ผู้เขียน หัวข้อ: รู้ไหมว่ากระเทียมนั้นมีสรรพคุณ-เเละประโยชน์อย่างมากๆ  (อ่าน 266 ครั้ง)

asd051sa4

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 5
    • ดูรายละเอียด

กระเทียม
กระเทียมกับผลดีต่อสุขภาพ
กระเทียม เป็นไม้ล้มลุกที่มีหัวลักษณะเป็นทรงกระเปาะอยู่ใต้ดินเหมือนกับหัวหอม ซึ่งแต่ละหัวจะประกอบด้วย 6-10 กลีบ นิยมนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงปรุงอาหาร กระเทียมเป็นพืชที่ออกจะต่างจากพืชทั่วๆไป ด้วยเหตุว่าอุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์ในปริมาณมาก นอกเหนือจากนี้กระเทียมประกอบไปด้วยสารอาหารฯลฯ อาทิเช่น อาร์จีนีน (Arginine) โอลิโกแซ็คคาไรด์ (Oligosaccharides) ฟลาโวนอยด์ (Flavoniods) รวมทั้งซีลีเนียม (Selenium) ซึ่งล้วนเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
กระเทียม
คนจำนวนไม่น้อยบางทีอาจจดจำกระเทียมได้จากกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ส่วนตัว ซึ่งมีสาเหตุมาจากสารอัลลิซิน (Allicin) นอกเหนือจากที่จะทำให้กระเทียมมีกลิ่นที่เด่นแล้ว อัลลิสินยังเป็นสารออกฤทธิ์หลักที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย รวมทั้งอาจมีส่วนช่วยรักษาโรคหรือทำให้อาการต่างๆ โดยที่ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยมั่นใจว่าการรับประทานกระเทียมบางทีอาจช่วยทุเลาอาการที่เกี่ยวกับหัวใจแล้วก็เส้นเลือด ความดันเลือด คอเลสเตอรอล ทุเลาหวัด รวมทั้งใช้น้ำมันกระเทียมเป็นยาทาภายนอกเพื่อรักษาอาการติดเชื้อทางผิวหนัง เล็บ หรือช่วยรักษาอาการผมร่วงอีกด้วย
ทั้งนี้สิ่งที่ใช้พิสูจน์หรือหลักฐานด้านการแพทย์มีมากมายน้อยเพียงใดที่จะช่วยรับรองคุณประโยชน์ ประโยชน์ และความปลอดภัยของการกินกระเทียมที่มีหน้าที่หรือส่วนช่วยสำหรับเพื่อการรักษาโรคเหล่านี้
ความดันโลหิตสูง อัลลิสินซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่พบได้ในกระเทียมสดหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาการที่มีส่วนประกอบของกระเทียม อาจมีส่วนช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อเรียบที่เรียงหน้าในเส้นโลหิตแล้วก็ส่งผลให้เส้นโลหิตขยายตัวรวมทั้งทำให้ระดับความดันโลหิตลดลดน้อยลง ซึ่งสอดคล้องกับการทดสอบชิ้นหนึ่งให้คนไข้ที่มีระดับความดันเลือดสูงโดยที่มีค่าความดันซิสโตลิก (Systolic Blood Pressure: SBP) มากกว่าหรือเท่ากับ 140 ไม่ลลิตรปรอท รับประทานกระเทียมบ่มสกัด (Aged Garlic Extract: AGE) ขนาด 960 มิลลิกรัม ตรงเวลา 12 อาทิตย์ พบว่าค่าความดันซิสโตลิกลดลดลงมากกว่าเมื่อเทียบกับคนเจ็บที่กินยาหลอก ก็เลยอาจกล่าวได้ว่าการกินกระเทียมบ่มสกัดอาจมีประสิทธิภาพสำหรับเพื่อการรักษาผู้เจ็บป่วยความดันเลือดสูงได้ดียิ่งไปกว่ายาหลอก
ถึงแม้ว่าจะมีการทดลองอีก 2 ชิ้นที่บอกให้เห็นถึงคุณภาพของกระเทียมสำหรับเพื่อการลดความดันเลือดได้ดีมากยิ่งกว่าการใช้ยาหลอก แม้กระนั้นเพราะเหตุว่าผลของการทดสอบอาจยังไม่แม่นพอเพียงที่จะสรุปความสามารถของกระเทียมได้ว่าสามารถรักษาหรือลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจแล้วก็เส้นเลือดในคนป่วยความดันเลือดสูง ก็เลยยังจึงควรเล่าเรียนเพิ่มเติมเพื่อรับรองสมรรถนะที่แจ่มชัดเพิ่มขึ้น
โรคมะเร็ง ความเกี่ยวพันของการบริโภคกระเทียมแล้วก็ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งยังไม่ชัดแจ้งแล้วก็ยังคงเป็นที่คัดค้านกันอยู่ ซึ่งจะมองเห็นได้จากการศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้ชาวจีนทั้งเพศชายและเพศหญิงที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะจำนวนกว่า 5,000 คน รับประทานสารอัลลิทริดินขนาด 200 มก.ต่อวัน ร่วมกับสารซีลีเนียมขนาด 100 ไมโครกรัมวันเว้นวัน ซึ่งล้วนเป็นสารสกัดที่ได้จากกระเทียม โดยการทำการทดสอบตรงเวลา 5 ปี รวมทั้งเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่กินยาหลอกแล้วพบว่ากรุ๊ปที่กินสารอัลลิทริดินร่วมกับสารซีลีเนียมมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดเนื้องอกลดน้อยลง 33 เปอร์เซ็นต์ และมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะลดลงถึง 52 เปอร์เซ็นต์
แต่ มีการศึกษาวิจัยอีก 19 ชิ้นชี้ให้เห็นว่า ยังไม่เจอหลักฐานที่น่าไว้วางใจถึงที่กะไว้จะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ของการบริโภคกระเทียมต่อความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะ โรคมะเร็งหน้าอก มะเร็งปอด หรือมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก และมีหลักฐานที่ค่อนข้างจำกัดที่ส่งเสริมว่าการบริโภคกระเทียมบางทีอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งไส้ โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก โรคมะเร็งหลอดของกิน มะเร็งกล่องเสียง มะเร็งในช่องปาก หรือโรคมะเร็งรังไข่
ดังนี้สถาบันโรคมะเร็งแห่งชาติประเทศสหรัฐอเมริกา (NCI) ได้บอกว่ากระเทียมเป็นพืชผักประเภทหนึ่งที่อาจมีคุณสมบัติต้านทานโรคมะเร็ง แม้กระนั้นยังมีต้นสายปลายเหตุอื่นๆเป็นต้นว่า รูปแบบของสินค้าที่ทำมาจากกระเทียม หรือปริมาณความเข้มข้นที่มากมาย อาจจะทำให้พิสูจน์ถึงประสิทธิภาพของกระเทียมได้ยาก รวมทั้งเมื่อเวลาผ่านไปหรือเก็บไว้ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ก็อาจจะส่งผลให้ความสามารถของกระเทียมสิ้นสุดไปได้เหมือนกัน
แก้หวัด ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยมั่นใจว่ากระเทียมมีฤทธิ์ต้านเชื้อจุลินทรีย์และก็เชื้อไวรัส แล้วก็มีการประยุกต์ใช้เพื่อคุ้มครองปกป้องและบรรเทาอาการหวัดมาอย่างนาน ซึ่งสอดคล้องกับการเรียนชิ้นหนึ่งที่ให้อาสาสมัครปริมาณ 146 คน รับประทานสารสกัดจากกระเทียมแบบเป็นเม็ดซึ่งประกอบไปด้วยสารอัลลิซินขนาด 180 มก.วันละ 1 ครั้ง ตรงเวลา 12 สัปดาห์ แล้วให้อาสาสมัครจดบันทึกอาการเมื่อเป็นหวัด พบว่าในกลุ่มที่กินสารสกัดจากกระเทียมมีรายงานการเป็นหวัดปริมาณ 24 ครั้ง ซึ่งน้อยกว่าเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่กินยาหลอกที่มีรายงานการเป็นหวัดปริมาณ 65 ครั้ง ทั้งยังยังพบว่าช่วงเวลาของการเป็นหวัดในกลุ่มที่กินสารสกัดจากกระเทียมมีปริมาณวันที่น้อยกว่า แต่ว่าระยะเวลาการฟื้นฟูสภาพจากอาการหวัดของอีกทั้ง 2 กลุ่มมีความไม่เหมือนกันเพียงเล็กน้อย ถึงแม้ว่าผลของการทดสอบข้างต้นจะบ่งบอกถึงถึงความสามารถของกระเทียม แต่ว่าหลักฐานการทดลองทางสถานพยาบาลยังน้อยเกินไปและก็จึงควรเล่าเรียนเสริมเติมเพื่อยืนยันคุณภาพของกระเทียมให้แจ่มชัดยิ่งขึ้น
ลดความอ้วนและก็มวลไขมัน ในผู้ป่วยภาวการณ์ไขมันพอกตับ ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากการดื่มแอลกอฮอล์ แม้กระนั้นมักเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากโรคอ้วน โรคเบาหวานจำพวกที่ 2 ความดันเลือดสูง แล้วก็ไขมันในเลือดสูง ซึ่งการดูแลและรักษาด้วยการกินยา การผ่าตัด หรือลดน้ำหนักอาจไม่เพียงพอ ถ้าเกิดไม่ดูแลเรื่องการรับประทานอาหารควบคู่ไปด้วย การกินกระเทียมก็เลยอาจเป็นช่องทางหนึ่งที่น่าดึงดูด เพราะว่ากระเทียมเป็นพืชสมุนไพรที่อุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์รวมทั้งสารอาหารอื่นๆที่อาจมีคุณสมบัติคุ้มครองป้องกันสภาวะอ้วน ซึ่งสอดคล้องกับการค้นคว้าชิ้นหนึ่งที่ให้ผู้ป่วยไขมันพอกตับที่มิได้มีสาเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ทั้งปวงศชายและเพศหญิง อายุตั้งแต่ 20-70 ปี ปริมาณทั้งมวล 110 คน รับประทานกระเทียมผงประเภทแคปซูลขนาด 400 มก. ซึ่งภายในประกอบไปด้วยสารอัลสิลินขนาด 1.5 มก. วันละ 2 ครั้ง ตรงเวลา 15 สัปดาห์ โดยสามารถกินอาหารได้ตามธรรมดา แม้กระนั้นกินกระเทียมได้ไม่เกินสัปดาห์ละ 2 กลีบ จากผลการทดสอบชี้ให้เห็นว่า น้ำหนักและก็มวลร่างกายลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอก ก็เลยอาจจะบอกได้ว่าการรับประทานกระเทียมบางทีอาจช่วยลดจำนวนไขมันในตับและก็คุ้มครองป้องกันหรือชะลอการเกิดภาวการณ์ไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ อย่างไรก็ตามการเล่าเรียนในอนาคตยังต้องออกแบบการทดสอบให้ดียิ่งขึ้นและควรเพิ่มช่วงเวลาสำหรับเพื่อการทดลองเพื่อยืนยันสมรรถนะของกระเทียมให้ชัดแจ้งเพิ่มขึ้น
ลดระดับคอเลสเตอรอล หลักฐานเกี่ยวกับประสิทธิภาพของกระเทียมต่อการลดระดับคอเลสเตอรอลยังคงขัดแย้ง จึงทำให้ยังไม่อาจจะสรุปได้อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสอดคล้องกับการทดสอบรวมทั้งการเรียนโดยการทบทวนงานศึกษาเรียนรู้ที่เกี่ยวพันจำนวน 29 ชิ้น ได้แสดงให้เห็นว่า การรับประทานกระเทียมอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวมได้นิดหน่อย แต่ว่าไม่ส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ดี (High-Density Lipoprotein: HDL) เพิ่มสูงขึ้น ไหมทำให้ระดับคอเลสเตอรอลประเภทที่ไม่ดี (Low-Density Lipoprotein: LDL) ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจลดลงอะไร ก็เลยยังจำเป็นต้องเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อหาบทสรุปและรับรองความสามารถของกระเทียมต่อระดับคอเลสเตอรอลที่เด่นชัดยิ่งขึ้น

ความปลอดภัยสำหรับในการรับประทานกระเทียม
การรับประทานกระเทียมออกจะไม่เป็นอันตรายถ้ารับประทานในจำนวนที่สมควร แต่ว่าอาจจะทำให้เกิดผลข้างๆได้ อาทิเช่น ปากเหม็น มีกลิ่นตัว รู้สึกแสบร้อนที่บริเวณปากหรือที่กระเพาะอาหาร แสบร้อนกลางอก ท้องขึ้น คลื่นไส้ คลื่นไส้ หรือท้องเสีย อาการพวกนี้บางทีอาจทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อรับประทานกระเทียมสด อีกทั้งการใช้กระเทียมสดทาหรือสัมผัสที่บริเวณผิวหนังอาจก่อให้เกิดอาการแสบร้อนและก็ระคายเคืองได้
สิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวังสำหรับการรับประทานกระเทียมโดยยิ่งไปกว่านั้นบุคคลในกลุ่มตั้งแต่นี้ต่อไป
คนที่กำลังตั้งครรภ์หรือคนที่อยู่ในตอนให้นมบุตร การกินกระเทียมในช่วงการมีท้องค่อนข้างไม่เป็นอันตรายถ้ารับประทานเป็นของกินหรือในจำนวนที่สมควร แต่บางทีอาจไม่ปลอดภัยถ้าหากกินกระเทียมเป็นยารักษาโรค อีกทั้งยังไม่มีช้อมูลที่น่าไว้วางใจเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทากระเทียมที่บริเวณผิวหนังในช่วงการมีครรภ์หรือให้นมลูก
เด็ก การกินกระเทียมในจำนวนที่สมควรและก็ในระยะสั้นๆบางทีอาจไม่เป็นอันตรายสำหรับเด็ก แต่ว่าการใช้กระเทียมทาบริเวณผิวหนังอาจทำให้กำเนิดอาการแสบร้อนและก็ระคายเคือง
ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารหรือการย่อยอาหาร อาจจะทำให้มีการระคายเคืองที่เดินอาหารได้
ผู้ที่มีความดันเลือดต่ำ การกินกระเทียมอาจส่งผลให้ระดับความดันเลือดลดลดน้อยลงมากกว่าปกติ
ผู้ที่คิดแผนเข้ารับการผ่าตัด ควรหยุดรับประทานกระเทียมก่อนจะมีการผ่าตัดอย่างต่ำ 2 อาทิตย์ด้วยเหตุว่าอาจจะเป็นผลให้เลือดออกมากและมีผลต่อความดันเลือดในระหว่างการผ่าตัด และก็คนที่มีภาวการณ์เลือดออกไม่ปกติไม่ควรรับประทานกระเทียม โดยเฉพาะกระเทียมสด เนื่องจากว่าอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เลือดออกได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
คนที่อยู่ในระหว่างการรับประทานยารักษาโรค ยกตัวอย่างเช่น ไอโซไนอะซิด เนื่องจากกระเทียมบางทีอาจลดการดูดซึมของยาในร่างกายแล้วก็ส่งผลต่อประสิทธิภาพแนวทางการทำงานของยา รวมถึงไม่สมควรกินกระเทียมในระหว่างใช้ยาดังต่อไปนี้
ยารักษาการติดโรคไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องหรือโรคภูมิคุมกันบกพร่อง
ยาคุม
ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
ยาต้านทานเกล็ดเลือด
http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรกระเทียม

 

Sitemap 1 2 3