ผู้เขียน หัวข้อ: ขิง เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณอันน่าทึ่ง  (อ่าน 324 ครั้ง)

dddd1752

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 6
    • ดูรายละเอียด

ขิง
ขิง เป็นพืชที่มีเหง้าใต้ดิน ด้านนอกเหง้าเป็นน้ำตาลแกมเหลือง เนื้อในสีขาวหรือเหลืองอ่อน มักเอามาทำอาหารเพราะส่งกลิ่นหอม นอกนั้น ขิงยังใช้เป็นองค์ประกอบในเครื่องดื่ม สบู่ รวมทั้งเครื่องสำอางทั้งหลายแหล่เช่นกัน ด้านผลดีต่อร่างกาย มีความเชื่อเกี่ยวกับการใช้ขิงรักษาโรคหลากหลายชนิดมาอย่างช้านาน ดังเช่น โรคที่เกิดขึ้นและมีปัญหาเกี่ยวกับระบบที่ทำหน้าที่ย่อยอาหารอย่างท้องร่วง มีแก๊สในกระเพาะ อาหารไม่ย่อย อาการเมารถเมาเรือ อ้วก ไม่อยากกินอาหาร
คุณลักษณะของขิงมั่นใจว่ามีสารที่อาจช่วยลดอาการอาเจียนรวมทั้งลดการอักเสบ โดยนักวิจัยจำนวนมากคาดว่าเป็นสารที่ออกฤทธิ์ในกระเพาะอาหารและลำไส้ และสารนี้อาจมีผลต่อสมองหรือระบบประสาทส่วนที่ควบคุมอาการอ้วกด้วย แต่การสันนิษฐานดังที่กล่าวมาแล้วยังไม่กระจ่างนัก และคุณสมบัติด้านอื่นๆมีข้อมูลน้อยกว่า ซึ่งคุณประโยชน์ของขิงต่อร่างกายที่เราเชื่อกันนั้น ในขณะนี้ทางด้านวิทยาศาสตร์มีข้อมูลแจกแจงไว้ดังนี้
การดูแลและรักษาที่อาจสำเร็จ
อาการอ้วกอาเจียนที่เกิดจากการใช้ยาต่อต้านเชื้อไวรัสเอชไอวีหรือเอดส์ คุณประโยชน์บรรเทาอาการอาเจียนอาเจียนของขิงบางทีอาจมีคุณประโยชน์ต่อคนป่วยโรคนี้ที่อยากได้รับผลกระทบจากการใช้ยารักษาโรค โดยจากการศึกษาคนไข้ปริมาณ 102 คน แบ่งให้กลุ่มหนึ่งรับประทานขิง 500 กรัม อีกกรุ๊ปกินยาหลอกวันละ 2 ครั้ง ในช่วง 30 นาทีก่อนจะได้รับยารักษาโรคเอดส์อย่างยาต่อต้านรีโทรเชื้อไวรัส เป็นเวลาทั้งหมดทั้งปวง 14 วัน พบว่าขิงช่วยลดอาการคลื่นไส้อ้วกที่เกิดขึ้นจากการรักษาโรคติดเชื้อเอชไอวีได้
อาการอ้วกอ้วกหลังจากการผ่าตัด ขิงบางทีอาจช่วยทุเลาอาการอาเจียนรวมทั้งคลื่นไส้จากการผ่าตัดได้เช่นกัน โดยการศึกษาเล่าเรียนทางวิทยาศาสตร์โดยมากชี้ว่าการรับประทานขิง 1-1.5 กรัม ในช่วง 1 ชั่วโมงก่อนจะมีการผ่าตัดนั้นดูเหมือนจะช่วยลดอาการคลื่นไส้อ้วกที่บางทีอาจเกิดขึ้นในระหว่าง 24 ชั่วโมงหลังได้รับการผ่าตัด
งานศึกษาเรียนรู้หนึ่งทดลองแบ่งผู้เจ็บป่วยปริมาณ 122 คนที่รับการผ่าตัดต้อกระจกให้กินแคปซูลขิง 1 กรัม แล้วก็อีกกรุ๊ปได้รับแคปซูลขิง 500 มก.แต่แบ่งให้ 2 ครั้งก่อนผ่าตัด ซึ่งผลพบว่าคนไข้ในกลุ่มข้างหลังมีอาการคลื่นไส้อาเจียนน้อยครั้งและก็มีความร้ายแรงของอาการน้อยกว่า โดยงานค้นคว้านี้พบว่าการใช้ขิงนั้นน่าจะให้สมรรถนะสูงสุดเมื่อกินบ่อยๆและก็สม่ำเสมอโดยแบ่งจำนวนการใช้
ยิ่งไปกว่านี้ การทดสอบทาน้ำมันขิงบริเวณข้อมือของคนป่วยก่อนเข้ารับการผ่าตัด พบว่าช่วยคุ้มครองอาการคลื่นไส้ในผู้ป่วยราว 80 เปอร์เซ็นต์จากผู้เข้ารับการผ่าตัดทั้งสิ้น แต่ว่าการใช้ขิงช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมกับยาลดอาเจียนอ้วกนั้นบางทีอาจได้ผลได้ไม่ดีนัก และการใช้ขิงกับคนเจ็บที่มีความเสี่ยงต่อการอ้วกอ้วกน้อยอยู่แล้วก็บางทีอาจไม่ได้เรื่องเหมือนกัน
อาการแพ้ท้อง การกินขิงอาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้อง ตัวอย่างเช่น คลื่นไส้ อาเจียน หรือเวียนศีรษะ ผลการศึกษาเรียนรู้ชิ้นหนึ่งที่ช่วยรับรองคุณสมบัตินี้เป็นการทดสอบในหญิงที่แก่ครรภ์น้อยกว่า 20 สัปดาห์ จำนวน 120 คน ซึ่งพบเจออาการแพ้ท้องทุกวันนานขั้นต่ำ 1 อาทิตย์ และไม่รู้สึกดีขึ้นแม้ว่าจะแปลงการกินอาหารแล้วหลังจากนั้นก็ตาม หลังจากรับประทานสารสกัดจากขิง 125 มก. ซึ่งเท่ากันกับขิงแห้ง 1.5 กรัม วันละ 4 ครั้ง 4 วัน ผลได้ชี้ให้เห็นว่าขิงบางทีอาจสามารถนำมาใช้ผลดีในฐานะการดูแลและรักษาลู่ทางต่ออาการแพ้ท้องได้
ถือว่าสอดคล้องกับอีกงานศึกษาเรียนรู้ก่อนหน้าที่ชี้ว่าการรับประทานขิง 1 กรัมต่อวัน ติดต่อนาน 4 วัน สามารถช่วยลดความรุนแรงของอาการอ้วกอาเจียนในหญิงตั้งครรภ์ที่มีอาการแพ้ท้องได้ แม้กระนั้นการใช้ขิงสำหรับคุณค่าด้านนี้บางทีอาจมองเห็นการรักษาได้ช้ากว่าหรือได้ผลดีไม่พอๆกับการใช้ยาแก้อ้วกอาเจียน ยิ่งไปกว่านี้ การเล่าเรียนเกี่ยวกับคุณสมบัติช่วยลดอาการแพ้ท้องของขิงยังมีข้อกำหนดและเจอผลลัพธ์ที่ไม่บ่อยนัก โดยมีบางการทดสอบที่ชี้ว่าขิงอาจมิได้มีส่วนช่วยสำหรับในการลดอาการแพ้ท้องเช่นเดียวกัน
อาการวิงเวียนศีรษะ อาการที่เกิดขึ้นพร้อมด้วยการคลื่นไส้นี้บางทีอาจทุเลาให้ดีขึ้นได้ด้วยการใช้คุณค่าจากขิง จากงานศึกษาวิจัยที่ทดลองด้วยการให้ผู้ที่มีอาการบ้านหมุน และก็ตากระตุๆกจากการกระตุ้นโดยใช้อุณหภูมิรับประทานผงเหง้าขิง ปรากฏว่าเหง้าขิงช่วยลดอาการเวียนหัวหัวได้อย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อเทียบกับกลุ่มที่กินยาหลอก แต่มิได้ช่วยลดระยะเวลาหรือชะลอการกระตุกของตามากนัก
โรคข้อเสื่อม มีการศึกษาเล่าเรียนบางงานที่ชี้ว่าขิงอาจมีสรรพคุณลดอาการเจ็บที่เกิดจากโรคข้อเสื่อม จากการทดลองหนึ่งที่ให้คนเจ็บกินสารสกัดจากขิงชนิดหนึ่ง (Zintona EC) ในจำนวน 250 กรัม วันละ 4 ครั้ง พบว่าช่วยลดลักษณะของการปวดข้อเข่าภายหลังจากการดูแลรักษาตรงเวลา 3 เดือน ส่วนอีกงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยที่ใช้สารสกัดจากขิงผสมกับข่า พบว่าให้ผลลัพธ์สำหรับเพื่อการช่วยลดลักษณะการเจ็บขณะยืน ลักษณะของการเจ็บข้างหลังเดิน และก็อาการข้อติด
ยิ่งไปกว่านี้ มีการเรียนเปรียบเทียบความสามารถระหว่างขิงรวมทั้งยาแก้ปวด โดยให้ผู้ป่วยโรคข้ออักเสบในกระดูกบั้นท้ายและก็ข้อเข่ากินสารสกัดขิง 500 มิลลิกรัมทุกเมื่อเชื่อวัน วันละ 2 ครั้ง ขิงได้ผลบรรเทาอาการปวดได้เสมอกันกับการใช้ยาไอบูโพรเฟน 400 มก. วันละ 3 ครั้ง รวมทั้งยังมีงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยที่แนะนำว่าการนวดด้วยน้ำมันที่มีส่วนผสมของขิงแล้วก็ส้มบางทีอาจช่วยบรรเทาอาการปวดรวมทั้งอ่อนเพลียที่เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆของผู้ป่วยที่มีลักษณะอาการเจ็บเข่าได้ด้วย
อาการปวดระดู นอกเหนือจากลักษณะของการปวดจากโรคข้อเสื่อม การศึกษาเล่าเรียนบางงานยังชี้ว่าขิงอาจมีคุณลักษณะช่วยทุเลาอาการปวดเมนส์ เช่น การทดลองในนิสิตมหาวิทยาลัย 120 คน โดยให้รับประทานผงเหง้าขิงทีละ 500 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้งในตอน 2 วันก่อนเริ่มมีเมนส์ต่อเนื่องไปจนถึง 3 วันแรกของการมีระดู รวมเบ็ดเสร็จเป็น 5 วัน พบว่าผงเหง้าขิงมีส่วนช่วยลดความร้ายแรงของลักษณะของการปวดรอบเดือนได้อย่างมีนัยสำคัญด้านการเรียนเทียบคุณภาพของขิงและยาลดอาการปวดระดูอย่างเมเฟนามิค (Mefenamic acid) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) 400 มก. ในอาสาสมัคร 150 คน โดยแบ่งกลุ่มกินแคปซูลขิงหรือยาแต่ละชนิดในจำนวน 250 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้ง นาน 3 วัน โดยเริ่มตั้งแต่มีเมนส์ ผลปรากฏไปในทำนองเดียวกันกับการค้นคว้าวิจัยแรกหมายถึงขิงมีคุณภาพบรรเทาความร้ายแรงของลักษณะของการปวดรอบเดือนไม่ได้ต่างอะไรกับการใช้ยาเมเฟนามิคหรือไอบูโพรเฟน
การดูแลและรักษาที่อาจไม่เป็นผล
อาการเมารถรวมทั้งเมาเรือ นับเป็นสรรพคุณของขิงที่มีการเอ่ยถึงกันมาก แต่ว่าขิงบางทีอาจจะช่วยลดอาการเวียนหัวได้ แต่ว่าสำหรับการวิงเวียนอ้วกที่เกิดขึ้นจากการเดินทางนั้น งานศึกษาเรียนรู้วิจัยโดยมากกล่าวว่าขิงบางทีอาจไม่มีส่วนช่วยได้จริง ดังเช่น การแบ่งกลุ่มให้นักเรียนนายเรือ 80 ไม่คุ้นเคยกับการออกเรือท่ามกลางสมุทรที่มีคลื่นแรง รับประทานเหง้าขิง 1 กรัม เทียบกับอีกกลุ่มที่กินยาหลอก ปรากฏว่ากรุ๊ปที่กินขิงนั้นมีลักษณะอาการคลื่นไส้รวมทั้งหน้ามืดน้อยลงจริงแม้กระนั้นอยู่ในระดับนิดหน่อยเท่านั้น หรือในอีกงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยที่ชี้ว่าการกินผงขิงในปริมาณ 500 กรัม 1,000 กรัม หรือเหง้าขิงสด 1,000 มก. ต่างไม่มีส่วนช่วยสำหรับเพื่อการคุ้มครองป้องกันอาการเมารถหรือการทำงานของกระเพาะที่เกี่ยวกับอาการเมารถที่เกิดขึ้นอย่างเป็นจริงเป็นจังแต่อย่างใด
การรักษาที่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอต่อการกำหนดประสิทธิภาพ
อาการอ้วกอาเจียนจากวิธีการทำเคมีบำบัด อีกหนึ่งคุณประโยชน์เป็นลดอาการคลื่นไส้รวมทั้งคลื่นไส้ ซึ่งมีการศึกษาเล่าเรียนด้านวิทยาศาสตร์ แต่หลักฐานเกี่ยวกับการใช้ขิงในคนเจ็บที่รับเคมีบำบัดรักษานั้นยังเป็นที่โต้วาทีกันอยู่ว่าจะมีส่วนช่วยได้ใช่หรือไม่ การเล่าเรียนหนึ่งที่ชี้ถึงผลดีข้อนี้ของขิง โดยให้คนป่วยกินแคปซูลขิงที่ประกอบด้วยขิง 0.5-1.5 กรัม เทียบกับยาหลอก ตั้งแต่ 3 วันก่อนวันทำเคมีบำบัดรักษานานตลอดตรงเวลา 6 วัน พบว่า หรูหราความรุนแรงของอาการคลื่นไส้ที่เกิดขึ้นภายหลังการดูแลและรักษาน้อยกว่ากลุ่มที่มิได้รับประทานแคปซูลขิง แต่ว่าได้ผลได้ชัดในกลุ่มที่ใช้แคปซูลขิง 0.5 กรัม กับ 1 กรัมแค่นั้น ส่วนกรุ๊ปที่รับประทานแคปซูลขิง 1.5 กรัมกลับได้ผลน้อยกว่า มีความหมายว่าการรับประทานขิงในปริมาณมากจึงอาจมิได้ทำให้อาการคลื่นไส้ดียิ่งขึ้นอย่างที่น่าจะเป็น
แต่ มีหลักฐานที่โต้แย้งข้อสนับสนุนดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นซึ่งเป็นงานวิจัยที่เปิดเผยว่าการกินขิงไม่ได้มีคุณภาพดีไปกว่าการใช้ยาแก้คลื่นไส้ ดังนี้ ผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยที่ขัดแย้งกันนี้ คาดว่าอาจมีต้นสายปลายเหตุมาจากจำนวนขิงที่ใช้ทดสอบนั้นไม่เหมือนกัน รวมถึงตอนที่เริ่มรักษาด้วยการใช้ ขิงจะนำมาใช้คุณประโยชน์ด้านการแพทย์ในด้านนี้แล้วเห็นผลหรือเปล่าอาจจะต้องมีการรับรองเพิ่มเติมถัดไป
เบาหวาน คุณลักษณะของขิงต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของคนไข้โรคเบาหวานในปัจจุบันยังมีผลการศึกษาเรียนรู้ที่ไม่แน่นอน งานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยหนึ่งพบว่าการรับประทานขิง 2 กรัม นาน 12 สัปดาห์ สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสม ระดับไขมันในเลือด รวมทั้งสารมาลอนไดอัลดีไฮด์ที่แสดงถึงระดับอนุมูลอิสระในคนเจ็บเบาหวานชนิดที่ 2 รวมถึงอาจช่วยลดการเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังบางจำพวกจากเบาหวานได้ ในเวลาเดียวกัน มีงานศึกษาวิจัยอื่นๆที่เสนอแนะว่าขิงนั้นมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดจริง แต่กลับไม่เป็นผลต่อระดับอินซูลิน หรือบางงานวิจัยพูดว่าขิงมีผลกับอินซูลิน แต่กลับไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง ซึ่งผลการศึกษาวิจัยที่แตกต่างกันนั้นอาจมาจากปริมาณขิงหรือช่วงเวลาที่ผู้เจ็บป่วยได้รับการวิเคราะห์ว่าเป็นโรคเบาหวานในแต่ละการทดลองนั้นแตกต่างกันนั่นเอง
อาหารไม่ย่อย มีการวิจัยเล่าเรียนสมรรถนะของขิงในคนเจ็บที่มีอาการอาหารไม่ย่อยจำนวน 11 คน โดยให้รับประทานแคปซูลที่ประกอบด้วยขิง 1.2 กรัมหลังจากการงดเว้นของกิน 8 ชั่วโมง ผลปรากฏว่าขิงช่วยกระตุ้นให้กระเพาะมีการย่อยอาหารและก็มีการบีบตัวของกระเพาะส่วนปลาย แต่ว่าการกินขิงนั้นไม่เป็นผลต่ออาการที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารหรือสารเปปไทด์ในลำไส้ อย่างไรก็ดี ผู้ร่วมการทดลองนี้มีจำนวนน้อย ทำให้ไม่บางทีอาจเจาะจงได้อย่างชัดเจนว่าขิงช่วยลดอาการของกินไม่ย่อยได้แน่นอนเพียงใด
อาการเมาค้าง เช้าใจกันว่าการดื่มน้ำขิงจะสามารถช่วยบรรเทาอาการเมาค้างซึ่งสำเร็จข้างเคียงจากการดื่มแอลกอฮอล์ได้ สำหรับคุณประโยชน์ข้อนี้มีงานค้นคว้าแต่ก่อนที่แนะนำว่าการผสมขิงกับเปลือกด้านในของส้มเขียวหวาน และน้ำตาลก่อนดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยลดอาการเมาค้างในตอนหลัง รวมถึงอาการอาเจียน คลื่นไส้แล้วก็ท้องร่วง แต่ การศึกษาดังที่กล่าวผ่านมาแล้วยังนับว่าไม่ชัดเจนอยู่มากมายและไม่อาจรับประกันได้ว่าเกิดจากขิงจริงๆหรือส่วนประกอบอื่นๆที่ใช้ประกอบ
ลดคอเลสเตอรอล คุณลักษณะของขิงซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลนั้นได้มีการทดสอบโดยให้คนป่วยที่มีสภาวะไขมันในเลือดสูงกินแคปซูลขิงวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1 กรัม ผลบอกว่าเมื่อเทียบกับผู้เจ็บป่วยกรุ๊ปที่กินยาหลอก ขิงมีประสิทธิภาพช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลลงได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง ซึ่งการใช้ขิงลดระดับคอเลสเตอรอลจะให้ผลดีจนถึงสามารถประยุกต์ใช้รักษาผู้ป่วยภาวการณ์นี้ได้หรือไม่อาจจำต้องคอยการศึกษาเล่าเรียนในอนาคตที่กระจ่างกันถัดไป
ลักษณะของการเจ็บกล้ามข้างหลังบริหารร่างกาย คุณสมบัติด้านการบรรเทาปวดรวมทั้งลดการอักเสบของขิงจะช่วยลดอาการเจ็บจากการออกกำลังกายได้ด้วยหรือไม่นั้นยังคงไม่แน่ชัดรวมทั้งเป็นที่ถกเถียงกันอยู่เหมือนกัน จากการทดลองหนึ่งที่ให้ผู้เข้าร่วมกินขิงสดหรือขิงที่ทำให้สุกด้วยความร้อนแล้ว 2 กรัมอย่างต่อเนื่องนาน 124 ชั่วโมง พบว่าทั้งขิงสดและก็ขิงสุกต่างมีส่วนช่วยลดลักษณะการเจ็บกล้ามจากการออกกำลังกายแบบหดยืดกล้ามได้ในระดับปานกลางไปจนถึงระดับมากมาย
ทว่าอีกงานค้นคว้าวิจัยหนึ่งกลับเจอผลลัพธ์ในทางตรงกันข้าม จากการให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบที่ทำกิจกรรมออกกำลังกายยืดหดกล้ามแบบเดียวกัน รับประทานขิง 2 กรัมในตอน 24 ชั่วโมงแล้วก็ 48 ชั่วโมงหลังจากการบริหารร่างกาย พบว่ามิได้ส่งผลให้ลักษณะของการเจ็บกล้ามเนื้อ การอักเสบ หรือเจ็บที่เกิดจากการบริหารร่างกายน้อยลง แม้กระนั้นนักวิจัยพบว่าการกินขิงอาจช่วยให้อาการเจ็บกล้ามเบาๆดียิ่งขึ้นในทุกๆวัน แม้บางทีอาจมองไม่เห็นผลประโยชน์ในทันที
ลักษณะของการปวดศีรษะไมเกรน มีการศึกษาเล่าเรียนกับคนป่วย 100 คน ที่เคยมีลักษณะอาการปวดศีรษะไมเกรนกระทันหันโดยให้รับผงขิงหรือยารักษา http://www.disthai.com/

 

Sitemap 1 2 3