ผู้เขียน หัวข้อ: ราชพฤกษ์เป็นสมุนไพรที่นำมารักษาโรคได้อย่างน่าอัศจรรย์  (อ่าน 305 ครั้ง)

sadgs257sa2

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 2
    • ดูรายละเอียด

ชื่อวงศ์ : LEGUMINOSAE-CAESALPINIOIDEAE
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cassia fistula L.
ชื่อสามัญ : Golden shower, Indian laburnum, Pudding-pine tree
ชื่อประจำถิ่นอื่น : ราชพฤกษ์ (ภาคเหนือ) ; ปูโย, เปอโซ, ปือยู, แมะหล่าหยู่ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ; คูณ (ภาคกึ่งกลาง, ภาคเหนือ) ; ชัยพฤกษ์, ราชพฤกษ์ (ภาคกลาง) ; กุเพยะ (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี)
ชนิดนี้หนังสือเรียนข้างหลังเล่มเสนอ ชื่อใหม่เป็นเพียงระดับประเภทย่อย คือ Cassia javanica L.subsp javanica K.& S.S .Larsen พืชจำพวกนี้เป็นไม้ใหญ่ขนาดเล็ก ถึงกับขนาดกึ่งกลาง สูงได้ถึง ๑๕ เมตร เมื่อลำต้นอย่างอ่อนอยู่มีน้ำแข็งที่เกิดจากกิ่งแก่ที่ร่วงหล่นไป แต่เมื่อต้นอายุมากขึ้นจะหายไป ลำต้นไม่ปุ่มป่ำ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกเรียงสลับกัน มีใบย่อย ๕-๑๕ คู่ ก้านใบยาว ๑.๕-๔ ซม. แกนกลางใบยาว ๒๐-๓๐ เซนติเมตร ใบย่อยรูปไข่แกมรูปมูลหรือรูปขอบขนาน กว้าง ๑.๕-๓ เซนติเมตร ยาว ๒-๕ ซม. ปลายใบกลมหรือมน โคนใบกลม ใต้ใบมีขนละเอียดอยู่เอนราบกับผิวใบ ก้านใบย่อยสั้นมากมาย ดอกออกเป็นช่อตามกิ่ง ก้านช่อดอกใหญ่และแข็ง ไม่แตกกิ่งก้านสาขา ยาว ๕-๑๖ เซนติเมตร เมื่อเริ่มบานมีสีชมพูแล้ว เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม เมื่อใกล้โรยกลายเป็นสีออกขาว ดอกย่อยมีก้านเรียวยาว ๓-๕ เซนติเมตรราชพฤกษ์ มีกลีบเลี้ยงมี สีแดงเข้มถึงสีแดงอมน้ำตาล รูปไข่ ปลายแหลม ยาว ๗-๑๐ มม.กลีบดอกไม้รูปไข่กลับ กว้าง ๗-๘ มิลลิเมตร ยาว ๒๕-๓๕มม. โคนกลีบดอกไม้เป็นก้านยาวราว ๓ มม.  เกสรเพศผู้มี ๑๐ อัน ขนาดยาวแตกต่างกัน รังไข่เรียว ขนคลุมบางๆผลเป็นฝักรูปกระบอกขนาดวัดผ่าศูนย์กลางราม ๑-๑.๕ เซนติเมตร ยาว ๒๐-๖๐ เซนติเมตร ห้อยลงมาจากกิ่ง ฝักแก่สีดำ หมดจด ไม่มีขน ไม่แตก มีเมล็ดเยอะมากๆ และก็รูปแบนแทบกลม สีน้ำตาลวาว
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ต้นไม้ (T) สูงโดยประมาณ 5-15 เมตร เปลือกต้นเรียบ หมดจด สีเทาอ่อนหรือสีเทาอมน้ำตาล สีเทาอมขาว หรือสีนวล
ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ใบเรียงสลับ ลักษณะใบย่อยรูปไข่ ปลายใบแหลม ขอบของใบเรียบ โคนใบมน แผ่นใบสีเขียว มีใบย่อยราว 4-12 คู่
ดอก มีดอกเป็นช่อแบบช่อกระจะ เป็นช่อแขวนระย้าออกตามกิ่งหรือออกตามง่ามใบ มีดอกแบบสมมาตรด้านข้าง มีกลีบดอก 5 กลีบ สีเหลืองสด โดยกลีบดอกเหนือสุดจะเรียงอยู่รอบในสุด ดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆ
ผล เป็นฝักกลม ทรงกระบอกยาว ผิวเรียบ และมีเปลือกแข็ง ภายในมีผนังแบนสีน้ำตาล กันเป็นห้องแล้วก็มีเม็ดห้องละ 1 เมล็ด ผลอ่อนจะมีสีเขียว เมื่อแก่จะเป็นสีน้ำตาลเข้ม หรือดำ
เมล็ด มีเนื้อห่อหุ้มนิ่มๆสีน้ำตาลไหม้ หรือสีดำ ลักษณะกลมมนแล้วก็แบน มีรสหวาน
นิเวศวิทยา
ขึ้นตามป่าเบญจพรรณแล้งทั่วไป มีมากทางภาคเหนือ นิยมปลูกเป็นไม้ประดับและปลูกข้างถนนเพื่อความสวยงาม
การปลูกแล้วก็เพาะพันธุ์
ปลูกได้ไม่ยากและก็เจริญเติบโตได้ในดินแทบทุกประเภท แต่ว่าจะถูกใจดินร่วนซุยผสมทราย แพร่พันธุ์ด้วยการเพาะเม็ดแล้วก็ตอนกิ่ง

คุณประโยชน์ทางยา
รสและก็คุณประโยชน์ในหนังสือเรียนยา
ราก รสเมา เป็นยาบำรุง รักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจ โรคที่มีปัญหาเกี่ยวกับถุงน้ำดี เป็นยาถ่ายอย่างแรง รักษาลักษณะของการมีไข้ ระบายพิษไข้ ถ่ายสิ่งโสโครกออกจากร่างกาย ทำลายเชื้อคุดทะราด แก้กลากเกลื้อน แก้อาการเซื่องซึม หนักศีรษะ
เปลือกราก รสฝาด ต้มดื่มแก้ไข้ไข้จับสั่นรวมทั้งระบายพิษไข้ ใช้ร่วมกับเนื้อในฝักเป็นยาแก้ไข้มาลาเรียและก็เป็นยาระบาย
แก่น รสเมา ใช้เป็นยาขับพยาธิไส้เดือน รักษาอาการท้องร่วง และก็ช่วยเร่งคลอด
ราชพฤกษ์เปลือกต้น รสฝาดเมา ใช้เป็นยาช่วยรีบคลอด รักษาอาการท้องเดิน
กระพี้ รสเมา ใช้แก้โรครำมะนาด
ฝัก เนื้อในฝักรสหวานเบื่อ ใช้รับประทานเป็นยาระบาย ช่วยบรรเทาอาการแน่นหน้าอก ขัดหรือชำระน้ำดี แก้ลมเข้าข้อและขัดข้อ
เปลือกฝัก รสขื่นเมา ทำให้แท้งลูก ขับรกที่ค้าง และก็ทำให้อ้วก
ใบแก่ รสเมา ใบสดหรือตากแห้ง ใช้เป็นยาถ่าย รักษาอัมพาต ฆ่าเชื้อโรคทั้งผอง ฆ่าพยาธิผิวหนัง รักษาอัมพาตของกล้ามบนใบหน้า พอกแก้ปวดข้อ หรือต้มน้ำดื่มแก้โรคที่เกิดขึ้นและมีปัญหาเกี่ยวกับสมอง แก้เอ็นพิการ
ใบอ่อน รสเมา ตำพอกหรือคั้นเอาน้ำทารักษาโรคกลากเกลื้อน แก้ไข้รูมาติก
ดอก รสเปรี้ยวขม ใช้รักษาโรคกระเพาะอาหาร เป็นยาถ่ายพยาธิ ต้มดื่มแก้ไข้ แก้แผลเรื้อรัง ช่วยหล่อลื่นในลำไส้ ระบายท้อง
เม็ด ช่วยกระตุ้นให้อาเจียน เป็นยาถ่าย
[url=http://www.disthai.com/16488365/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C]ราชพฤกษ์[/url] แนวทางแล้วก็จำนวนที่ใช้
แก้ท้องผูก โดยเอาเนื้อในฝักแก่หนักโดยประมาณ 5-10 กรัม ต้มกับน้ำ 500 ซีซี ใส่เกลือน้อย ดื่มก่อนนอนหรือช่วงเวลาเช้าก่อนอาหาร เป็นยาระบายที่เหมาะสำหรับคนที่ท้องผูกเป็นประจำ แล้วก็สตรีตั้งครรภ์ก็ใช้ฝักคูณเป็นยาระบายได้
รักษาโรคกระเพาะ โดยใช้ฝักโดยประมาณ 30 กรัม ผสมน้ำ 100 ซีซี ต้มให้เดือดและเหลือน้ำ 50 ซีซี ดื่มให้หมดครั้งเดียว วันละ 3 ครั้ง http://www.disthai.com/

 

Sitemap 1 2 3