ผู้เขียน หัวข้อ: ความเป็นมาของต้นราชพฤกษ์  (อ่าน 281 ครั้ง)

one005464a5

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 5
    • ดูรายละเอียด
ความเป็นมาของต้นราชพฤกษ์
« เมื่อ: สิงหาคม 16, 2018, 12:32:53 pm »

[url=http://www.disthai.com/16488365/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C]ราชพฤกษ์[/url][/size][/b]
ที่ไปที่มาของต้นราชพฤกษ์
   จากอดีตที่ผ่านมากว่า 50 ปี ทางราชการมีความพยายามหลายหนสำหรับเพื่อการกำหนดให้มีสัญลักษณ์ประจำชาติไทย โดยยิ่งไปกว่านั้นการกำหนด ต้นไม้ และก็ ดอกไม้ ประจำชาติ เริ่มที่กรมป่าไม้ได้เชื้อเชิญให้สามัญชนพอใจต้นราชพฤกษ์หรือคูณมาตั้งแต่ตอนปี พ.ศ.2494 โดยรัฐบาลลงความเห็นให้ถือวันที่ 24 เดือนมิถุนายน เป็นวันต้นไม้ประจำปีของชาติ (arbour day) มีการเชิญชวนให้ปลูกต้นไม้ที่มีคุณประโยชน์ประเภทต่างๆมากมาย ในเวลาเดียวกันก็ได้มีการเสนอว่า ต้นราชพฤกษ์ คงจะนับว่าเป็นต้นไม้ประจำชาติ
ราชพฤกษ์
   จนกระทั่งในปี พ.ศ.2506 มีการประชุมเพื่อกำหนดสัญลักษณ์ต้นไม้รวมทั้งสัตว์ประจำชาติเป็นครั้งแรก โดยกรมป่าไม้ได้เสนอให้ ต้นราชพฤกษ์ หรือ ต้นคูณ พืชที่มีความมงคลที่มีคุณประโยชน์และรู้จักกันอย่างแพร่หลายเป็นต้นไม้ประจำชาติ สำหรับสัตว์ประจำชาติก็คือ ช้างเผือก สัตว์ที่มีคุณค่าเกี่ยวโยงกับจารีตประเพณีไทยแล้วก็ประวัติศาสตร์ไทยมายาวนาน การเสนอคราวนั้นมิได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการ ด้วยเหตุดังกล่าวตลอดระยะเวลาก่อนหน้านี้สัญลักษณ์ที่บอกถึงความเป็นไทยจึงมีหลากหลาย ตั้งแต่สถานที่สำคัญๆ สัตว์ ดอกไม้ ที่คนประเทศไทยเคยชินและก็ประสบพบเห็นบ่อย ดังเช่นว่า พระปรางค์วัดอรุณฯ เรือสุพรรณหงส์ ดอกบัว ดอกมะลิ ดอกพุทธรักษา แมวไทย เหมือนกันกับ ต้นราชพฤกษ์ และก็ ช้างเผือก ยังคงถูกชื่นชมให้เป็นเครื่องหมายประจำชาติตลอดมา
            ปี พ.ศ.2530 มีการเกื้อหนุนให้ปลูกต้นราชพฤกษ์อีกที เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ โดยมีการเกื้อหนุนให้ปลูกต้นราชพฤกษ์ทั่วทั้งประเทศจำนวน 99,999 ต้น ขณะนี้จึงมีต้นราชพฤกษ์อยู่เยอะแยะทั่วทั้งประเทศไทย
            ผลสรุปเรื่องเครื่องหมายประจำชาติดูเหมือนจะยังกำกวม จนถึงตอนปี พ.ศ.2544 คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ ได้นำเรื่องดังที่กล่าวมาข้างต้นกลับมาเสนออีกครั้ง แล้วก็มีบทสรุปเสนอให้มีการระบุเครื่องหมายประจำชาติ 3 สิ่งคือ ดอกไม้ สัตว์รวมทั้งสถาปัตยกรรม และก็การไตร่ตรองก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาเสนอให้ระบุดอกไม้ประจำชาติคือ ดอกราชพฤกษ์ สัตว์ประจำชาติหมายถึงช้างไทย รวมทั้งสถาปัตยกรรมประจำชาติคือ ศาลาไทย
            เหตุที่เลือก ดอกราชพฤกษ์ เป็นดอกไม้ประจำชาติเพราะเหตุว่ามีความเหมาะสมในหลายๆด้าน คือ เป็นดอกไม้จากต้นไม้ที่ถูกเสนอให้ฯลฯไม้ประจำชาติเมื่อครั้งที่กรมป่าไม้เสนอไว้ ฯลฯไม้ที่แก่ยืน แข็งแรง ปลูกขึ้นได้ดิบได้ดีทั่วทุกภาคของประเทศ เป็นต้นไม้พื้นเมืองที่รู้จักแพร่หลาย มีชื่อเรียกหลายชื่อแตกต่างกันในแต่ละภาค ยกตัวอย่างเช่น ลมแล้ง คูน อ้อดิบ ราชพฤกษ์เป็นพืชที่มีความเป็นสิริมงคลใช้ประโยชน์ในพิธีหลักๆเช่น ลงหลักเมือง ลงเสาฤกษ์ ทำคฑาจอมพลแล้วก็ยอดธงชัยเฉลิมพลของกองทหาร ในช่วงฤดูร้อนราชพฤกษ์จะออกดอกสะพรั่งต้น ช่อดอกมีทรงสวยงาม สีเหลืองแพรวพราวเป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธศาสนาอันเป็นศาสนาประจำชาติ และเป็นสีเดียวกับวันพระราชการเกิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ นอกนั้นความงามของช่อดอก และความหมายที่ดียังถูกจำทดลองแบบประดับประดาไว้บนอินทรธนูของข้าราชการอีกด้วย
ดอกราชพฤกษ์ ดอกไม้ประจำชาติไทย
ส่งดอกไม้ประจำชาติไทย คือ ดอกราชพฤกษ์ (Golden shower) หรือ ชื่อทางด้านวิทยาศาสตร์ของ ดอกราชพฤกษ์เป็นCassia fistula
           ดอกไม้สีเหลืองแพรวพราวที่พบบ่อยเห็นได้ทั่วๆไปตามริมถนนสายต่างๆคือสีสันของ ดอกราชพฤกษ์ หรือ ดอกคูน ต้นไม้มงคลที่ได้รับการเชิดชูให้เป็น ดอกไม้ประจำชาติไทย ทั้งมั่นใจว่าเป็นต้นไม้ที่ปลูกไว้แล้วจะเสริมให้คนภายในบ้านทรงเกียรติตำแหน่งชื่อ เสียงเยอะขึ้นเรื่อยๆด้วย ยิ่งใกล้ไปสู่เวลาแห่งการเปิดประตูต้อนรับเพื่อนบ้านอาเซียนกันแล้ว ในวันนี้กระปุกดอทคอมจึงขอนำข้อมูลเกี่ยวกับดอกไม้ประจำชาติไทยอย่าง ดอกราชพฤกษ์ มาให้ทำความรู้จักกันแรง
ประวัติดอกราชพฤกษ์
           ต้นราชพฤกษ์ หรือ ต้นคูน ฯลฯไม้ท้องถิ่นของเอเชียใต้ ตั้งแต่ปากีสถาน ประเทศอินเดีย พม่า รวมทั้งศรีลังกา โดยนิยมปลูกกันมากในเขตร้อน สามารถเจริญเติบโตก้าวหน้าในที่โล่งแจ้ง และก็มีชื่อเสียงในประเทศไทยมาหลายสิบปี โดยมีการเสนอให้ดอกราชพฤกษ์ เป็นดอกไม้ประจำชาติไทยตั้งแต่ปี พุทธศักราช 2506 แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปชัดเจน จนถึงมีการลงชื่อให้เป็นดอกไม้ประจำชาติไทย เมื่อวันที่ 26 ต.ค. พ.ศ. 2544

ดอกไม้ประจำชาติไทย
           ด้วยเหตุว่า ต้นราชพฤกษ์ ออกดอกสีเหลืองชูช่อ มองสง่างาม ทั้งยังยังมีสีตรงกับ สีทุกวันพระราชการเกิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ก็เลยถูกตั้งชื่อว่าเป็น "ต้นไม้ของพระเจ้าอยู่หัว" และมีการเซ็นชื่อให้ต้นราชพฤกษ์ เป็นเลิศใน 3 เครื่องหมายประจำชาติไทย โดยมี 1. ช้าง เป็นสัตว์ประจำชาติไทย 2. ศาลาไทย เป็นสถาปัตยกรรมประจำชาติไทย และก็ 3. ดอกราชพฤกษ์ เป็นดอกไม้ประจำชาติไทย
เหตุผลเลือกเป็นดอกไม้ประจำชาติไทย

  • เพราะฯลฯไม้พื้นบ้านที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย รวมทั้งมีอยู่ทุกภาคของเมืองไทย
  • มีประวัติเกี่ยวพันกับขนบธรรมเนียมหลักๆในไทยและก็เป็นต้นพืชที่มีความมงคลที่นิยมนำมาปลูก
  • ใช้ประโยชน์ได้มากมาย ได้แก่ ใช้เป็นยารักษาโรค ทั้งยังใช้ลำต้นเป็นเสาเรือนได้ ฯลฯ
  • มีสีเหลืองสวยงาม พุ่มงามเต็มต้น เทียบเป็นสัญลักษณ์ที่พุทธศาสนา
  • มีอายุยืนนาน และแข็งแรง
ลักษณะทั่วไป
           เป็นต้นไม้ขนาดกลาง สูงประมาณ 10-20 เมตร ออกดอกเป็นช่อสีเหลืองสวยงาม แต่ละช่อยาวราวๆ 20-40 ซม. โดยกลีบจะเป็นสีเหลือง 5 กลีบ ส่งผลยาวราว 30-60 เซนติเมตร มีกลิ่นฉุน แล้วก็มีเมล็ดที่เป็นพิษ
การปลูกดอกราชพฤกษ์
           นิยมนำมาปลูกด้วยเม็ด โดยจะมีการเติบโตช้าในตอน 1-3 ปีแรก แต่ว่าหลังจากนั้นจะมีการเติบโตเร็วขึ้น และออกดอกตอนอายุโดยประมาณ 4-5 ปี
การดูแลและรักษา
           แสง : อยากได้แสงอาทิตย์จัด หรือกลางแจ้ง รวมทั้งเจริญวัยได้ดิบได้ดีในเป็นพิเศษ
           น้ำ : ชอบน้ำน้อย ควรจะรดน้ำ 7-10 วันต่อครั้ง สามารถทนกับสภาพอากาศร้อนได้ดิบได้ดี
           ดิน : สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินที่ร่วนซุย ดินร่วนซุยผสมทราย หรือดินเหนียว
           ปุ๋ย : นิยมใส่ปุ๋ยหมัก หรือ ปุ๋ยคอก ในอัตรา 2-3 กิโลกรัมต่อต้น แล้วก็ควรจะให้ปุ๋ยปีละ 3-4 ครั้ง
การขยายพันธุ์
           วิธีเพาะพันธุ์ต้นราชพฤกษ์ที่นิยมเป็นการเพาะเม็ด โดยใช้เมล็ดสดๆมาขลิบด้วยกรรไกรตัดเล็บ แต่ว่าจำต้องเลือกขลิบรอบๆด้านป้าน เพราะว่าด้านแหลมจะมีต้นอ่อนอยู่ แล้วต่อจากนั้นนำไปแช่น้ำสะอาดทิ้งเอาไว้ผ่านวัน จึงค่อยเทน้ำออกให้เหลือจำนวนพอเพียงหล่อเลี้ยงเมล็ดได้ ต่อจากนั้นทิ้งไว้อีกคืนก็จะพบรากแตกออก และสามารถนำลงปลูกได้เลย
ความเชื่อเกี่ยวกับต้นราชพฤกษ์
           เชื่อว่าฯลฯไม้มงคล ที่ควรจะปลูกเอาไว้ในทิศตะวันตกเฉียงใต้ รวมทั้งถ้าหากปลูกไว้ในบ้านจะช่วยให้มีเกียรติขั้น เกียรติยศ และก็เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางไสยเวท โดยใช้ใบทำน้ำพระพุทธมนต์สะเดาะเคราะห์ เพราะเป็นพืชที่มีความมงคลนาม http://www.disthai.com/

 

Sitemap 1 2 3