ผู้เขียน หัวข้อ: ความเป็นมาของต้นราชพฤกษ์  (อ่าน 334 ครั้ง)

jacl598845

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 21
    • ดูรายละเอียด
ความเป็นมาของต้นราชพฤกษ์
« เมื่อ: สิงหาคม 16, 2018, 09:23:26 am »

ราชพฤกษ์
ที่มาที่ไปของต้นราชพฤกษ์
   จากสมัยก่อนที่ผ่านมากว่า 50 ปี ทางด้านราชการมีความเพียรพยายามบ่อยมากสำหรับการกำหนดให้มีสัญลักษณ์ประจำชาติไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกำหนด ต้นไม้ และก็ ดอกไม้ ประจำชาติ เริ่มต้นที่กรมป่าไม้ได้เชื้อเชิญให้สามัญชนพึงพอใจต้นราชพฤกษ์หรือคูณมาตั้งแต่ช่วงปี พุทธศักราช2494 โดยรัฐบาลมีมติให้ถือวันที่ 24 มิถุนายน เป็นวันต้นไม้รายปีของชาติ (arbour day) มีการเชิญให้ปลูกต้นไม้ที่เป็นประโยชน์จำพวกต่างๆล้นหลาม ในขณะเดียวกันก็ได้มีการเสนอว่า ต้นราชพฤกษ์ คงจะนับว่าเป็นต้นไม้ประจำชาติ
ราชพฤกษ์
   จนกระทั่งในปี พ.ศ.2506 มีการสัมมนาเพื่อกำหนดสัญลักษณ์ต้นไม้และก็สัตว์ประจำชาติเป็นครั้งแรก โดยกรมป่าไม้ได้เสนอให้ ต้นราชพฤกษ์ หรือ ต้นคูณ พืชที่มีความเป็นสิริมงคลที่เป็นประโยชน์และก็รู้จักกันอย่างแพร่หลายเป็นต้นไม้ประจำชาติ สำหรับสัตว์ประจำชาติก็คือ ช้างเผือก สัตว์ที่มีคุณค่าเกี่ยวกับประเพณีไทยแล้วก็ประวัติศาสตร์ไทยมายาวนาน การเสนอตอนนั้นไม่ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการ เพราะฉะนั้นตลอดระยะเวลาก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาเครื่องหมายที่บ่งถึงความเป็นอิสระยก็เลยมีนานัปการ ตั้งแต่สถานที่สำคัญๆ สัตว์ ดอกไม้ ที่คนประเทศไทยรู้จักและก็พบเจอบ่อยมาก ตัวอย่างเช่น พระปรางค์วัดอรุณฯ เรือสุพรรณหงส์ ดอกบัว ดอกมะลิ ดอกพุทธรักษา แมวไทย เหมือนกับ ต้นราชพฤกษ์ แล้วก็ ช้างเผือก ยังคงถูกชื่นชมให้เป็นเครื่องหมายประจำชาติตลอดมา
            ปี พุทธศักราช2530 มีการช่วยเหลือให้ปลูกต้นราชพฤกษ์อีกครั้ง เพื่อเป็นการสรรเสริญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระอายุครบ 5 รอบ โดยมีการสนับสนุนให้ปลูกต้นราชพฤกษ์ทั่วประเทศจำนวน 99,999 ต้น ทุกๆวันนี้จึงมีต้นราชพฤกษ์อยู่มากมายทั่วทั้งประเทศไทย
            ผลสรุปเรื่องเครื่องหมายประจำชาติดูเหมือนจะยังไม่กระจ่าง จนกระทั่งตอนปี พ.ศ.2544 คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ ได้นำเรื่องดังที่กล่าวถึงแล้วกลับมาเสนออีกรอบ และก็มีผลสรุปเสนอให้มีการระบุเครื่องหมายประจำชาติ 3 สิ่งเป็น ดอกไม้ สัตว์รวมทั้งสถาปัตยกรรม และก็การพิเคราะห์ก่อนหน้านี้เสนอให้กำหนดดอกไม้ประจำชาติคือ ดอกราชพฤกษ์ สัตว์ประจำชาติ คือ ช้างไทย และก็สถาปัตยกรรมประจำชาติคือ ศาลาไทย
            เหตุที่เลือก ดอกราชพฤกษ์ เป็นดอกไม้ประจำชาติด้วยเหตุว่ามีความเหมาะสมในหลายๆด้านเป็นเป็นดอกไม้จากต้นไม้ที่ถูกเสนอให้เป็นต้นไม้ประจำชาติเมื่อครั้งที่กรมป่าไม้เสนอไว้ เป็นต้นไม้ที่มีอายุยืน แข็งแรง ปลูกขึ้นได้ดิบได้ดีทั่วทุกภาคของประเทศ เป็นต้นไม้ท้องถิ่นที่รู้จักแพร่หลาย มีชื่อเรียกหลายชื่อไม่เหมือนกันในแต่ละภาค ดังเช่นว่า ราชพฤกษ์ คูน อ๋อดิบ ราชพฤกษ์เป็นพืชที่มีความมงคลใช้ประโยชน์ในพิธีสำคัญๆดังเช่นว่า ลงหลักเมือง ลงเสาฤกษ์ ทำคฑาจอมพลรวมทั้งยอดธงชัยเฉลิมพลของกองทหาร ในช่วงฤดูร้อนราชพฤกษ์จะออกดอกสะพรั่งต้น ช่อดอกมีทรงสวยสดงดงาม สีเหลืองสวยงามเป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธศาสนาอันเป็นศาสนาประจำชาติ แล้วก็เป็นสีเดียวกับวันพระราชการเกิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ นอกเหนือจากนี้ความสวยงามของช่อดอก แล้วก็ความหมายที่ดียังถูกจำลองแบบเสริมแต่งไว้บนอินทรธนูของเจ้าหน้าที่รัฐอีกด้วย
ดอกราชพฤกษ์ ดอกไม้ประจำชาติไทย
ส่งดอกไม้ประจำชาติไทย คือ ดอกราชพฤกษ์ (Golden shower) หรือ ชื่อด้านวิทยาศาสตร์ของ ดอกราชพฤกษ์ คือ Cassia fistula
           ดอกไม้สีเหลืองอร่ามที่พบบ่อยเห็นได้ทั่วไปตามข้างถนนสายต่างๆคือสีสันของ ดอกราชพฤกษ์ หรือ ดอกคูน ต้นไม้มงคลที่ได้รับการเชิดชูให้เป็น ดอกไม้ประจำชาติไทย ทั้งมั่นใจว่าเป็นต้นไม้ที่ปลูกไว้แล้วจะเสริมให้คนในบ้านทรงเกียรติยศชื่อ เสียงมากขึ้นด้วย ยิ่งใกล้ไปสู่เวลาที่การเปิดประตูต้อนรับเพื่อนบ้านอาเซียนกันแล้ว ในวันนี้กระปุกดอทคอมจึงขอนำข้อมูลเกี่ยวกับดอกไม้ประจำชาติไทยอย่าง ดอกราชพฤกษ์ มาให้ทำความรู้จักกันจ้า
ประวัติดอกราชพฤกษ์
           ต้นราชพฤกษ์ หรือ ต้นคูน ฯลฯไม้ท้องถิ่นของทวีปเอเชียใต้ ตั้งแต่ปากีสถาน ประเทศอินเดีย เมียนมาร์ และก็ศรีลังกา โดยนิยมปลูกกันมากมายในเขตร้อน สามารถเจริญวัยก้าวหน้าใน แล้วก็มีชื่อเสียงในประเทศไทยมาหลายสิบปี โดยมีการเสนอให้ดอกราชพฤกษ์ เป็นดอกไม้ประจำชาติไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2506 แต่ว่าก็ยังไม่ได้ข้อสรุปชัดแจ้ง กระทั่งมีการเซ็นชื่อให้เป็นดอกไม้ประจำชาติไทย ตอนวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2544

ดอกไม้ประจำชาติไทย
           เนื่องด้วย ต้นราชพฤกษ์ ออกดอกสีเหลืองชูช่อ ดูสง่างาม อีกทั้งยังมีสีตรงกับ สีทุกวันพระราชการบังเกิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ก็เลยถูกตั้งชื่อว่าเป็น "ต้นไม้ของพระมหากษัตริย์" และมีการลงชื่อให้ต้นราชพฤกษ์ เป็นเยี่ยมใน 3 เครื่องหมายประจำชาติไทย โดยมี 1. ช้าง เป็นสัตว์ประจำชาติไทย 2. ศาลาไทย เป็นสถาปัตยกรรมประจำชาติไทย และ 3. ดอกราชพฤกษ์ เป็นดอกไม้ประจำชาติไทย
เหตุผลเลือกเป็นดอกไม้ประจำชาติไทย

  • ด้วยเหตุว่าเป็นต้นไม้พื้นเมืองที่รู้จักกันอย่างมากมาย และมีอยู่ทุกภาคของเมืองไทย
  • มีประวัติเกี่ยวโยงกับจารีตประเพณีสำคัญๆในไทยและฯลฯพืชที่มีความเป็นสิริมงคลที่นิยมปลูก
  • ใช้ประโยชน์ได้มากมาย ดังเช่น ใช้เป็นยารักษาโรค อีกทั้งยังคงใช้ลำต้นเป็นเสาเรือนได้ ฯลฯ
  • มีสีเหลืองอร่าม พุ่มไม้สวยเต็มต้น เปรียบเทียบเป็นสัญลักษณ์ที่ศาสนาพุทธ
  • แก่ยืนนาน รวมทั้งทน
ลักษณะทั่วไป
           เป็นต้นไม้ขนาดกลาง สูงราวๆ 10-20 เมตร มีดอกเป็นช่อสีเหลืองแพรวพราว แต่ละช่อยาวโดยประมาณ 20-40 ซม. โดยกลีบจะเป็นสีเหลือง 5 กลีบ ส่งผลยาวราวๆ 30-60 ซม. มีกลิ่นแรง และมีเมล็ดที่เป็นพิษ
การปลูกดอกราชพฤกษ์
           นิยมนำมาปลูกด้วยเม็ด โดยจะมีการเจริญวัยช้าในช่วง 1-3 ปีแรก แต่ว่าต่อไปจะมีการเติบโตเร็วขึ้น และก็มีดอกตอนอายุโดยประมาณ 4-5 ปี
การรักษา
           แสงสว่าง : ต้องการแสงแดดจัด หรือที่โล่งแจ้ง และก็เจริญเติบโตได้ดีในเป็นพิเศษ
           น้ำ : ถูกใจน้ำน้อย ควรจะรดน้ำ 7-10 วันต่อครั้ง สามารถทนกับสภาพภูมิอากาศร้อนได้ดิบได้ดี
           ดิน : สามารถเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย ดินร่วนซุยผสมทราย หรือดินเหนียว
           ปุ๋ย : นิยมให้ปุ๋ยหมัก หรือ ปุ๋ยคอก ในอัตรา 2-3 กิโลต่อต้น รวมทั้งควรให้ปุ๋ยปีละ 3-4 ครั้ง
การขยายพันธุ์
           แนวทางเพาะพันธุ์ต้นราชพฤกษ์ที่นิยมหมายถึงการเพาะเมล็ด โดยใช้เมล็ดสดๆมาขลิบด้วยกรรไกรตัดเล็บ แต่ว่าจำต้องเลือกขลิบบริเวณด้านป้าน เพราะว่าด้านแหลมจะมีต้นอ่อนอยู่ จากนั้นนำไปแช่น้ำสะอาดทิ้งเอาไว้ข้ามวัน แล้วก็ค่อยเทน้ำออกให้เหลือปริมาณพอหล่อเลี้ยงเม็ดได้ แล้วหลังจากนั้นทิ้งไว้อีกคืนก็จะเจอรากแตกออก และสามารถนำลงปลูกได้เลย
ความศรัทธาเกี่ยวกับต้นราชพฤกษ์
           เชื่อว่าเป็นต้นพืชที่มีความเป็นสิริมงคล ที่ควรปลูกเอาไว้ในทิศตะวันตกเฉียงใต้ และหากปลูกเอาไว้ภายในบ้านจะช่วยให้มีเกียรติตำแหน่ง เกียรติ และก็เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางไสยศาสตร์ โดยใช้ใบทำน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ เนื่องด้วยเป็นพืชที่มีความมงคลนาม http://www.disthai.com/

 

Sitemap 1 2 3