ผู้เขียน หัวข้อ: ความเป็นมาของต้นราชพฤกษ์  (อ่าน 322 ครั้ง)

าร

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 22
    • ดูรายละเอียด
ความเป็นมาของต้นราชพฤกษ์
« เมื่อ: สิงหาคม 15, 2018, 01:50:21 pm »

ราชพฤกษ์
ความเป็นมาของต้นราชพฤกษ์
   จากสมัยก่อนที่ผ่านมากว่า 50 ปี ทางราชการมีความพยายามหลายทีสำหรับการกำหนดให้มีเครื่องหมายประจำชาติไทย โดยยิ่งไปกว่านั้นการกำหนด ต้นไม้ และก็ ดอกไม้ ประจำชาติ เริ่มที่กรมป่าไม้ได้ชักชวนให้ประชากรพึงพอใจต้นราชพฤกษ์หรือคูณมาตั้งแต่ช่วงปี พุทธศักราช2494 โดยรัฐบาลมีมติให้ถือวันที่ 24 เดือนมิถุนายน เป็นวันต้นไม้ประจำปีของชาติ (arbour day) มีการเชิญชวนให้ปลูกต้นไม้ที่เป็นประโยชน์ชนิดต่างๆเยอะมาก ในขณะเดียวกันก็ได้มีการเสนอว่า ต้นราชพฤกษ์ คงจะนับว่าเป็นต้นไม้ประจำชาติ
ราชพฤกษ์
   จนกระทั่งในปี พ.ศ.2506 มีการสัมมนาเพื่อกำหนดสัญลักษณ์ต้นไม้รวมทั้งสัตว์ประจำชาติเป็นครั้งแรก โดยกรมป่าไม้ได้เสนอให้ ต้นราชพฤกษ์ หรือ ต้นคูณ ไม้มงคลที่มีสาระแล้วก็รู้จักกันอย่างแพร่หลายฯลฯไม้ประจำชาติ สำหรับสัตว์ประจำชาติก็คือ ช้างเผือก สัตว์ที่มีคุณค่าเกี่ยวกับประเพณีไทยแล้วก็ประวัติศาสตร์ไทยมายาวนาน การเสนอตอนนั้นมิได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการ ด้วยเหตุผลดังกล่าวตลอดเวลาก่อนหน้านี้สัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นอิสระยก็เลยมีนานาประการ ตั้งแต่สถานที่สำคัญๆ สัตว์ ดอกไม้ ที่ชาวไทยเคยชินและประสบพบเห็นบ่อยมาก ดังเช่นว่า พระปรางค์วัดย่ำรุ่งฯ เรือสุพรรณหงส์ ดอกบัว ดอกมะลิ ดอกพุทธรักษา แมวไทย เช่นเดียวกับ ต้นราชพฤกษ์ และก็ ช้างเผือก ยังคงถูกชมเชยให้เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติตลอดมา
            ปี พ.ศ.2530 มีการสนับสนุนให้ปลูกต้นราชพฤกษ์อีกรอบ เพื่อเป็นการสรรเสริญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ โดยมีการช่วยเหลือให้ปลูกต้นราชพฤกษ์ทั้งประเทศปริมาณ 99,999 ต้น เดี๋ยวนี้จึงมีต้นราชพฤกษ์อยู่เยอะแยะทั่วประเทศไทย
            ผลสรุปเรื่องสัญลักษณ์ประจำชาติดูเหมือนจะยังไม่กระจ่าง กระทั่งช่วงปี พุทธศักราช2544 คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ ได้นำเรื่องดังที่กล่าวมาแล้วกลับมาเสนออีกที และมีบทสรุปเสนอให้มีการระบุสัญลักษณ์ประจำชาติ 3 สิ่งคือ ดอกไม้ สัตว์และก็สถาปัตยกรรม แล้วก็การพิเคราะห์ก่อนหน้านี้เสนอให้ระบุดอกไม้ประจำชาติเป็น ดอกราชพฤกษ์ สัตว์ประจำชาติเป็นช้างไทย แล้วก็สถาปัตยกรรมประจำชาติคือ ศาลาไทย
            เหตุที่เลือก ดอกราชพฤกษ์ เป็นดอกไม้ประจำชาติด้วยเหตุว่ามีความเหมาะสมในหลายๆด้านเป็นเป็นดอกไม้จากต้นไม้ที่ถูกเสนอให้เป็นต้นไม้ประจำชาติเมื่อครั้งที่กรมป่าไม้เสนอไว้ ฯลฯไม้ที่มีอายุยืน แข็งแรง ปลูกขึ้นได้ดีทั่วทุกภาคของประเทศ เป็นต้นไม้ประจำถิ่นที่รู้จักแพร่หลาย มีชื่อเรียกหลายชื่อแตกต่างกันในแต่ละภาค ดังเช่นว่า ต้นลมแล้ง คูน อ้อดิบ ราชพฤกษ์เป็นพืชที่มีความเป็นสิริมงคลใช้ประโยชน์ในพิธีการหลักๆเช่น ลงหลักเมือง ลงเสาฤกษ์ ทำคฑาจอมพลรวมทั้งยอดธงชัยเฉลิมพลของกองทหาร ในช่วงฤดูร้อนราชพฤกษ์จะมีดอกสะพรั่งทั้งยังต้น ช่อดอกมีทรงสวย สีเหลืองแพรวพราวเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาพุทธอันเป็นศาสนาประจำประเทศ รวมถึงเป็นสีเดียวกับวันพระราชการบังเกิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ยิ่งไปกว่านี้ความสวยสดงดงามของช่อดอก และความหมายที่ดียังถูกจำทดลองแบบตกแต่งไว้บนอินทรธนูของข้าราชการอีกด้วย
ดอกราชพฤกษ์ ดอกไม้ประจำชาติไทย
ส่งดอกไม้ประจำชาติไทย คือ ดอกราชพฤกษ์ (Golden shower) หรือ ชื่อทางวิทยาศาสตร์ของ ดอกราชพฤกษ์หมายถึงCassia fistula
           ดอกไม้สีเหลืองงามที่พบได้มากเห็นได้ทั่วไปตามริมถนนสายต่างๆเป็นสีสันของ ดอกราชพฤกษ์ หรือ ดอกคูน ต้นไม้มงคลที่ได้รับการชมเชยให้เป็น ดอกไม้ประจำชาติไทย ทั้งยังมั่นใจว่าเป็นต้นไม้ที่ปลูกไว้แล้วจะเสริมให้คนภายในบ้านทรงเกียรติตำแหน่งชื่อ เสียงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วย ยิ่งใกล้เข้าสู่เวลาที่การเปิดประตูต้อนรับเพื่อนบ้านอาเซียนกันแล้ว ในวันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยขอนำเนื้อหาเกี่ยวกับดอกไม้ประจำชาติไทยอย่าง ดอกราชพฤกษ์ มาให้ทำความรู้จักกันจ้า
ประวัติความเป็นมาดอกราชพฤกษ์
           ต้นราชพฤกษ์ หรือ ต้นคูน เป็นต้นไม้ท้องถิ่นของทวีปเอเชียใต้ ตั้งแต่ประเทศปากีสถาน ประเทศอินเดีย เมียนมาร์ รวมทั้งศรีลังกา โดยนิยมนำมาปลูกกันมากในเขตร้อน สามารถเติบโตก้าวหน้าในที่โล่ง และเป็นที่รู้จักในประเทศไทยมาหลายสิบปี โดยมีการเสนอให้ดอกราชพฤกษ์ เป็นดอกไม้ประจำชาติไทยตั้งแต่ปี พุทธศักราช 2506 แม้กระนั้นก็ยังไม่ได้ผลสรุปแน่ชัด กระทั่งมีการลงนามให้เป็นดอกไม้ประจำชาติไทย เมื่อวันที่ 26 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2544

ดอกไม้ประจำชาติไทย
           เนื่องจาก ต้นราชพฤกษ์ ออกดอกสีเหลืองยกช่อ มองสง่างาม ทั้งยังยังมีสีตรงกับ สีทุกวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จึงถูกตั้งชื่อว่าเป็น "ต้นไม้ของพระเจ้าแผ่นดิน" แล้วก็มีการเซ็นชื่อให้ต้นราชพฤกษ์ เป็นหนึ่งใน 3 สัญลักษณ์ประจำชาติไทย โดยมี 1. ช้าง เป็นสัตว์ประจำชาติไทย 2. ศาลาไทย เป็นสถาปัตยกรรมประจำชาติไทย แล้วก็ 3. ดอกราชพฤกษ์ เป็นดอกไม้ประจำชาติไทย
เหตุผลเลือกเป็นดอกไม้ประจำชาติไทย

  • เนื่องจากว่าเป็นต้นไม้พื้นเมืองที่รู้จักกันอย่างมากมาย และมีอยู่ทุกภาคของเมืองไทย
  • มีประวัติเกี่ยวกับจารีตประเพณีหลักๆในไทยแล้วก็ฯลฯไม้มงคลที่นิยมปลูก
  • ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย อาทิเช่น ใช้เป็นยารักษาโรค ทั้งยังคงใช้ลำต้นเป็นเสาเรือนได้ ฯลฯ
  • มีสีเหลืองอร่าม พุ่มสวยเต็มต้น เปรียบเป็นเครื่องหมายแห่งศาสนาพุทธ
  • แก่ยืนนาน และก็ทน
ลักษณะทั่วไป
           ฯลฯไม้ขนาดกลาง สูงประมาณ 10-20 เมตร ออกดอกเป็นช่อสีเหลืองสวยงาม แต่ละช่อยาวประมาณ 20-40 เซนติเมตร โดยกลีบดอกจะเป็นสีเหลือง 5 กลีบ มีผลยาวราวๆ 30-60 เซนติเมตร มีกลิ่นแรง และมีเม็ดที่เป็นพิษ
การปลูกดอกราชพฤกษ์
           นิยมนำมาปลูกด้วยเม็ด โดยจะมีการเจริญเติบโตช้าในช่วง 1-3 ปีแรก แม้กระนั้นจากนั้นจะมีการเติบโตเร็วขึ้น และมีดอกตอนอายุราว 4-5 ปี
การดูแลและรักษา
           แสงสว่าง : อยากได้แดดจัด หรือที่โล่งแจ้ง และเติบโตเจริญในที่โล่งเป็นพิเศษ
           น้ำ : ชอบน้ำน้อย ควรรดน้ำ 7-10 วันต่อครั้ง สามารถทนกับลักษณะอากาศร้อนได้ดิบได้ดี
           ดิน : สามารถเจริญวัยก้าวหน้าในดินที่ร่วนซุย ดินร่วนซุยปนทราย หรือดินเหนียว
           ปุ๋ย : นิยมให้ปุ๋ยหมัก หรือ ปุ๋ยธรรมชาติ ในอัตรา 2-3 กิโลกรัมต่อต้น และควรให้ปุ๋ยปีละ 3-4 ครั้ง
การขยายพันธุ์
           แนวทางเพาะพันธุ์ต้นราชพฤกษ์ที่นิยม คือ การเพาะเม็ด โดยใช้เมล็ดใหม่ๆมาขลิบด้วยกรรไกรตัดเล็บ แต่จำเป็นต้องเลือกขลิบรอบๆด้านป้าน เพราะด้านแหลมจะมีต้นอ่อนอยู่ แล้วต่อจากนั้นนำไปแช่น้ำสะอาดทิ้งเอาไว้ผ่านวัน แล้วก็ค่อยเทน้ำออกให้เหลือปริมาณเพียงพอหล่อเลี้ยงเม็ดได้ ต่อจากนั้นทิ้งไว้อีกคืนก็จะเจอรากงอก แล้วก็สามารถนำลงปลูกได้เลย
ความเชื่อถือเกี่ยวกับต้นราชพฤกษ์
           มั่นใจว่าเป็นต้นไม้มงคล ที่ควรจะปลูกไว้ในทิศตะวันตกเฉียงใต้ และก็ถ้าปลูกเอาไว้ในบ้านจะช่วยให้มีเกียรติยศ เกียรติ แล้วก็เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางไสยศาสตร์ โดยใช้ใบทำน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ เพราะเป็นพืชที่มีความมงคลนาม http://www.disthai.com/

 

Sitemap 1 2 3