ผู้เขียน หัวข้อ: รู้ไหมว่ากระเทียมนั้นมีสรรพคุณ-เเละประโยชน์อย่างมากๆ  (อ่าน 338 ครั้ง)

gggggg020202

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 33
    • ดูรายละเอียด

กระเทียม
กระเทียมกับประโยชน์ต่อสุขภาพ
กระเทียม เป็นพืชล้มลุกที่มีหัวลักษณะเป็นทรงกระเปาะอยู่ใต้ดินเหมือนกันกับหัวหอม ซึ่งแต่ละหัวจะประกอบด้วย 6-10 กลีบ นิยมนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงปรุงอาหาร กระเทียมเป็นพืชที่ออกจะแตกต่างจากพืชทั่วไป เนื่องจากว่าอุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์ในจำนวนมาก นอกเหนือจากนี้กระเทียมประกอบไปด้วยสารอาหารฯลฯ อาทิเช่น อาร์จีนีน (Arginine) โอลิโกแซ็คคาไรด์ (Oligosaccharides) ฟลาโวนอยด์ (Flavoniods) แล้วก็ซีลีเนียม (Selenium) ซึ่งล้วนเป็นสารอาหารที่มีคุณประโยชน์ต่อสถาพทางร่างกาย
กระเทียม
ผู้คนจำนวนมากอาจจดจำกระเทียมได้จากกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล ซึ่งเป็นผลมาจากสารอัลลิสิน (Allicin) นอกเหนือจากที่จะทำให้กระเทียมมีกลิ่นที่เด่นแล้ว อัลลิสินยังเป็นสารออกฤทธิ์หลักที่เป็นประโยชน์ต่อสภาพร่างกาย และอาจมีส่วนช่วยรักษาโรคหรือทำให้อาการต่างๆ โดยที่ผู้คนจำนวนมากเชื่อว่าการรับประทานกระเทียมอาจช่วยบรรเทาอาการที่เกี่ยวเนื่องกับหัวใจรวมทั้งเส้นเลือด ความดันโลหิต คอเลสเตอรอล ทุเลาหวัด รวมถึงใช้น้ำมันกระเทียมเป็นยาทาภายนอกเพื่อรักษาอาการติดเชื้อทางผิวหนัง เล็บ หรือช่วยรักษาอาการผมหล่นอีกด้วย
ทั้งนี้สิ่งที่ใช้ในการพิสูจน์หรือหลักฐานด้านการแพทย์มีมากมายน้อยเท่าใดที่จะช่วยรับรองคุณประโยชน์ ประโยชน์ แล้วก็ความปลอดภัยของการรับประทานกระเทียมที่มีบทบาทหรือส่วนช่วยสำหรับเพื่อการรักษาโรคเหล่านี้
ความดันโลหิตสูง อัลลิซินซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่พบได้ในกระเทียมสดหรือสินค้าเสริมอาการที่มีส่วนประกอบของกระเทียม อาจมีส่วนช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อเรียบที่เรียงตัวในหลอดเลือดแล้วก็นำมาซึ่งการทำให้เส้นเลือดขยายตัวแล้วก็ทำให้ระดับความดันเลือดลดต่ำลง ซึ่งสอดคล้องกับการทดลองชิ้นหนึ่งให้คนป่วยที่หรูหราความดันเลือดสูงโดยที่มีค่าความดันซิสโตลิก (Systolic Blood Pressure: SBP) มากกว่าหรือเท่ากับ 140 มิลลิตรปรอท กินกระเทียมบ่มสกัด (Aged Garlic Extract: AGE) ขนาด 960 มก. ตรงเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าค่าความดันซิสโตลิกลดลดลงมากยิ่งกว่าเมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่รับประทานยาหลอก ก็เลยอาจจะบอกได้ว่าการกินกระเทียมบ่มสกัดอาจมีคุณภาพสำหรับเพื่อการรักษาผู้เจ็บป่วยความดันเลือดสูงได้ดียิ่งไปกว่ายาหลอก
แม้กระทั่งมีการทดสอบอีก 2 ชิ้นที่บอกให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกระเทียมสำหรับในการลดระดับความดันเลือดได้ดียิ่งไปกว่าการใช้ยาหลอก แต่เพราะว่าผลการทดสอบบางทีอาจยังไม่แม่นยำพอเพียงที่จะสรุปความสามารถของกระเทียมได้ว่าสามารถรักษาหรือลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและก็เส้นโลหิตในคนเจ็บความดันโลหิตสูง ก็เลยยังจำเป็นจะต้องเรียนเพิ่มเติมเพื่อยืนยันประสิทธิภาพที่กระจ่างแจ้งยิ่งขึ้น
มะเร็ง ความเกี่ยวเนื่องของการบริโภคกระเทียมและการเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งยังไม่ชัดเจนและก็ยังคงเป็นที่โต้เถียงกันอยู่ ซึ่งจะเห็นได้จากการค้นคว้าวิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้ชาวจีนทั้งปวงศชายและเพศหญิงที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหารจำนวนกว่า 5,000 คน รับประทานสารอัลลิทริดินขนาด 200 มก.ต่อวัน ร่วมกับสารซีลีเนียมขนาด 100 ไมโครกรัมวันเว้นวัน ซึ่งล้วนเป็นสารสกัดที่ได้จากกระเทียม โดยทำการทดสอบเป็นเวลา 5 ปี แล้วก็เมื่อเปรียบเทียบกับกรุ๊ปที่กินยาหลอกแล้วพบว่ากรุ๊ปที่กินสารอัลลิทริดินร่วมกับสารซีลีเนียมมีความเสี่ยงต่อการเกิดเนื้องอกลดลง 33 เปอร์เซ็นต์ และก็มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะน้อยลงถึง 52 เปอร์เซ็นต์
แม้กระนั้น มีการทำการศึกษาเรียนรู้อีก 19 ชิ้นชี้ให้เห็นว่า ยังไม่เจอหลักฐานที่น่าเชื่อถือพอดีจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ของการบริโภคกระเทียมต่อการเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร โรคมะเร็งอก มะเร็งปอด หรือโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก และก็มีหลักฐานที่ออกจะจำกัดที่ช่วยเหลือว่าการบริโภคกระเทียมบางทีอาจช่วยลดการเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก โรคมะเร็งหลอดของกิน มะเร็งกล่องเสียง โรคมะเร็งในช่องปาก หรือมะเร็งรังไข่
ทั้งนี้สถาบันมะเร็งแห่งชาติประเทศสหรัฐอเมริกา (NCI) ได้บอกว่ากระเทียมเป็นผักประเภทหนึ่งที่อาจมีคุณลักษณะต้านมะเร็ง แต่ว่ายังมีต้นเหตุอื่นๆยกตัวอย่างเช่น รูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่ทำจากกระเทียม หรือปริมาณความเข้มข้นที่หลากหลาย อาจจะเป็นผลให้พิสูจน์ถึงประสิทธิภาพของกระเทียมได้ยาก และเมื่อเวลาผ่านไปหรือเก็บเอาไว้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ก็อาจส่งผลให้ประสิทธิภาพของกระเทียมเสื่อมสลายไปได้ด้วยเหมือนกัน
แก้หวัด หลายคนเชื่อว่ากระเทียมมีฤทธิ์ต้านทานเชื้อจุลินทรีย์แล้วก็เชื้อไวรัส และก็มีการนำมาใช้เพื่อคุ้มครองปกป้องและก็ทุเลาอาการหวัดมาอย่างยาวนาน ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาชิ้นหนึ่งที่ให้อาสาสมัครจำนวน 146 คน กินสารสกัดจากกระเทียมรูปแบบเม็ดซึ่งประกอบไปด้วยสารอัลลิซินขนาด 180 มก.วันละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 12 อาทิตย์ แล้วให้อาสาสมัครจดบันทึกอาการเมื่อเป็นหวัด พบว่าในกลุ่มที่รับประทานสารสกัดจากกระเทียมมีรายงานการเป็นหวัดปริมาณ 24 ครั้ง ซึ่งน้อยกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มที่กินยาหลอกที่มีรายงานการเป็นหวัดจำนวน 65 ครั้ง ทั้งยังยังพบว่าระยะเวลาของการเป็นหวัดในกรุ๊ปที่รับประทานสารสกัดจากกระเทียมมีปริมาณวันที่น้อยกว่า แม้กระนั้นระยะเวลาการฟื้นฟูสภาพจากอาการหวัดของ 2 กลุ่มมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย ถึงผลการทดสอบข้างต้นจะบ่งบอกถึงถึงคุณภาพของกระเทียม แต่ว่าหลักฐานการทดสอบทางสถานพยาบาลยังไม่พอและจำต้องเล่าเรียนเพิ่มเติมอีกเพื่อรับรองประสิทธิภาพของกระเทียมให้แจ้งชัดยิ่งขึ้น
ลดความอ้วนรวมทั้งมวลไขมัน ในผู้เจ็บป่วยภาวการณ์ไขมันพอกตับ ที่ไม่ได้มีเหตุที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ แต่มักมีเหตุที่เกิดจากโรคอ้วน โรคเบาหวานจำพวกที่ 2 ความดันเลือดสูง และไขมันในเลือดสูง ซึ่งการดูแลและรักษาด้วยการรับประทานยา การผ่าตัด หรือลดหุ่นอาจไม่เพียงพอ ถ้าไม่ดูแลเรื่องการกินอาหารพร้อมกันไปด้วย การกินกระเทียมก็เลยบางทีอาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าดึงดูด ด้วยเหตุว่ากระเทียมเป็นพืชสมุนไพรที่อุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์และก็สารอาหารอื่นๆที่อาจมีคุณลักษณะคุ้มครองปกป้องภาวะอ้วน ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้คนไข้ไขมันพอกตับที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหมดศชายรวมทั้งเพศหญิง อายุตั้งแต่ 20-70 ปี ปริมาณทั้งหมดทั้งปวง 110 คน รับประทานกระเทียมผงจำพวกแคปซูลขนาด 400 มก. ซึ่งข้างในประกอบไปด้วยสารอัลซิลินขนาด 1.5 มก. วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 15 อาทิตย์ โดยสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ แต่ว่ากินกระเทียมได้ไม่เกินสัปดาห์ละ 2 กลีบ จากผลของการทดลองแสดงให้เห็นว่า น้ำหนักและมวลร่างกายลดน้อยลงอย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอก จึงอาจกล่าวได้ว่าการรับประทานกระเทียมอาจช่วยลดปริมาณไขมันในตับและปกป้องหรือชะลอการเกิดภาวการณ์ไขมันพอกตับที่มิได้มีเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ อย่างไรก็ดีการศึกษาในอนาคตยังจึงควรวางแบบการทดสอบให้และก็ควรเพิ่มระยะเวลาสำหรับเพื่อการทดสอบเพื่อรับรองประสิทธิภาพของกระเทียมให้แจ่มแจ้งยิ่งขึ้น
ลดระดับคอเลสเตอรอล หลักฐานเกี่ยวกับประสิทธิภาพของกระเทียมต่อการลดระดับคอเลสเตอรอลยังคงไม่ตรงกัน จึงทำให้ยังไม่สามารถที่จะสรุปได้อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสอดคล้องกับการทดลองรวมทั้งการศึกษาโดยการทบทวนการวิจัยที่เกี่ยวพันจำนวน 29 ชิ้น ได้ชี้ให้เห็นว่า การกินกระเทียมอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวมได้นิดหน่อย แม้กระนั้นไม่ส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลประเภทที่ดี (High-Density Lipoprotein: HDL) เพิ่มสูงมากขึ้น ไหมทำให้ระดับคอเลสเตอรอลจำพวกที่ไม่ดี (Low-Density Lipoprotein: LDL) ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจน้อยลงแต่อย่างใด ก็เลยยังจึงควรศึกษาเล่าเรียนเพิ่มเติมเพื่อหาข้อสรุปแล้วก็ยืนยันสมรรถนะของกระเทียมต่อระดับคอเลสเตอรอลที่แจ่มกระจ่างเพิ่มขึ้น

ความปลอดภัยสำหรับการรับประทานกระเทียม
การรับประทานกระเทียมค่อนข้างปลอดภัยถ้าเกิดรับประทานในปริมาณที่สมควร แต่ว่าอาจจะทำให้เป็นผลข้างๆได้ อาทิเช่น ปากเหม็น มีกลิ่นเต่า รู้สึกแสบร้อนที่รอบๆปากหรือที่กระเพาะ แสบร้อนกึ่งกลางอก ท้องอืด อ้วก คลื่นไส้ หรือท้องเดิน อาการกลุ่มนี้บางทีอาจทวีความร้ายแรงขึ้นเมื่อรับประทานกระเทียมสด ทั้งการใช้กระเทียมสดทาหรือสัมผัสที่บริเวณผิวหนังอาจจะเป็นผลให้กำเนิดอาการแสบร้อนและระคายได้
ข้อควรคำนึงสำหรับในการกินกระเทียมโดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลในกรุ๊ปต่อไปนี้
คนที่กำลังมีท้องหรือผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมลูก การกินกระเทียมในตอนการมีครรภ์ออกจะไม่เป็นอันตรายถ้าเกิดกินเป็นของกินหรือในจำนวนที่สมควร แต่บางทีอาจไม่ปลอดภัยแม้กินกระเทียมเป็นยารักษาโรค ทั้งยังยังไม่มีช้อมูลที่น่าไว้ใจพอเพียงเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทากระเทียมที่บริเวณผิวหนังในตอนการมีท้องหรือให้นมบุตร
เด็ก การกินกระเทียมในปริมาณที่สมควรและในระยะสั้นๆอาจปลอดภัยสำหรับเด็ก แม้กระนั้นการใช้กระเทียมทาบริเวณผิวหนังอาจจะเป็นผลให้กำเนิดอาการแสบร้อนและระคายเคือง
ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารหรือการย่อยของอาหาร อาจจะเป็นผลให้มีการเคืองที่ดินเดินอาหารได้
ผู้ที่มีความดันเลือดต่ำ การรับประทานกระเทียมอาจทำให้ระดับความดันโลหิตลดลดน้อยลงมากยิ่งกว่าธรรมดา
ผู้ที่คิดแผนเข้ารับการผ่าตัด ควรจะหยุดกินกระเทียมก่อนจะมีการผ่าตัดอย่างต่ำ 2 อาทิตย์ด้วยเหตุว่าอาจจะเป็นผลให้เลือดออกมากแล้วก็มีผลต่อความดันโลหิตในระหว่างการผ่าตัด รวมทั้งผู้ที่มีสภาวะเลือดออกไม่ดีเหมือนปกติไม่ควรกินกระเทียม โดยเฉพาะกระเทียมสด เพราะเหตุว่าอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เลือดออกได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
ผู้ที่อยู่ในระหว่างการกินยารักษาโรค ดังเช่น ไอโซไนอะซิด เพราะว่ากระเทียมอาจลดการดูดซึมของยาในร่างกายและส่งผลต่อประสิทธิภาพลักษณะการทำงานของยา รวมถึงไม่สมควรกินกระเทียมในระหว่างใช้ยาดังต่อไปนี้
ยารักษาการติดเชื้อเอชไอวีหรือโรคเอดส์
ยาคุมกำเนิด
ยาต่อต้านการแข็งตัวของเลือด
ยาต้านเกล็ดเลือด
http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรกระเทียม

 

Sitemap 1 2 3