ผู้เขียน หัวข้อ: รู้ไหมว่ากระเทียมนั้นมีสรรพคุณ-เเละประโยชน์อย่างมากๆ  (อ่าน 321 ครั้ง)

kkjofkgkuy

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 17
    • ดูรายละเอียด

กระเทียม
กระเทียมกับผลดีต่อสุขภาพ
กระเทียม เป็นไม้ล้มลุกที่มีหัวลักษณะเป็นทรงกระเปาะอยู่ใต้ดินเหมือนกันกับหัวหอม ซึ่งแต่ละหัวจะประกอบด้วย 6-10 กลีบ นิยมประยุกต์ใช้เป็นเครื่องปรุงปรุงอาหาร กระเทียมเป็นพืชที่ออกจะแตกต่างจากพืชทั่วไป เพราะว่าอุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์ในปริมาณมาก ยิ่งกว่านั้นกระเทียมประกอบไปด้วยสารอาหารอื่นๆอีกมากมาย ดังเช่นว่า อาร์จีนีน (Arginine) โอลิโกแซ็คคาไรด์ (Oligosaccharides) ฟลาโวนอยด์ (Flavoniods) แล้วก็ซีลีเนียม (Selenium) ซึ่งล้วนเป็นสารอาหารที่มีสาระต่อร่างกาย
กระเทียม
หลายท่านอาจจดจำกระเทียมได้จากกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งมีต้นเหตุที่เกิดจากสารอัลลิซิน (Allicin) นอกเหนือจากการที่จะทำให้กระเทียมมีกลิ่นที่โดดเด่นแล้ว อัลลิซินยังเป็นสารออกฤทธิ์หลักที่มีประโยชน์ต่อสภาพร่างกาย และก็อาจมีส่วนช่วยรักษาโรคหรือทำให้อาการต่างๆ โดยที่ผู้คนจำนวนมากมั่นใจว่าการกินกระเทียมอาจช่วยทุเลาอาการที่เกี่ยวข้องกับหัวใจแล้วก็เส้นเลือด ความดันเลือด คอเลสเตอรอล บรรเทาหวัด รวมทั้งใช้น้ำมันกระเทียมเป็นยาทาภายนอกเพื่อรักษาอาการติดเชื้อโรคทางผิวหนัง เล็บ หรือช่วยรักษาอาการผมตกอีกด้วย
ดังนี้สิ่งที่ใช้ในการพิสูจน์หรือหลักฐานด้านการแพทย์มีมากน้อยแค่ไหนที่จะช่วยรับรองสรรพคุณ คุณประโยชน์ และก็ความปลอดภัยของการรับประทานกระเทียมที่มีบทบาทหรือส่วนช่วยสำหรับในการรักษาโรคเหล่านี้
ความดันเลือดสูง อัลลิสินซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่เจอได้ในกระเทียมสดหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาการที่มีส่วนประกอบของกระเทียม อาจมีส่วนช่วยผ่อนคลายของกล้ามเนื้อเรียบที่เรียงหน้าในหลอดเลือดแล้วก็ส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัวและทำให้ระดับความดันเลือดลดลดน้อยลง ซึ่งสอดคล้องกับการทดสอบชิ้นหนึ่งให้คนไข้ที่มีระดับความดันโลหิตสูงโดยที่มีค่าความดันซิสโตลิก (Systolic Blood Pressure: SBP) มากกว่าหรือพอๆกับ 140 ไม่ลลิตรปรอท กินกระเทียมบ่มสกัด (Aged Garlic Extract: AGE) ขนาด 960 มิลลิกรัม เป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าค่าความดันซิสโตลิกลดลดลงมากยิ่งกว่าเมื่อเทียบกับคนเจ็บที่กินยาหลอก จึงอาจพูดได้ว่าการรับประทานกระเทียมบ่มสกัดอาจมีคุณภาพสำหรับในการรักษาคนป่วยความดันโลหิตสูงได้ดีกว่ายาหลอก
ต่อให้มีการทดลองอีก 2 ชิ้นที่ชี้ให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกระเทียมสำหรับในการลดความดันโลหิตได้ดีมากว่าการใช้ยาหลอก แต่ว่าเหตุเพราะผลการทดลองบางทีอาจยังไม่แม่นยำเพียงพอที่จะสรุปสมรรถนะของกระเทียมได้ว่าสามารถรักษาหรือลดการเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและก็หลอดเลือดในคนป่วยความดันโลหิตสูง จึงยังจำเป็นที่จะต้องศึกษาเล่าเรียนเพิ่มเติมเพื่อรับรองประสิทธิภาพที่กระจ่างเพิ่มขึ้น
โรคมะเร็ง ความข้องเกี่ยวของการบริโภคกระเทียมและการเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งยังไม่แน่ชัดแล้วก็ยังคงเป็นที่โต้เถียงกันอยู่ ซึ่งจะเห็นได้จากการศึกษาเรียนรู้ชิ้นหนึ่งที่ให้ชาวจีนทั้งสิ้นศชายแล้วก็ผู้หญิงที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะปริมาณกว่า 5,000 คน กินสารอัลลิทริดินขนาด 200 มิลลิกรัมต่อวัน ร่วมกับสารซีลีเนียมขนาด 100 ไมโครกรัมวันเว้นวัน ซึ่งล้วนเป็นสารสกัดที่ได้จากกระเทียม โดยทำการทดสอบตรงเวลา 5 ปี และเมื่อเปรียบเทียบกับกรุ๊ปที่กินยาหลอกแล้วพบว่ากลุ่มที่กินสารอัลลิทริดินร่วมกับสารซีลีเนียมมีความเสี่ยงต่อการเกิดเนื้องอกน้อยลง 33 เปอร์เซ็นต์ และก็มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะต่ำลงถึง 52 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม มีการทำการศึกษาเรียนรู้อีก 19 ชิ้นทำให้เห็นว่า ยังไม่เจอหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้ที่จะช่วยส่งเสริมความข้องเกี่ยวของการบริโภคกระเทียมต่อความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะ มะเร็งอก โรคมะเร็งปอด หรือโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก และมีหลักฐานที่ค่อนข้างจะจำกัดที่สนับสนุนว่าการบริโภคกระเทียมบางทีอาจช่วยลดการเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก โรคมะเร็งหลอดของกิน มะเร็งกล่องเสียง มะเร็งในช่องปาก หรือโรคมะเร็งรังไข่
ดังนี้สถาบันมะเร็งแห่งชาติประเทศสหรัฐอเมริกา (NCI) ได้กล่าวว่ากระเทียมเป็นผักที่อาจมีคุณลักษณะต้านทานโรคมะเร็ง แต่ว่ายังมีต้นเหตุอื่นๆตัวอย่างเช่น รูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากกระเทียม หรือจำนวนความเข้มข้นที่หลากหลาย อาจทำให้พิสูจน์ถึงสมรรถนะของกระเทียมได้ยาก และเมื่อเวลาผ่านไปหรือเก็บเอาไว้ภายในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ก็อาจก่อให้ความสามารถของกระเทียมหมดลงไปได้ด้วยเหมือนกัน
แก้หวัด หลายท่านเชื่อว่ากระเทียมมีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์และเชื้อไวรัส และมีการประยุกต์ใช้เพื่อป้องกันและบรรเทาอาการหวัดมาอย่างนาน ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาเล่าเรียนชิ้นหนึ่งที่ให้อาสาสมัครจำนวน 146 คน กินสารสกัดจากกระเทียมแบบเป็นเม็ดซึ่งประกอบไปด้วยสารอัลลิซินขนาด 180 มิลลิกรัมวันละ 1 ครั้ง ตรงเวลา 12 อาทิตย์ แล้วให้อาสาสมัครจดบันทึกอาการเมื่อเป็นหวัด พบว่าในกรุ๊ปที่กินสารสกัดจากกระเทียมมีรายงานการเป็นหวัดจำนวน 24 ครั้ง ซึ่งน้อยกว่าเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่กินยาหลอกที่มีรายงานการเป็นหวัดจำนวน 65 ครั้ง อีกทั้งยังพบว่าช่วงเวลาของการเป็นหวัดในกรุ๊ปที่กินสารสกัดจากกระเทียมมีจำนวนวันที่น้อยกว่า แต่ระยะเวลาการฟื้นตัวจากอาการหวัดของอีกทั้ง 2 กลุ่มมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย แม้ว่าผลของการทดสอบข้างต้นจะบอกให้เห็นถึงคุณภาพของกระเทียม แต่หลักฐานการทดสอบทางคลินิกยังน้อยเกินไปรวมทั้งจึงควรศึกษาเพิ่มอีกเพื่อรับรองความสามารถของกระเทียมให้กระจ่างยิ่งขึ้น
ลดหุ่นและก็มวลไขมัน ในคนไข้สภาวะไขมันพอกตับ ที่ไม่ได้เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ แต่ว่ามักเกิดขึ้นจากโรคอ้วน โรคเบาหวานจำพวกที่ 2 ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง ซึ่งการดูแลรักษาด้วยการกินยา การผ่าตัด หรือลดหุ่นอาจไม่พอ ถ้าหากไม่ดูแลประเด็นการกินอาหารควบคู่ไปด้วย การกินกระเทียมก็เลยอาจเป็นลู่ทางหนึ่งที่น่าสนใจ เนื่องจากกระเทียมเป็นพืชสมุนไพรที่อุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์แล้วก็สารอาหารอื่นๆที่อาจมีคุณสมบัติคุ้มครองสภาวะอ้วน ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้ผู้เจ็บป่วยไขมันพอกตับที่มิได้มีต้นเหตุที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ทั้งปวงศชายและก็เพศหญิง อายุตั้งแต่ 20-70 ปี ปริมาณทั้งมวล 110 คน รับประทานกระเทียมผงชนิดแคปซูลขนาด 400 มก. ซึ่งด้านในประกอบไปด้วยสารอัลสิลินขนาด 1.5 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ตรงเวลา 15 สัปดาห์ โดยสามารถทานอาหารได้ตามเดิม แต่ว่ารับประทานกระเทียมได้ไม่เกินสัปดาห์ละ 2 กลีบ จากผลของการทดลองแสดงให้เห็นว่า น้ำหนักและก็มวลร่างกายต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่รับประทานยาหลอก จึงอาจจะกล่าวว่าการรับประทานกระเทียมอาจช่วยลดจำนวนไขมันในตับแล้วก็คุ้มครองปกป้องหรือชะลอการเกิดภาวะไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ อย่างไรก็ดีการเล่าเรียนในอนาคตยังจะต้องออกแบบการทดสอบให้ดียิ่งขึ้นรวมทั้งควรเพิ่มระยะเวลาสำหรับเพื่อการทดสอบเพื่อรับรองความสามารถของกระเทียมให้กระจ่างแจ้งยิ่งขึ้น
ลดระดับคอเลสเตอรอล หลักฐานเกี่ยวกับคุณภาพของกระเทียมต่อการลดระดับคอเลสเตอรอลยังคงขัดแย้ง ก็เลยทำให้ยังไม่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจน ซึ่งสอดคล้องกับการทดลองและก็การศึกษาโดยการทบทวนงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยที่เกี่ยวโยงปริมาณ 29 ชิ้น ได้แสดงให้เห็นว่า การกินกระเทียมอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวมได้บางส่วน แต่ว่าไม่ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลประเภทที่ดี (High-Density Lipoprotein: HDL) เพิ่มสูงมากขึ้น หรือไม่ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลจำพวกที่ไม่ดี (Low-Density Lipoprotein: LDL) ซึ่งเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจต่ำลงอะไร จึงยังจะต้องเรียนเพิ่มเติมเพื่อหาผลสรุปและก็รับรองความสามารถของกระเทียมต่อระดับคอเลสเตอรอลที่แจ้งชัดเพิ่มขึ้น

ความปลอดภัยสำหรับในการกินกระเทียม
การกินกระเทียมออกจะไม่มีอันตรายหากกินในปริมาณที่สมควร แม้กระนั้นอาจส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงได้ เป็นต้นว่า ปากเหม็น มีกลิ่นตัว รู้สึกแสบร้อนที่รอบๆปากหรือที่กระเพาะ แสบร้อนกลางอก ท้องเฟ้อ อาเจียน คลื่นไส้ หรือท้องเสีย อาการพวกนี้บางทีอาจทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อกินกระเทียมสด ทั้งยังการใช้กระเทียมสดทาหรือสัมผัสที่บริเวณผิวหนังอาจจะเป็นผลให้กำเนิดอาการแสบร้อนรวมทั้งระคายเคืองได้
สิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวังสำหรับเพื่อการกินกระเทียมโดยเฉพาะบุคคลในกลุ่มตั้งแต่นี้ต่อไป
ผู้ที่กำลังมีท้องหรือผู้ที่อยู่ในตอนให้นมลูก การรับประทานกระเทียมในช่วงการท้องค่อนข้างไม่เป็นอันตรายถ้าหากกินเป็นอาหารหรือในปริมาณที่สมควร แต่ว่าอาจไม่ปลอดภัยถ้าหากรับประทานกระเทียมเป็นยารักษาโรค ทั้งยังไม่มีช้อมูลที่น่าไว้ใจพอเพียงเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทากระเทียมที่รอบๆผิวหนังในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมลูก
เด็ก การกินกระเทียมในปริมาณที่เหมาะสมและในระยะสั้นๆบางทีอาจปลอดภัยสำหรับเด็ก แม้กระนั้นการใช้กระเทียมทาบริเวณผิวหนังอาจทำให้เกิดอาการแสบร้อนรวมทั้งระคายเคือง
ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะหรือการย่อยอาหาร อาจส่งผลให้เกิดการระคายเคืองที่ทางเดินของกินได้
คนที่มีความดันโลหิตต่ำ การรับประทานกระเทียมอาจจะเป็นผลให้ระดับความดันโลหิตลดลดลงมากยิ่งกว่าปกติ
ผู้ที่วางแผนเข้ารับการผ่าตัด ควรจะหยุดกินกระเทียมก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์เนื่องจากว่าอาจทำให้เลือดออกมากแล้วก็ส่งผลต่อความดันโลหิตในระหว่างการผ่าตัด และคนที่มีภาวการณ์เลือดออกไม่ดีเหมือนปกติไม่สมควรรับประทานกระเทียม โดยยิ่งไปกว่านั้นกระเทียมสด เนื่องจากอาจเพิ่มการเสี่ยงให้เลือดออกได้ง่ายขึ้น
คนที่อยู่ในระหว่างการกินยารักษาโรค ยกตัวอย่างเช่น ไอโซไนอะซิด เพราะเหตุว่ากระเทียมบางทีอาจลดการดูดซึมของยาภายในร่างกายและก็มีผลต่อคุณภาพรูปแบบการทำงานของยา รวมถึงไม่สมควรรับประทานกระเทียมในระหว่างใช้ยาดังนี้
ยารักษาการติดโรคเอชไอวีหรือโรคภูมิคุมกันบกพร่อง
ยาคุม
ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
ยาต้านทานเกล็ดเลือด
http://www.disthai.com/

 

Sitemap 1 2 3