดลองให้ดีขึ้นและก็ควรจะเพิ่มช่วงเวลาสำหรับเพื่อการทดสอบเพื่อรับรองประสิทธิภาพของกระเทียมให้กระจ่างแจ้งเพิ่มขึ้น
ลดระดับคอเลสเตอรอล หลักฐานเกี่ยวกับสมรรถนะของกระเทียมต่อการลดระดับคอเลสเตอรอลยังคงไม่ตรงกัน ก็เลยทำให้ยังไม่อาจจะสรุปได้อย่างแจ่มแจ้ง ซึ่งสอดคล้องกับการทดสอบและการเรียนโดยการทบทวนงานศึกษาค้นคว้าวิจัยที่เกี่ยวเนื่องจำนวน 29 ชิ้น ได้ชี้ให้เห็นว่า การรับประทานกระเทียมบางทีอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวมได้นิดหน่อย แต่ว่าไม่นำมาซึ่งการทำให้ระดับคอเลสเตอรอลจำพวกที่ดี (High-Density Lipoprotein: HDL) เพิ่มสูงขึ้น หรือเปล่าทำให้ระดับคอเลสเตอรอลประเภทที่ไม่ดี (Low-Density Lipoprotein: LDL) ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจน้อยลงแต่อย่างใด จึงยังจำเป็นที่จะต้องเล่าเรียนเสริมเติมเพื่อหาข้อสรุปและก็ยืนยันประสิทธิภาพของกระเทียมต่อระดับคอเลสเตอรอลที่แจ่มกระจ่างยิ่งขึ้น

ความปลอดภัยสำหรับในการกินกระเทียม
การรับประทานกระเทียมออกจะปลอดภัยถ้ารับประทานในจำนวนที่สมควร แม้กระนั้นอาจจะเป็นผลให้เกิดผลใกล้กันได้ อาทิเช่น ปากเหม็น มีกลิ่นเต่า รู้สึกแสบร้อนที่รอบๆปากหรือที่กระเพาะอาหาร แสบร้อนกึ่งกลางอก ท้องเฟ้อ อ้วก อ้วก หรือท้องเสีย อาการเหล่านี้บางทีอาจทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อกินกระเทียมสด ทั้งยังการใช้กระเทียมสดทาหรือสัมผัสที่บริเวณผิวหนังอาจก่อให้กำเนิดอาการแสบร้อนรวมทั้งระคายเคืองได้
ข้อควรระวังสำหรับเพื่อการรับประทานกระเทียมโดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลในกรุ๊ปตั้งแต่นี้ต่อไป
ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือคนที่อยู่ในช่วงให้นมลูก การรับประทานกระเทียมในตอนการมีท้องค่อนข้างไม่เป็นอันตรายถ้าหากรับประทานเป็นอาหารหรือในปริมาณที่เหมาะสม แต่ว่าอาจไม่ปลอดภัยแม้กินกระเทียมเป็นยารักษาโรค ทั้งยังไม่มีช้อมูลที่น่าเชื่อถือเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทากระเทียมที่บริเวณผิวหนังในตอนการท้องหรือให้นมบุตร
เด็ก การกินกระเทียมในจำนวนที่สมควรรวมทั้งในระยะสั้นๆอาจไม่เป็นอันตรายสำหรับเด็ก แม้กระนั้นการใช้กระเทียมทาบริเวณผิวหนังอาจจะเป็นผลให้เกิดอาการแสบร้อนรวมทั้งเคือง
คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารหรือการย่อยอาหาร อาจทำให้มีการระคายเคืองพื้นที่เดินอาหารได้
ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำ การรับประทานกระเทียมอาจทำให้ระดับความดันเลือดลดต่ำลงมากกว่าปกติ
คนที่วางแผนเข้ารับการผ่าตัด ควรจะหยุดรับประทานกระเทียมก่อนที่จะมีการผ่าตัดอย่างต่ำ 2 สัปดาห์ด้วยเหตุว่าอาจส่งผลให้เลือดออกมากและก็ส่งผลต่อความดันโลหิตในระหว่างการผ่าตัด และผู้ที่มีภาวการณ์เลือดออกผิดปกติไม่สมควรรับประทานกระเทียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระเทียมสด เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เลือดออกได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
คนที่อยู่ในระหว่างการรับประทานยารักษาโรค ยกตัวอย่างเช่น ไอโซไนอะสิด เนื่องจากว่ากระเทียมอาจลดการดูดซึมของยาในร่างกายและก็ส่งผลต่อสมรรถนะหลักการทำงานของยา รวมทั้งไม่สมควรรับประทานกระเทียมในระหว่างใช้ยาดังต่อไปนี้
ยารักษาการติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องหรือโรคภูมิคุมกันบกพร่อง
ยาคุม
ยาต่อต้านการแข็งตัวของเลือด
ยาต่อต้านเกล็ดเลือด
http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรกระเทียม

 

Sitemap 1 2 3